Nokia เปิดตัวชิปเซ็ทรุ่นใหม่ Photonic Service Engine V.2 (PSE-2) เป็นผลจากการวิจัย Nokia Bell Labs โดยขยายเพิ่มเติมกลุ่มผลิตภัณฑ์ออปติคอลไฟเบอร์ 1830 PSS (Photonic Service Switch) อุปกรณ์ด้านเครือข่ายที่จะสามารถให้ความเร็วมากกว่า 70 เทราบิตต่อวินาที ส่งข้อมูลได้ 400 Gbps และส่งข้อมูลแบบ ultra long haul ได้ 100 Gbps ระยะทาง 5,000 กิโลเมตร (Nokia ระบุว่า เป็นเครื่องแรกของโลกที่ทำได้ 100 Gbps)
การเลิกจ้างครั้งนี้ของ Nokia เป็นบทสรุปจากกระบวนการที่เริ่มต้นเมื่อเดือนเมษายนที่ Nokia ออกมาบอกว่าอาจมีการเลิกจ้างพนักงานจำนวน 1,300 คนในประเทศ จนวันศุกร์ที่ผ่านมามีการยืนยันจำนวนแล้วคือ 1,032 คน ครอบคลุมสำนักงานใหญ่ที่ Espoo และสาขาต่างๆใน Oulu และ Tampere
หลังจากมีข่าวมานานว่าโนเกียจะกลับเข้าสู่วงการมือถือผ่านพาร์ทเนอร์ ล่าสุด
HMD Global บริษัทที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาใหม่ในฟินแลนด์ ร่วมกับ FIH Mobile บริษัทลูกของ Foxconn ได้สิทธิ์ในการนำแบรนด์โนเกีย กลับเข้าสู่วงการโทรศัพท์มือถือทั้งฟีเจอร์โฟนและสมาร์ทโฟน บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์อย่างเป็นทางการ
HMD Global ได้เซ็นสัญญากับ Nokia Technologies ซึ่งจะได้ทั้ง know-how และสิทธิบัตรของโนเกียในการผลิตสมาร์ทโฟน รวมถึงมี Arto Nummela อดีตผู้บริหารของโนเกียมานั่งเป็นซีอีโอด้วย
นอกจากการเซ็นสัญญากับโนเกียแล้ว ทั้งสองบริษัทยังได้ซื้อธุรกิจฟีเจอร์โฟน พร้อมทั้งโรงงานในเวียดนามมาจากไมโครซอฟท์ ในราคา 350 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่ากระบวนการเข้าซื้อจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้
โนเกียประกาศซื้อบริษัท Withings ผู้ผลิตนาฬิกาอัจฉริยะและอุปกรณ์ด้านสุขภาพแบบสวมใส่ เป้าหมายของโนเกียคือการบุกเข้ามายังตลาด "digital health" ที่บริษัทมองว่ายังมีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต ถือเป็นหนึ่งในหมวดสินค้าตระกูล IoT ที่โนเกียให้ความสนใจเป็นพิเศษ
มูลค่าการซื้อกิจการครั้งนี้ 170 ล้านยูโร คาดว่าจะเสร็จสิ้นในไตรมาสที่สามของปีนี้ หลังจากนั้น Withings จะเข้าไปอยู่ใต้ร่มของ Nokia Technologies (อีกส่วนงานที่ไม่ใช่ระบบเครือข่าย)
Withings เป็นบริษัทสัญชาติฝรั่งเศส ก่อตั้งในปี 2008 ปัจจุบันมีพนักงานประมาณ 200 คน สินค้าที่ขายมีทั้งสายรัดข้อมือสุขภาพ ตาชั่ง เทอร์โมมิเตอร์ เครื่องวัดความดันเลือด อุปกรณ์มอนิเตอร์เด็กทารก เป็นต้น
โนเกียไปร่วมงาน Mobile World Congress ประกาศข่าวอุปกรณ์เครือข่ายรุ่นใหม่ที่รองรับ 5G (ยังไม่มีมาตรฐานกลาง 5G ดังนั้นเทคโนโลยียังถือเป็น pre-standard) ว่าจะพร้อมให้โอเปอเรเตอร์ใช้งานได้ช่วงต้นปี 2017 เป็นอย่างเร็ว
อุปกรณ์เครือข่าย 5G ของโนเกียมีชื่อรุ่นว่า Nokia AirScale Base Station ใช้เสาอากาศแบบ MIMO 8x8, มีอัตราส่งข้อมูลได้มากกว่า 20Gbps, มีค่า latency น้อยกว่า 1ms, สามารถใช้กับความถี่ได้หลากหลายย่าน และสามารถอัพเกรดจากอุปกรณ์ LTE เดิมต่อได้ง่าย
โนเกียคาดว่าเราจะได้เห็นบริการ 5G เชิงพาณิชย์เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2020
Rajeev Suri ซีอีโอของโนเกีย ให้สัมภาษณ์ที่งาน MWC 2016 ยืนยันแล้วว่าโนเกียจะกลับมาทำสมาร์ทโฟนอย่างแน่นอน เพียงแต่เขายังไม่ได้กำหนดเวลาว่าเมื่อไร อาจเป็นได้ทั้งปีนี้ (2016) หรือในปีต่อๆ ไป
Suri บอกว่าโนเกีย "ไม่รีบ" กลับเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟน และต้องการรอจนกว่าจะเจอพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมก่อน แนวทางของโนเกียจะเป็นไปตามที่เคยประกาศไว้คือไม่ผลิตสมาร์ทโฟนเอง แต่ใช้วิธีให้ไลเซนส์แบรนด์โนเกียแทน
เขาบอกว่าโนเกีย "น่าจะ" มุ่งไปยังสมาร์ทโฟนพรีเมียมจับตลาดบน และบอกว่าแบรนด์โนเกียยังเป็นที่จดจำของผู้คนอยู่
ที่มา - CNET
โนเกียอดีตบริษัทยักษ์ใหญ่จากฟินแลนด์ ที่ปัจจุบันมุ่งเน้นไปยังธุรกิจเครือข่ายและสิทธิบัตร เตรียมเข้าร่วมงาน Mobile World Congress 2016 ทีประเทศสเปน ซึ่งจะมีการกล่าวถึงเทคโนโลยีเครือข่าย 5G ที่จะอยู่ในระบบรถยนต์ไร้คนขับ, การถ่ายทอดสด, virtual reality และอื่นๆ พร้อมพูดคุยกับเหล่าผู้ให้บริการเครือข่ายและหน่วยงานวิจัยต่างๆ
ทั้งนี้ยังไม่มีการพูดถึงอุปกรณ์ใหม่ๆ แต่อย่างใด
ที่มา - Neowin
โครงการ Open Compute ของ Facebook เกิดขึ้นเพื่อแชร์สถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์แบบเปิด ทั้งเซิร์ฟเวอร์ประมวลผล สตอเรจและอุปกรณ์เครือข่าย
โนเกียเพิ่งส่งสัญญาณแท็บเล็ตและมือถือใหม่ได้ไม่ถึงวัน ล่าสุดมีคนปล่อยภาพสมาร์ทโฟนกรอบโลหะปั๊มโลโก้ Nokia อยู่ข้างฟีเจอร์โฟนที่มีข่าวว่าถูกยกเลิกโครงการ
ผู้โพสต์ภาพเผยว่า ตัวเครื่องเป็นโลหะชิ้นเดียวและมีเสาอากาศด้านบนและด้านล่าง
โนเกียโพสต์วิดีโอโฆษณาใหม่บน YouTube เนื้อหาเน้นชูภาพลักษณ์องค์กรด้านการเป็นผู้เชี่ยวชาญเครือข่าย โดยมีผลิตภัณฑ์บางตัวของบริษัทร่วมเข้าฉากด้วย เช่น Ozo กล้อง VR ถ่ายภาพ 360 องศา
จุดที่น่าสนใจคือในวิดีโอมี "มือถือ" และ "แท็บเล็ต" ไม่ระบุยี่ห้อโผล่มาด้วย (นาทีที่ 1:19 และ 1:23) ตรงนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเป็นแค่อุปกรณ์เข้าฉากอย่างเดียว หรือเป็นสินค้าใหม่ที่ยังไม่เปิดตัวกันแน่ครับ
ที่มา - Neowin
เว็บไซต์ Nokiapoweruser เผยภาพหลุดต้นแบบฟีเจอร์โฟนติดโลโก้ Nokia จากเว็บไซต์ในจีน พร้อมระบุว่าต้นแบบนี้น่าจะถูกยกเลิกโครงการไปแล้ว
Nokiapoweruser ยังกล่าวว่า โนเกียกำลังพัฒนามือถือรัน Android ถึงสามรุ่น โดยสองในสามน่าจะมีหน้าจอราว 5-5.5 นิ้ว และน่าจะมากับฟีเจอร์ใหม่อย่างการปฏิสัมพันธ์กับเครื่องด้วยการโบกนิ้ว (hover interaction) กล้อง และเสียง
หวังว่าเราจะได้เห็นมือถือรัน Android จากโนเกียในอนาคตนะ
Nokia ซื้อหุ้น 79.32% ของ Alcatel-Lucent บริษัทอุปกรณ์โทรคมนาคมสัญชาติฝรั่งเศส (คนละอันกับ Alcatel Onetouch) ด้วยมูลค่า 15.6 พันล้านยูโร (ประมาณ 60.6 หมื่นล้านบาท) โดยการรับรองจากคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) และดำเนินการเกี่ยวกับหุ้นในตลาดหุ้นฝรั่งเศส (Autorité des Marchés Financiers - AMF) เรียบร้อย
กระบวนการควบรวมบริษัทจะเริ่มขึ้นในวันที่ 14 มกราคม ซึ่ง Rajeev Suri ซีอีโอของ Nokia เผยว่าจะเป็นการควบรวมเพื่อสร้างสรรค์ยุคถัดไปของเทคโนโลยีและบริการ
โนเกียประกาศข่าวเจรจาซื้อหุ้นของ Alcatel-Lucent ตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2015
เมื่อกลางปีที่แล้วมีภาพเรนเดอร์และข้อมูลสมาร์ทวอทช์โนเกีย โค้ดเนม Moonraker หลุด ล่าสุดมีภาพเครื่องตัวจริงหลุดออกมาแล้ว
จากภาพ จะเห็นว่าตัวเครื่องมีจอสัมผัสสี่เหลี่ยม มี Glance Screen และมีเซ็นเซอร์วัดอัตราเร่ง (accelerometer)
ที่มา: Weibo ผ่าน WMPoweruser
โนเกียเสร็จกระบวนการขายธุรกิจแผนที่ HERE ให้กลุ่มบริษัทรถยนต์จากเยอรมนี 3 ค่ายคือ Audi, BMW, Daimler เรียบร้อยแล้ว ทั้งสามรายจะถือหุ้น HERE ในสัดส่วนเท่ากันหมด
บริษัทรถยนต์รายใหญ่เหล่านี้ต้องการแผนที่ความละเอียดสูง (HD Maps) ของ HERE ไปใช้พัฒนารถยนต์อัตโนมัติของตัวเอง อย่างไรก็ตาม HERE ยังมีสิทธิขายแผนที่ให้บริษัทอื่นๆ ต่อไป คาดว่ารูปแบบการบริหารของ HERE จะเป็นอิสระจากเจ้าของทั้งสามราย
นอกจากจะมีข่าวว่า Nokia จะกลับมาลุยวงการมือถืออีกรอบแล้ว ดูเหมือนภายในของบริษัทเองก็เตรียมพร้อมสำหรับอนาคตอยู่เช่นกัน ล่าสุดออกมาโชว์ผลงานใหม่ที่มาในชื่อแปลกอย่าง Ozo แล้ว
Ozo เป็นกล้อง VR ทรงกลมขนาดเท่าศีรษะมนุษย์ ประกอบด้วยกล้องความละเอียดสูง 8 ตัวรอบตัวเครื่อง โดยใช้กล้องที่กะระยะห่างใกล้เคียงกับดวงตามนุษย์ และเลนส์มุมแสดงผล 195 องศา เพื่อให้สามารถเก็บภาพที่ใกล้เคียงกับที่มนุษย์เห็นตามปกติ รวมถึงมีไมโครโฟนในตัวเพื่อเก็บเสียงสามมิติสมจริง ส่วนด้านท้ายที่ยื่นออกมานั้นมีไว้สำหรับใส่แบตเตอรี่ และ SSD
ด้วยการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์พกพาได้รับความนิยมสูง และมีจำนวนเครื่องที่ใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันจะให้ความเร็วเหลือกินเหลือใช้ แต่เมื่อต้องใช้งานในที่ผู้คนคับคั่ง การใช้งานก็ยังช้าลงอยู่ดีด้วยแบนด์วิดท์จากสถานีฐานที่ยังจำกัด
อินเทล, โนเกีย, และอีริคสัน ร่วมมือกันเสนอมาตรฐาน NB-LTE (Narrow Band LTE) สำหรับการใช้งานกับคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ต้องการส่งข้อมูลไม่มากนัก และสามารถทำงานได้โดยกินพลังงานต่ำ
NB-LTE ใช้คลื่นย่าน 700-900MHz แต่ละช่องใช้ย่านความถี่เพียง 200kHz เท่านั้น และรัศมีการให้บริการเสาส่งจะไกลถึง 15 กิโลเมตร ความเร็วในการดาวน์โหลด 200kbps และอัพโหลด 150kbps ความได้เปรียบของ NB-LTE เทียบกับมาตรฐานอื่นๆ คือมันสามารถอยู่ร่วมกับบริการ LTE ปกติได้ สามารถแชร์ฮาร์ดแวร์และคลื่นความถี่ร่วมกัน
ทางอินเทลระบุว่าชิปที่รองรับ NB-LTE จะเริ่มออกมาในปีหน้า
@evleaks เผยภาพ Nokia Reader โดยระบุแต่เพียงว่า "ราว 2013" เท่านั้น
ไม่รู้ว่า Nokia Reader เกิดขึ้นจากดีลไมโครซอฟท์ร่วมลงทุนใน Nook ที่แยกบริษัทมาจาก Barnes & Noble แต่ก็ไปไม่รอด ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากโนเกียจับมือกับไมโครซอฟท์ ออกมือถือรัน Windows Phone 7 เพียงหนึ่งปีหรือไม่
ที่มา: @evleaks
เว็บไซต์จีนแห่งหนึ่งเผยภาพต้นแบบสมาร์ทโฟน Nokia C1 จากภาพ (ดูได้ท้ายข่าว) จะเห็นว่าตัวเครื่องอาจทำจากโลหะ
แหล่งข่าวยังเสริมว่า Nokia C1 จะมากับหน้าจอ 5 นิ้ว ที่ความละเอียด 1080p ใช้ชิป Intel Atom รัน Android 6.0 (Marshmallow)
อัพเดต แหล่งข่าวเว็บไซต์ Nokiapoweruser เผยว่า มือถือนี้ไม่ใช่สิ่งที่โนเกียออกแบบเพื่อเปิดตัวปีหน้า และไม่ใช่ต้นแบบที่ถูกยกเลิกไป จึงน่าจะเป็นภาพที่ทำขึ้นมากกว่า
ที่มา: CNMO.com ผ่าน Nokiapoweruser
ดีลไมโครซอฟท์ซื้อโนเกียปิดไปตั้งแต่กันยายนปี 2013 ถึงกระนั้นทางคณะกรรมการทางการค้า (FTC) ของเกาหลีใต้เพิ่งจะประกาศรับรองดีลดังกล่าว หลังใช้เวลาพิจารณาการรับรองถึงเกือบ 2 ปี
FTC ให้เหตุผลว่าเกรงว่าไมโครซอฟท์จะทำให้โนเกีย กลายเป็นคู่แข่งของ LG และซัมซุงในเกาหลีใต้ ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้สิทธิบัตรของโนเกีย เล่นงานคู่แข่ง ซึ่งทางไมโครซอฟท์สามารถคลายข้อสงสัยตรงนี้กับทาง FTC ไปเมื่อปีกลายและทำให้ดีลนี้ได้รับการรับรองในเกาหลีใต้ในที่สุด
ที่มา - CNET
หลังจากออกปากไปแล้วว่าโนเกียจะกลับสู่วงการสมาร์ทโฟนแน่นอนในปี 2016 ตอนนี้ยักษ์หลับจากฟินแลนด์ก็เริ่มเสริมทัพเพื่อเตรียมความพร้อมแล้ว
จากแผนตอนนี้ที่กำลังไลเซนส์แบรนด์ให้เจ้าอื่นมาผลิตตัวเครื่องให้ ตอนนี้ทางโนเกียก็เริ่มเปิดรับสมัครหลายตำแหน่งในเว็บไซต์หางานอย่าง LinkedIn โดยมีตำแหน่งในแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์รวมอยู่ด้วย ที่สำคัญคือโนเกียกำลังมองหาวิศวกรที่เชี่ยวชาญด้านแอนดรอยด์ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าระบบปฏิบัติการตัวใหม่ของโนเกียอาจเลือกใช้แอนดรอยด์จริงๆ แล้ว
หลังจากเจรจากันมานาน ในที่สุดโนเกียก็สามารถขายธุรกิจแผนที่ HERE ให้กลุ่มบริษัทรถยนต์จากเยอรมนี 3 รายคือ Audi, BMW, Daimler (เจ้าของ Mercedes-Benz) ในราคา 2.8 พันล้านยูโร กระบวนการขายจะเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาสแรกของปี 2016
Rajeev Suri ซีอีโอของโนเกียระบุว่าการขาย HERE ทำให้โนเกียเสร็จสิ้นกระบวนการเปลี่ยนผ่านตัวเองมาสู่ยุคใหม่ ซึ่งประกอบด้วยการซื้อหุ้นทั้งหมดของ Nokia Siemens Network, การขายธุรกิจโทรศัพท์, และการขายธุรกิจแผนที่ นับจากนี้ไป โนเกียจะกลายเป็นบริษัทใหม่ที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเครือข่ายและบริการ
โนเกียเปิดตัวกล้อง OZO ชุดกล้องที่ติดตั้งเป็นทรงกลมเพื่อการถ่ายภาพรอบทิศทาง โดยตอนนี้ยังไม่มีสเปคชัดเจนนักแต่ทางโนเกียจะประกาศสเปคเต็มอีกครั้ง เบื้องต้น OZO จะมีชัดเตอร์ 8 ชุด และไมโครโฟนอีก 8 ชุด
ซอฟต์แวร์ของ OZO จะสามารถแสดงภาพเป็นสามมิติได้ทันที ไม่ต้องประมวลผลล่วงหน้าที่กินเวลานาน
งานนี้โนเกียเปิดตัวเฉพาะกล้อง ส่วนจอภาพแบบ VR นั้นทางโนเกียระบุว่าจะเข้ากันได้กับจอที่ขายกันในตลาดทุกวันนี้
ตัวกล้องผลิตในฟินแลนด์และจะวางจำหน่ายในปีนี้
ที่มา - Nokia
หนังสือพิมพ์ New York Times รายงานว่า Uber ได้ถอนตัวจากการแข่งขันซื้อธุรกิจแผนที่ HERE จาก Nokia แล้ว - New York Times
ต่อมา หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal เผยว่า Nokia ใกล้ปิดดีลขายธุรกิจแผนที่ HERE มูลค่ากว่า 2.71 พันล้านดอลลาร์ กับ Audi, BMW และ Daimler สามผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน
เว็บไซต์ Re/code อ้างแหล่งข่าววงในว่า งานแถลงข่าวของโนเกียวันที่ 28 ก.ค. ไม่ได้เป็นการเปิดตัวสมาร์ทโฟน แต่จะเป็นผลิตภัณฑ์ด้าน virtual reality (VR) แทน
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นผลงานของ Nokia Technologies ฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยีและขายไลเซนส์ ซึ่งเคยมีข่าวว่าสนใจทำเรื่อง VR ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
ที่มา - Re/code