รวมข่าว Twitter (X) มีอะไรอัปเดตใหม่บ้าง
แอพทวิตเตอร์ชื่อดังอีกตัวอย่าง Echofon ออกรุ่นสำหรับ Android แล้ว โดยยังมีสถานะเป็น alpha และยังไม่ได้ขึ้น Play Store
Echofon Android ออกแบบให้ใช้สไตล์ Holo มีทั้งแบบสีเข้มและสีอ่อน ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็ตามมาตรฐานของแอพทวิตเตอร์ทั่วไปครับ
ใครสนใจก็ดาวน์โหลดกันได้จาก Echofon for Android ต้นทางไม่ระบุว่าใช้ได้กับ Android เวอร์ชันไหนบ้างครับ
ที่มา - @echofonbeta via Android Police
All Things D รายงานว่า Twitter เตรียมรุกเข้าสู่การบริการแชร์วิดีโอ โดยได้เข้าซื้อสตาร์ทอัพเพื่อซื้อตัวพนักงาน (acqhire) ในบริษัท Vine ซึ่งให้บริการแชร์วิดีโอสำหรับผู้ใช้ iPhone
ถ้าคุณไม่คุ้นชื่อบริการ Vine มาก่อนก็อย่าแปลกใจ เพราะบริการนี้เพิ่งก่อตั้งเมื่อเดือนมิถุนายนและยังไม่เปิดสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปด้วยซ้ำ โดย Vine นั้นแตกต่างจากผู้ให้บริการแชร์วิดีโอรายอื่น คือให้ผู้ใช้งานถ่ายวิดีโอและแชร์โดยระบบจะตัดต่อวิดีโอให้เองในความยาวประมาณ 6 วินาที (อาจจะบอกว่ามันคือ GifBoom ที่ภาพชัดกว่าและมีเสียงก็ได้) ลองดูตัวอย่างตามนี้ครับ [1], [2]
แท็บ Discover ถือเป็นฟีเจอร์ที่ Twitter หมายมั่นปั้นมือไว้มากว่าจะสามารถนำข้อความทวีตจำนวนมหาศาล มาสกัดออกเป็นข่าวที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ได้ (แม้ที่ผ่านมาจะยังทำได้ไม่ดีเท่าที่คาด)
ล่าสุด Twitter ออกมาประกาศว่าข้อความที่แสดงในแท็บ Discover จะถูกแสดงแบบ expanded mode คือขยายทวีตแสดงพรีวิวของภาพ-บทความ-วิดีโอ เพื่อให้เตะตาผู้ใช้มากขึ้นครับ
(ส่วนตัวแล้วผมว่าจะแสดงแบบไหนคงไม่ใช่ปัญหา แต่ต้องไปปรับปรุงอัลกอริทึมการเลือกข้อความให้มันตรงกับที่เราต้องการมากกว่านี้อีกเยอะ)
ที่มา - Twitter Blog
รายงานสถิติการใช้มือถือในสหรัฐ โดยบริษัท comScore ระบุว่า Instagram มีผู้ใช้เฉลี่ยต่อวัน (daily active users หรือ DAU) จำนวน 7.3 ล้านราย แซงหน้า Twitter ที่มี DAU 6.9 ล้านรายไปเรียบร้อยแล้ว (นับทั้งเว็บบนมือถือและการใช้จากแอพ ไม่นับรวมผู้ใช้บนเดสก์ท็อป)
นอกจากนี้รายงานของ comScore ยังให้ข้อมูลว่าผู้ใช้ Instagram ใช้เวลาอยู่กับมันเฉลี่ย 257 นาทีต่อเดือน (ข้อมูลเดือนสิงหาคม) ส่วนผู้ใช้ Twitter ใช้เวลา 170 นาทีต่อเดือน
แต่ถ้าดูสถิติในภาพรวม Twitter ยังมีผู้ใช้งานต่อเดือนสูงกว่าคือ 29 ล้านราย ส่วน Instagram มี 22 ล้านราย พอสรุปได้ว่า Instagram มีผู้ใช้ที่เหนียวแน่นกว่ามาก
ข้อมูลที่ comScore เปิดเผยมีแค่ 2 รายนี้ ยังไม่มีข้อมูลของ Facebook หรือ Google+ มาให้เทียบนะครับ
ในยุคที่โซเชียลเน็ตเวิร์คกลายเป็นเครื่องมือแจ้งเตือนภัยชั้นเยี่ยม และยังคงพัฒนาให้ดีขึ้นได้อีก โดย Twitter เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับประเทศญี่ปุ่น เพื่อรับมือกับภัยพิบัติโดยเฉพาะ
ฟีเจอร์ใหม่นี้มีชื่อว่า Lifeline ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติได้ง่ายขึ้น โดยสามารถหาว่าอยู่ในเขตประสบภัยหรือไม่ง่ายๆ ด้วยการค้นหาด้วยรหัสไปรษณีย์ และยังใช้หาข้อมูลสถานการณ์ต่างๆ แบ่งตามเวลาได้ละเอียดขึ้น และยังตั้งให้ส่งข้อความเตือนมายังอุปกรณ์ของเราได้อีกด้วย โดยข้อมูลเหล่านี้ Twitter ระบุว่าได้มาจากการร่วมมือกับรัฐบาล และการปกครองส่วนภูมิภาคของญี่ปุ่น
ตอนนี้ Lifeline ยังใช้ได้ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น และมีแผนจะขยายเพิ่มในอนาคตครับ (เชื่อว่าชั่วโมงนี้คนไทยคงอยากได้กันบ้างแล้ว)
จากเมื่อก่อนกูเกิลมีช่องทางโปรโมทแอพ Google Play ผ่านทาง Google+ ทางเดียว แต่ตอนนี้กูเกิลได้สมัครบัญชีทวิตเตอร์ @GooglePlay เพื่อการโปรโมทอีกทางหนึ่ง โดยทวีตแรกคือ
Hello world! Follow us for special promotions, exclusive content, updates, and awesomeness from Google Play.
ที่มา - Android Central
Dick Costolo ซีอีโอของทวิตเตอร์ได้เปิดเผยในงาน Online News Association Conference ว่าจะเปิดให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์สามารถดาวน์โหลดทวีตของตัวเองทั้งหมดได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้กำลังอยู่ในช่วงการพัฒนาและน่าจะเปิดให้ใช้ภายในสิ้นปีนี้
โดยบริการ Social Network รายใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Google+ ต่างก็มีบริการให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดข้อมูลของตัวเองออกมาได้ ต้องรอดูกันต่อไปว่าทวิตเตอร์จะเปิดให้ใช้ฟีเจอร์นี้ได้เมื่อไหร่
ที่มา - TechCrunch
ผู้ใช้ Twitter บางรายอาจพอรู้ว่าอวาตาร์ของบัญชี Twitter นั้นรองรับภาพสกุล GIF ซึ่งสามารถทำภาพเคลื่อนไหวได้
ล่าสุด Twitter อัพเดตเว็บไซต์เงียบๆ และมีผู้ใช้บางรายสังเกตว่าเมื่ออัพภาพเคลื่อนไหวเข้าไป ภาพกลับไม่เคลื่อนไหวดังเคย จนมีคนไปค้นเจอในหน้า Help Center จึงกระจ่างว่า Twitter ไม่รองรับภาพ GIF แบบเคลื่อนไหวได้แล้วนั่นเอง
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีผลกับผู้ใช้ในปัจจุบันเท่านั้น ใครที่ใช้อวาตาร์เคลื่อนไหวได้อยู่แล้ว จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงครับ
ที่มา - TechCrunch
Twitter ออกแอพบนแอนดรอยด์รุ่นใหม่ รหัส 3.4 ปรับฟีเจอร์ให้เท่ากับเว็บไซต์ และแพลตฟอร์ม iOS ที่อัพเดตไปก่อนหน้าแล้ว โดยฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมามีดังนี้
สำหรับผู้ที่อัพเดตเวอร์ชันนี้จะถูกตัดการอัพโหลดภาพจาก third-party ไป และจะสามารถใช้ได้เฉพาะ pic.twitter (ซึ่งทำร่วมกับ Photobucket) เท่านั้นครับ
ที่มา - Android Central
วันนี้นอกจาก Twitter จะอัพเดตแอพ iPad แล้ว ยังปรับตัวหน้าโปรไฟล์ของผู้ใช้บนเว็บอีกด้วย
หน้าโปรไฟล์แบบใหม่จะคล้ายกับภาพ cover ที่เราคุ้นตากันบน Facebook และมีอวาตาร์เป็นกรอบอยู่ตรงกลางของภาพ รวมถึงย้ายจำนวนทวีต ตัวเลขตามคน/คนตาม มาไว้ใต้ภาพ (แต่เดิมไว้ทางขวา)
สำหรับวิธีการใส่ภาพบนหน้าโปรไฟล์สามารถทำได้โดยเข้าไปที่หน้า Settings > Design และเลือก Change Header เพื่อเปลี่ยนภาพได้ โดยขนาดของภาพเล็กสุดอยู่ที่ 1252x626 พิกเซล เมื่อใส่ภาพแล้วจะได้ใช้หน้าโปรไฟล์ใหม่โดยอัตโนมัติครับ
หลังจากนี้ Twitter จะทยอยเปลี่ยนแอพหลักของแต่ละแฟลตฟอร์มให้ใช้การออกแบบนี้ทั้งหมด ตามหลัง iPad ที่ออกมาก่อนแล้ว ดูภาพตัวอย่างได้ท้ายข่าวครับ
Twitter อัพเดตเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด (เวอร์ชัน 5.0) สำหรับ iPad และ iPhone
ความเปลี่ยนแปลง ในเวอร์ชันนี้ (สำหรับแอพบน iOS)
อัพเดตได้แล้ววันนี้ที่ App Store
Twitter ออกแอพเวอร์ชัน 5.0 สำหรับ iOS โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่คือเวอร์ชันบน iPad ที่ปรับปรุงหน้าตาให้เข้ากับ Twitter ในแพลตฟอร์มอื่นๆ (ที่ปรับปรุงไปก่อนหน้ากันนานแล้ว)
หากใครเคยใช้โปรแกรม Dropbox จะทราบดีว่าปรกติจะสามารถแชร์ไฟล์หรือภาพถ่ายผ่านอีเมลและก๊อปปี้ไปยังคลิปบอร์ดได้เท่านั้น ทำให้ไม่ค่อยสะดวกในการใช้งานเท่าไร แต่การอัพเดทครั้งล่าสุดนี้แอพ Dropbox สามารถแชร์โพสต์ไปทั้ง Facebook และ Twitter ได้แล้ว รวมถึง AirPrint ที่จะช่วยให้ผู้ใช้แมคเองสามารถพิมพ์ภาพและเนื้อหาต่างๆ ได้โดยตรง
Dropbox นี้รองรับ iOS 4.0 ขึ้นไป ดาวน์โหลดอัพเดตโปรแกรม Dropbox ได้ที่นี่ App Store
ที่มา - The Next Web
ข่าวลือจากเว็บไซต์ Buzzfeed อ้างแหล่งข่าววงในว่า Twitter เตรียมกระชับพื้นที่ไปอีกขั้น ขอพื้นที่ฝากรูปภาพคืนจากบรรดาเว็บฝากรูปยอดนิยมอย่าง yFrog, TwitPic, img.ly เป็นต้น
ทุกวันนี้แอพอย่างเป็นทางการของ Twitter สามารถเลือกบริการฝากรูปภาพจากบริษัทอื่นๆ นอกเหนือจากที่ฝากรูปของ Twitter เองได้ แต่ถ้าข่าวลือเป็นความจริง เราไม่เห็นบริการอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้นี้
ผู้ก่อตั้ง TwitPic (ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับ Twitter ให้ความเห็นต่อข่าวลือนี้ว่า Twitter ต้องการควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในแอพของตัวเอง เนื่องจากพวกเขาต้องการทำเงินจากโฆษณาภายในแอพนั่นเอง เขาบอกว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ล่วงหน้า แต่มันก็ส่งผลสะเทือนต่อบริษัทเล็กๆ ที่รายล้อมบริการหลักของ Twitter อยู่
Charlie Miller แฮกเกอร์และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยที่เคยฝากผลงานไว้ทั้งในการแข่งขัน Pwn2Own และผลงานการแจ้งช่องโหว่ผลิตภัณฑ์แอปเปิลได้ทวีตเกี่ยวกับงานใหม่ในตำแหน่งหนึ่งในทีมด้านความปลอดภัยของทวิตเตอร์
สำหรับ Miller นั้นเคยทำงานเป็นเป็นนักวิเคราะห์ระบบความปลอดภัยให้กับ National Security Agency (NSA) โดยปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาด้านการวิจัยความปลอดภัยให้กับบริษัท Accuvant ด้วย
เพิ่งมีทวีต MG Siegler ระบุว่า Twitter จะเลิกพัฒนาไคลเอนต์หลักบนแพลตฟอร์ม OS X อย่าง Twitter for Mac แล้ว โดยจะไม่มีการอัพเดตใดๆ อีกในอนาคต แต่ผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้
การตัดสินใจของ Twitter ครั้งนี้ถือว่าแปลกมาก หลังจากเพิ่งปรับ API ที่เรียกได้ว่าหักคอนักพัฒนาภายนอก แต่จู่ๆ ก็เลิกทำไคลเอนต์ของตัวเองอย่างกระทันหัน (แถมเป็นตัวที่คนไม่ค่อยบ่นด้วย)
ตอนนี้ Twitter ยังไม่ออกมาบอกอะไรเกี่ยวกับการเลิกทำ Twitter for Mac ในครั้งนี้ ซักพักคงมีข้อมูลเพิ่มเติมครับ
Twitter ประกาศแผนปรับ API เวอร์ชันใหม่เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ซึ่งเพิ่มเงื่อนไขเรื่องจำนวนผู้ใช้ของแต่ละไคลเอนต์เข้ามา สร้างเสียงวิจารณ์อย่างหนักในแวดวงสื่อออนไลน์
วันนี้ Twitter เปิดตัว API เวอร์ชัน 1.1 อย่างเป็นทางการแล้ว สิ่งสำคัญที่เปลี่ยนไปนอกจากเรื่องจำนวนผู้ใช้งาน คือการตัดฟอร์แมตของข้อมูลออกไปบางส่วน ฟอร์แมตที่โดนตัดคือ RSS/XML/Atom เหลือแต่เพียง JSON เท่านั้น (สำหรับคนที่อาจไม่ทราบ เดิมที Twitter อนุญาตให้นักพัฒนาสามารถดึงข้อมูลในรูป RSS ได้ และมีแอพหลายตัวที่ใช้วิธีนี้ดึงข้อความทวีตไปใช้งาน) บริษัทระบุว่าตัดออกไปเพราะคนใช้น้อยมาก และจะเลิกให้บริการ RSS/XML/Atom อย่างถาวรในวันที่ 5 มีนาคม 2013
อนาคตของไคลเอนต์ทวิตเตอร์อาจเริ่มมืดมนลงเรื่อยๆ ตามที่บริษัทตั้งใจเอาไว้ วันนี้เราเริ่มเห็นข่าวไคลเอนต์ที่แข่งขันไม่ได้อย่าง Seesmic ถูกไคลเอนต์อีกรายอย่าง HootSuite ซื้อกิจการเป็นที่เรียบร้อย
HootSuite เป็นบริการสำหรับโพสต์ไปยังเครือข่ายสังคมหลายยี่ห้อ-หลายบัญชี และเน้นลูกค้ากลุ่มบริษัท-แบรนด์ที่หาตัวช่วยจัดการเครือข่ายสังคม (มีเวอร์ชันจ่ายเงินแลกกับฟีเจอร์เพิ่มเติม) ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 4.5 ล้านราย ในขณะที่ Seesmic ช่วงหลังมีคนใช้น้อยลงเรื่อยๆ จนเหลือผู้เข้าชมเว็บประมาณวันละ 3-4 หมื่นรายเท่านั้น
HootSuite ให้เหตุผลของการซื้อกิจการครั้งนี้ว่าต้องการฐานลูกค้ากลุ่มองค์กรของ Seesmic เป็นหลัก
หลังจาก Tweetbot for Mac Alpha โดนพิษ Twitter API จนต้องหยุดให้ดาวน์โหลด มีคนเสนอให้ออกเวอร์ชันทดสอบต่อโดยตัดความสามารถในการเพิ่ม account (คนที่จะใช้ได้ ต้องใช้เวอร์ชัน Alpha มาก่อน และใช้ได้เพียง account เดียวเท่านั้น) และ Tapbots ก็ทำตามคำเรียกร้อง เปิดเวอร์ชัน Beta ให้ดาวน์โหลด มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่และแก้บั๊กหลายรายการ
Tweetbot for Mac Beta จะเพิ่มหรือ re-authorize account ไม่ได้ ถ้าลบหรือ re-authorize account แล้ว จะเพิ่มไม่ได้จนกว่าเวอร์ชันจริงจะออก
ที่มา: Tapbots
ผมลองดูแล้ว ถ้ากดปุ่ม add account แล้ว จะ redirect ไปยังหน้าของที่มาครับ
ผู้ใช้ Twitter คงคุ้นเคยกับโฆษณาผ่านทวีตที่เรียกว่า "Promoted Tweets" ที่จะแสดงต่อเมื่อกดตามบัญชีของแบรนด์ต่างๆ บน Twitter และในภายหลังปรับปรุงให้แสดงตามคีย์เวิร์ดที่ค้นหาเพิ่มขึ้นมา ตัวเลขสุดท้ายที่มีบริษัทเก็บมาได้คือคนคลิกประมาณ 3-5%
แต่จากนี้ไปโฆษณาผ่าน Promoted Tweets จะทรงพลังยิ่งขึ้น หลังจาก Twitter อัพเดตให้สามารถเลือกแสดงผลทวีตโฆษณาจากความสนใจของผู้ใช้ได้แล้ว โดยสามารถเลือกหัวข้อความสนใจได้สองระดับ ซึ่งมีให้เลือกมากถึง 350 ประเภท (ดูตัวอย่างได้จากที่มา)
ท่าทีของ Twitter ที่มีต่อนักพัฒนาภายนอกนับวันจะยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่การไม่แสดงผลว่าทวีตจากแอพใด โดยเริ่มจากแอพทางการของ Twitter ตามมาด้วยนโยบาย API ใหม่ที่จำกัดการใช้ของแอพของนักพัฒนาภายนอก
ล่าสุดทางฝั่งเว็บ Twitter อัพเดตใหม่ให้ไม่แสดงว่าทวีตนั้นมาจากแอพใดเหมือนแอพบนมือถือแล้ว ซึ่งแต่เดิมตัวแท็กที่บอกว่าทวีตมาจากแอพใดจะมาพร้อมกับ timestamp ของแต่ละทวีต และจะพ่วงมาพร้อมกับลิงค์ให้ไปดาวน์โหลดแอพดังกล่าว ท่าทีของ Twitter ในครั้งนี้ยิ่งตอกย้ำชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่า จะไม่เอาแอพจากนักพัฒนาภายนอกอีกต่อไปแล้ว
นโยบายการให้สิทธิ API token ใหม่ของ Twitter เริ่มมีผลกับผู้ใช้บางส่วนบ้างแล้ว หลังจาก Tapbots ผู้พัฒนาแอพเล่น Twitter ชื่อดังอย่าง Tweetbot หยุดให้ดาวน์โหลด Tweetbot for Mac ที่เพิ่งปล่อยรุ่นทดสอบไปได้ราวหนึ่งเดือน
Tapbots ชี้แจงเหตุผลผ่านบล็อกทางการว่าหยุดให้ดาวน์โหลด Tweetbot for Mac รุ่นทดสอบเนื่องจากมีจำนวนผู้ใช้ถึงปริมาณที่ Twitter กำหนดแล้ว ทีมทาง Tapbots ได้เข้าไปคุยกับ Twitter เพื่อหาทางแก้ปัญหา แต่ไม่ได้ผล ทีมจึงตัดสินใจยุติการดาวน์โหลดรุ่นทดสอบแต่เพียงเท่านี้
นอกจากนี้ในบล็อกยังอธิบายถึงหลักการของนโยบาย API ใหม่พอสรุปได้คร่าวๆ ดังนี้
การตัดความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลของ Twitter API ยังคงดำเนินต่อไป จากที่ก่อนหน้านี้ Twitter ได้ประกาศจำกัดจำนวนผู้ใช้งานผ่าน client ไป ล่าสุดบริการบล็อกยอดนิยมอย่าง Tumblr ก็ถูก Twitter ตัดคุณสมบัติค้นหาเพื่อนบน Twitter ด้วยอีกรายเหมือนที่ Instagram เจอก่อนหน้านี้ โดยคุณสมบัติค้นหาเพื่อนผ่านเครือข่ายสังคมอื่นที่ Tumblr ยังมีเหลือคือ Facebook และ Gmail
โฆษกของ Tumblr ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า Tumblr ถือเป็นหนึ่งในผู้ร่วมสนับสนุนการใช้งาน Twitter API ตั้งแต่ยุคแรก การตัดสินใจระงับการเข้าถึงข้อมูล Twitter นี้จึงเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังมาก
Gizmodo ได้โพสต์บทความเกี่ยวกับความพยายามของทวิตเตอร์ ที่ต้องการตัดลมหายใจ third-party client ต่าง ๆ ด้วย API ใหม่ว่าเป็นความคิดไม่ถูกต้อง และหนึ่งในเหตุผลคือแอพของทวิตเตอร์เองห่วยแตก เมื่อเปรียบเทียบกับของนักพัฒนาอิสระ
และที่สำคัญไปกว่านั้น ถ้าไม่มี client จากนักพัฒนาอิสระ ทวิตเตอร์ก็คงจะไม่มีวันนี้ โดย Craig Hockenberry ผู้พัฒนาแอพ Twitterific ได้ลิสต์สิ่งต่าง ๆ ที่ทวิตเตอร์ได้มาจากนักพัฒนาอิสระและชุมชนผู้ใช้ทวิตเตอร์ เช่น
เมื่อสักครู่นี้ทวิตเตอร์ได้โพสต์รายละเอียด API ใหม่ โดย API ใหม่นี้จะเริ่มจำกัดจำนวนผู้ใช้งาน third-party client แล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้พัฒนาแอพอย่าง Tweetbot หรือ Twicca และแอพอื่น ๆ ทุกแอพที่ไม่ได้ผลิตโดยทวิตเตอร์จะถูกจำกัดว่าจะมีลูกค้าใช้งานแอพของตัวเองได้กี่คน
สำหรับจำนวนผู้ใช้ที่ทวิตเตอร์มอบหมายให้แต่ละแอพ จะมาจากจำนวนผู้ใช้ปัจจุบันทุกวันนี้คูณสอง เช่น ถ้าวันนี้มีผู้ใช้ Tweetbot อยู่จำนวน 10 ล้านคน Tweetbot จะสามารถรับจำนวนผู้ใช้เพิ่มได้อีกเท่าตัว และจำนวนผู้ใช้สูงสุดจะอยู่ที่ 20 ล้านคน และมากกว่านี้ไม่ได้แล้วนอกเสียจากจะขออนุญาตทวิตเตอร์ในภายหลัง