รายละเอียดเพิ่มเติมของ Alexa+ บริการผู้ช่วยตัวใหม่ของ Amazon ที่นำ LLM มาเพิ่มความฉลาดให้มากขึ้น
Amazon อธิบายชัดเจนว่าสถาปัตยกรรมของ Alexa+ มีระบบ routing system ที่เรียกใช้โมเดลต่างๆ จากบริการ Amazon Bedrock ของ AWS ตามความเหมาะสมของงานที่ผู้ใช้สั่งมา โดยโมเดลที่ระบุชื่อแล้วคือ Amazon Nova ของบริษัทเองที่เปิดตัวช่วงปลายปี 2024 และ Claude ของ Anthropic ที่ Amazon ไปลงทุนเอาไว้ แต่ก็ไม่ได้บอกรายละเอียดมากนักว่าจะเลือกใช้โมเดลไหนในสถานการณ์ใด
Amazon เปิดบริการ Alexa+ ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์พลัง LLM แบบเดียวกับ ChatGPT Plus, Gemini Advanced, หรือ Claude Pro แต่อาศัย ecosystem ของ Amazon เต็มรูปแบบ ทั้งลำโพง Echo, โทรทัศน์ Fire TV, บริการสตรีมมิ่ง Prime Video, และกล้องวงจรปิด Ring
ทาง Amazon ไม่เปิดเผยว่าใช้ LLM ตัวใดบ้างในการสร้าง Alexa+ แต่ระบุว่าเลือกใช้ตามงานที่ทำอยู่ (แบบเดียวกับ Apple Intelligence) แต่ที่เปิดเผยว่าใช้งานคือ Nova ของ Amazon เอง และ Cluade ของ Anthropic
ฟีเจอร์สำคัญของ Alexa+ ได้แก่
Amazon เตรียมแถลงข่าวเปิดตัวผู้ช่วยอัจฉริยะ Alexa เวอร์ชันใหม่ที่มี LLM ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ แต่มีรายงานล่าสุดว่าบริการดังกล่าวจะยังไม่เปิดให้ใช้งานทันที ... เพราะยังเจอบั๊กจำนวนมาก
The Washington Post อ้างแหล่งข่าวใน Amazon บอกว่าการทดสอบ Alexa ใหม่นี้ยังเจอปัญหาการให้คำตอบที่ไม่แม่นยำ ทำให้แผนเปิดใช้งานถูกเลื่อนออกไปเร็วที่สุดคือ 31 มีนาคม หรือหลังจากนั้น แต่กำหนดการแถลงข่าวเปิดตัวยังเป็นวันเดิม
Amazon ส่งบัตรเชิญแถลงข่าววันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2025 โดยจะเป็นงานเกี่ยวกับ Alexa และมี Panos Panay อดีตหัวหน้าทีมฮาร์ดแวร์ของไมโครซอฟท์ที่ย้ายมาอยู่กับ Amazon ในปี 2023 เป็นผู้นำการแถลงข่าว ซึ่งจะเป็นการแถลงข่าวใหญ่ครั้งแรกของเขา นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ Amazon ด้วย
ปีที่แล้วเราเห็นข่าว Alexa เวอร์ชันใหม่พลัง LLM ประสบปัญหาจนต้องเลื่อน ข่าวล่าสุดก่อนหน้านี้บอกว่าจะใช้ Claude เป็นโมเดลเบื้องหลัง ต้องรอดูวันแถลงข่าวว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
สำนักข่าว Reuters อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องบอกว่า Amazon มีแผนเปิดตัวระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ Alexa เวอร์ชันอัปเกรดใหญ่ในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้ทันก่อนเทศกาลวันหยุดปลายปี ซึ่ง Alexa ใหม่นี้จะใช้ Claude โมเดลปัญญาประดิษฐ์ของ Anthropic ที่ Amazon ไปร่วมลงทุนเป็นแกนหลักในการทำงาน
ก่อนหน้านี้มีรายงานเรื่องการออก Alexa แบบใหม่ที่ใช้ AI ช่วยในการทำงาน แต่ลูกค้าอาจต้องจ่ายเงินเพิ่ม ซึ่งมีรายงานในเวลาต่อมาว่าการพัฒนาเลื่อนออกไปจากแผนเดิม เนื่องจาก Amazon ตัดสินใจไม่ยกเครื่อง Alexa เดิม
Amazon ออก Echo Spot นาฬิกาปลุกอัจฉริยะพร้อมจอภาพขนาดเล็กรุ่นใหม่ ที่ทำงานบน Alexa หลังจากรุ่นแรกออกมาในปี 2017 โดยเป็นการเปิดตัวก่อนเทศกาลลดราคา Prime Day
Echo Spot รุ่นใหม่นี้มีการปรับปรุงทั้งหน้าจอแสดงผล ลดพื้นที่ลงเหลือครึ่งหนึ่ง ขนาด 1.73 นิ้ว มีความคมชัดมากขึ้น พื้นที่อีกครึ่งเป็นส่วนลำโพง ซึ่งปรับปรุงคุณภาพเสียงเช่นกัน ขณะที่กล้องหน้าซึ่งติดมากับอุปกรณ์ในรุ่นแรก ในรุ่นปรับปรุงใหม่นี้ได้ตัดออกไป ซึ่งเป็นไปได้ว่าเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรืออาจเพราะการใช้งานกล้องในอุปกรณ์นี้มีไม่มากนัก
จากกระแส LLM ที่กำลังมาแรง เจ้าตลาด AI Assistant เดิมอย่าง Amazon เหมือนจะยังคงตามหลังคู่แข่งอยู่ไกล และน่าจะถูกแซงไปเรื่อย ๆ เมื่อล่าสุดมีรายงานจากทั้งนิตยสาร Fortune และ Yahoo! Finance รายงานอ้างอิงการสัมภาษณ์คนในไปในทางเดียวกันว่า ความพร้อมของ Alexa LLM ยังคงห่างไกลความเป็นจริง หลังเคยเผยพรีวิว เมื่อปลายปีที่แล้ว
อดีตพนักงานของ Amazon ให้สัมภาษณ์กับทางนิตยสารว่า Alexa ตัวใหม่จะไม่มีวันตามใครทัน ถ้า Amazon ยังไม่ยอมทิ้ง Alexa ตัวเก่าเพื่อมาพัฒนาตัวใหม่ และถึงเปิดตัวออกมา ก็จะยังสู้คู่แข่งไม่ได้
Business Insider อ้างเอกสารภายใน Amazon ที่พบ ระบุว่าบริษัทมีแผนออกบริการผู้ช่วยตัวใหม่ โดยอาจใช้ชื่อว่า Alexa Plus ซึ่งเป็นระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ Alexa ที่ผู้ใช้งานต้องจ่ายเงินรายเดือนเพิ่มเติม โดยได้ฟีเจอร์ผู้ช่วย AI ที่สามารถสนทนาได้ยาวขึ้น และการปรับผลลัพธ์เฉพาะบุคคลมากกว่าเดิม
ข้อมูลในเอกสารระบุว่าบริการจะต้องพัฒนาให้ทันเส้นตายวันที่ 30 มิถุนายน อย่างไรก็ตามผลการทดสอบนั้นยังปัญหาทำให้ไม่ได้คุณภาพที่ดีพอ เช่น การให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง, พยายามตอบคำถามด้วยข้อความที่ยาวมากไป หรือไม่สามารถทำงานที่มี 2 คำสั่งในประโยคเดียวได้ถูกต้อง เป็นต้น
Amazon ประกาศปลดพนักงานในฝ่าย Alexa ออกจำนวนหลายร้อยคน (several hundreds) หลังจากปรับทิศทางธุรกิจไปยัง Generative AI แทน
พนักงานที่ถูกปลดออกอยู่ในฝ่ายธุรกิจฮาร์ดแวร์ (Amazon เรียกว่า Devices) แต่ไม่บอกว่ามีตำแหน่งด้านไหนบ้าง บริษัทบอกว่าโยกทรัพยากรบางส่วนไปยังงานด้าน Generative AI เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า จึงต้องหยุดโปรเจคเก่าบางอย่าง และเป็นผลให้ปลดพนักงานออก
Amazon เปิดตัวฮาร์ดแวร์ในตระกูล Echo ชุดใหญ่ ที่มาพร้อมความสามารถของ Alexa ซึ่งคราวนี้มีสินค้าใหม่แว่นตาด้วย
เริ่มที่สินค้าแรก Echo Show 8 สมาร์ทสกรีนในบ้านรุ่นที่ 3 มาพร้อมดีไซน์ใหม่ ระบบเสียงที่ปรับปรุงให้รองรับ Spatial Audio ส่วนวิดีโอคอลก็มีคุณภาพมากขึ้นด้วยกล้องหน้า 13MP และระบบเสียงที่ตัดเสียงรบกวนได้ดีมากขึ้น
Amazon ประกาศว่าฟีเจอร์เสียงผู้ช่วยอัจฉริยะ Alexa ที่เป็นเสียงของคนมีชื่อเสียง จะปิดไม่ให้สั่งซื้อใหม่ ส่วนลูกค้าที่ซื้อไปแล้วจะใช้งานต่อได้ตามกำหนด โดยเสียงของ Samuel L. Jackson ใช้งานได้ถึง 7 มิถุนายน 2023 ส่วน Melissa McCarthy และ Shaquille O’Neal ใช้งานได้ถึงกันยายน 2023
ตัวแทนของ Amazon ชี้แจงเพิ่มเติมว่าหลังเปิดให้ใช้งาน Alexa ด้วยเสียงคนมีชื่อเสียงมา 3 ปี ตอนนี้บริษัทตัดสินใจปิดบริการดังกล่าวแล้ว โดยลูกค้าสามารถติดต่อขอคืนเงินได้
Marques Brownlee หรือ MKBHD ยูทูบเบอร์คนดัง รีวิวแอพผู้ช่วยส่วนตัวผ่านการสั่งงานด้วยเสียง (voice assistant) บนสมาร์ทโฟน 4 ตัวคือ Google Assistant, Siri, Bixby, Alexa เปรียบเทียบกันอีกครั้งในเวอร์ชันปลายปี 2022 ผลคือ Google Assistant ยังเป็นอันดับหนึ่งเช่นเดิม
แอพทั้ง 4 ตัวทำงานพื้นฐาน เช่น ตั้งเวลา รายงานสภาพอากาศ ตอบคำถามข้อมูลทั่วไปได้ค่อนข้างดี (ยกเว้น Siri ตั้งเวลาได้ทีละอัน) ความเด่นในด้านอื่นคือ Google Assistant และ Bixby ควบคุมการทำงานของมือถือด้วยเสียงได้ดีที่สุด สามารถสั่งถ่ายภาพได้ และเปิดซีรีส์ตอนที่ระบุจากแอพ Netflix แล้วเล่นได้ทันที (Siri ทำได้แค่เปิดแอพ Netflix เท่านั้น)
โปรโตคอล Matter มาตรฐานกลางสำหรับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมข้ามค่าย เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (สเปกเวอร์ชัน 1.0 ออกเมื่อเดือนตุลาคม) โดยชูว่าตอนนี้มีผลิตภัณฑ์ 190 รุ่นผ่านการรับรองหรืออยู่ระหว่างการรับรองว่าเข้ากันได้กับ Matter
Amazon ประกาศฟีเจอร์ Alexa Game Control ที่ให้เราสั่งงานเกมด้วยเสียงได้ เช่น พูดว่า "swap to my best weapon" เพื่อเปลี่ยนมาสวมใส่อาวุธที่ดีที่สุดของตัวละครนั้น
ฟีเจอร์นี้ใช้เอนจินวิเคราะห์เสียงตัวเดียวกับ Alexa เป็นการทำงานที่ระดับซอฟต์แวร์ล้วนๆ ไม่จำเป็นต้องผ่านลำโพง Echo และไม่ต้องสั่งคำว่า Alexa นำหน้า แต่จำเป็นต้องต่อเน็ตตลอดเวลา และฝั่งนักพัฒนาเกมต้องรองรับด้วย โดย Amazon ระบุว่ามี SDK/plugin ให้กับเกมที่สร้างด้วย UE4, Unity และเอนจินอื่นที่เป็น C++ เบื้องต้นยังใช้ได้เฉพาะเกมพีซีและ Xbox เท่านั้น
Amazon และ Cisco ประกาศแผนการส่งบริการ Alexa และ Webex ของตัวเองขึ้นยานอวกาศ Orion ของ NASA ไปดวงจันทร์ในภารกิจ Artemis I ซึ่งคาดว่าจะมีกำหนดยิงช่วงกลางปี 2022 นี้
Artemis I ถือเป็นภารกิจแรกของโครงการ Artemis ส่งมนุษย์กลับไปดวงจันทร์อีกครั้ง โดย Artemis I เป็นภารกิจทดสอบที่ไม่มีมนุษย์ขึ้นอวกาศไปด้วย ยานจะบินรอบดวงจันทร์แล้วกลับโลกโดยไม่ลงจอด, จากนั้นจะตามมาด้วย Artemis II ที่มีมนุษย์ไปด้วยแต่บินรอบเหมือนกัน และ Artemis III ที่นำมนุษย์กลับไปเหยียบดวงจันทร์ (คาดว่าเป็นปี 2024/2025 ตามลำดับ)
Kristin Livdahl แม่ของเด็กหญิงวัยสิบขวบระบุว่า Alexa ซอฟต์แวร์ผู้ช่วยของ Amazon ที่อยู่ในลำโพง Echo บอกให้ลูกของเธอลอง "เสียบที่ชาร์จโทรศัพท์แค่ครึ่งเดียว แล้วเอาเหรียญแตะขาปลั๊กดู"
Livdahl และลูกสาวของเธอกำลังออกกำลังกายยืดหยุ่นตามวิดีโอบน YouTube และขอให้ Alexa "ท้าทาย" (challenge) เพิ่มเติม
การท้าทายเสี่ยงอันตรายระบาดทั่วอินเทอร์เน็ตเป็นระยะ การท้าให้แตะปลั๊กให้ไฟดูดเช่นนี้ก็ระบาดอยู่ใน TikTok อยู่ช่วงหนึ่ง หรือบ้านเราก็เคยมีการท้ากินโรตีดิบที่เป็นอันตรายอยู่
ซอฟต์แวร์ผู้ช่วยค่ายต่างๆ มักหาคำตอบโดยอัตโนมัติผ่านข้อมูลจากเว็บโดยเนื้อหาจำนวนมากไม่ได้คัดกรองมาก่อน ในกรณีนี้ทาง Amazon ระบุว่าได้ป้องกันไม่ให้ Alexa แนะนำกิจกรรมแบบนี้อีกในอนาคต
Amazon ประกาศออกขาตั้งลายหูมิกกี้เมาส์สำหรับ Amazon Echo Show 5 หน้าจออัจฉริยะรุ่นเล็ก พร้อมฟีเจอร์ใหม่ชื่อ 'Hey, Disney!' ที่ร่วมพัฒนากับดิสนีย์ ทำให้ผู้ช่วยอัจฉริยะ Alexa สามารถสวมบทบาทเป็นตัวละครจาก Disney, Pixar, Marvel, Star Wars พูดคุย เล่าเรื่องให้เราฟังได้
นอกจากการใช้งานที่บ้านแล้ว โรงแรมในสวนสนุก Walt Disney World Resort จะเริ่มนำ Alexa เข้าไปใช้งานภายในห้องพัก และมีความสามารถพูดคุยกับแขกที่มาพักแบบเดียวกัน
ตัวขาตั้งจะขายในราคา 24.99 ดอลลาร์ (เป็นขาตั้งเปล่าๆ ไม่มีฟังก์ชันอะไร) และฟีเจอร์ Hey, Disney! จะต้องซื้อเพิ่ม แต่ยังไม่บอกราคา จะเริ่มขายช่วงต้นปี 2022
เมื่อต้นปีนี้ LG ประกาศขายไลเซนส์ระบบปฏิบัติการ webOS ให้ผู้ผลิตทีวีรายอื่นด้วย โดยบริษัทที่ซื้อไปอาจมีชื่อแปลกๆ ไม่ค่อยคุ้นเคยอย่าง Advance, Blaupunkt, Eko, JSW, Manta, Polaroid, RCA, Seiki, Skytech
ล่าสุด LG ประกาศว่าระบบปฏิบัติการ webOS เวอร์ชันขายให้บริษัทอื่น จะได้ฟีเจอร์พูดคุยด้วยเสียงผ่าน Amazon Alexa ได้ด้วย (webOS เวอร์ชันทีวี LG เอง มีฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียงของตัวเองที่ไม่เปิดให้คนอื่นใช้)
การจับมือของ LG กับ Amazon ครั้งนี้ถือว่าน่าสนใจ เพราะเป็นการผสาน OS (webOS) เข้ากับบริการเสียง (Alexa) เป็นโซลูชันสำเร็จรูปให้ผู้ผลิตทีวีรายย่อยๆ นำไปใช้งานได้ทันที ถือเป็นการช่วยขยายฐานทั้ง webOS และ Alexa ไปพร้อมกัน
Alexa ผู้ช่วยอัจฉริยะของ Amazon เพิ่มความสามารถ Reading Sidekick ช่วยพัฒนาการอ่านในเด็ยอายุ 6-9 ปี ใช้งานได้ในผู้ใช้งานที่สมัครเป็นสมาชิกพรีเมี่ยม Amazon Kids+
วิธีการทำงานของ Reading Sidekick คือ พูด Alexa, let’s read ไปยังอุปกรณ์ Echo หลังจากนั้นก็บอกชื่อหนังสือที่อยากอ่าน (เป็นหนังสือหรืออีบุ๊กที่ Reading Sidekick รองรับ) ระบุคำสั่งเรียบร้อยแล้ว Reading Sidekick จะช่วยเด็กอ่านหนังสือด้วยการอ่านออกเสียง สลับกับเด็ก เด็กๆ สามารถระบุได้ว่าอยากอ่านมากขนาดไหน เช่น สลับอ่านกันคนละย่อหน้า หรือคนละหน้า
Sharp เปิดตัวไมโครเวฟรุ่นแรกที่มาพร้อมระบบเชื่อมต่อ Wi-Fi และรองรับการทำงานร่วมกับระบบสั่งการด้วยเสียง Alexa
ไมโครเวฟรุ่นใหม่ของ Sharp มีสองความจุ คือ SMC1139FS ความจุ 1.1 คิวบิกฟุต และ SMC1449FS ความจุ 1.4 คิวบิกฟุต โดยระบบสั่งการด้วยเสียง Alexa มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกในกิจกรรมทำอาหารทั่วไป เช่น ละลายน้ำแข็งเนื้อ ไปจนถึงสั่งทำป๊อปคอร์นของ Orville Redenbacher
สำหรับรุ่น 1.1 คิวบิกฟุตจะมีคำสั่งที่รองรับระบบสั่งการด้วยเสียงกว่า 30 คำสั่ง และอีก 10 พรีเซ็ทที่สั่งได้ผ่านเสียงเท่านั้น ราคา 149.99 ดอลลาร์ และรุ่น 1.4 คิวบิกฟุตมีคำสั่งที่รองรับระบบสั่งการด้วยเสียงกว่า 70 คำสั่ง และอีก 50 พรีเซ็ทที่สั่งได้ผ่านเสียงเท่านั้น ราคา 169.99 ดอลลาร์
Amazon ประกาศว่าปัญญาประดิษฐ์ Alexa ย้ายโหลดงานปัญญาประดิษฐ์ที่เดิมรันอยู่บนชิปกราฟิกไปรันบนชิป AWS Inferentia ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2018 และให้บริการเป็นเครื่อง EC2 Inf1 ในปี 2019 เกือบทั้งหมดแล้ว
Alexa ฝังอยู่ในลำโพง Echo และแท็บเล็ต Kindle Fire ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานอุปกรณ์ในบ้านและติดต่อกับบริการของ Amazon ได้โดยสั่งด้วยเสียง โดยตอนนี้มีอุปกรณ์รองรับ Alexa กว่าร้อยล้านชิ้นแล้ว โดยปัญญาประดิษฐ์ที่ Alexa ใช้มีสามส่วนหลักคือการแปลงเสียงเป็นข้อความ (automatic speech recognition - ASR) และทำความเข้าใจคำสั่งของผู้ใช้ (natural language understanding - NLU) จากนั้น Alexa จะส่งคำตอบเป็นข้อความและใช้ปัญญาประดิษฐ์สร้างเสียงพูด (text-to-speech - TTS)
Amazon ประกาศเลิกสนับสนุน Dash Wand อุปกรณ์สแกนบาร์โค้ดที่มาพร้อมกับ Alexa ที่เปิดตัวในปี 2017 เอาไว้สำหรับสแกนบาร์โค้ดสินค้าที่ต้องการซื้อ หรือสั่ง Alexa ด้วยเสียง สินค้าตัวนั้นก็จะถูกเพิ่มลงในตะกร้าสินค้าในแอป Amazon ทันที โดย Dash Wand สามารถใช้งานได้แค่ในสหรัฐอเมริกา
Amazon ยกเลิกการสนับสนุนอุปกรณ์นี้โดยไม่แจ้งเหตุผล มีเพียงโครงการให้นำเครื่องมาคืนเพื่อรีไซเคิลได้ โดยไม่มีอุปกรณ์หรือเงินทดแทนหรือให้ แต่ก่อนหน้านี้ Dash Wand ก็แจกฟรีให้กับผู้สมัคร Amazon Fresh บริการซื้อของสดของ Amazon อยู่หลายครั้ง และมีราคาเพียง 50 เหรียญ (ประมารณ 1550 บาท) ทำให้ Amazon อาจจะไม่ต้องชดเชยใดๆ
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้งานบางส่วนได้รับอีเมลแจ้งจาก Amazon ว่าอุปกรณ์และแอป Echo look กำลังจะหยุดให้บริการในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ สืบเนื่องจากที่ Amazon หยุดจำหน่ายอุปกรณ์ดังกล่าวไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
Amazon เปิดตัว Echo look เมื่อปี 2017 โดยออกแบบให้เป็นกล้องอัจฉริยะที่ช่วยแนะนำการแต่งตัวให้กับผู้ใช้งาน นอกจากนี้ ยังออกแบบมาเพื่อช่วยพัฒนาอัลกอริทึม Al ในด้านแฟชั่นให้กับฟีเจอร์อื่นๆอย่างเช่น Style by Alexa เป็นต้น
Strategy Analytics บริษัทวิเคราะห์ตลาดเปิดเผยรายงานยอดขายลำโพงอัจฉริยะในปี 2019 ส่งมอบไปทั้งหมด 146.9 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากปี 2018 ถึง 70% โดย Amazon และ Google ยังคงเป็นเบอร์ 1 และ 2 ในตลาดด้วยส่วนแบ่ง 26.2% และ 20.3% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามแม้ยอดขายทั้งโลกจะเพิ่มขึ้น แต่ส่วนแบ่งของ Amazon และ Google กลับปรับลดลงสวนทางกับตลาด โดยปี 2018 ส่วนแบ่ง Amazon อยู่ที่ 33.7% และ Google อยู่ที่ 25.9% ซึ่งส่วนแบ่งของสองแบรนด์ที่หายไปตกไปอยู่ที่แบรนด์จีนอย่าง Baidu, Alibaba และ Xiaomi ขณะที่ Apple ยังคงรักษาที่ 6 เอาไว้เหนียวแน่นที่ส่วนแบ่ง 4.7%
ASUS เปิดตัวโน้ตบุ๊กสำหรับธุรกิจในงาน CES 2020 ใช้ชื่อ ExpertBook B9450 เป็นโน้ตบุ๊กภายใต้ Project Athena ของ Intel น้ำหนัก 865 กรัม หนา 14.9 มิลลิเมตร ใช้งานต่อเนื่องนานสุด 24 ชั่วโมง มีไฟหน้าเครื่องสำหรับแจ้งการทำงานของซอฟต์แวร์ผู้ช่วย อย่าง Microsoft Cortana หรือ Amazon Alexa
ตัวเครื่องของ ASUS ExpertBook B9450 เป็นแมกนีเซียม ดีไซน์ให้เมื่อกางเครื่องออก ส่วนท้ายจอจะยกโน้ตบุ๊กเฉียงขึ้นเล็กน้อยช่วยให้พิมพ์สะดวกขึ้น ผ่านการทดสอบ MIL-STD 810G ด้านการสั่นสะเทือน, ตกกระแทกพื้นและอุณหภูมิที่สูงและต่ำกว่าปกติ ติดตั้งชิปรักษาความปลอดภัยของข้อมูล Trusted Platform Module 2.0 (TPM) ไว้ในเครื่อง
ASUS ExpertBook B9450 มีสีดำ วางขายในไตรมาสที่ 1 ปี 2020 แต่ยังไม่ประกาศราคา ส่วนสเป็กมีดังนี้: