กูเกิลประกาศว่าดัชนีค้นหาของเว็บไซต์ทั้งหมด จะใช้การแสดงผลบนอุปกรณ์พกพาเป็นค่าเริ่มต้น (Mobile-First Index) มีผลตั้งแต่กันยายน 2020 เป็นต้นไป
แนวทางนี้กูเกิลประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2016 โดยตอนนั้นระบุว่าจะเน้นเว็บเวอร์ชันมือถือเป็นหลัก ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดกูเกิลบอกว่าเว็บไซต์มากกว่า 70% มีความพร้อมสำหรับดัชนีเว็บบนมือถือแล้ว จึงตัดสินใจเปลี่ยนให้มีผลทั้งหมด
กูเกิลบอกว่าแม้ดัชนีเว็บจะยังรองรับการเก็บข้อมูลแยกระหว่างเว็บเวอร์ชันเดสก์ท็อป กับเว็บบนมือถือ แต่กูเกิลแนะนำว่าควรทำเว็บให้เป็นแบบ responsive เพราะช่วยลดปัญหาจากการแยก URL เป็นสองแบบ ที่สร้างความสับสนทั้งบนเสิร์ชและสำหรับผู้ใช้งานเอง
กูเกิลประกาศปิดบริการแอพ AdSense บนสมาร์ทโฟน Android และ iOS โดยให้ย้ายไปใช้เวอร์ชัน mobile web แทน
กูเกิลให้ข้อมูลว่าทราฟฟิกผู้ใช้ AdSense มาจากสมาร์ทโฟนถึง 1 ใน 3 และจะไม่ทอดทิ้งผู้ใช้กลุ่มนี้ โดยจะลงทุนพัฒนาเวอร์ชัน mobile web ต่อไป ให้เป็นซอฟต์แวร์เวอร์ชันเดียวตอบโจทย์ทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งช่วยให้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
แอพ AdSense บน Android/iOS จะใช้งานได้ถึงสิ้นปี 2019 และกูเกิลจะประกาศข่าวเพิ่มเติมอีกครั้งว่าให้ย้ายวิธีการใช้งานอย่างไร
ที่มา - Google
Twitter เริ่มทดสอบหน้าเว็บแบบเดสก์ท็อปเวอร์ชันใหม่ ที่มีฟีเจอร์หลายอย่างจากเวอร์ชัน mobile app/web เช่น bookmarks, data saver, night mode
หน้าตาโดยรวมของหน้าเว็บแบบใหม่ ถือว่าคล้ายคลึงกับของเดิม อาจมีเมนูแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย แต่จริงๆ แล้วมันคือการนำเอนจินของเวอร์ชัน mobile web (mobile.twitter.com) มาใช้กับเวอร์ชันเดสก์ท็อปด้วย
หน้าเว็บเวอร์ชัน mobile web ของ Twitter ถือเป็น Progressive Web Application (PWA) ที่บริษัทนำไปใช้เป็นแอพของแพลตฟอร์มต่างๆ อีกทีหนึ่ง (เช่น ฟีเจอร์โฟน หรือ Windows 10) การที่มันถูกยกระดับขึ้นมาเป็นหน้าเว็บสำหรับเดสก์ท็อป ถือเป็นทิศทางที่น่าสนใจของโลก PWA เช่นกัน
บริการของ Yahoo ที่ยังมีคนใช้อยู่มากคือ Yahoo Mail ล่าสุดทีมงานจึงเปิดตัว mobile web เวอร์ชันใหม่ และแอพเวอร์ชัน Android Go รันได้บนมือถือสเปกต่ำ ทรัพยากรน้อย
เว็บเมลเวอร์ชัน mobile web ปรับหน้าตาให้ทันสมัยและเหมือนกับเวอร์ชัน native app และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ตามยุคสมัย เช่น swipe ปัดอีเมลเพื่อลบหรือบอกว่าอ่านแล้ว, ปรับธีมเองได้ มีธีมสีเข้มให้เลือก, infinite scrolling เลื่อนลงได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องเปลี่ยนหน้า เป็นต้น
Yahoo ยังเปิดเผยว่าเว็บแอพตัวนี้สร้างขึ้นใหม่หมดด้วย JavaScript และ Node.js (เว็บเมลตัวเก่าเป็น PHP/Apache ส่วนเว็บเวอร์ชันเดสก์ท็อปเป็น React/Redux) และใช้เทคนิค AJAX ช่วยให้โหลดข้อมูลใหม่ได้ตลอดเวลา ไม่ต้องกดโหลดเพจใหม่
กูเกิลเปิดให้สอบใบรับรองสาขาใหม่ Mobile Web Specialist Certification เพื่อประกอบการทำงานด้านพัฒนา mobile web
เนื้อหาที่สอบมีทั้ง HTML, CSS, JavaScript (ES2015), การพัฒนาเว็บให้ทุกคนเข้าถึงได้ (accessibility), Progressive Web Apps, การปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์, การทดสอบเว็บและแก้บั๊ก เป็นต้น
ค่าสอบ 99 ดอลลาร์ เป็นการสอบออนไลน์ทั้งหมด (เขียนโค้ดใน Atom ที่ผ่านหน้าจอเว็บเบราว์เซอร์อีกที และนอกจากเขียนโค้ดแล้วยังต้องมีสัมภาษณ์เพื่ออธิบายโค้ดด้วย) ถ้าสอบไม่ผ่านสามารถสอบใหม่ได้อีก 3 ครั้ง
Instagram เพิ่มคุณสมบัติใหม่ สามารถดู Stories ได้แล้วสำหรับการเข้าชมผ่านเบราว์เซอร์ที่ instagram.com บนมือถือ
โดยแถบ Stories จะแสดงอยู่ด้านบนสุดของหน้า Feed เหมือนกับที่แสดงในแอพ และมีลูกศรซ้ายขวาเพื่อปัดไปชมคลิปถัดไป
นอกจากนี้ Instagram ยังบอกว่าผู้ใช้จะสามารถอัพโหลดเนื้อหาไปยัง Stories ผ่านเบราว์เซอร์ได้เร็วๆ นี้ด้วย (โพสต์ปกติยังไม่เปิดให้ใช้)
ฟีเจอร์นี้จะทยอยเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วโลกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ที่มา: Instagram
Facebook ประกาศปรับอัลกอริทึมในการแสดงเนื้อหาบน News Feed อีกแล้ว โดยคราวนี้เน้นไปที่ความเร็วในการโหลดของเว็บเพจ
ทีมวิศวกร Facebook ระบุว่าจากการศึกษาพบว่าผู้ใช้งานจะไม่ชอบ หากคลิกลิงก์เว็บเพจแล้วใช้เวลาโหลดนานเกินไป โดยพบว่า 40% จะปิดทันทีเมื่อต้องรอโหลดเกิน 3 วินาที ฉะนั้นเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดี ปัจจัยนี้ก็จะถูกนำมาพิจารณาด้วย
โดยในไม่กี่เดือนข้างหน้า News Feed จะแสดงผลเว็บเพจที่สามารถโหลดได้เร็วบนมือถือมากขึ้น และจะลดการเห็นบน News Feed หากเว็บนั้นใช้เวลาโหลดนานเกินไป ทั้งนี้ความเร็วอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งในการเลือกแสดงข้อมูลเว็บเพจ หากอินเทอร์เน็ตเร็วก็จะแสดงลิงก์มากขึ้น
Google เผยจะมอบใบรับรองให้แก่นักพัฒนาที่ผ่านการสอบด้านการพัฒนาเว็บไซต์บนมือถือ ผู้ที่ได้รับจะสามารถใช้ใบรับรองไปโปรโมทตัวเองในอนาคตได้
สำหรับหลักสูตรการอบรมครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐาน เช่น การปรับปรุงความเร็วการใช้งาน การออกแบบ UX ที่มีประสิทธิภาพ ส่วนใบรับรองที่นักพัฒนาได้รับ สามารถนำไปใช้โปรโมทตัวเองในฐานะ "นักพัฒนาเว็บไซต์บนมือถือที่ผ่านการรับรองโดย Google" ด้วยเช่นกัน
ใบรับรองนี้ยังครอบคลุมถึงเทคโนโลยีสาขาที่เกี่ยวข้องอย่าง Google AdWords และ Analytics ด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ Google Search ออกข่าวว่าเตรียมแยกดัชนี Mobile Index ออกจาก Desktop Index วันนี้ข่าวอย่างเป็นทางการมาแล้ว
สิ่งที่กูเกิลจะทำคือยังมี Search Index เพียงอันเดียว ไม่แยกสองเวอร์ชัน แต่ดัชนีอันนี้จะเลือกดึงข้อมูลจากเว็บเพจเวอร์ชันอุปกรณ์พกพา (mobile web) เพื่อจัดอันดับผลการค้นหา ก่อนเว็บเพจเวอร์ชันเดสก์ท็อป
ข่าวสำคัญของวงการ search ที่แสดงให้เห็นทิศทางของโลกยุค mobile-first ได้เป็นอย่างดี
Gary Illyes พนักงานของกูเกิลไปพูดที่งานสัมมนา Pubcon และให้ข้อมูลว่ากูเกิลกำลังแยกดัชนีค้นหาเวอร์ชันสำหรับอุปกรณ์พกพา (mobile index) ออกมาจากดัชนีค้นหาสำหรับพีซีเดสก์ท็อป (desktop index) และกูเกิลจะให้ความสำคัญกับ mobile index เป็นหลักแทน การอัพเดตข้อมูลใน mobile index จะเกิดขึ้นบ่อยกว่า desktop index ด้วย
Illyes บอกว่าเว็บแบบ mobile site เริ่มแตกต่างจากเว็บเวอร์ชันเดสก์ท็อป เช่น มีขนาดไฟล์เล็กลง มีลิงก์น้อยลง มีเนื้อหาน้อยลง กูเกิลจึงต้องแยก mobile index ขึ้นมาอีกชุดหนึ่งโดยเฉพาะ แต่ถ้าเว็บของเราเหมือนกันทั้งบนเดสก์ท็อปและอุปกรณ์พกพา ก็จะไม่ได้รับผลกระทบอะไร
กูเกิลประกาศว่าหน้าเว็บ Gmail และ Inbox by Gmail ถูกปรับปรุงให้เป็น responsive ใช้งานได้กับหน้าจอทุกขนาด โดยข้อความ ลิงก์ ปุ่มต่างๆ ในเนื้ออีเมล จะถูกปรับขนาดให้เหมาะสมกับการแตะบนหน้าจอขนาดเล็กด้วย (ดูภาพประกอบ)
กูเกิลยังแนะนำให้คนที่ออกแบบอีเมลให้องค์กรต่างๆ เรียนรู้การใช้ CSS media query เพื่อปรับขนาดการแสดงผลเนื้อหาอีเมลให้เหมาะกับขนาดหน้าจอ โดยอ่านรายการของกฎ CSS ที่ Gmail รองรับได้จาก Gmail Document
การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มมีผลภายในเดือนนี้
กูเกิลอำนวยความสะดวกให้เจ้าของเว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็ก (SME) โดยรวมเอาเครื่องมือทดสอบเว็บไซต์ที่มีอยู่แล้วคือ PageSpeed Insights วัดความเร็วการโหลดหน้าเว็บ และ Mobile-friendly Test ทดสอบว่าเว็บเพจดูบนอุปกรณ์พกพาได้ดีแค่ไหน
Browser ในปัจจุบันจะมีเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์มาให้ใช้งานกัน แต่ก็ยังมีความสามารถที่ขาดๆ เกินๆ บ้างไปพอสมควร ล่าสุดมี Browser น้องใหม่ชื่อว่า Blisk ที่มาพร้อมฟีเจอร์สำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์โดยเฉพาะ
Blisk เป็น browser ที่พัฒนาด้วย Chromium เน้นใช้งานเพื่อการพัฒนาเว็บไซต์ทั้งการสร้าง prototype, พัฒนา, ทดสอบและหาบั๊กบนงาน ฟีเจอร์หลักๆ คือทดสอบเว็บไซต์ได้บนมือถือและแท็บเล็ตจำลองที่ใช้งานได้เสมือนจริง, ทดสอบได้พร้อมกันทั้งเดสก์ท็อปและมือถือ หากเราเลื่อนหน้าจอฝั่งมือถือลงมา ฝั่งเดสก์ท็อปก็จะเลื่อนตามลงมาด้วย, หากมีการเปลี่ยนแปลงโค้ดใน IDE Blisk จะอัพเดตความเปลี่ยนแปลงบน browser ให้ทันทีโดยไม่ต้องกด refresh เอง
กูเกิลจัดงานสัมมนาสำหรับนักพัฒนา Chrome Dev Summit 2015 และเผยสถิติผู้ใช้ Chrome บนอุปกรณ์พกพาว่าเพิ่มจาก 400 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว มาอีกเท่าตัวเป็น 800 ล้านคนแล้ว
กูเกิลยังมองว่า "เว็บ" มีความสำคัญไม่แพ้ "แอพ" และอ้างอิงสถิติของ comScore ว่าผู้ใช้อุปกรณ์พกพาส่วนใหญ่ใช้แอพเฉลี่ย 25 ตัวต่อเดือน ในขณะที่เข้าเว็บมากกว่า 100 ไซต์ต่อเดือน ข้อดีของเว็บที่เหนือกว่าแอพคือเริ่มต้นใช้งานได้เร็วกว่า ไม่ต้องติดตั้ง แต่จุดอ่อนคือประสบการณ์การใช้งานเว็บยังไม่ดีเท่าแอพ
แนวทางแก้ไขของกูเกิลจึงเป็นสิ่งที่เรียกว่า Progressive Web Apps หรือการพัฒนาเว็บให้ดีเท่ากับแอพ
ทีมงาน IE ของไมโครซอฟท์เผยว่า ได้ปรับปรุง Internet Explorer 11 Mobile บน Windows Phone 8.1 Update ที่บริษัทเพิ่งเปิดตัวไป ให้แสดงผลเว็บไซต์ได้เหมือนกับที่ปรากฏบน Android หรือ iOS ตามแนวคิดที่ว่า "เว็บควรทำงานได้ (just work) กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ นักพัฒนา หรือองค์กร" ถึงแม้ว่าเว็บไซต์เหล่านั้นบางส่วนจะไม่ถูกพัฒนาตามมาตรฐานกลางของ W3C ก็ตาม
จากการสำรวจเว็บไซต์สาหรับอุปกรณ์พกพาต่างๆ พบ 5 ประเด็นหลักที่ทำให้เว็บไซต์เหล่านั้นแสดงผลบน WP ได้ไม่ถูกต้องเหมาะสม คือ
Google News เป็นบริการตัวหนึ่งของกูเกิลที่ไม่มีเวอร์ชันแอพ มีเฉพาะเวอร์ชันเว็บเท่านั้น
ล่าสุดกูเกิลเผยหน้าตาของ Google News แบบใหม่สำหรับเบราว์เซอร์บนมือถือ โดยหน้าตาโฉมใหม่ออกแบบมาเพื่อให้อ่านข่าวได้ง่ายขึ้น, รองรับธีมสีเข้ม, ปรับขนาดฟอนต์ได้สะดวก, แสดงโพสต์จากเพื่อนใน Google+, แสดงภาพอากาศใน Local widget
หน้าตาโฉมใหม่จะเริ่มเปิดให้บริการในสหรัฐก่อน แล้วค่อยขยายไปยังประเทศอื่นๆ ต่อไป
ที่มา - Google News Blog
ไม่ใช่แค่นักพัฒนาทั่วไปที่เบื่อกับการต้องมากดรีเฟรชทุกครั้งที่ปรับหน้าเว็บบนมือถือไป เพราะแม้แต่คนในกูเกิลเองก็คงเป็นเหมือนกัน ล่าสุดได้ François Beaufort อดีตนักปล่อยข่าว Chrome ที่โดนกูเกิลดึงตัวไปแล้ว ได้โชว์ฟีเจอร์ใหม่ของ Chrome Beta ที่ช่วยให้นักพัฒนาเว็บไซต์มือถือทำงานได้สบายขึ้นเยอะ
ฟีเจอร์ที่ว่านี้คือการ screencast หน้าจอของอุปกรณ์แอนดรอยด์ขึ้นไปบนจอภาพของพีซีในขนาดเท่ากับของจริง ทั้งสองหน้าจอจะแสดงผลเหมือนกันแบบเรียลไทม์ โดยหน้าจอมือถือบนพีซีจะอยู่ในฟังก์ชัน Inspect element ใหม่ ในแถบ screencast ครับ
การทำงานของฟีเจอร์นี้ทำผ่าน Chrome DevTool การจะเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ต้องมีขั้นตอนนิดหน่อย ดูได้จากที่มาครับ
Google Wallet เพิ่มฟีเจอร์ชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการผ่านแอพสำหรับอุปกรณ์ Android หรือโมบายเว็บ เพื่อช่วยประหยัดเวลาแก่ผู้ใช้งาน
Google อ้างว่าโดยทั่วไปในการซื้อสินค้าและบริการผ่านแอพและโมบายเว็บหลายแห่ง ต้องใช้เวลาในการกรอกข้อมูลส่วนตัวมากมาย ทั้งข้อมูลที่อยู่เพื่อส่งสินค้าและเรียกเก็บเงิน, ข้อมูลบุคคลเพื่อติดต่อ หรือข้อมูลเลขบัตรเครดิต ซึ่งนอกจากจะเสียเวลาแล้วยังอาจเกิดความผิดพลาดในการป้อนข้อมูลแต่ละครั้ง รวมทั้งมีความเสี่ยงที่อาจจะมีผู้อื่นแอบมองการพิมพ์ข้อมูลเหล่านั้นก็เป็นได้
กูเกิลประกาศปรับหน้าตาของ Gmail เวอร์ชัน mobile web เสียใหม่ โดยใช้หน้าตาแนวเดียวกับ Gmail บน iOS ที่เพิ่งปรับปรุงใหม่เมื่อเร็วๆ นี้
Gmail เวอร์ชันนี้ใช้ได้บนเบราว์เซอร์ของ Android, iOS, Kindle Fire และ BlackBerry โดยมันจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านการค้นหาที่ดีขึ้น และการทำงานร่วมกับ Google Calendar ที่ดีขึ้นด้วย
ที่มา - +Gmail
หลังจากกูเกิลปล่อยอินเทอร์เฟซใหม่ของ YouTube รุ่นเว็บไซต์ไปแล้ว ก็ปล่อยอินเทอร์เฟซใหม่สำหรับรุ่นโมบายเว็บ และแอพแอนดรอยด์ สำหรับแท็บเล็ตหน้าจอ 10" ตามมาติดๆ
อินเทอร์เฟซใหม่ สิ่งที่เปลี่ยนไปคือหน้าแรกจะมีสามแถบคือเมนู วิดีโอแนะนำ และเมื่อปิดแถบเมนูจะเห็นช่องแนะนำทางฝั่งซ้าย
หน้าเล่นวิดีโอใกล้เคียงกับของเดิม แต่เพิ่มปุ่ม like/dislike และแชร์ให้กดง่ายขึ้น แถบด้านข้างยังเป็นวิดีโอแนะนำเหมือนเดิม รวมถึงประสิทธิภาพโดยรวมที่ลื่นขึ้นมาก (ลองกับ iPad 3)
เราเพิ่งผ่านยุคสมัยที่คนทำเว็บหลายๆ คนสร้างเว็บเฉพาะ IE6 มาได้ไม่นาน แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับกันไปแล้ว เนื่องจากทั้งแอปเปิลและกูเกิลต่างใช้เอนจิน WebKit และเมื่อส่วนแบ่งตลาดมือถือของสองค่ายนี้รวมกันได้เยอะมาก ทำให้เว็บไซต์หลายๆ แห่งทดสอบเว็บภาคมือถือเฉพาะบน WebKit เท่านั้น
ไมโครซอฟท์ที่มี IE บน Windows Phone จึงออกมาเรียกร้องให้นักพัฒนาเว็บทดสอบเว็บให้ใช้งานกับ IE10 ได้ด้วย และเขียนบล็อกอธิบายการทดสอบเว็บกับ IE10 บน WP8 รวมถึงแนะนำให้นักพัฒนาเว็บหลีกเลี่ยงการใช้มาตรฐาน HTML เฉพาะของ WebKit (กลุ่ม -webkit- ทั้งหลาย) โดยเปลี่ยนมาใช้มาตรฐานกลางของ W3C แทน
วันเวลาเปลี่ยนไป หลายอย่างก็เปลี่ยนแปลง
หนึ่งในฟีเจอร์ที่ทุกคนรอคอยมานานแสนนานบนแอพ Facebook ใน Android และ iOS นั่นก็คือฟีเจอร์การแชร์โพสต์ต่าง ๆ ซึ่งล่าสุดทาง Facebook ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์นั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ฟีเจอร์นี้จะมาบน mobile web ก่อน ส่วนแอพสำหรับ iOS และ Android จะตามมาทีหลัง คำถามตอนนี้ก็คือ มันเพิ่งมาหรอ
ที่มา : TechCrunch ผ่าน Engadget
Mark Zuckerberg ให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์ TODAY ซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ Facebook เข้าตลาดหุ้น โดยเขาได้เผยข้อมูลส่วนตัวเรื่องการแต่งตัว ว่าตู้เสื้อผ้าของเขานั้นมีเสื้อยืดสีเทาอยู่ราว 20 ตัว และพื้นที่ส่วนใหญ่ในตู้เสื้อผ้าก็เป็นของภรรยาเขาเสียมากกว่า
เมื่อถามถึงยุทธศาสตร์ของ Facebook บนอุปกรณ์พกพา Mark เริ่มต้นเล่าว่าตอนนี้เขามี iPhone 5 แล้ว เพราะทิม คุกส่งมาให้ใช้งาน เขายอมรับว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ดีมาก แต่ก็ยอมรับว่าวันนี้มีคนใช้แอพ Facebook บน Android มากกว่า เพราะว่าอัตราส่วนผู้ใช้งาน Android สูงกว่า iOS หากแต่ตัวเลขแท้จริงนั้นคนใช้งาน Facebook ผ่านเบราว์เซอร์บนอุปกรณ์พกพามากที่สุด สูงกว่าตัวเลขผู้ใช้งานแอพบน iOS กับ Android รวมกันเสียอีก นี่จึงเป็นปัญหาที่น่าสนใจมาก
Instagram เพิ่งประกาศยอดผู้ใช้ทะลุ 100 ล้านคนไปได้เมื่อวาน ก็ถือโอกาสปรับหน้าโมบายล์เว็บไปด้วยในตัว
หน้าโมบายล์เว็บแบบใหม่โดยใช้ธีมเดียวกันกับเวอร์ชันเดสก์ท็อปที่เปิดมาเมื่อสามเดือนก่อน สามารถกดไลค์ และคอมเมนท์ได้โดยตรง รวมถึงเพิ่มปุ่ม Open in App สำหรับเปิดภาพดังกล่าวในแอพเข้ามาด้วย
ภาพตัวอย่างดูได้จากที่มาครับ
ที่มา - The Next Web
เว็บไซต์ WMPowerUser ชุมนุมคนใช้ Windows Phone ลองนำสถิติทราฟฟิกเว็บที่มาจากโทรศัพท์มือถือของ StatCounter มาลองพล็อตเป็นกราฟ และเห็นแนวโน้มว่าทราฟฟิกของ Windows Phone ที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นน่าจะมาตัดกับทราฟฟิกของ BlackBerry ที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้
ทั้งหมดนี้เป็นสถิติของผู้ใช้มือถือในสหรัฐเท่านั้น
การคาดการณ์นี้พิจารณาจากสมมติฐานว่าทั้งสองแพลตฟอร์มยังไม่มีจุดเปลี่ยนสำคัญ (อิงจากข้อมูลในอดีต) แต่ในความเป็นจริงแล้วเราจะเห็นฝั่ง Windows Phone เปิดตัว WP8 ในเดือนหน้า ส่วน BB10 ต้องรอถึงปีหน้า ซึ่งเป็นไปได้ว่าทราฟฟิกของ Windows Phone อาจพุ่งสูงขึ้นกว่าแนวโน้มประเมินข้างต้น และแซงหน้า BlackBerry เร็วกว่าที่คาดได้ครับ