Risto Siilasmaa ผู้ก่อตั้งบริษัทความปลอดภัย F-Secure และประธานบอร์ดโนเกียคนปัจจุบัน (รับตำแหน่งปี 2012) ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ฟินแลนด์ Kauppalehti เปิดใจถึงความเจ็บปวดของโนเกียที่ต้องขายธุรกิจมือถือทิ้งไป
หมายเหตุ: บทสัมภาษณ์เป็นภาษาฟินแลนด์ แปลจาก Google Translate อีกทีหนึ่ง
มีคนไปพบมือถือ Nokia 1100 (อย่าสับสนกับ Nokia 1100 มือถือจอขาวดำ) มือถือใช้ชิป MediaTek MT6582 พร้อมซีพียูควอดคอร์ที่ 1.3 กิกะเฮิรตซ์ และรัน Android 5.0 Lollipop โผล่บน Geekbench
เว็บไซต์ Nokiapoweruser คาดว่า Nokia 1100 น่าจะมีสเปคตามสเปคของชิปรุ่น MT6582 ประกอบด้วย หน้าจอที่ความละเอียด 720p, รองรับ 3G HSPA+/TD-SCDMA, หน่วยประมวลผลสัญญาณภาพรองรับการประมวลผลที่ 8 ล้านพิกเซล และรองรับอัดและเล่นวิดีโอ 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
หลังจากที่ทางโนเกียได้ปล่อยแอพ HERE for Android รุ่น beta ให้ดาวน์โหลดกันได้เมื่อปลายปีที่แล้ว วันนี้ทางโนเกียได้อัพเดตแอพดังกล่าวพร้อมกับปลดสถานะ beta โดยมียอดดาวน์โหลดไปมากกว่า 3 ล้านครั้งแล้ว
ในอัพเดตนี้มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ครับ
โนเกียยุคไร้ธุรกิจมือถือ เผยผลประกอบการไตรมาส 4/2014 และผลประกอบการตลอดทั้งปี 2014 โดยรวมคือรายได้ทั้งปีแทบไม่เพิ่มจากปี 2013 แต่กำไรเพิ่มขึ้น 14%
แม้ว่าในยุคสมัยนี้ผู้คนมักจะไม่สนใจฟีเจอร์โฟน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟีเจอร์โฟนหน้าจอขาว-ดำ ที่แทบจะไม่มีการผลิตแล้ว แต่เว็บไซต์ข่าว Vice รายงานว่า สำหรับวงการผิดกฎหมายอย่างการซื้อขายยาเสพติดของอังกฤษ โทรศัพท์ประเภทนี้กลับเป็นที่นิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโทรศัพท์แบบ Nokia 8210 ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาในรายงานข่าว
เหตุผลหลักก็ตรงไปตรงมา คือโทรศัพท์อย่าง Nokia 8210 นั้นไม่มีทั้ง GPS, Wi-Fi, Bluetooth ซึ่งทำให้การติดตามตัวหรือการดักฟังทำได้ยากมาก อย่างไรก็ตามโทรศัพท์เหล่านี้ยังคงมีพอร์ต Infrared ไว้เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล เมื่อต้องการเปลี่ยนเครื่องในเวลาจำเป็น รวมถึงอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานมากและมีขนาดเล็ก ทำให้พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก
โนเกียจดสิทธิบัตร Electronic apparatus with a detachable display ซึ่งกล่าวถึงอุปกรณ์ไฮบริดทรงแล็ปท็อปที่ถอดหน้าจอได้ เพื่อตอบสนองต่อการใช้แบบพกพาและแบบอยู่กับที่ (stable use) โดยเครื่องประกอบด้วยสองส่วนคือส่วนหน้าจอ (มีแบตเตอรี่ แต่อาจมีหรือไม่มีหน่วยประมวลผลกับหน่วยความจำ) และส่วนฐาน (มีหน่วยประมวลผล หน่วยความจำ แบตเตอรี่) ผู้ใช้สามารถถอดส่วนหน้าจอออกและยังทำงานได้อย่างต่อเนื่องเสมือนหน้าจอยังต่ออยู่กับฐาน
ในส่วนของหน้าจอนั้นจะมีหน้าจอทั้งสองด้าน คือหน้าจอหลักและหน้าจอสำหรับแสดงผลการแจ้งเตือน
ต้องมาดูกันว่าโนเกียจะผลิตอุปกรณ์ลักษณะข้างต้นออกสู่ตลาดหรือไม่ครับ
แท็บเล็ต N1 ของโนเกียซึ่งเปิดจองล่วงหน้าในประเทศจีนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีการเปิดเผยข้อมูลว่าสามารถขายได้หมด 2 หมื่นเครื่อง ภายในเวลาเพียง 4 นาทีเท่านั้น
สำหรับในประเทศจีนโนเกียจะเปิดให้สั่งจอง N1 รอบใหม่วันที่ 15 มกราคมนี้ ส่วนแผนการจำหน่ายในประเทศอื่นยังไม่มีกำหนดออกมาครับ
ที่มา: Fone Arena
หลังจากเปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน วันนี้แท็บเล็ต N1 ของทาง Nokia ได้เปิดรับจองพรีออเดอร์แล้วในประเทศจีน และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มกราคมนี้
นอกจากการผลิตแล้ว Foxconn ยังรับผิดชอบการจัดจำหน่ายและการให้บริการในประเทศจีนด้วยเช่นกัน สำหรับภูมิภาคอื่นๆ คาดว่า Nokia N1 จะเริ่มวางจำหน่ายในทวีปยุโรปภายในเดือนหน้าก่อน โดยจะเป็นรุ่นที่มาพร้อมบริการ Google Play
ที่มา - Android Central
หลังจากที่ทางโนเกียเปิดตัว Nokia N1 แท็บเล็ตพลัง Android ล่าสุด เว็บไซต์ 163 Tech ของจีน ปล่อยภาพหลุดของสมาร์ทโฟน Nokia C1 (แบบเบลอ ๆ) โดยในภาพนั้นมี hashtag ต่าง ๆ ที่เขียนว่า #beauty, #precision, #weirdness, #fineness, #ideal, #style และ #and...
ทั้งนี้ดูเหมือนว่าทางโนเกียกำลังจะใช้ช่องทางการผลิตและขายโดย Foxconn เพื่อเป็นช่องโหว่ในการใช้แบรนด์ "Nokia" ก่อนปี 2016 ซึ่งจะครบกำหนดสัญญาที่ตกลงกับไมโครซอฟท์หลังจากการขายแผนกอุปกรณ์และบริการไป
หลังจากที่มีรายงานข่าวว่า Nokia จะไม่ทำแอพกลุ่ม HERE ให้กับ Windows Phone ต่อแล้ว ล่าสุด ทาง Nokia ได้ออกแถลงการณ์สั้นๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว ผ่านบล็อก Three Sixty ของแผนก HERE ของตัวเอง
Nokia ระบุว่า ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ที่ดีบน Windows Phone โดยจะสนับสนุนกลุ่มแอพ HERE เพื่อให้มั่นใจว่าจะเข้ากันได้กับ Windows รุ่นต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ทาง Nokia ยังไม่ระบุให้ชัดเจนว่า ตกลงยังทำแอพบนแพลตฟอร์ม Windows Phone ต่อไปหรือไม่ หรือยกหน้าที่นี้ให้กับไมโครซอฟท์ไปแล้ว
ที่มา - HERE Three Sixty
เว็บไซต์ GSM Arena อ้างรายงานข่าวของเว็บไซต์ Taloussanomat เว็บไซต์ข่าวธุรกิจออนไลน์ของฟินแลนด์ ที่ระบุว่า Nokia ซึ่งเป็นเจ้าของบริการแผนที่ HERE ประกาศยุติการพัฒนาแอพตระกูล HERE ทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม Windows Phone แล้ว โดยจะยกให้ทางไมโครซอฟท์เป็นคนทำต่อเอง
ทั้งนี้ การยุติการพัฒนาบนแพลตฟอร์ม Windows Phone ของ HERE ในครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าทาง Nokia ยุติการพัฒนาแอพ HERE บนแพลตฟอร์มอื่นด้วยแต่อย่างไร และยังคงแผนที่จะออกแอพสำหรับแพลตฟอร์ม iOS ภายในปีหน้าเอาไว้เช่นเดิม
อยากได้ต้องทำเอง
โนเกียประกาศว่าบรรลุข้อตกลงกับ Baidu ที่จะใช้ข้อมูลจาก Nokia HERE ในบริการแผนที่นอกประเทศจีน โดยความตกลงครอบคลุมแอพพลิเคชั่นทั้งเดสก์ทอปและโมบาย ข้อตกลงนี้ทำให้ Baidu Maps เป็นแอพแผนที่ของจีนแอพแรกที่ให้บริการนอกประเทศด้วย โดยแผนที่ส่วนแรกที่จะให้บริการคือไต้หวัน และประเทศอื่นๆ จะตามมาภายหลัง
เป้าหมายของความร่วมมือครั้งนี้คือนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางออกนอกประเทศจะสามารถหาตำแหน่งของสถานที่ต่างๆ ได้จากตัวแอพ Baidu Maps
ตอนนี้แผนที่ HERE ครอบคลุม 200 ประเทศ และรองรับการนำทางแบบ turn-by-turn 118 ประเทศ
หากใครยังจำกันได้ Nokia เคยเปิดตัว HERE Maps บน iOS เมื่อปี 2012 แต่พอ iOS 7 ออกนั้น Nokia ก็เลิกพัฒนา โดยโฆษกกล่าวว่าเพราะ iOS 7 ทำให้ประสบการณ์ใช้งาน HERE Maps แย่
ตามหลังจากเปิดตัว HERE Maps บน Android นั้น Nokia ก็ได้บอกว่าเตรียมจะออก HERE Maps บน iOS โดย Nokia กล่าวว่าตอนนี้กำลังเร่งพัฒนาและคาดว่าน่าจะออกตัวเต็มสำหรับ iOS ได้ในต้นปีหน้า ซึ่งช้ากว่าที่ซีอีโอคนเก่าของ HERE เคยกล่าวไว้ว่าจะมาในปีนี้เล็กน้อย
หลังจากที่ทางโนเกียเปิดให้ผู้ใช้งาน Android ทดสอบ HERE for Android ไประยะหนึ่งแล้ว ล่าสุด ทางโนเกียประกาศผ่านทางบล็อกของ HERE ว่า HERE Maps บน Android พร้อมให้ดาวน์โหลดใน Google Play Store แล้ววันนี้ ซึ่งแน่นอนว่ายังคงฟรีเหมือนเดิม
สำหรับฟีเจอร์ใน HERE for Android เวอร์ชันนี้นั้นยังคงเหมือนกับเวอร์ชันทดสอบทุกประการ ต่างกันที่ว่า ในเวอร์ชันนี้จะเพิ่มเสียงนำทางใหม่ (เหมือนกับบน Windows Phone ทุกประการ) และเพิ่มประเทศใหม่อีก 18 ประเทศ รวมเป็น 118 ประเทศทั่วโลก รวมถึงยังแก้บั๊กต่าง ๆ ในแอพด้วย
แอพนำทางตระกูล HERE บน Windows Phone ได้รับอัพเดตใหม่ซึ่งได้ยกเลิกการเข้าใช้งานด้วย Nokia account เดิมและเปลี่ยนไปใช้ระบบจัดการ account ของ HERE เองและปรับให้ HERE Drive+ และ HERE Transit เป็นแอพแจกฟรีสำหรับ Windows Phone 8 ทุกเครื่อง (ก่อนหน้านี้ WP8 บางเครื่องได้รับเพียง HERE Drive ธรรมดา ส่วน WP8.1 นั้นแจกฟรีมาตั้งแต่แรก)
มีผู้ใช้ชื่อว่า DirkDagger โพสต์บนฟอรั่มของ Maemo.org เว็บคอมมูนิตี้ของการพัฒนาซอฟต์แวร์บน Maemo (ระบบปฏิบัติการที่โนเกียซุ่มพัฒนาตั้งแต่ปี 2005) ปล่อยภาพมือถือต้นแบบของโนเกียที่ไม่เคยออกสู่ตลาดจริง ดังนี้
- มือถือรัน Meltemi ระบบปฏิบัติการใหม่ของโนเกียสำหรับฟีเจอร์โฟน อนาคตจะแทน S40 แต่ท้ายที่สุดถูกยกเลิกไป เว็บไซต์ MyNokiaBlog เสริมว่าโค้ดเนมของอุปกรณ์นี้คือ Clipper
Lava ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนมาแรงในอินเดีย ออกมาให้ข่าวว่ากำลังวางแผนที่จะซื้อโรงงานเก่าของ Nokia ใน Chennai เพื่อย้ายฐานการผลิตสมาร์ทโฟนของตนเองกลับมาทำในประเทศ จากที่ตอนนี้อาศัยจ้างโรงงานในจีนให้เป็นผู้ทำการผลิต
โรงงานแห่งนี้ไม่ได้ถูกรวมในการซื้อขายกิจการระหว่าง Nokia และ Microsoft เนื่องจากในขณะนั้นยังติดปัญหาเรื่องภาษีกับทางการอินเดีย ทว่าแม้ Nokia จะยังคงเป็นเจ้าของโรงงานนี้ แต่ก็ไม่สามารถใช้มันสร้างผลิตภัณฑ์ได้ด้วยเหตุผลจากเงื่อนไขในการขายกิจการมือถือให้แก่ Microsoft ด้วยเหตุนี้ Nokia จึงทำข้อตกลงเลิกจ้างกับพนักงานราว 6,600 คน และหยุดสายการผลิตของโรงงานตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ข่าวนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้โทรศัพท์ของโนเกีย ฟีเจอร์โฟน S40, สมาร์ทโฟนซิมเบียน และ Nokia N9 โดยตรงนะครับ
ไมโครซอฟท์ประกาศยุติบริการ Nokia Sync (หรืออาจจะรู้จักกันในชื่อ Ovi Sync) ซึ่งเป็นบริการสำรองข้อมูล รายชื่อผู้ติดต่อ, ปฏิทิน และโน้ต จากโทรศัพท์ขึ้นสู่คลาวด์ โดยหลังจากวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ผู้ใช้จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆที่เคยซิงค์ได้อีก
โดยผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดข้อมูลมาเก็บไว้ หรือย้ายข้อมูลไปยังบัญชีของไมโครซอฟท์แทนได้ครับ ที่เว็บนี้
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ไมโครซอฟท์
ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Opera Mobile Store จะมาแทน Nokia Store สำหรับ Series 40/60, Symbian, Asha และ Nokia X โดยกระบวนการย้ายไปสโตร์ใหม่และปิด Nokia Store จะเสร็จสิ้นในไตรมาสแรกของปีหน้า
ในส่วนของนักพัฒนาแอพบน Nokia Store นั้น บริษัทจะเผยรายละเอียดว่านักพัฒนาจะเข้าร่วม Opera Mobile Store และประกาศแอพขึ้นสโตร์ใหม่ได้อย่างใดในเร็ววันนี้ (very soon)
ไมโครซอฟท์โฆษณาว่า Opera Mobile Store ให้บริการใน 196 ประเทศทั่วโลก มีแอพและเกมมากกว่า 300,000 รายการ มีผู้ใช้ราว 200 ล้านรายต่อเดือน
ท้ายสุด ไมโครซอฟท์ยังเชิญชวนให้ผู้ใช้มือถือตระกูลคลาสสิกดังข้างต้นอัพเกรดไปยัง Lumia รุ่นล่าง อาทิ Lumia 535 ด้วย
โนเกียได้เปิดตัว Z Launcher โฮมสกรีนบนแอนดรอยด์ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่เปิดให้ทดลองใช้ในวงแคบๆ เท่านั้น โดยสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ Z Launcher แต่เพียงอย่างเดียว ล่าสุดโนเกียได้ปล่อย Z Launcher เวอร์ชันเบต้าให้ดาวน์โหลดกันได้ฟรีๆ บน Play Store แล้ว
เวอร์ชันเบต้านี้ได้ถูกปรับปรุงความสามารถ รวมไปถึงอัลกอริธึมในการเดาแอพที่ผู้ใช้ต้องการมากที่สุดด้วย และที่สำคัญสามารถใช้กับเครื่องรูทได้แล้วด้วยเช่นกัน
ที่มา - The Next Web
จากข่าว โนเกียหวนคืนวงการอุปกรณ์พกพาด้วยแท็บเล็ตแอนดรอยด์ N1 ก็เกิดคำถามตามมามากมายเกี่ยวกับแท็บเล็ตตัวนี้ และยุทธศาสตร์ของโนเกียในภาพรวม เว็บไซต์ GigaOm รวบรวมคำตอบในบางประเด็นมาได้ดังนี้
ใบ้มาเมื่อวานว่าวันนี้ Nokia (ฝั่งที่เหลือจากการซื้อโดยไมโครซอฟท์) จะเปิดตัวอะไรบางอย่าง และผลก็ออกมาเป็น Nokia N1 แท็บเล็ตพลังแอนดรอยด์ตัวแรกของ Nokia ที่ครอบทับด้วยอินเทอร์เฟซของตัวเองอย่าง Nokia Z นั่นเอง
ว่ากันด้วยรูปลักษณ์ภายนอก Nokia N1 เป็นแท็บเล็ตบางเฉียบเพียง 6.9 มม. ตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียม แถมยังเป็นรุ่นแรกๆ ที่ใช้พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C มาตรฐานพอร์ตเชื่อมต่อตัวใหม่ที่เสียบได้ทั้งสองด้าน ส่วนสเปครวมๆ จัดว่าแรงใช้ได้ ดังนี้ครับ
หลังจากที่โนเกียปล่อยทีเซอร์มาเมื่อวาน ในที่สุดโนเกียก็เผยโฉมผลิตภัณฑ์ปริศนานั้นแล้ว นั่นก็คือ Nokia N1 แท็บเล็ตตัวแรกของบริษัทที่รัน Android 5.0 Lollipop และใช้ Z Launcher ที่เปิดตัวไปเมื่อกลางปีนี้
สำหรับ Nokia N1 เป็นแท็บเล็ตแบรนด์อื่นที่ไม่ใช่ Nexus ที่ได้ Android Lollipop ตัวแรก ๆ ของโลก โดยตัวเครื่องจะใช้ชิปของอินเทล
สำหรับสเปกของ Nokia N1 ประกอบด้วย
หลังจากที่ไมโครซอฟท์พยายามขจัดชื่อโนเกียออกจากที่ต่างๆ มาระยะหนึ่ง วันนี้ความพยายามนั้นก็ประสบผลสำเร็จแล้วด้วยการเปลี่ยนชื่อซอฟต์แวร์ตัวสุดท้าย ที่หาใช่แอพสำหรับ Windows Phone ไม่ แต่เป็นโปรแกรมที่ทำงานบนคอมพิวเตอร์อย่าง Nokia Software Recovery ที่แม้บนหน้าเว็บจะยังคงเป็นชื่อเดิม แต่สำหรับผู้ที่ติดตั้งอยู่แล้วจะได้รับอัพเดตที่เปลี่ยนชื่อเป็น Lumia Software Recovery
โนเกียยุคหลังจากที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือแล้วก็ยังมีธุรกิจอุปกรณ์เครือข่าย สำหรับสินค้าของลูกค้าตามบ้านก็ยังไม่มีสินค้าที่เราเห็นได้ทั่วไป แต่วันนี้โนเกียก็ทวีตว่ากำลังเปิดตัว "อะไรบางอย่าง" ในวันพรุ่งนี้ ที่งาน Slush
หัวข้อที่โนเกียจะขึ้นพูดที่งาน Slush คือ "What's next, Nokia?" โดย Sebastian Nyström หัวหน้าฝ่ายสินค้าแผนก Nokia Technologies หนึ่งในสามแผนกที่เหลืออยู่ของโนเกีย เดิมเป็นฝ่ายวิจัยของโนเกียที่ถือเทคโนโลยีการเข้ารหัสเสียง, เทคโนโลยี Bluetooth, ไปจนถึงเทคโนโลยี Augmented Reality
ภาพสินค้าที่เปิดออกมาเป็นกล่องแบบนี้ผมนึกไม่ออกว่าจะเป็นอะไรนอกจากเครื่องรับทีวีออนไลน์ สมาชิกท่านอื่นๆ คิดว่าเป็นอะไรมาช่วยกันเดาก่อนงานเปิดตัวกันได้ครับ