Nokia ผุดไอเดียพัฒนาโดรนเพื่อช่วยในการตรวจสอบระบบตลอดจนซ่อมบำรุงเสาสัญญาณโทรคมนาคม
งานนี้ Nokia ร่วมมือกับ Du บริษัทด้านโทรคมนาคมในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออกแบบโดรนเพื่อใช้งานในหลายหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจวัดคุณภาพสัญญาณในบริเวณต่างๆ หรือการตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์บนเสาสัญญาณเพื่อประเมินงานซ่อมบำรุง ซึ่งจะช่วยทุนแรงและเวลาในการทำงานของพนักงาน
ล่าสุด Nokia ก็ได้ทำการทดสอบโดรนที่พัฒนาขึ้นใหม่นี้ โดยใช้โดรนที่ติดตั้งกล้องบันทึกภาพและสมาร์ทโฟนไว้ในตัว ทำการบันทึกภาพและจดบันทึกค่าความแรงของสัญญาณจากเสาส่งในพื้นที่สนามกีฬา Dubai International Stadium ทั้งยังใช้ตรวจสอบแนวการมองเห็นซึ่งกันและกันของเสาส่งสัญญาณ ซึ่งผลการทดสอบใช้งานก็เป็นที่น่าพอใจ
ประเด็นความพยายามขายธุรกิจแผนที่ HERE ของ Nokia ยังคงมีข้อมูลเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Reuters รายงานว่า Nokia เพิ่งไปเจรจาขาย HERE ให้กลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของประเทศเยอรมันอย่าง Daimler, BMW และ Audi แต่ดูเหมือนการเจรจาครั้งนี้จะยิ่งทำให้ Nokia ตกที่นั่งลำบากขึ้นไปกว่าเดิม
Bloomberg ได้เอกสารภายในของไมโครซอฟท์ ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับยุทธศาสตร์มือถือ และการปลดพนักงาน 7,800 ดังนี้
Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ออกมาประกาศตัดบัญชีสินทรัพย์ด้อยค่า (impairment charge) ของทรัพย์สินที่ซื้อมาจากโนเกีย (Nokia Devices and Services) มูลค่า 7.6 พันล้านดอลลาร์ ควบคู่ไปกับการปลดพนักงานรอบใหม่ 7,800 คน
อย่างไรก็ตาม Nadella ยืนยันว่าไมโครซอฟท์จะยังทำฮาร์ดแวร์ของตัวเอง (first party device) ต่อไป ไม่เลิกทำโทรศัพท์มือถือ แต่จะปรับแผนธุรกิจใหม่ จากเดิมที่มองธุรกิจสมาร์ทโฟนเป็นธุรกิจแยกเฉพาะของตัวเอง ก็เปลี่ยนมาเป็นส่วนหนึ่งของ Windows ecosystem แทน
หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานว่าไมโครซอฟท์กำลังจะปลดพนักงานอีกรอบเพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยพนักงานกลุ่มหลักที่จะได้รับผลกระทบคือฝ่ายฮาร์ดแวร์ รวมถึงพนักงานที่ย้ายมาจากโนเกียเดิม
ช่วงกลางปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์ประกาศปลดพนักงานถึง 18,000 คน มารอบหนึ่งแล้ว โดยส่วนใหญ่ก็เป็นอดีตพนักงานของโนเกียเช่นกัน (ปัจจุบันไมโครซอฟท์มีพนักงานราว 118,000 คนทั่วโลก) และเมื่อเดือนที่แล้ว Stephen Elop อดีตซีอีโอของโนเกียก็เพิ่งลาออกจากบริษัทไป
โจทย์ใหญ่ที่ไมโครซอฟท์ยังแก้ไม่ตกคือไม่สามารถพลิกฟื้นยอดขาย Windows Phone ได้ แม้จะซื้อโนเกียมาแล้วก็ตาม
Matti Makkonen อดีตวิศวกรของโนเกีย เสนอให้โทรศัพท์มือถือสามารถส่งข้อความเป็นตัวอักษรได้มาตั้งแต่ปี 1984 และใช้เวลาถึง 8 ปีกว่าโทรศัพท์มือถือจะสามารถส่งข้อความตัวอักษรได้จริงในปี 1992 เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 ที่ผ่านมาด้วยวัยเพียง 63 ปี
SMS กลายเป็นช่องทางสื่อสารสำคัญที่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือใช้งานกันต่อเนื่องหลายปี ในปี 2012 เป็นจุดสูงสุดของ SMS ที่มีผู้ส่งข้อความทั่วโลกถึง 7.76 ล้านล้านข้อความ อย่างไรก็ดี Makkonen ไม่ได้จดสิทธิบัตร SMS เปิดทางให้ระบบการส่งข้อความบนโทรศัพท์มือถือ แอพพลิเคชั่นแชต ไปจนถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เลียนแบบ SMS อย่างทวิตเตอร์เกิดขึ้นในโลกกันมากมาย
ความคืบหน้าต่อจากข่าว โนเกียเตรียมหวนคืนวงการมือถือในปี 2016 โดยจะอยู่ในรูปการพัฒนาต้นแบบ-ให้สิทธิใช้แบรนด์กับบริษัทอื่นไปทำตลาดต่อ
เว็บไซต์ NokiaPowerUser อ้างข่าวลือวงในว่า "บริษัทอื่น" ที่ว่าคือ Foxconn นั่นเอง ข้อมูลนี้ไม่ผิดจากความคาดหมายนัก เพราะก่อนหน้านี้ Foxconn ก็ได้สิทธิแบบเดียวกันทำตลาดแท็บเล็ต Nokia N1 มาก่อนแล้ว
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่ามือถือโนเกียยุคใหม่จะโฟกัสที่ประเทศจีน อินเดีย และยุโรปบางประเทศก่อน แล้วค่อยขยายมาทั่วโลกในช่วงปลายปี 2016
Rajeev Suri ซีอีโอโนเกียให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Manager Magazin ของเยอรมนี ระบุว่าโนเกียกำลังมองหาพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสม สำหรับการกลับคืนสู่วงการโทรศัพท์มือถืออีกครั้งในปี 2016 หลังหมดสัญญากับไมโครซอฟท์แล้ว
อย่างไรก็ตาม เขาก็ระบุว่าโนเกียจะทำหน้าที่แค่ออกแบบ และให้ไลเซนส์แบรนด์โนเกียกับบริษัทอื่นเพื่อไปผลิตขายเท่านั้น ไม่ได้ทำมือถือเต็มรูปแบบอย่างในอดีต (แท็บเล็ต Nokia N1 เป็นความร่วมมือกับ Foxconn)
นอกจากนี้เขายังพูดถึงประเด็นการขายหน่วยธุรกิจ HERE โดยบอกว่าอยากขายให้กับบริษัทที่จะนำ HERE ไปพัฒนาต่อให้ดีขึ้นในระยะยาว
นอกจาก Stephen Elop ที่ประกาศลาออกจากไมโครซอฟท์ ยังมีอดีตผู้บริหารโนเกียเดิมอีกคนคือ Jo Harlow ที่ลาออกจากไมโครซอฟท์ไปพร้อมกัน
Jo Harlow เป็นผู้บริหารหญิงที่อยู่กับโนเกียมาตั้งแต่ปี 2003 จากนั้นเธอได้เลื่อนชั้นมาดูแลกิจการสมาร์ทโฟน Lumia ทั้งหมด และย้ายมาอยู่กับไมโครซอฟท์พร้อมกับ Elop ด้วย ช่วงหลังเรามักคุ้นหน้าคุ้นตาเธอในงานเปิดตัว Lumia รุ่นใหม่อยู่เรื่อยๆ
การลาออกของทั้ง Elop และ Harlow อาจสะท้อนว่าไมโครซอฟท์เริ่มปรับยุทธศาสตร์ Lumia อีกครั้ง โดยตอนนี้งานสายฮาร์ดแวร์ทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของ Terry Myerson ที่รับผิดชอบแผน Windows 10 ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว
Nokia และ LG บรรุลุข้อตกลงในโปรแกรมสิทธิบัตรเทคโนโลยีด้าน 2G 3G 4G ของ Nokia และมีสิทธิ์ในการใช้สิทธิบัตรกว่า 60 ฉบับ
ผู้บริหารของ Nokia เห็นว่าการทำข้อตกลงในครั้งนี้เป็นสัญญาณของความร่วมมือระหว่าง Nokia กับ LG เพราะได้รับประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย และการทำข้อตกลงนี้ยังเป็นข้อตกลงแรกกับผู้ผลิตอุปกรณ์รายใหญ่ในโครงการสิทธิบัตร หลังจากการขายธุรกิจอุปกรณ์และบริการให้กับ Microsoft เมื่อปี 2014
ข้อตกลงนี้ถูกปิดเป็นความลับ แต่คาดว่าค่าเข้าร่วมโครงการสิทธิบัตรที่ LG ต้องจ่ายให้ Nokia จะได้รับการเปิดเผยในไม่ช้านี้
ที่มา - GSMArena
@evleaks ผู้เคยโด่งดังจากการปล่อยข้อมูลไอทีจำนวนมากในอดีต พบว่า Pei-Chi Hsieh พนักงานฝ่ายออกแบบจากไมโครซอฟท์โพสต์ภาพสมาร์ทวอทช์ โค้ดเนม Moonraker บนเว็บไซต์ Tumblr แต่ต่อมาบัญชีของนักออกแบบดังกล่าวก็เข้าถึงไม่ได้อีก
Tom Warren คอลัมนิสต์สายไมโครซอฟท์จากเว็บไซต์ The Verge คาดว่า ภาพเหล่านี้ถูกเตรียมเพื่อการตลาดมากกว่าจะเป็นเพียงภาพต้นแบบของสมาร์ทวอทช์ดังกล่าว แหล่งข่าวยังให้ข้อมูล ดังนี้
ณ นครลอสแอนเจลิส บริษัทไมโครซอฟท์ได้เข้าซื้อสิทธิ์การใช้ชื่อของ Nokia Theater ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของชาวลอสแอนเจลิส สถานที่ใจกลางตัวเมือง เปิดตัวมาตั้งเเต่ปี 2007 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับคนดูได้กว่า 7,100 ที่นั่ง สำหรับการจัดคอนเสิร์ต, งานประกาศรางวัล, รายการโทรทัศน์ รวมไปถึงห้างสรรพสินค้าเเละโรงเเรมต่างๆ ได้ถูกเปลี่ยนชื่อไปเป็น Microsoft Theater. พร้อมกับเปลี่ยนชื่อลานกลางเเจ้งด้านหน้าสถานที่เป็น Microsoft Square ที่มีขนาดใหญ่กว่า 40,000 ตารางฟุต นับว่าเป็นสถานที่เเห่งใหม่ของไมโครซอฟท์ ที่จะใช้จัดงานต่างๆต่อไปในอนาคตอย่างเเน่นอน
ที่มา- www.microsofttheater.com
แม้ไมโครซอฟท์จะเลิกใช้ชื่อ Nokia ในการทำตลาดโทรศัพท์กลุ่มสมาร์ทโฟนของตัวเองไปแล้ว แต่ในกลุ่มของฟีเจอร์โฟนไมโครซอฟท์ยังคงได้สิทธิในการใช้ชื่อจาก Nokia อยู่ โดยวันนี้ทางบริษัทได้ประกาศเปิดตัว Nokia 105 รุ่นใหม่ ที่เป็นฟีเจอร์โฟนราคาถูกอย่างเป็นทางการ
Nokia 105 รองรับรายชื่อคนติดต่อสูงสุด 2,000 รายชื่อ, เวลาสนทนาต่อเนื่องนาน 15 ชั่วโมง, เปิดเครื่องรอรับสาย (standby time) ได้นานสูงสุด 35 วันต่อการชาร์จ, มาพร้อมเกม Snake Xenzia และ Bubble Bash 2, ไฟฉาย และวิทยุ FM ในตัว
ข่าวนี้เก่าไปนิดนึงครับ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา โนเกียฉลองบริษัทมีอายุครบ 150 ปีเป็นที่เรียบร้อย โดยออกคลิปรวบรวมประวัติศาสตร์โนเกียตลอด 150 ปี เริ่มตั้งแต่สมัยทำไม้และยาง จนมาถึงปัจจุบัน (อ่านรายละเอียดในบทความ ย้อนตำนาน Nokia เดินหมากพลาดตาเดียว พ่ายแพ้ทั้งกระดาน)
มีรายงานว่า Uber ได้ร่วมแสดงความสนใจเข้าซื้อกิจการแผนที่ HERE ของโนเกีย ซึ่งโนเกียมีความต้องการขายธุรกิจส่วนนี้ โดยยื่นข้อเสนอไปสูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์
รายชื่อบริษัทที่มีข่าวว่าสนใจซื้อ HERE ก่อนหน้านี้มีทั้ง Apple, Amazon, Baidu, Facebook, Harman จนถึงบริษัทรถยนต์อย่าง Audi AG, BMW AG และ Mercedes-Benz ซึ่งสำหรับ Facebook นั้นเพิ่งบรรลุข้อตกลงใช้แผนที่ HERE ในแอพหลายตัว
โนเกียซื้อกิจการแผนที่ Navteq ซึ่งต่อมากลายเป็น HERE เมื่อปี 2007 ที่มูลค่า 8.1 พันล้านดอลลาร์ ฉะนั้นข้อเสนอของ Uber ก็ยังถือว่าน้อยกว่าราคาที่โนเกียซื้อมาอยู่มากครับ
Facebook ตกลงเซ็นสัญญาใช้แผนที่จาก HERE Maps กับเว็บเวอร์ชันอุปกรณ์พกพา รวมถึงแอพบางตัวอย่าง Instagram และ Messenger ด้วย (แต่ยังไม่รวมแอพหลัก Facebook ทั้งบน iOS/Android ที่ยังใช้แผนที่ของระบบปฏิบัติการอยู่)
ทั้งสองบริษัทไม่ได้แถลงข่าวนี้อย่างเป็นทางการ แต่ก็ยืนยันข่าวเมื่อเว็บไซต์ TechCrunch สอบถามไปยังโฆษกของบริษัท
ข่าวนี้ช่วยให้ประเด็นว่าโนเกียอยากขาย HERE เข้มข้นขึ้นอีกนิด โดยมีชื่อ Facebook โผล่เข้ามาเป็นว่าที่ผู้ซื้ออีกราย
ที่มา - TechCrunch
หลังจากมีข่าวลือว่าโนเกียเตรียมหวนคืนวงการมือถือในปี 2016 ล่าสุดบริษัทยืนยันว่าไม่มีแผนกลับมาผลิตหรือขายมือถือครับ
เว็บไซต์ TechCrunch คาดว่าโนเกียจะให้ความสนใจในเทคโนโลยีอื่นอย่าง virtual reality และ Internet of Things แทน
ที่มา: โนเกีย ผ่าน TechCrunch
เว็บไซต์ Re/code อ้างแหล่งข่าววงในว่าโนเกียเตรียมหวนคืนวงการโทรศัพท์มือถือในปีหน้า 2016 แต่ยังไม่ระบุแน่ชัดว่าจะอยู่ในรูปแบบไหน คาดว่าน่าจะใช้แนวทางเดียวกับแท็บเล็ต Nokia N1 ที่โนเกียออกแบบ แต่จ้าง Foxconn ผลิตและทำตลาด แทนการออกแบบ-ผลิต-ขายเองอย่างที่ทำในโนเกียยุคก่อน
นอกจากนี้ Re/code ยังได้ข้อมูลว่าหน่วยงานด้านวิจัย-สิทธิบัตร Nokia Technologies ยังมีของเจ๋งๆ เตรียมเปิดตัวอีกหลายอย่าง ที่ระบุชื่อได้แก่ ผลิตภัณฑ์ด้าน virtual reality
ที่มา - Re/code
Nokia N1
หลังจากที่ออกมายืนยันข่าวไปเมื่อวานนี้ ในที่สุด Nokia ได้ตัดสินใจแสดงเจตจำนงที่จะเข้าซื้อ (intention to acquire) กิจการของ Alcatel-Lucent อย่างเป็นทางการ โดยจะเป็นการเข้าซื้อทั้งบริษัทด้วยมูลค่ากว่า 16.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ. (ประมาณ 5 แสนล้านบาท)
ทาง Nokia ออกมาระบุว่าหากดำเนินการได้เป็นไปตามแผน การควบรวมกิจการจะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า (2016) โดยจะยังคงชื่อห้องปฏิบัติการ Bell เอาไว้เช่นเดิม
ทั้งนี้ Nokia ยังระบุเพิ่มเติมว่ากำลังทบทวนกลยุทธ์และพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะขายส่วนกิจการด้านแผนที่ HERE ออกไปจากบริษัท ซึ่งยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนในส่วนนี้
จากที่มีข่าวลือว่า โนเกียอยากขาย HERE และอยากซื้อ Alcatel-Lucent วันนี้โนเกียยืนยันข่าวส่วนของ Alcatel-Lucent แล้วว่ากำลังเจรจากันอยู่จริง
ถ้าการเจรจาประสบผลสำเร็จ การซื้อกิจการครั้งนี้จะใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโนเกียเลยทีเดียว เพราะสถิติสูงสุดของโนเกียคือซื้อ Navteq ในปี 2007 ด้วยมูลค่า 8.1 พันล้านดอลลาร์ ส่วนมูลค่าบริษัทของ Alcatel-Lucent ตอนนี้คือ 13 พันล้านดอลลาร์ (ซึ่งโนเกียต้องจ่ายแพงกว่านั้น)
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าโนเกียสนใจซื้อ Alcatel-Lucent ทั้งบริษัท หรือซื้อเฉพาะฝ่ายอุปกรณ์เครือข่ายไร้สายเพียงอย่างเดียว
สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าววงในว่าโนเกียกำลังพิจารณาว่าจะขายหน่วยธุรกิจแผนที่ HERE ออกไปดีหรือไม่ เพื่อให้บริษัทหันมาโฟกัสที่อุปกรณ์เครือข่ายเพียงอย่างเดียว และลดระดับหนี้สินของบริษัทลง
ตามข่าวบอกว่าโนเกียคุยกับ Uber และบริษัทรถยนต์จากเยอรมนีบางราย และกระบวนการเสนอราคาแข่งกันน่าจะเริ่มขึ้นภายในเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม ถ้าโนเกียได้รับข้อเสนอซื้อที่ราคาไม่สูงพอ แผนการขายอาจล้มไป
Bloomberg ยังวิเคราะห์ว่าโนเกียน่าจะใช้เงินที่ได้จากการขาย HERE มาเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจอุปกรณ์เครือข่ายของตัวเอง โดยอาจซื้อธุรกิจไร้สายของ Alcatel-Lucent ด้วย
หลังจากทีม HERE ได้พัฒนาแอพแผนที่ให้คนได้ใช้งานกันบนสมาร์ทโฟนทั้งในระบบ Android และ iOS แล้ว ทั้งยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับอุปกรณ์สวมใส่ประเดิมด้วยแอพสำหรับ Samsung Gear S ตอนนี้ HERE ได้พัฒนาแอพสำหรับใช้งานกับอุปกรณ์สวมใส่ได้อีกครั้งโดยสร้างฮาร์ดแวร์ขึ้นมาเอง และฮาร์ดแวร์ที่ว่านี้ก็คือ HERE Kitty ปลอกคอแมวอัจฉริยะ
ด้วยปลอกคอ HERE Kitty นี้ จะทำให้ผู้ใช้สามารถรับรู้ตำแหน่งของแมวที่ออกไปซนได้ผ่านทางแผนที่ HERE Map โดยสามารถระบุตำแหน่งได้แม่นยำถึงขนาดที่ว่าคลาดเคลื่อนไม่เกิน 10 เซนติเมตร
โนเกียเปิดตัวแอพแผนที่และนำทาง HERE for iOS ตามที่สัญญาไว้เมื่อปลายปีที่แล้ว
ความสามารถนั้นก็เฉกเช่นเดียวกับแอพบน Windows Phone และ Android กล่าวคือ รองรับการนำทางด้วยเสียงทั่วโลก สามารถดาวน์โหลดแผนที่เพื่อการใช้งานแบบออฟไลน์ได้ รายงานสภาพจราจรและอุบัติเหตุแบบเรียลไทม์ใน 40 ประเทศ มีข้อมูลการขนส่งสาธารณะมากกว่า 900 เมือง วางแผนเส้นทางทั้งการขับรถ ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ หรือเดินได้จากที่เดียวเพื่อให้ผู้ใช้เปรียบเทียบได้ง่าย และสามารถซิงค์สถานที่ที่ถูกบันทึกไว้ไปยังทุกอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้
ใครที่ใช้ iPhone 4S พร้อม iOS 7 ขึ้นไป สามารถดาวน์โหลดแอพได้ที่ App Store ครับ
Risto Siilasmaa ผู้ก่อตั้งบริษัทความปลอดภัย F-Secure และประธานบอร์ดโนเกียคนปัจจุบัน (รับตำแหน่งปี 2012) ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ฟินแลนด์ Kauppalehti เปิดใจถึงความเจ็บปวดของโนเกียที่ต้องขายธุรกิจมือถือทิ้งไป
หมายเหตุ: บทสัมภาษณ์เป็นภาษาฟินแลนด์ แปลจาก Google Translate อีกทีหนึ่ง
มีคนไปพบมือถือ Nokia 1100 (อย่าสับสนกับ Nokia 1100 มือถือจอขาวดำ) มือถือใช้ชิป MediaTek MT6582 พร้อมซีพียูควอดคอร์ที่ 1.3 กิกะเฮิรตซ์ และรัน Android 5.0 Lollipop โผล่บน Geekbench
เว็บไซต์ Nokiapoweruser คาดว่า Nokia 1100 น่าจะมีสเปคตามสเปคของชิปรุ่น MT6582 ประกอบด้วย หน้าจอที่ความละเอียด 720p, รองรับ 3G HSPA+/TD-SCDMA, หน่วยประมวลผลสัญญาณภาพรองรับการประมวลผลที่ 8 ล้านพิกเซล และรองรับอัดและเล่นวิดีโอ 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที