แต่เริ่มเดิมที LinkedIn มีระบบส่งข้อความแล้ว แต่เป็นฟีเจอร์ที่ไม่ได้มีการปรับปรุงจริงจังอะไรนัก แต่ล่าสุด LinkedIn ได้มีการปรับปรุงระบบข้อความใหม่ โดยแสดงระบบข้อความในลักษณะการแชตส่วนตัวมากขึ้น ตั้งกรุ๊ปได้ ส่งสติกเกอร์ อีโมจิ และไฟล์ GIF ก็ได้

ดูหน้าตาระบบข้อความแบบใหม่ได้ท้ายเบรก

เราอาจจะคุ้นชินกับโลโก้กูเกิลที่เป็นฟอนต์มีเชิงมาโดยตลอด แต่หลังจากนี้โลโก้กูเกิลจะเปลี่ยนไป โดยเลือกใช้ฟอนต์แบบไม่มีเชิง และมีรูปลักษณ์ดูสนุกกว่าเดิม มีการปรับสีโลโก้ให้นุ่มขึ้น และปรับให้สไตล์โลโก้แบนราบลง

การเปลี่ยนโลโก้ครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนโลโก้ของกูเกิลครั้งที่ 6 แต่เปลี่ยนรูปโลโก้อย่างเห็นได้ชัดเป็นครั้งที่ 3

ดูโลโก้ใหม่ได้ท้ายเบรก

ที่มา - The Verge

ระบบปรับแต่งภาพของ Facebook ไม่ว่าจะเป็นการใส่ฟิลเตอร์, คร็อปภาพ, ใส่สติกเกอร์ และอื่นๆ ซึ่งเดิมสามารถใช้ระบบปรับแต่งได้จากแอพบนมือถือ แต่ตอนนี้หากอัพโหลดรูปบนเว็บไซต์ Facebook ก็สามารถใช้เครื่องมือแก้ไขภาพได้แล้วเช่นกัน นับว่าเป็นเรื่องดีๆ

ที่มา - Droid Life

เป็นความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เลยทีเดียวเมื่อ Instagram ปรับปรุงให้สามารถอัพโหลดภาพหรือวิดีโอทั้งขนาดแนวตั้งและแนวนอนได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสอีกต่อไป ในหน้าฟีดจะแสดงผลรูปตามจริง ส่วนหน้ากริดจะแสดงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสแบบคร็อปบางส่วน ทั้งนี้สามารถใช้ฟิลเตอร์กับภาพได้ทุกขนาดเหมือนเดิม

อัพเดตแอพกันได้ที่ Apple App Store และ Google Play

ที่มา - PetaPixel

แอพ Moments ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน เพิ่มฟีเจอร์ที่สามารถทำเอ็มวีได้อัตโนมัติโดยการจับรูป 6 รูปขึ้นไปมาทำคลิปประกอบเพลง เราสามารถแก้ไขรูปและเพลงที่จะใช้ได้ และเลือกได้ว่าจะแชร์หรือแท็กเพื่อนให้มาดูได้ด้วยหรือไม่

ความสามารถนี้ช่างคล้าย Google Photos และเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ตอกย้ำว่า Facebook ให้ความสำคัญกับการทำวิดีโอ (มาก) เนื่องจากยังทดสอบไม่ได้ ก็ดูตัวอย่างการสร้างวิดีโอได้ท้ายเบรก

ที่มา - TechCrunch

ฟีเจอร์ Notes ที่เป็นฟีเจอร์ลูกเมียน้อยมาตลอดเพราะไม่ค่อยมีอัพเดตอะไรมากนัก แต่เมื่อยกเครื่องแล้วก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่เลยทีเดียวเมื่อ Notes แบบใหม่นั้นมี Header และมีการปรับดีไซน์ให้ทันสมัยและดูเป็นบล็อกมากขึ้น

ตัวอย่าง Notes แบบใหม่ สามารถเข้าไปดูได้ ที่นี่ โดย Notes ใหม่นั้น มีความคล้ายกับ Medium เป็นอย่างมาก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะมีดีไซเนอร์จาก Medium ย้ายมาทำงานที่ Facebook ก็เป็นได้

ที่มา - The Next Web

Facebook ได้ทำวิจัยและค้นพบว่า การหัวเราะในโลกออนไลน์นั้นมีการพัฒนา โดยวิเคราะห์จากข้อมูลของผู้ใช้ใน Facebook เอง โดยแนวโน้มที่พบมากที่สุดก็คือ มีการหัวเราะแล้วต่อท้ายด้วยอีโมจิด้วย ซึ่งอีโมจิก็จะแสดงอารมณ์ลึกๆ ของการหัวเราะอีกที เช่น หัวเราะแล้วต่อด้วยอีโมยิ้มน้ำตาไหล เป็นต้น

นอกจากนี้ อายุ และคนแต่ละพื้นที่ที่ต่างออกไปก็จะมีการหัวเราะที่แตกต่างกัน โดยคนอายุน้อยและเป็นผู้หญิงจะชอบหัวเราะด้วยอีโมจิ ส่วนผู้ชายจะชอบหัวเราะ hehes ในขณะที่คนในชิคาโกและนิวยอร์คชอบหัวเราะด้วยอีโมจิ ส่วนในซีแอตเทิลและซานฟรานซิสโกจะชอบหัวเราะแบบ hahas

ยังมีการวิเคราะห์ข้อมูลมากมายที่ไม่ได้หยิบยกมาไว้ที่นี่ ใครสนใจรายละเอียดเชิงลึกสามารถดูได้จากที่มา

ท่ามกลางวิกฤตน้ำท่วมอย่างรุนแรงในประเทศพม่าส่งผลให้เกิดผลกระทบแก่ชาวพม่ากว่า 300,000 คน Facebook จึงร่วมด้วยช่วยเปิดให้ผู้ใช้สามารถบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดย Facebook จะสมทบทุนช่วยบริจาคด้วยสูงสุดถึง $500,000 หรือราวๆ 17.6 ล้านบาท

ใครสนใจก็ร่วมบริจาคกับ Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/myanmarfloodrelief/

ก่อนหน้านี้ที่ YouTube แสดงวิวเริ่มต้นที่ 301+ วิวนั้นเพื่อต้องการวิเคราะห์ให้แน่ใจก่อนว่ายอดวิวไม่ได้มาจากสแปม หลังจากนั้นถึงจะแสดงยอดวิวคลิปให้เห็น แต่ตอนนี้ YouTube สามารถแยกตัวตนได้ในระดับหนึ่งแล้วว่ายอดวิวนั้นมาจากคนจริงๆ (อาจจะเป็นผลพวงจากการมี Google+) จึงทำให้หลังจากนี้คลิปจะแสดงยอดวิวจริงๆ ทันที ก็เป็นอันบอกลาตำนานวิว 301+ กันไปได้

ที่มา - @ytcreators

ผู้ใช้บางรายในสหรัฐอเมริกาพบว่ามีแท็บข่าวเพิ่มในแอพทวิตเตอร์ โดยเมื่อกดข่าวแอพจะแสดงพรีวิวข่าวย่อแต่สามารถกดลิงก์เพื่ออ่านข่าวฉบับเต็มได้

น่าจะเป็นความพยายามในการดึงผู้ใช้ให้ใช้เวลากับแอพทวิตเตอร์ให้นานที่สุด ดูรูปตัวอย่างได้ท้ายเบรก

ที่มา - BuzzFeed

ระบบรักษาความปลอดภัยของ Facebook หลายๆ อย่างนั้นเป็นฟีเจอร์ที่มีให้ใช้มานานแล้ว แต่เพื่อความง่ายและสะดวกในการใช้งาน Facebook จึงมีการปรับ UI ใหม่ให้เข้าใจง่ายขึ้น โดยผู้ใช้ที่ต้องการเช็กความปลอดภัยของบัญชีตัวเองจะสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้

• ล็อกเอาต์จากแอพที่ไม่ได้ใช้แล้วได้
• ตั้งแจ้งเตือนถ้ามีการล็อกอินผ่านอุปกรณ์ใดๆ
• เปลี่ยนรหัสผ่าน

ดูวิธีการตั้งค่าได้จากวิดีโอท้ายเบรก

ที่มา - Facebook Newsroom

หลายๆ คนอาจคุ้นเคยดีกับผ่านพูดคุยผ่านวิดีโอ แต่ก็มีไม่น้อยที่ประสบปัญหาคุยวิดีโอได้แต่ไม่สามารถสนทนาโต้ตอบได้ Yahoo จึงได้ทำแอพ Livetext มาเพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว โดยผู้ใช้จะสามารถพิมพ์ข้อความและข้อความจะไปปรากฎในวิดีโอได้ (ดูการทำงานของแอพได้ท้ายเบรก)

ใครสนใจก็สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store และ Google Play Store

ที่มา - Yahoo

The Hamburg data protection authority หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่อง Facebook ในเยอรมันกล่าวว่า Facebook ไม่สามารถบังคับให้ผู้ใช้ต้องใช้ชื่อนามสกุลจริง และห้ามขอหลักฐานแสดงความเป็นตัวตน (เช่น บัตรประชาชน) ด้วย

ที่มาเริ่มจากมีผู้หญิงไปร้องเรียนหน่วยงานดังกล่าวว่าถูก Facebook ระงับบัญชีเนื่องจากไม่ได้ใช้ชื่อจริง และต้องการให้เธอส่งหลักฐานยืนยันตัวตนเพื่อที่จะเปลี่ยนชื่อให้เป็นชื่อจริง โดยเหตุผลที่เธอไม่ต้องการใช้ชื่อจริงนั้นเพราะกลัวกระทบกับหน้าที่การงานนั่นเอง

ทางหน่วยงานเยอรมันได้กล่าวว่า การบังคับใช้ชื่อจริงก็เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเช่นกัน

โฆษณาแนวนี้คือ ผู้สร้างโฆษณาจะสามารถสร้างอีเวนต์ได้และสามารถซื้อโฆษณาโดยอิงจากคนที่สนใจในอีเวนต์นั้นๆ ระบบโฆษณาจะสามารถดูสถิติได้ตามปกติ ใครสนใจสร้างก็คลิกได้ที่ ads.twitter.com/getstarted

ที่มา - Twitter

Line Lite เป็นแอพ LINE ขนาดเล็กกว่า 1 MB แต่ยังคงมีฟีเจอร์หลักๆ เช่นแชต คุยเป็นกรุ๊ป ส่งสติกเกอร์ และส่งภาพได้ แต่ไม่สามารถวิดีโอคอลหรือออดิโอคอลและเล่นไทม์ไลน์ได้

แอพนี้รองรับใน 11 ประเทศ รวมอินเดีย เม็กซิโก และซาอุดิอาระเบีย (ไม่มีไทย แต่อาจมีแนวโน้มขยายกลุ่มผู้ใช้เร็วๆ นี้) และอาจจะมีฟีเจอร์ใหม่ที่รองรับในอนาคต

ที่มา - The Next Web

ระบบอัพโหลดวิดีโอของ Facebook ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน f8 ก็ได้ฤกษ์ออกสู่สาธารณะแล้ว โดยความสามารถของระบบคือ

• เลือกอัพโหลดวิดีโอแบบไม่พับลิชขึ้นเพจก็ได้ (คล้าย Unlist ของ YouTube คือสามารถดูได้ผ่าน URL เท่านั้น)
• ตั้งค่าให้ดูได้เฉพาะกลุ่มอายุหรือเพศ (หรือโลเกชั่นและภาษา)
• ตั้งวันหมดอายุในวิดีโอได้
• พับลิชวิดีโอในวิดีโอแท็บของเพจได้โดยไม่จำเป็นต้องพับลิชขึ้นฟีด
• ตั้งค่าอนุญาตให้ฝังวิดีโอลงที่อื่นได้
• เพิ่มทัมบ์เนลจากรูปได้

ในหน้าจัดการวิดีโอสามารถแก้ไขข้อมูลวิดีโอ รวมถึงฝังซับไตเติลเข้าไปภายหลังได้ รวมถึงค้นหาและจัดการวิดีโอได้ง่ายกว่าเดิม

ฟีเจอร์ทั้งหมดจะเปิดให้ใช้ทั่วโลกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

IAB (The Interactive Advertising Bureau) สมาคมด้านโฆษณาอินเทอร์แอคทีฟ เกิดจากเอเจนซี่ต่างประเทศรวมตัวกันกำหนดแนวทางวางโฆษณาในระบบดิจิทัล เช่น ขนาดแบนเนอร์มาตรฐานที่ยึดใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป โฆษณารูปแบบใหม่ๆ มีมากขึ้น IAB จึงกำหนดแนวทางของโฆษณาประเภทต่างๆ ที่แสดงบนฟีดของ social network และเว็บไซต์ทุกประเภท เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่า ผู้ซื้อและผู้ขายโฆษณาสามารถคาดหวังอะไรได้บ้าง

นิยามของคำว่า "ฟีด" (feed) ที่ IAB แยกประเภทออกมามี 3 ประเภทด้วยกันคือ

ถึงแม้จะมีสถิติมากมายบ่งชี้ว่า วิดีโอที่อัพโหลดใน Facebook นั้น มีแนวโน้มที่จะมียอดคนดูสูงกว่าอัพโหลดขึ้น YouTube แต่ผู้สร้างวิดีโอตัวท็อปใน YouTube ก็ยังไม่สนใจที่จะอัพโหลดวิดีโอขึ้น Facebook อยู่ดี ยกตัวอย่างเช่น PewDiePie ที่มีคนตามใน YouTube มากที่สุด (มากกว่า 38 ล้านคน) อัพโหลดวิดีโอใน YouTube มากถึง 333 คลิป ในขณะที่อัพใน Facebook ราวๆ 10 คลิปเท่านั้น

เหตุผลที่ผู้สร้างวิดีโอไม่อัพโหลดวิดีโอขึ้น Facebook ก็เพราะว่ายังไม่มีระบบการให้ส่วนแบ่งค่าโฆษณานั่นเอง (ถึงแม้จะมีข่าวว่า Facebook เตรียมเปิดบริการนี้แล้วก็ตาม) นั่นแปลว่าหากวันใดที่ Facebook ให้ส่วนแบ่งค่าโฆษณาแบบเป็นทางการ ผู้สร้างวิดีโอก็อาจจะเปลี่ยนใจก็ได้

นอกจาก Facebook จะทำตัวเป็นแหล่งรวบรวมคอนเทนต์ให้สรรหาและเลือกแชร์ตามใจชอบแล้ว ยังอยากเป็นร้านค้าให้คนช้อปปิ้งได้ตามกำลังทรัพย์ด้วย เมื่อมีคนพบว่า Facebook ทดสอบระบบร้านค้าในหน้าเพจ (ไม่ได้บอกว่าสามารถซื้อของได้ทันทีหรือไม่ อาจจะมีปุ่มซื้อได้ทันทีก็เป็นได้)

ซึ่งถ้า Facebook ทำระบบนี้ออกมาจริง ระบบอีคอมเมิร์ซทั้งหลายก็อาจมีร้อนๆ หนาวๆ ได้

ที่มา - BuzzFeed

เพื่อให้สื่อในทวีตดูน่าสนใจมากขึ้น ทวิตเตอร์จึงตัดสินใจทดสอบพรีวิวลิงก์โดยอัตโนมัติ (ลักษณะคล้ายๆ กับพรีวิวของ Facebook) โดยเมื่อผู้ใช้ทวีตลิงก์ก็จะมีพรีวิวขึ้นมาให้เลยโดยไม่จำเป็นต้องกดเข้าไปดูที่ทวีตถึงจะเห็นพรีวิวแบบแต่ก่อน

ทั้งนี้ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบเท่านั้น แต่หากผู้ใดอยากให้ลิงก์บทความเว็บไซต์ตัวเองโชว์พรีวิวในทวิตเตอร์ก็สามารถตั้งค่าได้ผ่าน Twitter Cards

ที่มา - BuzzFeed

หลังจากที่มี Siri, Cortana หรือ virtual assistant ที่ใช้งานได้ดีและเป็นที่รู้จักอย่าง Google Now ออกสู่ท้องตลาดแล้ว ก็มีข่าวว่า Facebook เตรียมทำ virtual assistant เป็นของตัวเองเหมือนกันโดยมีแผนจะใช้ชื่อว่า Moneypenny โดยฟีเจอร์การใช้งานหลักๆ คือมาช่วยผู้ใช้ค้นหาหรือซื้อสินค้าและบริการได้ง่ายและสะดวกขึ้น

ยังไม่ปรากฎแน่ชัดว่าฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้ ณ ที่ใด (จะเปิดให้ใช้ในหน้าเว็บหรือเฉพาะแอพ Messenger) ก็ต้องมาติดตามกันต่อไป

ที่มา - Engadget

หลังจากมีเสียงบ่นมานานเรื่องของการพลาดข่าวสารจากเพื่อนหรือเพจที่ชอบไป Facebook เปิดให้ควบคุม News Feed ของตัวเองได้มากขึ้นจากในหน้า News Feed Preferences โดยสิ่งที่สามารถทำได้เพิ่มเติม (หรือจัดการทำให้ได้ง่ายกว่าเดิม) คือ

• เลือกได้ว่าจะดูโพสต์จากเพื่อนหรือเพจที่ชอบเป็นอันดับแรกในฟีด
• เลิกติดตามหรือซ่อนโพสต์ได้ง่ายกว่าเดิม
• กลับมาตามคนที่เราเลิกตามไปแล้วได้ง่ายกว่าเดิม
• ปรับปรุงระบบค้นหาเพจใหม่ๆ

การตั้งค่าเหล่านี้เปิดให้ใช้แล้วใน iOS ส่วน Android และบนเว็บจะตามมาเร็วๆ นี้

ที่มา - Facebook Newsroom

Caitlin Winner ได้ทำการสังเกตว่าไอคอนเพื่อนใน Facebook แบบเดิมที่มีผู้ชายอยู่หน้าผู้หญิงนั้น ไอคอนผู้หญิงไหล่ไม่เท่ากัน จึงได้ทำการปรับเปลี่ยนไอคอนให้ไหล่เสมอกัน รวมถึงปรับขนาดไอคอนผู้หญิงให้เท่าเทียมกับผู้ชายด้วย

ในส่วนไอคอนของกรุ๊ปนั้นก็มีการปรับเปลี่ยนให้ผู้หญิงออกมาอยู่ข้างหน้า แล้วผู้ชายยืนข้างหลังสองไอคอน (ไอคอนมีขนาดเท่ากัน)

ก็ถือว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เหมือนข่าวลูกโลกเปลี่ยนซีก แต่ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจดี

จริงๆ YouTube ประกาศว่าจะมีฟีเจอร์ใหม่ 10 อย่าง แต่คัดในสิ่งที่น่าสนใจหลักๆ มาก็คือ

ผู้ใช้บางส่วนจะพบว่า นอกจากการเพิ่มรูป วิดีโอ สถานที่ และอื่นๆ ในช่องสเตตัสนั้น ยังสามารถเพิ่มลิงก์บทความได้ และเมื่อกดเพิ่มลิงก์ ก็จะมีช่องให้ค้นหาลิงก์จากชื่อบทความ รวมไปถึงแสดงลิงก์ที่ถูกแชร์ในฟีดล่าสุดจากเพื่อน ท้ายที่สุดก็คือเราก็จะสามารถแชร์ลิงก์โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเว็บเบราเซอร์แต่อย่างใด

ฟีเจอร์นี้อาจจะดีต่อผู้ใช้แต่อาจจะไม่ดีกับเจ้าของเว็บเพราะอาจทำให้สถิติการเข้าเว็บลดลงได้

ที่มา - Mashable