ข่าวเก่า โอกาสในการรัน XP บนอินเทลแมค ความฝันของหลายคนติดขัดเพราะเจ้า EFI

ตอนนี้มีกลุ่มคนที่อยากเห็น XP รันบนอินเทลแมค (iMac หรือ MacBook Pro) และรวมตัวกันตั้ง Bounty (เงินรางวัล) ให้กับคนที่เอาชนะ EFI ได้ภายในวันที่ 23 มีนาคมนี้ ถ้าสามารถลง XP แบบดูอัลบูตได้ เอาไปเลย 7,115 เหรียญ (ตัวเลขขณะที่เขียน) โดยผู้บริจาครายใหญ่่คือ Delicious Mounster ผู้ผลิตโปรแกรม Delicious Library บนเครื่องแมค จ่ายพันเหรียญหมดหน้าตัก

ผมคิดว่าคนแถวนี้อยากซื้อ MacBook Pro มาดูอัลบูตกันเยอะ อาจไปช่วยลงขันกับเค้าได้

หลังจากซัน ไมโครซิสเต็มส์ปล่อยให้ดาวน์โหลด Sun Java Studio Creator ฟรีๆไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
ตอนนี้ตัว Sun Java Studio Creator2 ออกมาแล้วครับผม

ข่าวนี้ใครเพิ่งซื้อเครื่องเล่นเกมพกพาสุดฮิตอย่าง Nintendo DS ไป อาจจะต้องช้ำใจหน่อยเมื่อนินเทนโดประกาศตัว DS Lite ที่เล็กลงสองในสาม และน้ำหนักเบาลง 20% แต่ยังคงความสามารถเท่าเดิมทุกประการ โดยจะออกวางจำหน่ายในวันที่สองเดือนมีนาคมนี้ ราคาอยู่ที่ 16800 เยน

สงสัยจะได้เวลาเสียเงิน ว่าแต่มันกี่บาทล่ะเนี่ย

ที่มา - JoyStiq, Nintendo

มีข่าววงในแว่วมาว่า Office 12 ที่เราเรียกกันติดปาก ได้ชื่อที่แน่นอนแล้วคือ Microsoft Office 2007 โดยไมโครซอฟท์เองยังไม่แถลงข่าวอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด การเปลี่ยนแปลงสำคัญเวอร์ชันนี้อย่างที่หลายคนอาจรู้แล้ว คือทูลบาร์แบบใหม่ที่เรียกว่า Ribbon ที่เปลี่ยนหน้าตาโปรแกรมออฟฟิศแบบที่เราคุ้นเคยกันไปสิ้นเชิงเลย

ที่มา - Ars Technica

อินเทลเปิดตัวชิปทดสอบที่ผลิตด้วยกระบวนการผลิตแบบ 45 นาโนเมตร โดยเป็นชิป SRAM ที่มีจำนวนทรานซิสเตอร์ใกล้เคียงกับชิปทดสอบในปี 2000 ที่ผลิตแบบ 130 นาโนเมตร ขนาดของชิปใหม่คือ 0.346 ตารางไมครอน เมื่อเทียบกับของเก่า 2.45 ตารางไมครอน

ชิป 45 นาโนเมตรจะเริ่มกระบวนการผลิตจริงได้ครึ่งหลังของปี 2007 เทคโนโลยีด้านการผลิตของอินเทลก้าวล้ำกว่าเอเอ็มดีมาก อินเทลเริ่มขาย 65 นาโนเมตร และไปถึงขั้นเปิดตัว 45 นาโนเมตร ส่วนชิปขนาด 65 นาโนเมตรของเอเอ็มดีจะเริ่มวางจำหน่ายในครึ่งหลังของปี 2006 นี้

อินเทลคาดว่าจะไปถึง 32 นาโนเมตรในปี 2009 ส่วนหลังจากนั้นน่าจะเป็น 22 นาโนเมตรในปี 2011

หลังจากที่ GPLv3 ออกมาก็สร้างข้อวิจารณ์มากมาย ตั้งแต่เรื่องความเข้ากันได้กับ GPLv2 ไปจนถึงเรื่องที่ว่ามีโครงการไหนควรย้ายไปใช้ GPLv3 บ้าง ล่าสุดไลนัส โทรวัล ผู้ดูแลเคอร์เนลก็เขียนอีเมลแสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่าเขาสำหรับลินุกซ์แล้ว ลิขสิทธิ์โดยปริยายของมันคือ GPLv2 เท่านั้น โดยหากมีใครต้องการใช้ GPLv3 ก็อาจจะใช้ได้โดยต้องระบุไว้ในส่วนนั้นๆ เอาเอง โดยตัวแกนของลินุกซ์จะยังคงใช้ GPLv2 ต่อไป

เรื่องนี้อาจจะเป็นการชี้นำถึงการนำ GPLv3 ไปใช้ในอนาคต เพราะหลายๆ โครงการก็มีแนวโน้มว่าจะใช้ลิขสิทธิ์แบบเดียวกับลินุกซ์เป็นหลัก

โดยส่วนตัวแม้จะชอบ GPLv3 ในหลายๆ จุดแต่ผมว่ามันแข็งไปหน่อย

หลังจากที่คนใช้ Samba3 หลายคนต้องรอคอยให้ Samba ซึ่งเป็นโปรแกรมหลักในการเชื่อมต่อโลกของวินโดว์เข้ากับ *nix ทั้งหลายวันนี้ก็ได้ออก Samba4 รุ่นทดสอบ โดยฟีเจอร์หลักที่เป็นที่พูดถึงกันมากคือการรองรับ LDAP ในตัวพร้อมๆ กับการยืนยันบุคคลแบบ Kerberos ซึ่งทำให้เราใช้เครื่องวินโดวส์ทั่วไปมา Join Domain เข้ากับ Samba ได้เลย

เรื่องนี้อาจจะหมายถึงการขยายตัวของลินุกซ์ในกรณีที่องค์กรขนาดเล็ก ไม่ต้องการเสียเงินซื้อวินโดวส์ 2003 ซึ่งราคาค่อนข้างแพง ก็สามารถใช้ Linux + Samba4 แทนได้ระดับหนึ่ง

ถึงจะเปิดตัวแมคอินทอชที่ใช้ชิปอินเทลมาให้ฮือฮา แต่ยอดขายของแมคอินเทลกลับไม่ดีอย่างที่คิด

ปัญหาใหญ่คงเป็นเรื่องของโปรแกรมที่จะไปรัน แอปเปิลโฆษณาว่า iMac ใหม่เร็วกว่าเดิม 2 เท่า แต่ผลการทดสอบจากหลายๆ ที่พบว่าเร็วอย่างดีก็ 1.5 เท่าเท่านั้น ที่สำคัญคือต้องเป็นโปรแกรมที่คอมไพล์มาสำหรับซีพียูอินเทลด้้วย (เป็น Universal Binary)

ข่าวเก่าคือ ดิสนีย์ทำท่าจะซื้อพิกซาร์ วันนี้บอร์ดของพิกซาร์ยอมรับข้อเสนอของดิสนีย์เรียบร้อยแล้ว

การซื้อกิจการใช้วิธีแลกหุ้นทั้งหมด โดยหุ้นพิกซาร์ 1 หุ้นจะแลกเป็นหุ้นดิสนีย์ 2.3 หุ้น มูลค่าการซื้อขายทั้งหมด 7.3 พันล้านเหรียญ โดย Ed Catmull ประธานพิกซาร์คนปัจจุบันจะนั่งเป็นประธานสตูดิโออนิเมชันทั้งสองแห่ง ส่วน John Lasseter ผู้ก่อตั้งและผู้กำกับทอยสตอรี่จะได้ตำแหน่ง CCO (Chief Creative Officer)

สงครามการค้นหาในเวิลด์ไวด์เว็บเริ่มลดความเข้มข้นลง เมื่อ Yahoo เริ่มแสดงท่าทีถอดใจในการแข่งกับ Google ซะแล้ว

CFO ของ Yahoo กล่าวว่า "It's not our goal to be No. 1 in Internet search. We would be very happy to maintain our market share."

ปัจจุบัน Google ครองตลาดมากกว่าครึ่ง และ Yahoo ไม่เห็นประโยชน์อันใดในการทุ่มเงินลงทุนไปในศึกที่ดูแล้วไม่มีวันชนะ ท่าทีของ Yahoo ในช่วงหลังจึงไปเน้นธุรกิจอื่นที่ทำเงินได้แทน ดูได้จากการจับเทคโนโลยีใหม่อย่าง Web 2.0, Blog และ Social Network จากการซื้อ Flickr และ del.icio.us

BrandChannel ได้ประกาศผลโหวตแบรนด์สินค้ายอดเยี่ยมประจำปี 2005 อันดับหนึ่งไม่น่าแปลกใจ Google ของเราน่ะเอง

อันดับสองหายใจรดต้นคอกันคือ Apple เจ้าเก่า ตามมาห่างๆ ด้วย Skype, Starbucks, Ikea, Nokia, Yahoo!, Firefox, eBay และ Sony ที่น่าสนใจคือทั้ง Skype และ Firefox ถือเป็นหน้าใหม่ในวงการนี้ทั้งคู่แต่ทำอันดับได้ดีไม่น้อย

ข้างบนเป็นคะแนนคิดจากทั่วโลก ถ้าเอาเฉพาะภูมิภาค แชมป์ยุโรปเป็นของ Nokia อเมริกาเหนือเป็น Apple ส่วนเอเชียแปซิฟิกเป็น Sony, Toyota, Samsung, LG ตามลำดับ (สบายใจได้ครับยังไม่มีแบรนด์ไทยติดให้ตื่นเต้น ถ้าปีต่อไปปีไหนมีผมจะแปะข่าวนั้นค้างไว้ทั้งปีเลย)

เรดแฮทประกาศว่ามีแผนจะสนับสนุนสถาปัตยกรรม Intel Mac ที่เพิ่งวางจำหน่าย คำประกาศนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกแต่อย่างใด เพราะปัจจุบัน Fedora และลินุกซ์อีกหลายค่ายทำงานบน PowerPC ได้ เมื่อแอปเปิลย้ายมาใช้ x86 เหมือนกัน ก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ จุดยากอยู่ที่เดียวกับการเอาวินโดวส์ไปรันบน Intel Mac คือไบออสระบบใหม่ที่ชื่อ EFI (Extensible Firmware Interface)

เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาเมื่อ สมาิคมธุรกิจภาพนยต์ในสหรัฐฯ หรือ MPAA ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่จ้องไล่ฟ้องผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ กลับถูกจับได้ว่าเป็นผู้ละเมิดลิขสิทธิ์เสียเอง เรื่องนี้ถูกแฉโดยนาย Kirby Dick ผู้กำกับสารคดีเรื่อง This Film Is Not Yet Rated ซึ่งเป็นสารคดีที่อธิบายการทำงานของ MPAA โดยนาย Dick ได้ส่งหนังเรื่องนี้ให้ MPAA เพื่อทำการจัดเรต แต่หลังจากนั้้นก็พบว่า MPAA มีการทำสำเนาหนังเรื่องนี้เผยแพร่ให้กับพนักงานภายใน

หลังจากเปิดตัวในเดือนกันยายนปี 2002 บริการสุดฮิตอย่าง Google News ก็อยู่ในสถานะเบต้ามาโดยตลอด จนมีคนไม่น้อยที่สงสัยว่ากูเกิลจะทำอะไรที่ไม่ใช่เบต้าออกมาบ้างรึเปล่า

ถึงวันนี้กูเกิลก็ตัดสินใจย้าย Google News ออกจากสถานะเบต้าแล้ว โดยผู้พัฒนาระบุว่าตลอดเวลาที่อยู่ในสถานะเบต้า บริการนี้ถูกปรับปรุงขึ้นในหลายๆ ด้าน เช่นว่าไม่เอา Press Release ขึ้นหน้าข่าว แต่จะขึ้นในหน้าคนหา (ใช้มาหลายปี เพิ่งรู้เหมือนกัน) หรือการปรับตามความชอบของแต่ละคน

เรื่องนี้อาจจะแสดงให้เห็นว่ากูเกิลอาจจะทยอยค่อยๆ ยกบริการของตนออกจากสถานะเบต้าออกมาเรื่อยๆ ก็เป็นได้

อโดบีเตรียมออก Acrobat 3D เวอร์ชันใหม่สำหรับผู้ใช้ระดับสูง โดยเพิ่มความสามารถในการแสดงภาพแบบสามมิติ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายวงการอุตสาหกรรมและวิศวกรรมโดยเฉพาะ ที่เดิมใช้ไฟล์ CAD เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน โดยภาพสามมิติเหล่านี้จะถูกฝังลงในเอกสาร PDF ในข่าวไม่ได้บอกว่าสนับสนุนฟอร์แมต CAD อะไรบ้าง แต่คาดว่าคงสนับสนุนฟอร์แมตหลักๆ เกือบหมด

โปรแกรมชุดละ 995 เหรียญ โดยมีฟีเจอร์อย่างอื่นเหมือนกับ Acrobat 7.0 Professional ทุกประการ

ประธานและซีอีโอ Eric Schmidt กับสองผู้ก่อตั้ง Larry Page และ Sergey Brin ตัดสินใจรับเงินเดือนรวมตลอดปี 2006 เป็นเงิน 1 เหรียญ

ทั้งสามคนนี้รับเงิน 1 เหรียญมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยก่อนหน้านี้ Schmidt มีรายได้สองแสนห้า ส่วนอีกสองคนได้กันคนละแสนห้า หน่วยเป็นเหรียญนะครับ

ไมโครซอฟท์เตรียมออกโฆษณาตัวใหม่มูลค่า 120 ล้านเหรียญเพื่อลบภาพ "a huge American company"

ปัจจุบันไมโครซอฟท์มีพนักงาน 63,000 คนใน 102 ประเทศ ซึ่ง 1 ใน 3 ของพนักงานเหล่านี้อยู่นอกอเมริกา การที่มีภาพลักษณ์เป็นบริษัทอเมริกันส่งผลเสียในการทำตลาดต่างประเทศ เช่น ยุโรป ซึ่งหันไปใช้ลินุกซ์แทน เป็นต้น

โฆษณาใหม่จะเน้นบทบาทของไมโครซอฟท์ในเรื่องอื่นๆ ต่อสังคม เช่น การศึกษาหรือเศรษฐกิจ โดยมีนักแสดงนำคือ William Macy (ผมไม่รู้จักหรอกนะว่าใคร) และจะมีรูปแบบที่ปรับให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศมากขึ้น โดยจะยังคงสโลแกน "Your Potential, Our Passion" เหมือนเคย

ตั้งหน้าตั้งตาคอยกันต่อไป เมื่อไหร่หนอจะออกรุ่นเต็มให้ได้ใช้กันสักที ผมคาดเอาเองว่าน่าจะเป็น RC สุดท้ายแล้ว เพราะนี่ก็ปาเข้าไปจะปลายเดือนมกราคมเต็มที เนื่องจากตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ Netbeans 5.0 รุ่นเต็มน่าจะถูกปล่อยออกมาภายในเดือนนี้

ใครที่อดใจไม่ไหว อยากลองเล่นดูก็ลองไปดาว์นโหลดมาใช้ล่วงหน้ากันได้เลย เอามาลองเล่นดูก่อน เพราะอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ Netbeans Day จะถึงคราวมาทัวร์เมืองไทยแล้ว แล้วพบกันในงานครับ

ที่มา - NetBeans.org

ไมโครซอฟท์ประกาศนโยบายใหม่ล่าสุดสำหรับวินโดว์วิสต้าที่คาดกว่าจะออกปลายปีนี้ว่า ไดรเวอร์ทั้งหมดสำหรับวิสต้าเวอร์ชัน 64 บิตนั้น ต้องได้รับใบรับรองดิจิตอลจากทางไมโครซอฟท์ก่อน จึงจะสามารถลงและทำงานในวินโดว์วิสต้าได้ โดยไมโครซอฟท์ไม่เก็บค่าธรรมเนียม แต่ผู้ผลิตไดรเวอร์ยังต้องเสีย 500 ดอลล่าร์ต่อปีสำหรับใบรับรอง Class 3 Commercial Software Publisher Certificate ให้กับ Verisign

โดยทั่วไปแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องดีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป เพราะเป็นการบังคับให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ทุกรายต้องได้รับการตรวจสอบคุณภาพไดรเวอร์ก่อน ราคา 500 ดอลลาร์ก็นับเป็นเรื่องเล็กสำหรับการผลิตฮาร์ดแวร์ออกมาสักชิ้นนึง

หลังจากทะเลาะกันไม่เลิกกับมาตรฐานยุคต่อไป ในที่สุดกลุ่ม IEEE 802.11n ก็ได้ข้อสรุปในมาตรฐานของมาตรฐาน MIMO ซึ่งจะทำใ้ห้ไวร์เลสแลนมีความเร็วเกินกว่า 100 เมกกะบิตต่อวินาทีแล้ว โดยทันทีที่ดราฟท์ของมาตรฐานนี้ออกมา บริษัทผลิตชิปอย่าง Broadcom ก็ออกมาประกาศทันทีว่าตนมีชิปที่เข้ากันได้กับมาตรฐานนี้แล้ว

มาตรฐาน 802.11n เป็นมาตรฐานที่เปิดโอกาสให้อุปกรณ์ไร้สายสามารถสื่อสารกันด้วยช่องสัญญาณมากกว่าหนึ่งช่อง เพื่อเพิ่มความเร็วในการทำงาน โดยคาดว่าความเร็วสูงสุดที่มาตรฐานนี้จะทำได้คือ 600 เมกกะบิตต่อวินาทีเลยทีเดียว

หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับ HyperTransport ไปชุดใหญ่ เอเอ็มดีก็ประกาศซื้อสิทธิ์การใช้เทคโนโลยี ZRAM จากบริษัท Innovative Silicon เพื่อใช้เทคโนโลยี ZRAM ในชิปรุ่นต่อไปของเอเอ็มดี

ZRAM คือหน่วยความจำรุ่นใหม่ที่ให้ความได้เปรียบในด้านต้นทุน โดยการใช้ทรานซิสเตอร์เพียงตัวเดียวในการเก็บข้อมูลแต่ละบิต แต่ไม่ทำให้เวลาในการเขียนและอ่านลดลงแต่อย่างใด ทำให้ ZRAM มีความเร็วพอๆ กับ SRAM ที่มีราคาแพงกว่า ข้อได้เปรียบของมันนี้ทำให้เราอาจจะได้เห็นซีพียูของเอเอ็มดีมีขนาดแคชใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะลดต้นทุนได้มากกว่า โดยเชื่อว่าซีพียูตัวต่อไปของเอเอ็มดีน่าจะมีขนาดแคชถึง 5 เมกกะไบต์

ปุ่ม Delete นี้เป็นฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ Gmail เรียกร้องกันมากที่สุด และสุดท้ายกูเกิลก็ทนเสียงเรียกร้องไม่ไหว

ถ้ามี Gmail ลองเปิดดูได้ เมื่อก่อนปุ่มข้างบนรายการเมลจะมี 2 ปุ่ม คือ Archive กับ Report Spam เพราะว่ากูเกิลจงใจให้ผู้ใช้ไม่ลบอีเมลของตัวเอง ตามโฆษณาเนื้อที่เก็บเมลเยอะๆ โดยไม่ต้องลบ แต่บางครั้งเรารู้ว่าเมลบางฉบับเก็บไปก็ไม่มีประโยชน์ เช่น ฟอร์เวิร์ดไร้สาระบางอันที่ส่งมาซ้ำๆ หรือเมลคอนเฟิร์มเวลาสมัครสมาชิกเว็บ ถ้าต้องการลบจริงๆ ต้องเลือกเมนู More Actions ทีนึงก่อนแล้วค่อยเลือก Delete

BusinessWeek อ้างการวิเคราะห์ของบริษัท iSuppli ในการแยกส่วน iMac รุ่นใหม่ที่มีราคาขายอยู่ 1,299 เหรียญว่า น่าจะมีต้นทุนหลังประกอบ (ก่อนโหลดซอฟต์แวร์และค่าแพกเกจ) ที่ 898 เหรียญ ถ้าเอาแค่ตอนนี้แอปเปิลจะได้กำไรต่อเครื่องราว 400 เหรียญ

ส่วนประกอบที่แพงที่สุดในเครื่องคือ Intel Core Duo ตัวละ 265 เหรียญ ที่คาดว่าแอปเปิลซื้อในราคาลดแล้วแน่นอน เมื่อรวมกับชิปอื่นๆ ของอินเทล (ในข่าวไม่ได้บอกว่าชิปอะไร แต่เดาว่าเป็นนอร์ธบริดจ์ หรืออาจจะนับแยกเป็นเมโมรีคอนโทรลเลอร์ก็ได้) เงินที่จ่ายให้อินเทลทั้งหมด 310 เหรียญต่อเครื่อง