ไมโครซอฟท์ออกมากระตุ้นให้ผู้ใช้ Windows XP อัพเกรดไปใช้ Windows 7 อีกรอบ โดยบอกว่าจะสนับสนุนและออกแพตช์ให้ Windows XP อีก 1,000 วันเท่านั้น

ตอนนี้ Windows XP อยู่ในสถานะที่เรียกว่า "Extended Support" ซึ่งในวันที่ 8 มิถุนายน 2014 ไมโครซอฟท์จะเลิกออกแพตช์ทุกชนิดให้กับ XP ดังนั้นองค์กรที่ยังใช้ XP อยู่จะมีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยทันที

ไมโครซอฟท์ยังอ้างรายงานของ Gartner ว่าถ้าองค์กรขนาดใหญ่ไม่เตรียมอัพเกรด XP ภายในต้นปี 2012 ก็จะย้ายระบบเสร็จไม่ทันระยะ Extended Support ของ XP (ดังนั้นจงรีบๆ ซื้อ Windows 7 กันซะ)

ข้อมูลล่าสุดจากบริษัทวิจัย Forrester Research สำรวจส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการที่ใช้ในองค์กรในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา (นับจาก เม.ย. 2010-มี.ค. 2011) พบว่า Windows XP ยังครองแชมป์แบบทิ้งห่าง

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ไมโครซอฟท์ได้ออกแพตช์สำคัญให้กับ XP และ Vista นั่นคือปิดฟีเจอร์ AutoRun อันเป็นเหตุสำคัญของไวรัสและมัลแวร์

วันนี้เวลาผ่านมาเกือบครึ่งปี ไมโครซอฟท์ออกมาเผยสถิติว่าปัญหาจากมัลแวร์ Autorun ลดลงไปมาก สถิติจาก Microsoft Malicious Software Removal Tool ระบุว่ามัลแวร์สาย Autorun ยอดนิยมลดลงไปดังนี้

• Windows XP SP3 ลดลง 62%
• Windows Vista SP1 ลดลง 68%
• Windows Vista SP2 ลดลง 82%

รายละเอียดที่เหลืออ่านกันเองตามกราฟนะครับ

ใครที่อยากใช้บริการ iCloud บนวินโดวส์และยังใช้ Windows XP และ/หรือ Office 2003 อยู่คงต้องเตรียมอัพเกรดซะแล้ว เพราะแอปเปิลได้ระบุใน press release ถึงความต้องการขั้นต่ำในการรันโปรแกรม iCloud บนแพลตฟอร์มวินโดวส์ว่าต้องการ Windows Vista หรือ Windows 7 ส่วนชุดออฟฟิศนั้นก็ต้องการ Outlook 2007 หรือ Outlook 2010 ในการเรียกดูข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อและปฏิทิน

ดูเหมือนนโยบายสนับสนุนความเข้ากันได้แบบย้อนกลับ (backwards compatibility) ของแอปเปิลจะเปลี่ยนไป เนื่องจากโปรแกรมตัวอื่นอย่าง iTunes 10.3 และ MobileMe ยังสามารถใช้งานบน Windows XP SP2 ได้ แต่ iCloud กลับไม่สามารถใช้งานบน Windows XP ได้แล้ว

หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ (The National Security Agency หรือ NSA) ได้แนะนำให้ผู้ที่กำลังใช้ Windows XP อัพเกรดไปใช้ Windows Vista หรือ Windows 7 แทนได้แล้ว และถ้าเป็นไปได้ให้เลือกเวอร์ชันระบบ 64 บิตไปเลย

จากสถิติของ StatCounter ตอนนี้ส่วนแบ่งตลาดของวินโดวส์ในสหรัฐอเมริกา Windows 7 สามารถแซง Windows XP ได้แล้ว

Windows 7 ออกในเดือนตุลาคม 2009 และใช้เวลาไม่ถึง 2 ปีดี แย่งส่วนแบ่งตลาดมาจาก XP รุ่นยอดนิยมตลอดกาลได้สำเร็จ

สหรัฐอเมริกาไม่ใช่ประเทศแรกที่ Windows 7 แซง XP ได้ โดยประเทศที่ทำได้แล้วคืออังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย เดนมาร์ก เยอรมนี เบลเยียม ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน

Windows XP ยังมีส่วนแบ่งมากที่สุดในตลาดโลกคือ 46.87% ส่วน Windows 7 มี 31.17%

เนื่องจาก ไมโครซอฟท์เคยประกาศว่าหลัง 22 ต.ค. ผู้ผลิตเน็ตบุ๊กจะไม่ติดตั้ง Windows XP แล้ว ทางผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง Dell ได้ออกมารับลูกโดยบอกว่าจะไม่ขายพีซีที่ติดตั้ง Windows XP มาให้จากโรงงานอีกต่อไป โดยเส้นตายของ Dell จะเร็วกว่าของไมโครซอฟท์คือภายในเดือนกันยายนนี้

Dell ได้แนะนำให้ลูกค้าองค์กรว่าควรเปลี่ยนไปใช้ Windows 7 แล้วทำงานผ่าน XP Mode หรือไม่ก็ต้องสั่งเครื่องเปล่าแล้วไปลง XP เอาเอง สำหรับเรื่องไดรเวอร์ของ Windows XP นั้น Dell สัญญาว่าจะมีให้ถึงเดือนธันวาคม 2012

ในวันเดียวกับที่ปล่อย Windows 7 และ Windows Server 2008 R2 SP1 เบต้าให้ดาวน์โหลด (ดูข่าวเก่า) ไมโครซอฟท์ได้ประกาศว่าจะต่อเวลาสิทธิ์ดาวน์เกรดจาก Windows 7 Professional หรือ Ultimate กลับไป Windows XP Professional จนถึงวันสิ้นสุดวงจรชีวิตของ Windows 7 จากเดิมที่สิทธิ์ดาวน์เกรดไปยัง Windows XP นี้จะหมดอายุลงภายใน 18 เดือนนับจากวันที่ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 7 RTM หรือวันที่ปล่อย Windows 7 SP1

Windows 7 Professional มีวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (product life-cycle) จนถึงเดือนมกราคม ค.ศ.2020 ส่วน Ultimate นั้นมีวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์น้อยกว่า Professional อยู่ 5 ปี

ในที่สุด Windows XP ก็ยังมีลมหายใจต่อไปได้อีกสักพักใหญ่เลยทีเดียว

ไมโครซอฟท์ได้ประกาศผ่าน The Windows Blog ว่าตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค. เป็นต้นไป ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ OEM จะไม่สามารถติดตั้ง Windows XP Home Edition ลงเน็ตบุ๊กของตนได้อีกแล้ว

ที่มา: The Windows Blog ผ่าน ZDNet

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ผู้อำนวยการ Microsoft Security Response Center (MSRC) ได้ออกมายืนยันผ่านเว็บไซต์ว่า BSOD และอาการรีบู๊ตเครื่องที่เกิดขึ้นหลังจากติดตั้งแพตช์อัพเดท MS10-015 (977165) กับผู้ใช้จำนวนหนึ่งนั้นเครื่องนั้นเกิดจากรูทคิท Alureon ไม่ได้เกิดจากแพตช์อัพเดทดังกล่าวแต่อย่างไร

Jerry Bryant ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ด้านการรักษาความปลอดภัย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใน Microsoft Security Response Center (MSRC) ว่า Blue Screen Of Death (BSOD) ที่อาจเกิดจากการอัพเดตแพตช์หมายเลข 977165 (ดูข่าวเก่า โดยคุณ lew) อาจเกิดจากมัลแวร์ในคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งแพตช์นั้น เขายังกล่าวเสริมว่าบริษัทกำลังค้นหาสาเหตุที่แท้จริงและยังไม่ตัดประเด็นอื่นที่อาจทำให้เกิด BSOD ออกไป

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาไมโครซอฟท์ได้ปล่อยแพตซ์ความปลอดภัยตามรอบเวลาปรกติ แต่ปรากฏว่ามันทำให้ผู้ใช้ Windows XP จำนวนหนึ่งเครื่องขึ้นจอฟ้าและไม่สามารถบูตเครื่องได้อีกเลย

แพตซ์เจ้าปัญหานี้คือแพตซ์หมายเลข 977165 ที่แก้บั๊กในเคอร์เนลเพื่อป้องกันการเข้าถึงสิทธิ์ที่สูงกว่าปรกติ ส่วนการแก้ปัญหาจำเป็นต้องบูตเครื่องใหม่ผ่านทางซีดีรอมเพื่อไปพิมพ์คำสั่งถอนแพตซ์นี้ออกด้วยมือ (ดูวิธีได้ในที่มา) สำหรับคนที่ใช้เน็ตบุ๊กนั้นปัญหาจะยากขึ้นไปอีกเพราะต้องหาแฟลชไดร์ฟมาใช้งานเพื่อบูตกัน

ว่าแล้วก็ระวังแพตซ์ตัวนี้ให้ดีๆ ใครดูแล Windows Server Update Services อยู่ก็อย่าปล่อยออกไปนะครับ

เมื่อสัปดาห์ก่อนหลายคนคงได้เห็นข่าวที่กลุ่มนักพัฒนาชาวจีนสร้าง Ubuntu distribution ชื่อ Ylmf OS โดยเลียนแบบส่วนติดต่อผู้ใช้ของวินโดวส์เอ็กซ์พี (ดูรูปได้จากที่มา) หลายคนคิดว่าไมโครซอฟท์คงจะรีบฟ้องกลับอย่างรวดเร็ว แต่ไมโครซอฟท์กลับแจ้งว่ากฏหมายต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ไม่สามารถใช้ได้กับกรณีนี้ ดังนั้นจะขอศึกษากฎหมายปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาที่มีอยู่ก่อน แต่ไมโครซอฟท์ยังกล่าวอีกว่าเป็นยากที่จะพูดถึงทางเลือกของกฎหมาย เนื่องด้วยมันขึ้นอยู่กับกฎหมายในแต่ละประเทศ (ในที่นี่คือประเทศจีน) และการ implement ของ Ylmf OS เองด้วย

ที่มา: Ars Technica

หลังจากมีข่าวว่าไมโครซอฟท์จะให้สิทธิ์การดาวน์เกรดจาก Windows 7 กลับไปยัง Windows Vista และ Windows XP จนถึงเดือนเมษายนของปีค.ศ.2010 เท่านั้น หลังจากนั่นจะมีสิทธิ์ดาวน์เกรดกลับไปได้แค่ Windows Vista เท่านั้น โดยแผนการดังกล่าวได้หลุดลอดมาจากบันทึกระหว่างไมโครซอฟท์กับบริษัท HP(ดูข่าวเก่าจาก AppleInsider ได้ที่นี่) ในที่สุดโฆษกไมโครซอฟท์ก็ได้ให้ข่าวผ่าน ComputerWorld ว่าจะขยายเวลาให้สิทธิ์การดาวน์เกรดไป Windows XP จนถึงเดือนเมษายนของปีค.ศ.2011 ห

Tech ARP ได้เปิดเผยข้อมูลวงในว่า ไมโครซอฟท์เตรียมที่จะมอบสิทธิ์การดาวน์เกรด (downgrade rights) ให้กับผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง Windows 7 Professional หรือ Ultimate จากโครงงาน (OEMs) ไปเป็น Windows Vista Business หรือ Ultimate หรือ Windows XP Professional ได้ นอกจากนั้นยังอาจมอบสิทธิ์ให้ผู้กับใช้งานทั่วไป (End User) สามารถดาวน์เกรดจาก Windows 7 Professional หรือ Ultimate ไปเป็น Windows Vista Business หรือ Windows XP Professional ได้เช่นกัน

แล้วเมื่อไรไมโครซอฟท์จะจบชีวิต Windows XP เสียที หรือ Windows Vista จะจบชีวิตไปก่อน Windows XP ละเนี่ย!?