มีรายงานมาหลายเดือนแล้วว่าแอปเปิลได้เจรจากับ OpenAI เพื่อนำฟีเจอร์ AI มาใส่ใน iOS 18 ซึ่งน่าจะเป็นจุดขายสำคัญในงานสัมมนาสำหรับนักพัฒนา WWDC ที่จะจัดในอีกสองสัปดาห์ โดยรายงานล่าสุดบอกว่าได้ทำข้อตกลงเป็นที่เรียบร้อย
The Information มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับดีลนี้จากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความกังวลของไมโครซอฟท์ ที่มีสถานะเป็นผู้ลงทุนใน OpenAI แต่ขณะเดียวกันก็เป็นคู่แข่งทางธุรกิจกับแอปเปิลด้วย
รายงานบอกว่าแอปเปิลได้พูดคุยกับ OpenAI มานานแล้ว ตั้งแต่กลางปี 2023 โดยเวลานั้นแอปเปิลได้ทำข้อตกลงเพื่อใช้งาน API ของ OpenAI สำหรับทดสอบและพัฒนาฟีเจอร์ เช่น ให้ Siri เชื่อมต่อกับ ChatGPT อัตโนมัติ หากได้รับคำสั่งที่ซับซ้อนกว่าปกติ เนื่องจากแนวทางที่แอปเปิลต้องการไม่ใช่การสร้างแชทบอต และเป็นไปได้ว่าแอปเปิลต้องการให้แสดงข้อมูลชัดเจน หากคำตอบที่เกิดขึ้นสร้างจาก ChatGPT ไม่ใช่ตัว Siri เอง
ในรายงานยังระบุถึงการพบปะระหว่าง Sam Altman ซีอีโอ OpenAI และ Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ เมื่อไม่นานมานี้ โดยไมโครซอฟท์แสดงความกังวลต่อดีลดังกล่าวกับแอปเปิล เพราะน่าจะสร้างโหลดที่ทรัพยากรของ OpenAI อีกมหาศาลซึ่งไมโครซอฟท์รองรับให้อยู่ รวมทั้งอาจกระทบต่อประสิทธิภาพของ Copilot อย่างไรก็ตามดีลนี้น่าจะสร้างรายได้ให้ OpenAI มากเช่นกัน ไมโครซอฟท์จึงเริ่มเจรจาให้ OpenAI ตัดส่วนแบ่งกำไรกลับคืนให้ผู้ลงทุนบ้าง
นอกจาก OpenAI แล้ว กูเกิลเป็นอีกบริษัทที่มีข่าวมาเป็นระยะว่าแอปเปิลก็เจรจาเพื่อใช้ Gemini ใน iOS 18 เช่นกัน แต่ดีลยังไม่มีข้อสรุป
ที่มา: The Information
Comments
Microsoft ลงทุนใน OpenAI ตั้งแต่ต้น
แต่พอเติบโตขึ้นมา ทำ app ลงแค่ product apple
สุดยอดไปเลย 55555
แอบสงสัยมานานแล้ว ว่า Apple ใช้พลังมืดแบบไหน
ที่ไปทำให้หลาย ๆ อย่าง รองรับแค่ของตัวเอง
ขนาด จอ android ในรถยังรองรับไร้สายแค่ Apple car play แต่ไม่รองรับ android auto
จอในรถ ขึ้นกับ dev software รถแต่ละเจ้าหรือป่าวไม่น่าเกี่ยวกันนะ
อันนี้จอ android จีนอะครับ เอามาติดเพิ่ม
default มาแบบ รองรับแค่ apple car play เลย
พลังที่ว่าคือลูกค้าที่จ่ายเงินครับ กรณี open ai คือ ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่บนแพลทฟอร์ม apple
เพราะมันอยู่ใน Copilot อยู่แล้วหรือเปล่าครับ ซึ่ง Copilot ตอนนี้อยู่ในแทบทุกผลิตภัณฑ์ของ MS แอปแยกเลยไม่จำเป็นเท่าไร
เรื่องจอไม่น่าเกี่ยวนะครับ สาเหตุจริงๆคือ ในจีนมันไม่มี android auto. เพราะ aa มันเป็นส่วนหนึ่งของ google play services
จอจีนแท้ๆ หรือ รถจีนแท้ๆ ช่วงมาขายแรกๆจะมีแต่ CarPlay
ผมเดาว่าหนทางในการเขียนแอพมันง่ายกว่าหรือเปล่านะ ไม่ต้องมาคิดว่าจะสร้างแบบไหนดี ผมมีความคิดที่จะลองเขียนแอพใน Windows โอ้ย! มีหลายท่าเหลือเกิน
ไม่ก็พนักงาน ใช้ Mac กันอยู่แล้ว Why not!
ชื่อยังกับ opensource "OpenAI"
ไหนใครบอก Apple มี AI สู้คนอื่นได้ ตามหลังขนาดนี้ หลังๆมาเห็นเอาอันไหนได้เอาหมดอ่ะ เอาๆไปก่อน ฮ่าๆ
ก็ไม่ได้ล่าหลังนี่ครับ apple เป็นบริษัทฮาร์ดแวร์อยู่แล้วแต่ทีมวิจัย R&D ก็โหด เอาจริง ๆ การทำให้ได้ระดับ OAI ต้นทุนสูงมาก เสี่ยงโดนฟ้องทั้งการละเมิดลิขสิทธิ์ข้อมูล ความโปร่งใสไม่มี แต่ถ้าจะทำจริง ๆ มีเงิน มีอุปกรณ์ มี Data มีคน เท่าที่ OpenAI มี ใคร ๆ ก็ทำ ChatGPT clone หรือเหนือกว่าก็ได้หมดครับ
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
ไมโคร กังวลว่า หลดที่ทรัพยากรของ OpenAI อีกมหาศาล ก็เพิ่มเครื่องเพิ่มเลย ได้ตังมาอีกเยอะละ
ผมก็งงตั้งแต่แรกๆ แล้วว่า Microsoft ทำไม่เอาทุกๆ product ของตัวเองไปผูกกับ ผลิตภัณฑ์ของคนอื่น มันควบคุมและ Control อะไรลำบากมาก
พูดถึงไม่โครซอฟท์ ก็รู้จักแต่วินโดว์ที่นานๆออกที