กูเกิลออกฟีเจอร์ใหม่สำหรับการค้นหาบนมือถือ โดยเปิดให้ผู้ใช้สามารถลากนิ้วเป็นตัวอักษรและข้อความ แทนการป้อนข้อมูลด้วยคีย์บอร์ดได้
ฟังดูธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาคือมันสามารถทำได้จากหน้าเว็บ Google Mobile โดยที่เราไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเลย (ตอนนี้ใช้ได้กับ iOS 5+, มือถือ Android 2.3+ และแท็บเล็ต Android 4.0+) ขั้นตอนใช้งานต้องเปิดใช้ในส่วนของ Settings ของหน้าเว็บกูเกิลเสียก่อน (ดูภาพประกอบ) จากนั้นจะมีปุ่ม Handwrite เพิ่มเข้ามาที่ด้านล่างของจอภาพ กดแล้วสามารถวาดข้อความลงไปได้ตรงๆ ในหน้าเว็บได้เลย
กูเกิลบอกว่าสามารถใช้งานได้ 27 ภาษา แต่ผมหาข้อมูลไม่เจอว่ามีภาษาอะไรบ้างนะครับ
คนส่วนใหญ่แถวนี้คงใช้งาน Twitter ผ่านแอพกันเป็นหลัก แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ายังมีคนอีกจำนวนมากที่ใช้งานผ่าน mobile web (mobile.twitter.com) โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้ฟีเจอร์โฟน
ล่าสุด Twitter ยกเครื่อง mobile.twitter.com ใหม่อีกครั้ง การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือปรับหน้าตาของมันให้คล้ายกับแอพอย่างเป็นทางการของ Twitter มาก (มี 5 ปุ่มแถวบนเหมือนกัน) แต่ในขณะเดียวกันก็ปรับแต่งสำหรับหน้าจอมือถือขนาดเล็ก (ขั้นต่ำ 240x240) ที่อาจไม่สนับสนุนจาวาสคริปต์ และอาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายความเร็วต่ำมาเป็นอย่างดี
สนใจก็เข้าไปเล่นกันที่ mobile.twitter.com
ที่มา - Twitter Blog
Facebook ประกาศปรับหน้าตาของเว็บมือถือ (m.facebook.com) และแอพบน iOS/Android ให้แสดงรูปภาพใน newsfeed ใหญ่กว่าเดิม โดยจะแสดงเต็มหน้าจอด้านกว้าง และถ้าเทียบกับของเดิมภาพอาจใหญ่ขึ้นถึง 3 เท่าตัว
Facebook ไม่ได้อธิบายถึงเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แต่ก็เป็นไปได้ว่าอาจรับอิทธิพลมาจาก Instagram
ก่อนหน้านี้ไม่นาน กูเกิลก็เพิ่งปรับปรุงแอพ Google+ ให้แสดงภาพใหญ่ขึ้นเช่นกัน
ที่มา - Facebook Mobile, TechCrunch
ก่อนหน้านี้ Twitter เคยปรับปรุงหน้าโมบายล์เว็บ สำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน (ตอนนี้ยังใช้ได้แค่แอนดรอยด์กับ iOS) พร้อมๆ กับการปรับอินเทอร์เฟซใหม่ทั้งเว็บเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา คราวนี้ถึงคิวของมือถือแบบฟีเจอร์โฟนจะได้ใช้หน้าโมบายล์เว็บแบบใหม่บ้างแล้ว
หน้าตาของโมบายล์เว็บสำหรับฟีเจอร์โฟนนั้นเหมือนกันกับที่เคยเปลี่ยนให้ของสมาร์ทโฟนเป๊ะ มีแถบหลักอย่าง home, connect, discovery และ me เท่ากันทุกประการ สามารถดูภาพตัวอย่างได้ท้ายข่าวครับ
ที่มา - Twitter Blog
ปัญหาเรื่องเว็บไซต์ร้านอาหารที่ไม่มี usability แล้วแถมยังทำหน้าเว็บด้วยแฟลชทั้งหมดยังคงตามหลอกหลอนเราทุกครั้งที่ต้องใช้งานอยู่เรื่อยไป จนมาถึงในขณะนี้ที่สมาร์ทโฟนได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญของโลกเว็บไซต์แล้ว ร้านอาหารได้มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือไม่ ?
จากผลการศึกษาของ Restaurant Science บริษัทวิจัย และเก็บข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมร้านอาหารได้เผยว่ามีผู้เข้าเว็บไซต์ร้านอาหารจากมือถือมากถึงครึ่งหนึ่งของทั้งหมด แต่มีเพียงหนึ่งในแปดของแบรนด์อาหารแฟรนไชส์ และมีเพียงหนึ่งจากในสิบสองร้านอาหารส่วนตัวเท่านั้นที่มีหน้าเว็บไซต์มือถือของร้าน
ในยุคที่มือถือครองเมือง และเรายังหาวิธีการทำให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขึ้นไม่ได้ดีไปกว่าการเพิ่มความจุเข้าไป สิ่งที่ช่วยได้ดีคือการใช้วิธีอื่นที่ทำให้ใช้แบตเตอรี่ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
นอกจากการเชื่อมต่อ 3G หน้าจอของมือถือ และอีกสารพัดอย่างที่มีผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนไม่ทราบ คือการใช้งานหน้าเบราว์เซอร์บนมือถือแต่ละเว็บไซต์กินพลังงานไม่เท่ากัน ซึ่งทางทีมศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดได้ทำการสำรวจหน้าเว็บแบบมือถือของแต่ละเว็บไซต์ว่าเว็บไหนที่กินพลังงานในการเปิดหน้าเว็บมาก/น้อยอย่างไร
เมื่อปลายปีที่แล้ว กูเกิลเคยเปิดเว็บไซต์เฉพาะกิจชื่อ Go Mo ซึ่งเป็นแหล่งรวมข้อมูลสำหรับเว็บไซต์ธุรกิจ-ร้านค้าที่อยากปรับหน้าเว็บให้เหมาะกับมือถือ แต่ก่อนหน้านี้ก็มีเพียงแค่ข้อมูลและเอกสาร
วันนี้กูเกิลขยาย Go Mo ไปอีกขั้น โดยจับมือกับบริษัท DudaMobile ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการแปลงเว็บ เปิดให้บริการแปลงเว็บได้จากหน้าเว็บ Go Mo ของกูเกิลโดยตรง (ในทางปฏิบัติก็จะ redirect ไปยัง DudaMobile อีกทีหนึ่ง)
Facebook ประกาศยุทธศาสตร์สำคัญบนมือถือ 3 ประการใหญ่ๆ ที่งาน MWC
ข่าวแรกคือขยายแพลตฟอร์ม Facebook Platforms for Mobile หรือการใช้แอพของ Facebook บน Facebook เวอร์ชันมือถือ (ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชันแอพหรือเว็บ) จากเดิมที่รองรับเฉพาะ iOS ก็ขยายมาเป็น Android ด้วย
บริษัทผู้ผลิต IDE แบบโอเพนซอร์สสองบริษัทคือ Appcelerator และ Aptana ได้รวมตัวกันแล้วเมื่อ Appcelerator เข้าซื้อ Aptana โดยไม่เปิดเผยมูลค่า
Appcelerator นั้นมีแพลตฟอร์มของตัวเอง โดยอาศัยการพัฒนาผ่านทาง HTML, JavaScript, Ruby, และ Python แล้วสามารถคอมไพล์เป็นแอพพลิเคชั่นแบบ native ได้บนเดสก์ทอปและโทรศัพท์มือถือ ส่วน Aptana นั่นเชี่ยวชาญในสองแพลตฟอร์มคือ เว็บ และ Adobe Air พร้อมกับมีเทคโนโลยีฝั่งเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง
แถลงการเข้าซื้อระบุว่าทั้งสองบริษัทจะปล่อย IDE ที่รวมความสามารถของทั้งบริษัทเป็นพรีวิวแรกในเดือนมีนาคมนี้
แนวคิดที่ว่า HTML5 อาจจะมาแทน Flash เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จากการที่ Adobe เองเริ่มใส่เทคโนโลยีการแปลง Flash มาเป็น HTML5 แต่มาตรฐานเปิดก็พาให้เราไม่ต้องยึดติดกับผู้ผลิตรายใดรายหนึ่ง โดย Sensha ที่สร้างชื่อมาจากเฟรมเวิร์ค Sensha Touch และวันนี้ก็มี Sensha Animator เข้ามาเสริมทัพอีกหนึ่งตัว
Sensha Animator เป็นโปรแกรมออกแบบภาพเคลื่อนไหวที่ใช้ HTML5+CSS3 เต็มตัว แน่นอนว่ามันทำงานได้บนโทรศัพท์ที่ใช้ WebKit ใหม่ๆ แทบทุกรุ่น
ข่าวร้ายคือต่อไปก็เตรียมเห็นโฆษณาวูบวาบแบบบล็อคยากๆ กันได้เลย
ที่มา - Sensha Animator
แม้ว่า BlackBerry จะครองแชมป์ยอดขายในบางประเทศ (เช่น สหรัฐ) แต่สำหรับตลาด mobile web นั้น ด้วยข้อจำกัดของเบราว์เซอร์ใน BlackBerry OS รุ่นก่อนๆ ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของ BlackBerry มีเพียงน้อยนิด ปล่อยให้ iPhone ครองความเป็นเจ้ามาโดยตลอด
แต่สถิติล่าสุดของ StatCounter ชี้ว่า BlackBerry ก็มีอัตราการเติบโตในตลาด mobile web ไม่แพ้ระบบปฏิบัติการมาแรงอย่าง Android เลย เมื่อรวมกับจำนวนเครื่อง BB ที่มีเยอะอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ตอนนี้ BB ยังเป็นอันดับสาม ตามหลังเพียง Symbian และ iPhone อยู่ห่างๆ
สถิตินี้ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงจาก BlackBerry OS 6 ที่เปลี่ยนมาใช้เบราว์เซอร์ WebKit สักเท่าไร ไว้รออีกสักพักคงเห็นแนวโน้มที่ชัดเจนกว่านี้