FUSE (Future Social Experiences) Labs จากไมโครซอฟท์รีเสิร์ชได้เผย So.cl (อ่านว่า "social") หรืองานวิจัยบริการค้นหาข้อมูลบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่มีเป้าหมายเฉพาะสำหรับนศ. และอาจารย์ที่ต้องการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน
So.cl เปิดให้ผู้ใช้สามารถโพสข้อความ รูปภาพ คลิปวีดีโอ และผู้ใช้สามารถค้นหาสิ่งที่ตนสนใจและสร้างชุมชนขึ้นมาได้เอง ซึ่งไมโครซอฟท์ก็ได้เตรียมเครื่องมือให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งชุมชนตนเองได้ เช่น การใช้ทวิตเตอร์ในการโพสไอเดียใหม่ เป็นต้น
Facebook เพิ่มระบบรายงานที่ให้เพื่อนๆ สามารถรายงานความเสี่ยงที่ผู้ใช้บางคนอาจจะฆ่าตัวตายได้
หลักการทำงานของมันคือ ถ้าเราเห็นว่าเพื่อนคนใดคนหนึ่งของเราโพสต์รูปภาพหรือข้อความ ที่มีเนื้อหาส่อไปทางว่าเพื่อนคนนี้อาจจะฆ่าตัวตาย ก็สามารถแจ้งไปยัง Facebook โดยเลือกสถานะเป็น "report suicidal content" ได้ ทาง Facebook จะมีทีมคอยเฝ้าดูตลอด 24 ชั่วโมง และจะขึ้นข้อความแสดงหมายเลขโทรศัพท์สายด่วนสำหรับคนที่คิดจะฆ่าตัวตาย (ในสหรัฐ) ซึ่งร่วมมือกับหน่วยงานชื่อ National Suicide Prevention Lifeline
นอกจากการขึ้นหมายเลขโทรศัพท์แล้ว ผู้ใช้ Facebook ยังสามารถแชทคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาคนที่คิดจะฆ่าตัวตายได้ด้วย
Facebook Timeline ฟีเจอร์ใหญ่ประจำปีของ Facebook ที่เปิดตัวในงาน f8 เมื่อเดือนกันยายน (ข่าวเก่า) แล้วเงียบหายไปนาน ตอนนี้เปิดให้ผู้ใช้ทุกคนได้สร้าง Timeline ของตัวเองแล้ว
และแล้ว Hi5 อดีตเครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดนิยมในอดีตอันไม่ไกลนัก ก็มีอันต้องขายกิจการให้เครือข่ายสังคมอีกรายหนึ่งคือ Tagged ด้วยมูลค่าไม่เปิดเผย
กูเกิลยังเดินหน้าควบรวมบริการต่างๆ เข้ากับ Google+ อยู่เรื่อยๆ
สำหรับบริการฝากบล็อก Blogger ก่อนหน้านี้เปิดให้ใช้ Google+ Profile แทน Blogger Profile มารอบหนึ่งแล้ว วันนี้กูเกิลเดินหน้าไปอีกขั้น เปิดให้เราเลือกได้ว่า ถ้าเขียนบล็อกบน Blogger แล้วกดปุ่ม publish เพื่อเผยแพร่แล้ว จะให้ขึ้นหน้าต่างมาถามว่าจะแชร์บล็อกที่เพิ่งเขียนสดๆ ลง Google+ ของเราเพื่อโปรโมตด้วยหรือไม่
Google+ เพิ่มฟีเจอร์แยกแยะใบหน้าหรือ facial recognition เข้ามาอย่างเงียบๆ โดยจะทำงานกับภาพถ่ายที่เราอัพโหลดขึ้นไปยัง Google+ ชื่ออย่างเป็นทางการของมันคือ Find My Face
ในแง่ความสามารถมันคงไม่ต่างอะไรกับ facial recognition ของ Facebook ที่ทำมาก่อนหน้าตั้งแต่ปีที่แล้ว
Schemer (สกีมเมอร์) เป็นเว็บแอพตัวใหม่จาก "วิศวกรของกูเกิล" ที่ไม่ได้แปะแบรนด์กูเกิลมาด้วย (ไม่รู้ว่าใช้เวลาว่าง 20% มาทำหรือเปล่า)
ผมก็ยังไม่ได้ลองเล่นเลยอธิบายยากว่ามันทำอะไรได้ แต่บนหน้าเว็บของมันบอกว่า Schemer จะช่วยเราค้นหาว่าเราจะ "ทำอะไร" และ "ค้นหาสิ่งใหม่" ในเมืองที่เราอาศัยอยู่
ในแง่หนึ่งมันจะคล้ายๆ กับ Foursquare และ Gowalla ที่อิงกับสถานที่และข้อมูลเชิงพิกัด แต่ในประเด็นว่า "จะทำอะไรบ้าง" กูเกิลจะร่วมมือกับพาร์ทเนอร์จากหลายอุตสาหกรรมช่วยป้อนข้อมูลให้ เช่น Zagat สำหรับแนะนำร้านอาหาร, นิตยสาร Outside สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง, นิตยสาร TimeOut สำหรับงานนิทรรศการต่างๆ ในเมือง เป็นต้น
Evernote เจ้าของบริการจดโน้ตชื่อดัง ขยายตลาดของตัวเองจากการจดโน้ต-จดจำข้อมูลทั่วไป มายังตลาดเฉพาะกลุ่มอีก 2 กลุ่มคือจดจำ "มื้ออาหาร" และ "ผู้คน" ผ่านแอพบน iOS
แอพตัวแรกคือ Evernote Food เอาไว้ถ่ายภาพมื้ออาหารที่อยู่ในความทรงจำ สามารถจัดระเบียบได้ผ่านแท็ก และแชร์ผ่านเครือข่ายสังคมต่างๆ ได้ (จะคล้ายๆ กับแอพอย่าง Foodspotting) ข้อมูลที่เก็บไว้จะเชื่อมโยงกับบัญชี Evernote หลักของเราด้วย
นอกจาก Twitter โฉมใหม่สำหรับผู้ใช้ทุกระดับ บริษัทยังปรับฟีเจอร์ของหน้า Brand Page เสียใหม่ เพื่อหวังให้แบรนด์ต่างๆ มาใช้ Twitter ทำตลาดมากขึ้น หลังจากที่โดน Facebook แย่งตลาดส่วนนี้มานาน
หน้า Brand Page แบบใหม่จะเพิ่มฟีเจอร์เข้ามาจากหน้า Profile ปกติอีก 2 อย่าง
กูเกิลยังเดินหน้าหลอมรวม Google+ เข้ากับบริการอื่นๆ ของตัวเองต่อไป คราวนี้มันเดินทางมาถึง Gmail แล้ว ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาได้แก่
ปุ่ม Subscribe เป็นฟีเจอร์ที่ Facebook ออกมาเพื่อสู้กับ Google+ และ Twitter ทำให้เราไม่จำเป็นต้องเป็น "เพื่อน" กับทุกคนเสมอไป แต่สามารถ "ติดตาม" คนดังหรือใครสักคนเพียงฝ่ายเดียวได้ (อีกฝ่ายต้องโพสต์ข้อมูลเป็น public ด้วยนะครับ)
วง AKB48 เคยเป็นข่าวใน Blognone มาก่อนด้วยการมีสมาชิกเป็นคอมพิวเตอร์กราฟิก และทางวงก็เปิดหน้าพิเศษบน Google+ เพื่อโปรโมทหน้า Google+ ของสมาชิกแต่ละคน (น่าสนใจว่าไม่มีหน้า Page ของวง)
เท่าที่ลองดูหน้า profile ของแต่ละคนยังไม่มีโพสอะไรในตอนนี้นอกจากรูปคนละ 5 รูป แต่ทางกูเกิลก็สร้างหน้า project48 เพื่อวง AKB48, SKE48, และ NMB48 โดยเฉพาะ อาจจะเป็นไปได้ที่สมาชิกวงจะร่วมกับกูเกิลมาเล่น Hangout กับแฟนคลับบ้างบางครั้ง
เลือก follow กันได้ตามสะดวก
ยังคงมีผลการจัดอันดับออกมาเรื่อยๆ คราวนี้เป็นอันดับว่าด้วยหัวข้อยอดนิยมของ Status ใน Facebook ช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่ง Facebook เรียกว่า Memology 2011 โดยเป็นการพิจารณาเทรนด์หัวข้อที่คนพูดถึงผ่าน Status มากที่สุด (คนละอันกับอันดับบทความที่ถูกแชร์นะครับ) ในการจัดอันดับนี้มีแยกย่อยลงไปในระดับประ
Voice of America เขียนบทความถึงสถานะการณ์เสรีภาพในการแสดงออกในไทยในช่วงนี้โดยสรุปหลายประเด็น นับแต่ที่นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพออกเตือนเรื่องการกด Share/Like ใน Facebook ว่าอาจจะเป็นการทำผิดกฏหมาย, คดีนายอำพล (อากง SMS), คดีจีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการเว็บไซต์ประชาไท ที่สร้างความกังวลให้กับนานาชาตินับแต่ กรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชีย (AHRC), ตัวแทนคณะกรรมาธิการยุโรป, จนล่าสุดกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความไม่สบายใจต่อมาตรฐานเสรีภาพการแสดงออกของไทยที่ไม่เข้ากับมาตรฐานนานาชาติ
วันนี้คนที่เข้า YouTube คงพบกับหน้าตาใหม่ของเว็บไซต์ ซึ่งปรับเปลี่ยนไปจากของเดิมอย่างมาก
YouTube เวอร์ชันใหม่จะเน้นหนักที่ระบบ Channel หรือช่องรายการ ซึ่งเราสามารถติดตาม (follow/subscribe) ได้ลักษณะเดียวกับเครือข่ายสังคมอย่าง Twitter และรายการวิดีโอล่าสุดที่แต่ละช่องอัพโหลดก็จะแสดงให้เราเห็นใน timeline บนหน้าแรก
นอกจากนี้ timeline ของ YouTube ยังจะแสดงวิดีโอที่เพื่อนของเราในเครือข่ายสังคมอื่นๆ (เท่าที่ลองคือ Google+ กับ Facebook) แชร์เอาไว้อีกด้วย
ในส่วนของหน้าอื่นๆ เช่น หน้า Profile หรือ Channel ของตัวเราเองก็เปลี่ยนมาใช้อินเทอร์เฟซแบบใหม่ทั้งหมดเช่นกันครับ
ระบบ status ของเฟชบุ๊กนั้นเริ่มแรกคล้ายกับโพสของทวิตเตอร์แต่เมื่อเวลาผ่านไปทางเฟชบุ๊กก็เพิ่มความยาวให้กับ status มากขึ้นเรื่อยๆ แต่มายาวขึ้นแบบก้าวกระโดดในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ตัวอักษร และล่าสุดขีดจำกัดนี้ก็เพิ่มเป็น 63,206 ตัวอักษรแล้ว
ตัวเลข 63,206 นั้นมาจากคำว่า Facebook โดยแผลงมาจาก Face Boo K แปลคำว่า Boo เป็นเครื่องหมายลบ แล้วแปลงคำว่า Face เป็นตัวเลขฐาน 16 ได้ 64,206 จากนั้นแปลง K เป็น 1,000 จะได้ว่า 64,206 - 1,000 = 63,206
มาถึงวันนี้เราคงคุ้นกับการแปะปุ่ม Tweet และ Like บนเว็บไซต์ต่างๆ แล้ว (ซึ่งภายหลังก็มีปุ่ม +1 ของกูเกิลตามมาอีกอย่างหนึ่ง)
บริการเช็คอินอย่าง Foursquare ก็อยากเกาะกระแสนี้กับเขาด้วย โดยออกปุ่มให้เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ต่างๆ เช่น เว็บของร้านอาหาร เว็บห้างสรรพสินค้า เว็บรีวิวร้านอาหาร เว็บแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว สามารถนำไปแปะไว้บนเว็บเพจได้
ปุ่มแรกคือ Follow on Foursquare สำหรับแปะไว้บนหน้าแรกของเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้เข้าชมเว็บสามารถติดตามบัญชีของสถานที่นั้นๆ บน Foursquare ได้ทันที (คล้ายๆ กับปุ่ม Follow ของ Twitter หรือ Like Widget ของ Facebook)
Facebook เปิดเผยสถิติว่าบทความใดบ้างถูกแชร์โดยผู้ใช้ Facebook มากที่สุดในรอบปี 2011 นี้ สถิติทั้งหมดมี 40 อันดับ คัดมาเฉพาะ 5 อันดับแรกนะครับ ที่เหลืออ่านเอาเองตามลิงก์
ประธานาธิบดีบารัค โอบามาถือว่าเป็นนักการเมืองที่นำเครื่องมือ Social Network มาใช้ในการประชาสัมพันธ์ตนเองได้ดีมากคนหนึ่ง เขามีทั้ง Facebook, Twitter หรือแม้กระทั่ง Foursquare และล่าสุดเพื่อการทำแคมเปญหาเสียงในการเลือกตั้งปีหน้า โอบามาก็เข้ามายัง Google+ แล้ว
เมื่อเดือนกันยายน ทราฟฟิกของ Google+ หลังเปิดให้คนทั่วไปใช้งาน โตขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด 1269% แต่หลังจากนั้นก็อย่างที่ทุกคนคาดเดากันได้ คือผู้ใช้จำนวนหนึ่งที่ลอง Google+ แล้วไม่ชอบ/ไม่มีเพื่อนเล่นด้วยก็
บริการด้านเพลงถือเป็นจิ๊กซอที่ขาดหายไปของกูเกิลมาโดยตลอด ในขณะที่คู่แข่งต่างมีบริการด้านนี้กันพร้อมสรรพ เริ่มตั้งแต่ แอปเปิลมีฐานอันเข้มแข็งบน iTunes, ไมโครซอฟท์มีแพลตฟอร์ม Zune ของตัวเอง และปิดท้ายด้วย MP3 Store/Cloud Player ของ Amazon
ก้าวที่น่าสนใจของ LinkedIn เครือข่ายสังคมสำหรับประวัติการทำงานครับ
CardMunch เป็นแอพบน iPhone ที่ LinkedIn ซื้อกิจการมาเมื่อต้นปี แอพตัวนี้จะให้เราถ่ายภาพนามบัตรด้วยกล้องของ iPhone จากนั้นไฟล์ภาพจะถูกส่งไปให้พนักงานของ CardMunch ถอดมาเป็นข้อความให้ (เพื่อให้ข้อมูลถูกต้องกว่า image processing) แล้วเราจึงนำข้อมูลนี้มาใส่ในสมุดที่อยู่ของ iPhone ต่อไป
สำหรับผู้ใช้ Foursquare คงทราบดีว่าความสนุกของบริการนี้อย่างหนึ่งก็คือการเก็บ Badges ซึ่งเราจะได้รับเมื่อเช็กอินได้ตามเงื่อนไขที่ Badges นั้นกำหนดไว้ และเพื่อให้มันสนุกยิ่งขึ้นไปอีกวันนี้ Foursquare จึงประกาศการปรับปรุง Badge หลักทั้งหมด 24 ตัวให้มีคุณสมบัติเป็น Expertise Badges
ถ้าอธิบาย Expertise Badges ให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการทำเลเวลของ Badges นั้นๆ โดย Foursquare อธิบายเงื่อนไขของเลเวลไว้ว่า เลเวล 1 จะได้รับเมื่อเช็กอินสถานที่ตามเงื่อนไขครบ 5 ครั้งหรือเช็กอิน 3 สถานที่ๆ ต่างกันไป และเพิ่มขึ้นทุกๆ 1 เลเวลเมื่อเช็กอินต่างสถานที่เพิ่มทุก 5 สถานที่ ทำให้เลเวลของแต่ละ Badge สามารถเพิ่มได้เรื่อยๆ โดยจะแสดงตัวเลขเลเวลที่ทำได้ข้างกับ Badge นั้นๆ
เราเพิ่งผ่านวันเลขสวย 11.11.11 กันมาเมื่อสัปดาห์ก่อน และในโลกยุคโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างปัจจุบันนี้ สิ่งที่ชาวเน็ตทำจนเป็นธรรมเนียมคือทวีตข้อความเกี่ยวกับ 11.11.11 ออกไปบน Twitter
Twitter จึงนำข้อมูลการทวีตที่เกี่ยวข้องกับ 11.11.11 มาพล็อตลงแผนที่ และทำเป็นวิดีโอให้เห็นการเดินทางของกระแส 11.11.11 รอบโลกว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร จากวิดีโอเราจะเห็นการเคลื่อนตัวของ 11.11.11 สองรอบ เพราะมี 11.11am กับ 11.11pm นั่นเอง
ที่มา - Twitter Blog
หลายท่านอาจเคยได้ยินชื่อของระบบเครือข่ายสังคม Diaspora แบบผ่านหูผ่านตามาบ้าง โดย Diaspora นั้นเน้นการกระจายตัวและเปิดกว้าง โดยที่ใครๆก็สามารถนำระบบไปตั้งเป็นเครือข่ายของตัวเองได้
หนึ่งในสี่ผู้ก่อตั้ง Diaspora ชื่อ Ilya Zhitomirskiy ได้เสียชีวิตลงเมื่อวานนี้ ด้วยอายุเพียง 22 ปี โดยในขณะนี้ทาง Diaspora ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์หรือเปิดเผยสาเหตุของการเสียชีวิตแต่อย่างใด
ที่มา - TechCrunch