Raspbian ลินุกซ์ของ Raspberry Pi มีอัพเดตตามรอบอัพเดตไลบรารีและซอฟต์แวร์จำนวนมาก แต่จุดใหญ่ที่สุดคงเป็นไดรเวอร์ OpenGL ที่มีไดร์เวอร์ทดสอบรองรับการเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์เต็มตัว
ก่อนหน้านี้ Raspbian รองรับ OpenGL ES เท่านั้น และหากใช้ OpenGL ก็จะไม่มีการเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ทำให้ประสิทธิภาพค่อนข้างจำกัด ไดร์เวอร์ใหม่ทำให้เกมหลายเกมที่ใช้ OpenGL ทำงานได้ประสิทธิภาพดีขึ้น
ตัวไดร์เวอร์ยังจำกัดเฉพาะ Raspberry Pi 2 เท่านั้น และตัวไดรเวอร์ยังมีบั๊กเสถียรภาพอยู่บ้าง รวมถึงการเรนเตอร์ผิดพลาดบางจุด ตัวอย่างเดโม glxgears นั้นจากเดิมได้ 23 เฟรมต่อวินาที ก็เพิ่มมาเป็น 60 เฟรมต่อวินาที
ซัมซุงพอร์ตระบบปฏิบัติการ Tizen 3.0 ของตัวเองให้ทำงานบน Raspberry Pi แล้ว ตอนนี้ระบบยังเป็นการพอร์ตจาก Tizen ต้นฉบับ แต่ซัมซุงก็เชิญชวนให้นักพัฒนาร่วมสร้างและปรับแต่ง Tizen ให้ทำงานกับอุปกรณ์ IoT ได้ดีขึ้น
Raspberry Pi ได้รับความนิยมจากผู้สร้างระบบปฏิบัติการมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกเราเห็นโครงการอย่าง Raspbian (Raspberry + Debian) ตามด้วย Ubuntu และ Windows 10 IoT Core
ที่มา - PCWorld
The New York Times มีบทสัมภาษณ์ Stephen Wolfram เกี่ยวกับภาษา Wolfram Language ที่เปิดตัวในปี 2013 เพื่อเป็นภาษาที่ใช้ประมวลผลความรู้ประเภทต่างๆ
Humble Bundle เว็บไซต์ขายชุดบันเดิลเกี่ยวกับเกมเป็นส่วนใหญ่ แต่ในครั้งนี้ได้วางจำหน่ายชุดหนังสือเกี่ยวกับ Raspberry Pi และ Arduino ที่มีมูลค่ารวมกว่า 276 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 9,895 บาท) และส่วนลดสำหรับหนังสือในเครือ Make
หนังสือชุดนี้ขายในราคาเริ่มต้นที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ถ้าหากอยากได้ยกชุด สามารถซื้อได้ใน 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 537.76 บาท) นามสกุลไฟล์จะเป็น PDF, ePUB, และ MOBI สามารถเปิดอ่านได้บนหลากหลายอุปกรณ์ เช่น Kindle, iPad และ Nook
เงินที่ได้จากการขายหนังสือจะส่งเข้า Maker Media, Maker Education Initiative และ Humble Bundle เอง ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะให้แต่ละเจ้าแค่ไหนก็ได้
ที่มา - Humble Bundle
มีรายงานช่องโหว่ใน Raspbian ทำให้ค่าสุ่มของกุญแจ Secure Shell (SSH) สามารถคาดเดาได้ ทำให้แฮกเกอร์อาจจะคั่นกลางการเชื่อมต่อเพื่อปลอมตัวเองเป็นตัว Raspberry Pi ปลายทางได้
ช่องโหว่เช่นนี้เป็นปัญหาของลินุกซ์ที่สร้างกุญแจ SSH ใหม่ทันทีหลังการบูต เพราะเครื่องยังทำงานมาไม่นานพอที่จะสะสมความยุ่งเหยิง (entropy) ของระบบ แต่สำหรับเครื่องขนาดเล็กอย่าง Raspberry Pi ที่มีอุปกรณ์และ I/O ในเครื่องไม่เยอะนักเมื่อเทียบกับพีซี ปัญหานี้จะรุนแรงกว่าปกติ ทำให้กุญแจที่สร้างขึ้นมาคาดเดาได้ง่ายมาก
ข่าวใหญ่สัปดาห์นี้คือ Raspberry Pi Zero ราคา 5 ดอลลาร์ ที่ขายดีถล่มทลาย เบื้องหลังของความสำเร็จนี้ Eben Upton ผู้ก่อตั้ง Raspberry Pi เล่าว่ามันมาจากคำพูดของ Eric Schmidt ประธานบอร์ดของกูเกิล
Upton เล่าว่าเขามีโอกาสพบกับ Schmidt ในเดือนมกราคม 2013 ที่กูเกิลบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ซื้อ Raspberry Pi จำนวน 15,000 ตัวแจกนักเรียนสหราชอาณาจักร ตอนนั้น Schmidt ถาม Upton ว่ามูลนิธิ Raspberry Pi จะทำอะไรต่อไป
Raspberry Pi Zero คอมพิวเตอร์เต็มรูปแบบในราคา 5$ กลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็วจากราคาที่ถูกจนไม่น่าเชื่อ ตอนนี้ทาง Raspberry Pi Foundation ก็ออกมาระบุว่ายอดขายภายในวันแรกอยู่ที่ประมาณ 30,000 ชุด แยกเป็นบอร์ดเปล่า 20,000 ชุด บอร์ดที่แถมไปกับนิตยสาร MagPi อีก 10,000 ชุด
Raspberry Pi เปิดตัวบอร์ดรุ่นใหม่ ถูกที่สุด โดยใช้ฮาร์ดแวร์คล้ายกับ Raspberry Pi รุ่นแรก ซีพียูเป็น BCM2835 ทำงานที่สัญญาณนาฬิกา 1GHz แรม 512MB
พอร์ตเป็น micro SD, HDMI, GPIO 40 ขา, micro USB สองพอร์ต
เนื่องจากตัวบอร์ดราคาถูกมาก ทาง Raspberry Pi จึงแถมบอร์ดไปกับนิตยสาร MagPi เล่มล่าสุด
วางขายแล้วในร้านพันธมิตรของ Raspberry Pi แต่ทาง element14 ที่ส่งในไทยยังไม่ขายบอร์ดเปล่า มีเฉพาะชุดพร้อมสาย HDMI และ USB OTG ทำให้ราคาเพิ่มเป็น 586.92 บาท
Element14 ผู้จัดจำหน่าย Raspberry Pi รายแรกๆ และยังเป็นผู้ผลิตช่วงแรกก่อนที่ทางโครงการจะสามารถผลิตได้เต็มกำลังด้วยตัวเอง เปิดบริการ Raspberry Pi Customization Service บริการปรับแต่งบอร์ด Raspberry Pi ตามความต้องการเฉพาะ
บริการนี้ไม่ใช่บริการแบบอัตโนมัติ แต่ต้องอาศัยวิศวกรของทาง Element14 มาให้คำปรึกษาและตีราคาโครงการเป็นกรณีไป โดยกระบวนการเสนอราคาใช้เวลา 3 สัปดาห์ สิ่งที่ปรับแต่งได้ ได้แก่ รูปร่างบอร์ด, หัวเชื่อมต่อ, เพิ่มชิปและอุปกรณ์บางประเภท (ชิปจ่ายไฟ, ชิปสื่อสาร ฯลฯ), ปรับแต่งหน่วยความจำ (อาจใช้ eMMC แทน microSD)
Debian ออกรุ่น 8.0 Jessie มาตั้งแต่เดือนเมษายน ตอนนี้ฝั่ง Raspbian โครงการพอร์ด Debian มาใช้บนบอร์ด Raspberry Pi ก็อัพเดตตามมาแล้ว ความเปลี่ยนแปลงมีหลายอย่าง หลักๆ ได้แก่
ไมโครซอฟท์ร่วมมือกับ Adafruit ออกชุดพัฒนาเริ่มต้น Microsoft IoT Pack for Raspberry Pi 2 ที่เป็นชุดทดลองอิเล็กทรอนิกส์พื้นฐาน และการ์ด microSD ที่โหลด Windows 10 IoT Core และซอฟต์แวร์อื่นๆ มาไว้พร้อมแล้ว
รายการของในกล่อง ได้แก่
อินเดียประกาศโครงการ Electronics@School พัฒนาความสามารถด้านอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ให้กับเด็ก โดยเตรียมกระจายคอมพิวเตอร์และชุดอิเล็กทรอนิกส์ให้กับโรงเรียนทั่วรัฐเกรละ (Kerala) รวมประมาณ 6,000 โรงเรียน
โครงการอีกส่วนจะแจกชุด Raspberry Pi ให้กับนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกอีกทั้งหมด 10,000 ชุด
ชุดคอมพิวเตอร์เหล่านี้จะถูกใช้เสริมกับวิชาฟิสิกส์ชั้นม.3 และม.4 โดยก่อนหน้านี้หลักสูตรใหม่ได้รับการรับรองไปก่อนหน้านี้แล้ว และเริ่มทดสอบการเรียนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมากับนักเรียน 2,500 คน เป้าหมายของโครงการนี้คือสร้างเยาวชนที่มีความสามารถทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มอีก 40,000 คน
Raspberry Pi (RPi) สามารถต่อจอภาพเป็นแท็บเล็ตได้มานาน แต่ก่อนหน้านี้ต้องอาศัยตัวแปลงต่างกันไป เช่น บางรุ่นเชื่อมต่อผ่าน HDMI บางรุ่นเชื่อมต่อผ่านพอร์ต DSI แต่ทางโครงการ Raspberry Pi เองกลับไม่เคยมีหน้าจอขายโดยตรง ตอนนี้ทางโครงการก็ออกมาประกาศว่าจะขายจอภาพของตัวเองแล้ว
จอภาพของ RPi จะเชื่อมต่อกับตัวบอร์ดผ่านทางพอร์ต DSI บนบอร์ดเพื่อจะไม่กระทบกับพอร์ต GPIO ที่อาจจะต้องใช้ต่อกับบอร์ดเสริมอื่น แต่จอจะมาพร้อมกับตัวแปลงพอร์ต DSI ไปเป็น DPI ที่หาจอภาพได้ง่ายกว่า
ตัวจอ
ภาพ สเปคออกแบบสำหรับ RPi โดยเฉพาะ
ไมโครซอฟท์ประกาศปล่อย Windows 10 IoT Core รุ่นตัวจริงสำหรับบอร์ด Raspberry Pi 2 และ MinnowBoard Max หลังจากปล่อยรุ่นพรีวิวมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
การปรับปรุงสำคัญจากรุ่นพรีวิว ได้แก่ รองรับ Wi-Fi, Bluetooth, GPIO ประสิทธิภาพดีขึ้น, รองรับ Universal Windows Platform (UWP) สำหรับภาษา C++/C#/JavaScript/VisualBasic
หลังจากที่ไมโครซอฟท์ได้ทำการเปิดให้ดาวน์โหลด Windows 10 IoT Core รุ่น Insider Preview สำหรับ Raspberry Pi 2 และ Intel Minnowboard Max ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ได้เวลาเข้าสู่สถานะ RTM แล้ว
ตัวเลขเวอร์ชันรุ่นดังกล่าวคือ 10.0.10240.16384 ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดได้จากที่มา
ที่มา - OSBetaArchive via Microsoft-News
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Raspberry Pi ประกาศเปิดตัวเคสสำหรับใส่บอร์ด Raspberry Pi ของตัวเองอย่างเป็นทางการแล้ว
เคสดังกล่าวออกแบบโดยบริษัท Kinneir Dufort บริษัทออกแบบของอังกฤษที่มีผลงานการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของสินค้าต่างๆ อย่างเช่น Scholl หรือที่กดสบู่เหลวอัตโนมัติของ Lysol เป็นต้น และร่วมกับบริษัท T-Zero ซึ่งเป็นบริษัทท้องถิ่นในการขึ้นแบบชิ้นส่วน ทำการปรับแต่งอุปกรณ์รวมถึงกระบวนการผลิตต่างๆ เพื่อให้สามารถผลิตเคสได้ตามที่ต้องการ
เริ่มวางจำหน่ายแล้วในอังกฤษและสหรัฐอเมริกาผ่านตัวแทนจำหน่ายทางการของ Raspberry Pi โดยรองรับเฉพาะบอร์ดแบบ Raspberry Pi B+ และ Pi 2 B โดยราคาในอังกฤษอยู่ที่ 5.99 ปอนด์ (319 บาท โดยประมาณ) ส่วนตัวอย่างดูได้จากที่มา
Naturebytes บริษัทเพื่อผลประโยชน์ชุมชน (community interest company) เปิดตัวกล้องส่องสัตว์ในป่าที่ทำงานด้วย Raspberry Pi โดยตัวโครงการคือการออกแบบเคสพิเศษสำหรับ Raspberry Pi ที่กันน้ำ
ชุดคิตจะประกอบด้วย Raspberry Pi A+ และ Pi Cam แต่จะมีกล่องเปล่าขายด้วยเช่นกัน ภายในสามารถบรรจุแบตเตอรี่ลิเทียมโพลีเมอร์ขนาด 8800mAh สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 30 ชั่วโมง แต่พื้นที่ภายในสามารถติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่านี้ได้ ช่องด้านหน้ามีสองช่องสำหรับกล้องและเซ็นเซอร์ PIR ตรวจจับการเคลื่อนไหวใช้งานได้ 12 เมตร
ทาง Naturebytes คาดว่าจะเปิดโครงการใน KickStarter ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ที่มา - Naturebytes
ครอบครัวของ Alex Aylesbury และ Clare Jarvis กับลูกทั้งสามคนเป็นครอบครัวทำงานที่บ้านเพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับครอบครัว พวกเขาทำเว็บไซต์ GurgleApps เพื่อโปรโมทแอพพลิเคชั่นและเขียนบล็อกเล่าเรื่องราวต่างๆ ส่วนหนึ่งของเว็บไซต์คือส่วน Tutorial สอนเทคนิคการทำงานแบบต่างๆ เนื่องจากเป็นครอบครัวโปรแกรมเมอร์ ตอนแรกของโพสในหมวดนี้จึงไม่ธรรมดา
ลูกสาวของ Aylesbury สอนการใช้ลินุกซ์พื้นฐานด้วย Raspberry Pi ในห้องนอนของเธอ รีโมตเข้าไปยังเครื่องของพ่อผ่านคำสั่ง SSH จากนั้นหาว่าพ่อของเธอกำลังใช้โปรแกรมอะไรอยู่ แล้วสั่ง kill -9
Raspberry Pi มีบอร์ดรุ่น B ที่ภายนอกคล้ายกันถึงสามรุ่น คือ B, B+, และ Pi 2 Model B เรื่องแปลกคือก่อนหน้านี้ทั้งสามรุ่นยังราคาเท่ากันที่ 35 ดอลลาร์ แต่ทาง Raspberry Pi ก็ปรับราคารุ่น B และ B+ ลงเหลือ 25 ดอลลาร์แล้ว
ทาง Raspberry Pi ระบุว่าการปรับราคาครั้งนี้มาจากการปรับปรุงกระบวนการผลิต และแม้จะออก Pi 2 มาหลายเดือนแล้ว แต่รุ่น B+ ก็ยังขายดีมาก ส่วน Pi 2 Model B นั้นยอดขายเกินล้านตัวไปแล้ว
แนวคิดบอร์ดคอมพิวเตอร์ราคาถูกที่จุดประกายโดย Rasberry Pi ประสบความสำเร็จอย่างสูง บอร์ดจำนวนมากโดยเฉพาะจากผู้ผลิตจีนเดินรอยตาม Rasberry Pi ทำให้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่การปรับราคาครั้งนี้ก็น่าจะทำให้ผู้ผลิตรายอื่นๆ ต้องปรับตัวกันใหม่
จากที่ไมโครซอฟท์เคยประกาศไว้ว่าจะออก Windows 10 รุ่นสำหรับ Raspberry Pi 2 วันนี้มันออกรุ่นทดสอบมาให้ดาวน์โหลดกันแล้วครับ
ชื่ออย่างเป็นทางการของระบบปฏิบัติการตัวนี้คือ Windows 10 IoT Core (ตอนนี้ยังมีสถานะเป็นรุ่น Insider Preview) มันถูกออกแบบมาเป็น Windows 10 รุ่นสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็กที่มีทรัพยากรจำกัด ไมโครซอฟท์ระบุว่าจะแจกระบบปฏิบัติการรุ่นนี้ฟรี แม้จะใช้ในเชิงพาณิชย์ก็ตาม
เชื่อว่าผู้อ่าน Blognone หลายท่านคงรู้จัก Raspberry Pi หนึ่งในบอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วซึ่งเป็นที่นิยมที่เป็นข่าวมาตลอด ล่าสุดมีกลุ่มนักพัฒนาอุปกรณ์จากอังกฤษ สร้างชุดอุปกรณ์ที่เรียกว่า "pi-top" ซึ่งเป็นชุดที่สามารถสร้างโน้ตบุ๊กทั้งเครื่องจาก Raspberry Pi ได้ ในราคา 300 ดอลลาร์ สรอ. เท่านั้น
ตัวชุดดังกล่าวนี้จะมาพร้อมกับอุปกรณ์ทุกอย่าง ซึ่งรวมไปถึงบอร์ด Raspberry Pi 2 ด้วย แต่ผู้ใช้งานจะต้องนำมาประกอบเอง (เหมือนเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA) เมื่อประกอบเสร็จก็จะได้โน้ตบุ๊กของตัวเองมาหนึ่งเครื่องที่ใช้งานได้จริง นอกจากนี้ยังมีไฟล์ STL สำหรับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ให้สำหรับผู้ใช้งานเอาไปปรับแต่งแล้วพิมพ์ออกมาได้ตามใจชอบด้วย
Raspberry Pi 2 อัพเดตตัวเองมาใช้ซีพียู Cortex-A7 หรือสถาปัตยกรรม ARMv7 ทำให้ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่รองรับ ARMv7 (หรือ armhf) พากันพอร์ตลงมา เพราะเพียงแค่ปรับแก้ bootloader ก็มักจะรันได้ ตอนนี้ระบบปฎิบัติการล่าสุดที่ประกาศพอร์ตมารองรับคือ NetBSD
การปรับแก้ในวันนี้ทำให้ระบบคอมไพล์อิมเมจรายวันของ NetBSD ปล่อยอิมเมจสำหรับ RPi2 ออกมาทุกวัน (ตัวอย่าง) สำหรับผู้สนใจสามารถเขียนอิมเมจลงการ์ด microSD
เติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับพีซีตัวจิ๋ว Raspberry Pi ที่ล่าสุดทางผู้พัฒนาออกมาประกาศว่าเจ้าบอร์ดพีซีตัวจิ๋วนี้ทำยอดขายเกิน 5 ล้านเครื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตัวเลข 5 ล้านเครื่องนี้ต่อเนื่องมาจากเมื่อช่วงปลายปี 2013 ที่ทำยอดขายไว้ราว 1.75 ล้านเครื่อง แม้ว่าเทียบกับบรรดาผู้ผลิตพีซีรายใหญ่แล้วจะดูไม่มากนัก (กลุ่มนั้นขายได้ไตรมาสละหลายล้านเครื่อง) แต่ก็น่าประทับใจสำหรับอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อการศึกษา และใช้งานในโปรเจคย่อมๆ โดยเฉพาะ
ที่น่ายินดีคือ Raspberry Pi อาจเป็นพีซีสัญชาติอังกฤษที่ขายดีที่สุดอีกด้วย
ที่มา - Engadget
มีรายงานว่า Raspberry Pi 2 จะดับไปเองเมื่อถูกถ่ายภาพแบบเปิดแฟลช โดยปัญหานี้จะเกิดต่อเมื่อใช้แฟลช Xenon เท่านั้น ตัวอย่างของกล้องที่ทำให้เกิดปัญหาเช่น Samsung K Zoom และ Canon IXUS 60 จะทำให้ RPi 2 ปิดการทำงานและเริ่มใหม่หากถูกแสงแฟลชระยะใกล้กว่า 50 เซนติเมตร
ต้นตอของปัญหานี้คือชิปจ่ายไฟแบบสวิทชิ่ง ที่อยู่ข้างๆ กับพอร์ต HDMI ถ้าใครจะซื้อ RPi 2 ไปใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีแสงแรงๆ อาจจะต้องหาอะไรมาปิดชิปตัวนี้ครับ
ที่มา - Raspberry Pi Forum
เมื่อวานนี้ทาง Raspberry Pi Foundation เปิดตัว Raspberry Pi 2 Model B มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงซีพียู และรองรับ Windows 10 ตอนนี้ข่าวเริ่มออกมาครบถ้วนก็มีข้อมูลออกมาเพิ่มเติม