หลังจากที่พบว่าผู้ใช้ในองค์กรส่วนใหญ่ยังคงใช้ Windows XP อยู่ (ข่าวเก่า) แต่โปรโมชั่นการ Downgrade จาก Vista เป็น XP ตามกำหนดเดิมจะหมดในวันที่ 31 มกราคมปีหน้านั้น ตอนนี้ไมโครซอฟท์ได้ออกมาขยายเวลาอีก 6 เดือนเป็นวันที่ 31 กรกฎาคม ปีหน้าแล้ว

แหล่งข่าวจาก Microsoft บอกว่าการขยายเวลาดังกล่าว จะช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถค่อยๆ เปลี่ยนมาใช้ Vista ได้สบายขึ้น "เราต้องการให้ผู้ใช้มั่นใจว่าการเปลี่ยนไปใช้ Vista นั้นทำได้อย่างมั่นใจและราบรื่นมากที่สุด การเพิ่มระยะเวลาในการ Downgrade จึงอยู่ในแผนการนี้ด้วย"

ไมโครซอฟต์ได้ประกาศเปิดตัว Windows HPC server 2008 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์สำหรับการสร้างระบบคลัสเตอร์ที่ใช้วินโดวส์เป็นหลักเมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา (ข่าวช้าไปหน่อย) ในงานนอกจากจะมีผู้เล่นรายใหญ่ในวงการอย่าง Intel, AMD, IBM หรือ HP มาร่วมงานแล้ว ยังมีบริษัทผู้ใช้ที่ได้ทดสอบการใช้งานซอฟต์แวร์ดังกล่าวมาก่อน อย่าง Morgan Stanley หรือ LLoyds TSB Bank มาร่วมงานด้วย และมีบริษัท Milliman ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนาแอพลิเคชั่นทางด้านการเงินและการธนาคารมาร่วมเปิดตัวโปรแกรมเวอร์ชันสำหรับ Windows HPC server 2008 โดยเฉพาะอีกด้วย

ข่าวจากบล็อกอย่างเป็นทางการของ Amazon ได้เปิดเผยว่า ก่อนสิ้นปีนี้ บริการการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆภายใต้ชื่อ Amazon EC2 จะสามารถรองรับคอมพิวเตอร์เสมือน (virtual machine) ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows Server ทั้งแบบ 32 บิตและ 64 บิต

แต่เดิม Amazon EC2 สนับสนุนคอมพิวเตอร์เสมือนที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการตระกูล Linux และ Solaris เท่านั้น การสนับสนุน Windows บน Amazon EC2 ครั้งนี้ นับเป็นโอกาสทองของ Amazon ให้สามารถดึงดูดลูกค้าในกลุ่มผู้ใช้ Windows ซึ่งมีจำนวนมากได้ และลูกค้ายังสามารถเข้าไปใช้งานคอมพิวเตอร์เสมือนที่ฝากบน Amazon EC2 ผ่านโปรแกรมอย่าง Remote Desktop Connection หรือ rdesktop ได้อีกด้วย

Steve Ballmer ซีอีโอของไมโครซอฟท์ เปิดเผยถึงระบบปฏิบัติการ Windows ตัวใหม่ภายใต้ชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า "Windows Cloud" โดยกลุ่มเป้าหมายของ Windows Cloud คือ ผู้ที่ต้องการพัฒนาซอฟท์แวร์เพื่อการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ (Cloud Computing) และ Windows Cloud จะเปิดตัวและประกาศชื่ออย่างเป็นทางการในงาน Professional Developers Conference (PDC2008) ที่กำลังจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 - 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551 นี้ ที่ลอสแอนเจลิส

มีรายงานจาก Net Application ที่ตรวจสอบการใช้งานของเว็บกว่า 40,000 เว็บไซต์ในเดือนล่าสุดว่าปริมาณรวมของผู้ใช้เว็บเหล่านั้นในตอนนี้ มีผู้เข้าเว็บจาก OS X ถึงร้อยละ 8.23 ถือว่าสูงที่สุดในปีนี้ และสูงที่สุดเท่าที่ Net Application เคยจับสถิติมาตั้งแต่ปี 2006

ผู้ที่เสียตลาดไปก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากวินโดวส์จากไมโครซอฟท์ ที่ตลอดทั้งปีเสียส่วนแบ่งไปร้อยละ 1.5 มายืนอยู่ที่ร้อยละ 90.3 งานนี้ไมโครซอฟท์อาจจะหมิ่นเหม่ตกขอบร้อยละ 90 ภายในปีนี้เอาได้เหมือนกัน แต่เนื่องจากช่วงเดือนกันยายนเป็นช่วงของการลดราคาช่วงปิดเทอมของแอปเปิลซึ่งทำมาเป็นประจำทุกๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจภายในเดือนเดียว ไมโครซอฟท์จะเสียส่วนแบ่งไปถึงร้อยละ 0.4

CNET รายงานว่าไมโครซอฟท์ตัดสินใจถอดโปรแกรม 3 ตัว คือ Windows Photo Gallery, Windows Mail และ Windows Movie Maker ออกจาก Windows 7

เหตุผลก็คือทั้ง 3 ตัวนี้มาพร้อมกับ Vista แต่ว่าไมโครซอฟท์กำลังพัฒนาโปรแกรมแบบเดียวกันในตระกูล Windows Live (ไม่ใช่ Windows เฉยๆ) ให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแยกเอง ซึ่งผลก็คือมีโปรแกรมซ้ำซ้อนกันจำนวน 2 ชุด ซึ่งเมื่อถึงเวลาต้องเลือกข้างแล้ว ไมโครซอฟท์ตัดสินใจยืนอยู่ข้าง Windows Live ที่ใหม่กว่า

หลังจากข่าวเก่าเรื่อง Paint/Wordpad ใน Windows 7 จะมี Ribbon แล้วตอนนี้เริ่มมีข่าวลือพร้อมภาพหลุดมาจาก Windows 7 ออกมาอีกแล้วครับ

แหล่งข่าวนี้ออกมาจาก Thinknext.net มีการเผยแพร่ภาพที่อ้างว่าเป็น Windows 7 M3 Build 6780 โดยจากภาพสังเกตได้ว่าไม่ค่อยมีอะไรแตกต่างไปจาก Windows Vista เสียเท่าไหร่

Paint กับ WordPad ก็เป็นโปรแกรมที่อยู่คู่กับวินโดวส์มานานมาก (แถมแทบไม่เปลี่ยนแปลง) แต่ใน Windows 7 Milestone 3 ทั้งสองโปรแกรมได้ถูกปรับให้ใช้ทูลบาร์แบบ Ribbon เหมือนกับ Office 2007 แล้ว

• screenshot ของ Paint
• screenshot ของ WordPad

การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจนัก เพราะว่า Steven Sinofsky หัวหน้าทีมวินโดวส์คนปัจจุบันก็คุม Office 2007 มาก่อน และยกลูกทีมเดิมตามมาอีกหลายคน

ทีมงานของไมโครซอฟท์เขียนบล็อกลงใน Engineering Windows 7 ถึงประเด็นเรื่องความเร็วในการบูตเครื่อง สำหรับ Windows 7 นั้นไมโครซอฟท์มีทีมเฉพาะมาเพื่อการบูตเครื่องโดยตรง ข้อมูลที่ไมโครซอฟท์บอกคือ ตอนนี้มีเครื่องในห้องทดสอบสามารถบูตขึ้นภายใน 15 วินาที (ไม่ได้บอกละเอียดว่านับจากตอนไหนนะครับ)

ความเร็วการบูตเครื่องต่างกันมากตามแต่ละฮาร์ดแวร์ ตัวเลขของ Windows Vista SP1 ที่มีคนเก็บสถิติ บอกว่า 35% ของเครื่องที่ทดสอบสามารถบูตเสร็จภายใน 30 วินาที และ 75% ของเครื่องทั้งหมดบูตเสร็จภายใน 50 วินาที ซึ่งไมโครซอฟท์บอกว่ายังไม่พอใจ

เชื่อว่าคนอ่านของเราคงรู้จักโฆษณา "I'm PC. I'm Mac" ของแอปเปิลกันดี ไม่ต้องอธิบายเพิ่มนะครับ

ฝั่งไมโครซอฟท์ซึ่งเป็น "ผู้ถูกกระทำ" ตลอดมา ได้ลุกขึ้นเตรียมตอบโต้แล้ว โดยชุดแรกไมโครซอฟท์ได้ปล่อยโฆษณาว่า Vista ดีกว่าที่คิดออกมาเป็นระยะผ่านทางแบนเนอร์ตามเว็บต่างๆ ถัดมาก็ทำการทดลองออกวินโดวส์รุ่นใหม่ชื่อว่า "Mojave" (ซึ่งเป็น Vista แค่เอามาเปลี่ยนชื่อ) และผลปรากฎว่าผู้ทดลองใช้กลับรู้สึกดี ไมโครซอฟท์นำผลการทดลองนี้มาโฆษณาว่า Vista จริงๆ นั้นดี เพียงแต่ว่าข่าวที่ออกมาทำให้คนติดภาพแย่ๆ เท่านั้น (Ars Technica) สองอันนี้ข่าวเก่าแล้ว

ถึงแม้ว่า XP จะไม่มีขายมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์อีกต่อไปแล้ว แต่มีข่าวว่าผู้ขายคอมพิวเตอร์อย่าง HP นั้นแอบขายเครื่องที่ติดตั้ง XP อย่างแอบๆ โดยอาศัยช่องโหว่ใน EULA ของ Vista บางรุ่น (Business และ Ultimate) ที่อนุญาตให้ดาวน์เกรดเป็น XP ได้

เว็บไซต์ Infoworld ซึ่งพัฒนาซอฟต์แวร์ Windows Sentinel สำหรับมอนิเตอร์สภาพเครื่องให้ดาวน์โหลดฟรี ได้ประมวลผลข้อมูลจากผู้ใช้ของตัวเอง พบว่ามีเครื่องจำนวนมากกว่า 3,000 เครื่องหรือ 35% ของผู้ใช้ Windows Sentinel ได้ดาวน์เกรดมาเป็น XP (หรือ Windows 2003/2008 ในบางกรณี)

ในโลกลินุกซ์นั้นเทคโนโลยี Virtualization กำลังจะกลายเป็นเรื่องปรกติไป แต่การเข้ามาอย่างเป็นทางการของไมโครซอฟท์ก็น่าจะช่วยตอกย้ำความสำคัญของเทคโนโลยีนี้ได้เป็นอย่างดี ที่ผ่านมาเราคงได้ยินชื่อเทคโนโลยี Hyper-V ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Virtualization ของทางฝั่งไมโครซอฟท์มาแล้ว (มีการเปิดให้ทดสอบตั้งแต่สองเดือนก่อน) แต่ในวันนี้ไมโครซอฟท์ก็เตรียมการเปิดตัวเทคโนโลยีนี้อย่างเป็นทางการแล้วในงาน getVIRTUALnow

ซอฟต์แวร์ที่คาดว่าจะเปิดตัวในงานมีสามตัวด้วยกันคือ

• Windows Server 2008 with Hyper-V
• Microsoft System Center
• Microsoft Desktop Optimization Pack 2008

ไม่รู้ว่ามีงานเปิดตัวในเมืองไทยมั่งรึเปล่า

หลังจากวางขายครั้งแรกเมื่อปี 1993 ผ่านมาอีก 15 ปี ไมโครซอฟท์ได้ประกาศหยุดขาย Windows 3.11 แล้ว

Windows 3.11 ไม่มีขายเป็นแบบกล่อง (retail) หรือแบบ OEM มานานแล้ว แต่ตลาดที่ยังจำหน่ายอยู่คือตลาด embedded ซึ่งต้องการระบบปฏิบัติการขนาดเล็ก ตัวอย่างที่ใช้ก็อย่างเช่น ระบบ POS เป็นต้น Windows 3.11 จะยังจำหน่ายถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2008

ใครยังจำ Program Manager ได้บ้าง

ที่มา - MSDN, Ars Technica

ผมคิดหัวข่าวนานมาก หาคำอธิบายสั้นๆ ที่ไม่เสียใจความลำบาก สุดท้ายเลยเอาสั้นแค่นี้แล้วอธิบายต่อในเนื้อข่าวแทน

บริษัท Net Applications ซึ่งสำรวจเรื่องส่วนแบ่งตลาดด้านต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตมานาน รายงานว่าส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต แชมป์ตลอดกาลอย่างวินโดวส์มีส่วนแบ่งตลาดลดลงมาเกือบแตะหลัก 90%

ต้องเน้นย้ำว่านี่ไม่ใช่ส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการบนพีซี แต่เป็นอุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ นั่นแปลว่านับรวมมือถือ พีดีเอ iPhone Netbook MID และอื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ตามผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนมากยังใช้งานจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊กอยู่ แต่นี่เป็นสัญญาณที่ดีว่าการออนไลน์จากอุปกรณ์ชนิดใหม่ๆ กำลังเริ่มมาแรง

นิวยอร์คไทมส์รายงานว่าแผนกไอทีของอินเทลพบว่าไม่มีความจำเป็นในการอัพเกรดไปใช้ Windows Vista

คงจะเป็นเรื่องธรรมดาหากบริษัทใด ๆ จะพิจารณาไม่อัพเกรดระบบปฏิบัติการไปสู่รุ่นล่าสุด แต่ทว่าในกรณีของอินเทลนี้ดูจะมีผลกระทบค่อนข้างมากเนื่องมาจากความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างไมโครซอฟท์กับอินเทลหรือที่รู้จักกันในชื่อ Wintel

บิล เกตส์​และสตีฟ บัลเมอร์ พูดถึงและโชว์เดโมอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ Windows 7 ในงาน All Things D ของ Walt Mossberg (ถ้าใครจำได้ ปีที่แล้วบิล เกตส์ขึ้นเวทีพร้อมสตีฟ จ็อบส์)

รายละเอียดของ Windows 7 ที่เปิดเผย ซึ่งบัลเมอร์บอกว่านี่เป็นแค่เสี้ยวเดียวเท่านั้น

หลังจากที่ Service Pack 3 ของ Windows XP ถูกระงับการเผยแพร่กระทันหันจากกำหนดการเดิม ในขณะนี้ชุดอัพเดทดังกล่าวรวมทั้ง SP1 ของ Windows Vista สามารถดาวน์โหลดผ่านทาง Windows Update และ Microsoft Download Center ได้แล้ว

จากข่าว Windows XP SP3 เปิดให้ดาวน์โหลดผ่าน Windows Update ปรากฎว่าไมโครซอฟท์ได้ยกเลิกการอัพเดตตามกำหนดการเดิม เนื่องจากพบความบกพร่องเล็กน้อยในตัว Service Pack

ความบกพร่องที่เกิดขึ้นนี้คือความไม่เข้ากันของระบบบริหารจัดการร้านขายปลีกของไมโครซอฟท์ (Microsoft Dynamics Retail Management System; Dynamics RMS) กับ Windows XP SP3 และ Windows Vista SP1 ซึ่งไมโครซอฟท์ได้เตือนลูกค้าที่ใช้ Dynamics RMS ให้ระงับการอัพเดตนี้ไว้ก่อน โดยทางทีมงานจะแก้ไข และทดสอบให้เรียบร้อย ก่อนที่จะปล่อยออกมาให้อัพเดตกัน

หลังจากไมโครซอฟท์ได้ออกรุ่น Release to Manufacturer (RTM) ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

วันนี้ Windows XP SP3 ได้เปิดให้ดาวน์โหลดผ่าน Windows Update และ ดาวน์โหลดโดยตรง ตามกำหนดการที่ได้บอกไว้ในข่าวเก่า และจะกลายเป็น Automatic Update ในวันที่ 10 มิถุนายนนี้

PC Magazine มีรายละเอียด และข่าวต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

จากข่าวเก่า ไมโครซอฟท์ยอม... ขาย XP นานขึ้น สรุปว่าไมโครซอฟท์จะวางขายวินโดวส์ XP ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2008 นี้ (ถึงแม้จะมีข้อยกเว้นเล็กน้อย ไมโครซอฟท์ขยายเวลาขาย XP สำหรับโน้ตบุ๊กราคาถูกอีก 2 ปี)

แต่ความต้องการ XP ในตลาดยังมีอยู่มาก ซึ่งผู้ผลิตพีซีอย่าง Dell และ HP จึงหาช่องโหว่ใน EULA ของไมโครซอฟท์ ในการขาย XP หลังวันที่ 30 มิถุนายน

จากที่ Windows XP Service Pack 3 เลื่อนมาเรื่อยๆ (ข่าวเก่า: Windows XP SP3 ออก Release Candidate, ฟีเจอร์ใหม่ใน Windows XP SP3) ล่าสุดไมโครซอฟท์ได้ออกรุ่น Release to Manufacturer (RTM) แล้ว

XP SP3 เป็นการรวมแพตช์ความปลอดภัยต่างๆ เข้าด้วยกัน และมีเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เล็กน้อย (เน้นให้ทำงานร่วมกับ Windows Server 2008 ได้ราบรื่น) รายละเอียดฟีเจอร์ดูในลิงก์ข่าวเก่า

XP SP3 จะเปิดให้ดาวน์โหลดทั้งโดยตรงและผ่าน Windows Update ในวันที่ 29 เมษายนนี้ และจะกลายเป็น Automatic Update ในเดือนมิถุนายน

ไมโครซอฟท์กำลังทำงานร่วมกับ Asus เพื่อที่จะผลิตวินโดวส์ XP เวอร์ชั่นพิเศษสำหรับ Asus Eee PC

แม้ว่าปัจจุบันนี้ผู้ใช้สามารถรันวินโดวส์ XP บน Eee PC ได้แล้วก็ตาม แต่ว่าโปรแกรมที่ลงมาให้พร้อม ๆ กับตัววินโดวส์นั้นไม่เพียบพร้อมเหมือนเครื่องที่ลง Linux

และนอกจากนั้นแล้ว XP ที่ลงใน Eee PC ปัจจุบันยังมีปัญหาเรื่องขนาดของจอภาพและการใช้งานทั่วไป ซึ่งทำให้ Asus ได้หันกลับไปหาไมโครซอฟท์และร่วมกับพัฒนาวินโดวส์ XP เวอร์ช่นพิเศษที่จะกินพื้นที่น้อยกว่าและใช้งานได้เหมาะสมกับ UMPCs มากกว่า

ที่มา - Slashdot

เดิมทีนั้น Windows XP มีกำหนดเลิกวางขายเมื่อสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ยังมีเสียงเรียกร้องจากลูกค้าจำนวนมาก ไมโครซอฟท์จึงเลื่อนมาเป็นสิ้นเดือนมิถุนายน 2008 นี้

แต่ความนิยมโน้ตบุ๊กราคาถูกมากๆ อย่าง Eee PC หรือ Intel Classmate PC ที่มาพร้อมกับ XP นั้นทำให้ไมโครซอฟท์ต้องเปลี่ยนใจอีกรอบ โดยจะขยายเวลาสำหรับ XP Home ไปอีก 2 ปีเป็นสิ้นเดือนมิถุนายน 2010 แทน ซึ่งมีเฉพาะช่องทาง OEM เท่านั้น

XP วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2001 และถูกขายออกไปแล้วประมาณ 400 ล้านชุด (ข้อมูลเก่าหน่อยเมื่อมกราคม 2006)

ที่มา - Ars Technica

ข่าวกำหนดวางตลาดของ "Windows 7" รหัสเรียกขานของวินโดวส์รุ่นถัดไปยังออกมาเรื่อยๆ เริ่มจากข่าวลือว่าออกปี 2009 (ข่าวเก่า) จากนั้นไมโครซอฟท์ออกมาแก้ข่าวว่าใช้เวลาพัฒนาอีก 3 ปี (ข่าวเก่า) แต่ปัญหาคือไม่บอกว่า 3 ปีนี้เริ่มนับเมื่อไร

ตอนนี้ไมโครซอฟท์ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มแล้วว่านับจากวันวางจำหน่าย Vista (30 มกราคม 2007) ถ้าวัดกันเป๊ะๆ ก็คือ 30 มกราคม 2010 แต่ไมโครซอฟท์ยังบอกอีกว่า Windows 7 นั้นวางแผนจะออกในปี 2010 ชัดเจน

Windows 7 ได้ออกรุ่น Milestone 1 มาทดสอบเป็นการภายในแล้ว แต่บริษัทยังไม่ให้ข่าวของ M2 แต่อย่างใด

จากรายงานของ InformationWeek ได้มีการกล่าวถึงนโยบายที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ ของการลดราคาขายปลีกของระบบปฏิบัติการวินโดวส์วิสต้าจากไมโครซอฟท์

ในข่าวเก่า ได้มีการรายงานราคาใหม่ของวิสต้าในสหรัฐไปแล้ว แต่ในบางประเทศอย่างสหราชอาณาจักรนั้น ราคาเวอร์ชั่น Home Premium ลดลง 44% มาที่ 131.92 ปอนด์จาก 233.60 ปอนด์

โดยหลักการในการตั้งราคาใหม่นั้นขึ้นอยู่กับตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางตลาดที่มีการแข่งขันสูงจากกลุ่มซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส ทำให้ในบางประเทศ ไมโครซอฟท์จำเป็นต้องตัดราคามากถึง 48%