Tags:
Node Thumbnail

หลังจาก กูเกิลล้มแผนการเปลี่ยนจาก third party cookie ใน Chrome มาเป็น Privacy Sandbox หน่วยงานที่ทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานเว็บอย่าง W3C ก็ออกมาแถลงแสดงความผิดหวังต่อการตัดสินใจกลับลำของกูเกิล

W3C บอกว่าจุดยืนอย่างเป็นทางการขององค์กรคือ ควรเลิกใช้ third party cookie เพราะมีปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัว และที่ผ่านมา W3C ก็ร่วมมือกับกูเกิลเพื่อพัฒนาโมเดล Privacy Sandbox มาใช้แทน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนใจกะทันหันของกูเกิลนั้น W3C ไม่ทราบมาก่อน และจะส่งผลให้เว็บทั่วโลกยังใช้งาน third party cookie กันต่อไป เพราะโอกาสที่โซลูชันอื่นจะถูกนำมาใช้แทนนั้นเกิดขึ้นได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น

Tags:
Node Thumbnail

ถึงแม้จะประกาศแนวทางชัดเจนว่าต้องการไปในทิศทางนี้ แต่ล่าสุดกูเกิลเปิดเผยว่าได้เปลี่ยนใจไม่ยกเลิกการใช้คุกกี้ตามรอยผู้ใช้ข้ามเว็บหรือ third party cookie ใน Chrome ซึ่งใช้สำหรับการโฆษณาติดตามผู้ใช้งาน

กูเกิลประกาศแผนยกเลิกการใช้ third party cookie มาตั้งแต่ปี 2020 ด้วยเหตุผลเรื่องความเป็นส่วนตัว ซึ่งมีระบบ Privacy Sandbox เข้ามาแทนสำหรับระบบโฆษณา โดยเดิมมีกำหนดยกเลิกทั้งหมดในปี 2022 แล้วก็เลื่อนเป็นปี 2023 จากนั้นก็เลื่อนอีกครั้งเป็นปี 2024 พอเข้าปี 2024 ก็เริ่มทดสอบที่ 1% ก่อน และประกาศเลื่อนอีกครั้งเป็นปี 2025 ส่วนล่าสุดก็คือไม่ยกเลิกแล้ว

Tags:
Node Thumbnail

กูเกิลประกาศเลื่อนแผนการปิด third-party cookie (3PC) ใน Chrome ตามที่เคยประกาศไว้เมื่อต้นปี ว่าจะเสร็จสิ้นในไตรมาส 4/2024 ออกไปเป็นช่วงไตรมาสแรกต้นปี 2025 แทน

กูเกิลให้เหตุผลว่า Competition and Markets Authority (CMA) หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของสหราชอาณาจักร พบว่าแผนการปิดคุกกี้ของกูเกิลส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณาออนไลน์เดิม จึงขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในวงการส่งความเห็นเข้าไปยัง CMA ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน และ CMA ต้องใช้เวลารีวิวว่ามีผลกระทบจริงแค่ไหน แผนการของ CMA ทำให้กูเกิลตัดสินใจเลื่อนการปิดคุกกี้ออกไปก่อน

Tags:
Node Thumbnail

กูเกิลประกาศเปิดใช้งาน Privacy Sandbox ระบบตามรอยผู้ใช้งานที่มาแทนคุกกี้ ใน Chrome อย่างเป็นทางการ หลังเริ่มเสนอแนวคิดนี้มาตั้งแต่ปี 2019 และทยอยปรับปรุงมาเรื่อยๆ จนลงตัว

แนวทางของ Privacy Sandbox คือเลิกเก็บคุกกี้เพื่อตามรอยว่าผู้ใช้เข้าเว็บไหนบ้าง แต่เพื่อเปิดโอกาสให้ธุรกิจโฆษณายังอยู่ได้ ตัวเบราว์เซอร์ Chrome เปลี่ยนมาเก็บหัวข้อความสนใจของผู้ใช้ (Topics) เช่น รถยนต์ ภาพยนตร์ กีฬา ท่องเที่ยว ดนตรี ฯลฯ แบบกว้างๆ แทน เมื่อเราเข้าเว็บไซต์ที่ฝังโฆษณา ระบบโฆษณาจะขอหัวข้อความสนใจจากเบราว์เซอร์เพื่อเลือกแสดงโฆษณาในหมวดที่เราน่าจะสนใจ แทนการยิงโฆษณาแบบหว่านๆ ที่อาจไม่เข้าเป้าเลย

Tags:
Node Thumbnail

กูเกิลมีโครงการ Privacy Sandbox เปลี่ยนระบบตามรอยผู้ใช้เพื่อยิงโฆษณา จากการตามด้วยคุกกี้แบบดั้งเดิมมาเป็นระบบตามรอยแบบใหม่ Topics API โดยเริ่มจาก Chrome มาตั้งแต่ปี 2022 และประกาศทำบน Android ด้วย

หลังทดสอบ Privacy Sandbox SDK ในกลุ่มนักพัฒนามาได้เกือบปี กูเกิลเริ่มปล่อยอัพเดต Privacy Sandbox Beta ให้ผู้ใช้ Android 13 ใช้งานแล้ว แต่ยังจำกัดเฉพาะผู้ใช้กลุ่มเล็กๆ ในช่วงแรก แล้วจะค่อยๆ ขยายเพิ่มในลำดับต่อไป

Tags:
Node Thumbnail

กูเกิลประกาศเลื่อนการใช้งาน Privacy Sandbox เทคนิคการตามรอยผู้ใช้ที่เตรียมนำมาใช้แทนระบบคุกกี้แบบดั้งเดิม โดยให้เหตุผลว่าต้องการระยะเวลาทดสอบตัว API มากขึ้น

  • เดิม: เริ่มใช้ Privacy Sandbox ปลายปี 2022, เลิกใช้คุกกี้ปลายปี 2023
  • ใหม่: เริ่มใช้ Privacy Sandbox ไตรมาส 3 ปี 2023, เลิกใช้คุกกี้ ไตรมาส 3 ปี 2024

โครงการ Privacy Sandbox ประกอบด้วยเทคโนโลยีหลายตัว เช่น Topics API, FLEDGE API สำหรับยิงโฆษณาจากเว็บไซต์ที่เคยเข้ามาก่อนแล้ว (remarketing) และ Attribution Reporting API ใช้วัดว่าโฆษณาที่ถูกคลิกหรือชมนั้นเปลี่ยนเป็นการซื้อจริง (conversion) แค่ไหน

Tags:
Node Thumbnail

เมื่อต้นปีนี้ กูเกิลประกาศว่าจะทำ Privacy Sandbox วิธีจัดการข้อมูลผู้ใช้เพื่อยิงโฆษณาบน Android จากเดิมที่ทำมาเฉพาะ Chrome บนเดสก์ท็อปเพียงอย่างเดียว

แนวคิดของ Privacy Sandbox คือเลิกเจาะจงตัวผู้ใช้แบบระบุตัวได้จากคุกกี้ (เดสก์ท็อป) หรือ AdID (Android) เปลี่ยนมาเจาะผู้ใช้แบบกว้างๆ ตามความสนใจแทน (Topics API) ผู้ที่ต้องการยิงโฆษณาบน Chrome/Android จำเป็นต้องปฏิบัติตามแนวทางนี้ ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถยิงโฆษณาแบบเจาะกลุ่มได้เลย

Tags:
Node Thumbnail

กูเกิลเตรียมเปิดทดสอบ Privacy Sandbox ในแอปแอนดรอยด์ เป็นไปตามแนวทางเดียวกับเว็บที่กูเกิลพยายามเสนอแนวทางนี้เพื่อทดแทนการใช้ third-party cookie ที่ติดตามตัวผู้ใช้ได้ไม่ว่าเข้าเว็บอะไรก็ตาม

Tags:
Node Thumbnail

ความตื่นตัวเรื่องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ ทำให้แนวทางการตามรอยข้ามเว็บด้วยคุกกี้ (third-party cookies) เริ่มใช้งานไม่ได้อีกต่อไป กูเกิลในฐานะทั้งผู้พัฒนาเบราว์เซอร์ Chrome และเจ้าของระบบโฆษณาออนไลน์ขนาดใหญ่ของโลก เคยเสนอแนวทาง Privacy Sandbox ที่ใช้แทนคุกกี้มาตั้งแต่ปี 2019 และเคยประกาศแผนยกเลิกคุกกี้ข้ามเว็บภายในปี 2022 (ภายหลังเลื่อนมาเป็นปี 2023)

Tags:
Node Thumbnail

Google ประกาศเลื่อนแผนยกเลิกคุกกี้นอกเว็บ หรือ third-party cookie จากเดิมที่จะยกเลิกคุกกี้กลุ่มนี้ทั้งหมดภายในปี 2022 เปลี่ยนมาเป็นภายในปี 2023 แทน

เหตุผลที่เลื่อนแผนครั้งนี้ Google ระบุว่าต้องการเวลาที่มากพอในการหารือกับสาธารณะเกี่ยวกับโซลูชั่นที่เหมาะสมในการไมเกรตเซอร์วิส ซึ่งเรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจทำลายโมเดลธุรกิจเว็บไซต์คอนเทนต์ฟรีมีโฆษณาได้

Tags:
Node Thumbnail

จากกรณี เบราว์เซอร์หลายตัวแบน หรือไม่มีแผนรองรับเทคนิคตามรอยเพื่อโฆษณา FLoC ของกูเกิล

ล่าสุดทีมพัฒนา WordPress ในฐานะ CMS ยอดนิยมของโลก เสนอว่าควรมอง FLoC เป็นเหมือนช่องโหว่ความปลอดภัยอีกตัวหนึ่ง และออกแพตช์เพื่อปิดการทำงานของ FLoC ใน HTTP header หาก Chrome ส่งเข้ามาถามตอนเรียกหน้าเว็บเพจ

โค้ดปิดการทำงานของ FLoC มีแค่ 4 บรรทัด และน่าจะถูกรวมเข้าใน WordPress 5.8 ที่มีกำหนดออกในเดือนกรกฎาคม 2021

Tags:
Node Thumbnail

ต่อเนื่องจากข่าว Vivaldi, Brave ประกาศไม่ใช้วิธีตามรอยแบบ FLoC ที่กูเกิลใช้ใน Chrome เว็บไซต์ The Verge จึงสอบถามไปยังเบราว์เซอร์ตัวอื่นๆ ว่าจะพัฒนาเทคนิคตามรอย FLoC ด้วยหรือไม่

Opera บอกว่ายังไม่มีแผนจะเปิดใช้ฟีเจอร์ FLoC ที่มีโค้ดอยู่ใน Chromium แต่ก็บอกว่าเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจในเรื่องนี้

Firefox บอกว่ายังไม่มีแผนจะใช้ฟีเจอร์ตามรอยใดๆ สำหรับการโฆษณาในตอนนี้ และคิดว่าไม่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลผู้ใช้เยอะขนาดนี้เพื่อมายิงโฆษณา

Tags:
Node Thumbnail

เว็บเบราว์เซอร์ที่ต่อยอดจาก Chromium สองตัวคือ Vivaldi (ทีม Opera เดิม) และ Brave (ทีม Firefox เดิม) พร้อมใจกันประกาศไม่ใช้งานฟีเจอร์ตามรอยผู้ใช้ Federated Learning of Cohorts (FLoC) ของ Chrome ที่กูเกิลเพิ่งเริ่มใช้งาน

FLoC เกิดจากกระแสต่อต้านการตามรอยด้วยคุกกี้ และ AdID/IDFA ในช่วงหลังๆ ทำให้กูเกิลประกาศแนวทางเลิกตามรอยแบบเจาะตัวบุคคล เปลี่ยนมาใช้วิธีตามรอยจากพฤติกรรมผู้ใช้ที่ตัวเบราว์เซอร์แทน (ดูจาก history) แต่กูเกิลชูว่า FLoC มีข้อดีตรงที่ไม่เจาะจงตัวบุคคล ใช้วิธีนิยามผู้ใช้เป็นกลุ่มแทน ผู้โฆษณาสามารถเลือกยิงโฆษณาตาม "กลุ่มผู้ใช้" แทนการเจาะรายคน

Tags:
Node Thumbnail

หลังกูเกิลประกาศยกเลิกขายโฆษณาแบบติดตามตัวตน แต่ประกาศเตรียมไปใช้ Federated Learning of Cohorts (FLoC) API ที่จับพฤติกรรมผู้ใช้เป็นกลุ่มแทน ทาง EFF ก็ออกมาวิจารณ์ว่ากูเกิลควรเลิกพยายามติดตามผู้ใช้

EFF ชี้ว่า FLoC เป็นการโยกหน้าที่ติดตามผู้ใช้ไปอยู่ในเบราว์เซอร์โดยตรง และเบราว์เซอร์จะพยายามวิเคราะห์ว่าผู้ใช้มีพฤติกรรมตรงกับกลุ่มใด แม้กูเกิลจะพยายามบอกว่า FLoC นั้นดีกว่าบริษัทจัดการข้อมูลที่รวบรวมข้อมูลผู้ใช้เว็บเข้าไปยังเซิร์ฟเวอร์จำนวนมาก แต่ก็เป็นการติดตามตัวอยู่ดี

Tags:
Node Thumbnail

กูเกิลประกาศว่ากำลังเตรียมเลิกขายโฆษณาแบบติดตามตัวคน จากเดิมที่ทุกวันนี้โฆษณามักติดตามผู้ใช้ไปได้ผ่านทาง third-party cookie แต่เบราว์เซอร์ต่างๆ กำลังจำกัดความสามารถนี้อย่างต่อเนื่อง

วงการโฆษณามีความสามารถในการติดตามตัวผู้ใช้ได้ทางช่องทาง เช่น การใช้ cookie ในเบราว์เซอร์เพื่อติดตามข้ามเว็บ และการใช้หมายเลขประจำตัวอุปกรณ์สำหรับการโฆษณา (AdID บนแอนดรอยด์ และ IDFA บน iOS) แต่ปัจจุบันเบราว์เซอร์ต่างๆ เริ่มจำกัดการใช้ cookie ข้ามเว็บให้ใช้งานได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่หมายเลขประจำตัวอุปกรณ์นั้น ทางแอปเปิลก็กำลังจำกัดการใช้งานใน iOS เร็วๆ นี้

Tags:
Node Thumbnail

Google เริ่มทดสอบระบบ trust token สำหรับนักพัฒนาเว็บบน Chrome เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่คาดว่าจะนำมาใช้ทดแทนระบบคุกกี้จากบุคคลที่สามเพื่อตอบโจทย์ทั้งฝั่งผู้ใช้งานและนักโฆษณา

ปัจจุบัน ระบบโฆษณาบนเว็บนิยมใช้คุกกี้จากบุคคลที่สามเพื่อติดตามโฆษณา แต่ปัญหาคือต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ และตอนนี้ก็ยังไม่มีระบบที่ตอบโจทย์ทั้งฝั่งผู้โฆษณา, ผู้ใช้งานเว็บ และนักพัฒนาเว็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ Google เริ่มพัฒนาระบบ trust token ขึ้นมาเพื่อเป็นตัวเลือกใช้งานทดแทนคุกกี้จากบุคคลที่สาม

ตอนนี้ trust token กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบ โดย Google จะนำระบบใหม่นี้เข้ามาใช้ทดแทนคุกกี้จากบุคคลที่สามให้ได้ และมีเป้าหมายจะบล็อคคุกกี้จากบุคคลที่สามบน Chrome ภายในปี 2022

Tags:
Node Thumbnail

เว็บเบราว์เซอร์ทุกวันนี้มักอาศัย cookie เพื่อติดตามตัวผู้ใช้ โดย cookie เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้เว็บสามารถให้บริการที่ต้องล็อกอินล่วงหน้าได้ แต่ขณะเดียวกันความสามารถในการติดตามตัวผู้ใช้นี้ก็มีปัญหาการติดตามตัวผู้ใช้เกินความจำเป็น ล่าสุดกูเกิลประกาศว่ามีแผนจะยกเลิกการรองรับ cookie นอกเว็บปัจจุบัน หรือ third-party cookie ออกทั้งหมดภายในสองปีข้างหน้า

Tags:
Node Thumbnail

แนวทางการสร้างเบราว์เซอร์ในช่วงหลังเริ่มมีแนวคิดการรักษาความเป็นส่วนตัวผู้ใช้ที่หนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ การตั้งค่าเบราว์เซอร์ให้เน้นการรักษาความเป็นส่วนตัวมักหมายถึงเครือข่ายโฆษณาไม่รู้ว่าเบราว์เซอร์ที่กำลังเข้าใช้งานเว็บเป็นใคร ทำให้ไม่สามารนำเสนอโฆษณาตรงกลุ่มได้ หรือผู้ลงโฆษณาก็อาจจะไม่สามารถวัดผลได้ว่าการลงโฆษณาในเว็บหนึ่งๆ แล้วได้ผลจริงหรือไม่

กูเกิลระบุว่าการแสดงโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมายยังจำเป็นอยู่ จากการศึกษาพบว่าหากเว็บไซต์ไม่สามารถยิงโฆษณาตามเป้าหมายได้ รายได้จะลดลงถึง 52% แต่ความเป็นส่วนตัวก็เป็นเรื่องสำคัญจึงเตรียมเสนอแนวทาง แก้ปัญหาความเป็นส่วนตัวในเบราว์เซอร์ในยุคต่อไป โดยเรียกข้อเสนอนี้ว่า Privacy Sandbox