ผมเคยเขียนไว้เมื่อนานมาแล้วว่า มีคนช่างสังเกตไปเจออินเทลจดเครื่องหมายการค้า VIIV และคาดเดาว่ามันต้องเป็นชื่อของ Pentium IV แบบดูอัลคอร์ (คือ IV ส่องกระจก) ปรากฎว่าหน้าแตกไปเพราะว่าตัวดูอัลคอร์นั้นใช้ชื่อว่า Pentium D

แ ต่ตอนนี้เจ้า VIIV ได้ใช้งานแล้ว โดยในงาน Intel Developer Forum (IDF) ซึ่งเป็นงานเปิดตัวเทคโนโลยีประจำปีของอินเทล ได้เผยว่าอินเทลกำลังสร้าง "แบรนด์" แบบเดียวกับ Centrino แต่เป็นแบรนด์สำหรับพีซีที่ใช้งานบันเทงภายในบ้าน โดยชื่อของมันก็คือ VIIV นี่ล่ะ (แล้วมันอ่านว่าอะไรล่ะนี่)

หลังจากที่คาดเดากันไปต่างๆ นาๆ กันมานาน กูเกิลก็ทำตามที่ทุกคนคิดคือการเปิดตัว IM มาแข่งกันกับเจ้ายุทธจักรอย่าง MSN Messenger ในที่สุด Google Talk ก็ถูกค้นพบอย่างน่าสงสัยตั้งแต่เมื่อวานนี้ เมื่อคนพบว่า พอร์ต 5222 ของเครื่อง talk.google.com นั้นกำลังเปิดบริการ Jabber อยู่ โดยไม่รู้ว่าคนที่เริ่มทดสอบคนแรกนั้นรู้ได้ยังไงเหมือนกัน ก่อให้เกิดความสับสนและข่าวลือกันไป ว่าเครื่องดังกล่าวนั้นเป็นเครื่อง Jabber ที่ใช้งานเป็นการภายในเอง หรือเป็นบริการใหม่จากกูเกิลกันแน่

ก็มีการเปิดเผยถึงสถาปัตยกรรมใหม่จากในงาน Intel Developer Forum ซึ่งเป้าหมายหลักของอินเทลตอนนี้ก็คือการลดการใช้พลังงานลงโดยในส่วนของโน้ตบุ๊ก ชิบ Meron ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาในครึ่งหลังของปี 2006 จะใช้พลังงานเหลือ 5 วัตต์ จากที่ขณะนี้บริโภคอยู่ที่ประมาณ 22 วัตต์ และตัว ultra-low-voltage นั้นจะใช้ไฟจากขณะนี้ 5.5 วัตต์ เหลือเพียง 0.5 วัตต์

ขณะที่ในส่วนของเดสก์ทอป ชิบตัวใหม่ Conroe ก็คาดว่าจะลดลงจากขณะนี้ 95 วัตต์เหลือเป็น 65 วัตต์ และส่วนของ เซิร์ฟเวอร์ Woodcrest จะลดลงจาก 110 วัตต์เหลือ 80 วัตต์

หลังจากที่เริ่มมีคนสังเกตว่ามีการเปิดบริการ Jabber ผ่านทาง talk.google.com เมื่อชั่วโมงทีั่ผ่านมา กูเกิลก็เปิดให้โหลดตัว IM ของกูเกิลเองอย่างเป็นทางการแล้ว

กำลังโหลดมารีวิวกันเดี๋ยวนี้แล้วครับ...

ที่มา Google Talk

หลังจากที่เชื่อกันมานานว่าวันหนึ่งแล้วกูเกิลต้องเปิดบริการ IM มาแข่งกับ MSN Messenger เมื่อคืนนี้ก็มีคนพบว่าสามารถเข้าใช้บริการ Jabber ซึ่งเป็นมาตรฐาน IM แบบเปิดด้วยพาสเวิร์ดของ GMail กันได้แล้วผ่านทางเซิร์บเวอร์ talk.google.com

ยังไม่มีการแถลงเปิดบริการนี้จากกูเกิลแต่อย่างใด จนในเวลานี้

MSN หลุดบ่อย ไปใช้กูเกิลดีก่า....

ที่มา Smash World

หลังจากมีข่าวจะทำ iTunes Phone มาข้ามปี ตอนนี้มีภาพหลุดของคู่มือออกมาแล้วครับ โทรศัพท์ของโมโตโรล่ารุ่นนี้ชื่อ E790 โดยจะเอาโครงของ E398 (ซึ่งวางขายตั้งนานแล้ว) มาเป็นฐาน โดยจะเพิ่มปุ่ม iTunes เข้าไปข้างๆ ปุ่มเมนูของโมโตโรล่าที่เป็นขีดๆ อินเทอร์เฟซการเล่นเพลงก็จะคล้ายๆ iPod คือมีปุ่ม 4 ทิศทาง ซึ่งจะควบคุมด้วยจอยสติ๊กแทน (น่าจะมี Clickwheel Phone เนาะคงเท่ดี ตอนโทรก็หมุนๆ เอาแบบโทรศัพท์เมื่อก่อน) การซื้อเพลงก็ย่อมต้องซื้อผ่าน iTunes บนพีซีหรือแมคแล้วค่อยย้ายลงมาบนโทรศัพท์ กำหนดออกสิ้นเดือนกันยายนนี้ครับ

ไม่รู้มีใครสังเกตหรือเปล่านะครับ แต่เลขของ entry นี้เป็นตอนที่ 1000 พอดี และช่วงเวลานี้ก็ครบรอบ 1 ปีของ Blognone พอดีด้วยเช่นกัน ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะครับ ถ้าชอบ Blognone ก็ช่วยกันประชาสัมพันธ์ Blognone ให้กับคนรู้จัก ใครมีบล็อกก็ช่วยลิงก์ไป หรือถ้าเจอข่าวน่าสนใจอยากแนะนำเพื่อนก็ส่งลิงก์ไปให้ Blognone จะดังแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการบอกเล่าแบบปากต่อปากของผู้อ่านนี่ล่ะ updateตอนนี้ผมทำการอัพเดต URL เรียบร้อยแล้วครับ สามารถเข้าเว็บได้ทาง www.blognone.com ตรงๆ ส่วน URL ถาวรของฟีดก็คือ www.blognone.com/node/feed นะครับ

ยังเกาะติดเรื่องศึกฟอร์แมตแห่งอนาคตกันต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าทั้งสองค่ายจะเปิดสงครามกันอย่างหนักหน่วงกันมาเป็นเวลาสามปีแล้ว (นานเหมือนกันแฮะ) แต่หนึ่งในข่าวต่างๆ ที่เคยมีก็มีความหวังอยู่บ้างจากความพยายามที่จะรวมฟอร์แมตกัน ซึ่งผู้บริโภคอย่างๆ เราก็จะได้สบาย แต่ความหวังอันน้อยนิดอยู่แล้วก็ถึงคราวจบสิ้นล่ะครับ เมื่อทั้งโซนี่และโตชิบา ผู้นำจากทั้งสองค่ายได้ล้มเลิกการเจรจารวมฟอร์แมตไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุผลว่ามีเวลาน้อยเกินไปในการสร้างฟอร์แมตใหม่ เนื่องจากผลิตภัณฑ์หลายๆ ตัวที่ต้องการใช้ดิสก์แบบใหม่นี้ (เช่น XBox 360 หรือ PS3) ใกล้กำหนดวางตลาดเต็มทีแล้ว

Engadget มีตอนพิเศษ ย้อนอดีตไปยังปี 1985 แล้วก็แนะนำเทคโนโลยีใหม่สุดฮอตในช่วงนั้น ไม่ว่าจะเป็น Windows 1.0, Nokia Mobira, Macintosh XL, Nintendo Famicom, Laser Printer แค่ดูหัวข้อแต่ละอันที่ทำด้วย ASCII Art ก็ดูตั้งใจกันมากแล้ว ผมมาฮาแตกตรงหัวข้อ Tapecasts นี่แหละ

Engadget 1985

ไม่แน่ใจว่ามีใครรอซื้ออยู่รึเปล่า แต่เอเอ็มดีก็ประกาศวางตลาดชิปแลปทอปในซีรี่ย์ทูริออนอีกสองตัวคือ MT-40 และ MT-37 โดยถูกวางตัวไว้สำหรับนักเล่นเกมที่ต้องการความแรงเป็นชีวิต งานนี้ผมมองว่าไม่มีอะไรมาก เพราะเป็นการเปิดตัวตัดหน้างาน Intel Developer Forum ที่คาดว่าน่าจะมีอะไรใหม่ๆ มาให้เห็นกันอีกเช่นเคย

อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวชิปแลปทอปให้ครบช่วงได้ก็นับว่าเป็นเรื่องดีสำหรับเอเอ็มดีที่มีชิปให้เลือกตั้งแต่ตัวสูงๆ ไปถึงตัวถูกๆ

ซื้อตัวถูกแล้วอัดแรมเยอะๆ เอาสนุกกว่า...

ที่มา ZDnet

DPReview มีรายงานถึงกล้องดิจิตอลชุดใหม่ยกชุดที่ออกมาตามวาระ โดยออกมามันทุกรุ่นตั้งแต่หัวรบใหญ่อย่าง EOS-1D Mark IIn ไปจนถึงน้องเล็กอย่าง A410 โดยยกเว้นเพียงกล้อง SLR รุ่นเล็กซึ่งยังคงให้ EOS 350D ทำงานต่อไป

สำหรับแฟนๆ แคนนอนคงไม่มีเรื่องอะไรใหญ่เกินการมาถึงของ EOS-5D ซึ่งเป็นกล้องสมัครเล่นระดับจริงจังตัวล่าสุดที่ไม่มีตัวไหนมาแทน 10D นานมากแล้ว แม้ราคาจะน่าสยองสักหน่อยที่ 3299 ดอลล่าห์

มีหลายตัวเขียนถึงไม่หมด แต่ผมว่าชุด A610 กับ A620 น่าสนใจมาก

ข่าวนี้เริ่มมาจากมีการพบคำว่า Web feeds ใน IE7 beta 1 ที่ออกมาได้ไม่นาน แต่ทาง Microsoft ก็ออกมาปฏิเสธ และชี้ว่า อย่าง Firefox เองก็ใช้คำว่า Live Bookmarks หรือ Newsgator ก็ใช้คำว่า feeds และกล่าวต่อว่าสิ่งที่ Microsoft กำลังจะทำต่อไปก็คือ หาชื่อที่เหมาะสมในการอ้างถึง RSS (ซึ่งจะมีผลทางการตลาด เพราะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป คำว่า RSS ดูจะไม่สื่อความหมายซักเท่าไหร่) ไม่ได้ต้องการจะสร้างมาตรฐานใหม่มาแทน RSS

ที่เป็นข่าวแบบนี้ก็เพราะประวัติเก่ามันฟ้องน่ะสิ

แม้จะเป็นเพียงตัวเบต้า แต่ GD2 (ขอใช้ชื่อย่อๆ แล้วกันครับ) ก็มาในแนวใหม่โดยการที่มีหน้าจอ SideBar โผล่มาให้เราเห็นหน้าเห็นตา พร้อมกับความสามารถเพิ่มเติมเช่นการอ่าน Feed ที่ระบุว่าสามารถดูพฤติกรรมการเข้าเว็บ แล้วเอามาแสดง feed ของเว็บที่เข้า่บ่อยๆ ได้ทันที

ทำงานอยู่ ยังไม่ว่างโหลดมาลอง....

ที่มา Google Desktop

Linux Magazine มีสัมภาษณ์ Aaron Seigo หนึ่งในทีมพัฒนา KDE

ข่าวใหญ่รอบสัปดาห์นี้คือลิงก์จาก The Inquirer มีใจความว่าบริษัทในออสเตรเลียถูกเก็บเงินค่าใช้เครื่องหมายการค้า (trademark) คำว่า Linux รายละ 5 พันเหรียญ โดยงานนี้เป็นความต้องการของลินุส ทอร์วัลด์เอง ไม่ใช่โจ๊ก April Fool หรือเรื่องน่าจะหลอกแบบตอน SCO ซะด้วย

ทำให้ชาวโอเพนซอร์สทั้งหลายต่างงง ไม่เชื่อ รวมไปถึงโกรธก็มี ว่าทำไมลินุสกลับคำแล้วเหรอ เป็นต้น

ไมโครซอฟท์กำลังเปิดทางเลือกให้ให้นักเล่นเกมทั้งหลายได้เล่น โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อทีละเกมอีกต่อไป โดยล่าสุดได้มีการตกลงกันระหว่างไมโครซอฟท์และ Exent ให้มีการเบิดบริการให้เช่าเกมแบบจ่ายรายเดือน ตั้งแต่ 4.95 ดอลล่าห์ ไปถึง 14.95 ดอลล่า์ห์ หรือประมาณ 200 ถึง 600 บาทต่อเดือน โดยเกมที่ไมโครซอฟท์ส่งเข้าร่วมคือ "Age of Empire," "Age of Mythology," "Dungeon Siege," "Mechwarrior," "Rise of Nations" และ "Zoo Tycoon" และแน่นอนว่าโครงการนี้ต้องใช้เทคโนโลยีลิขสิทธิ์ของไมโครซอฟท์เองอย่าง Janus

โดยทั่วไปแล้วกลุ่มคนที่โอเวอร์คล๊อกเครื่องมักเป็นกลุ่มที่รักความเร็วเป็นชีวิต โดยไม่ต้องการความเสถียรอะไรมากมายนัก แต่เรื่องราวอาจไม่เป้นเช่นนั้นเสมอไป เมื่อเมนบอร์ด ASUS รุ่น P5AD2 ถูกตั้งค่าจากโรงงานให้โอเวอร์คล๊อก FSB ไว้แล้ว 2 เมกกะเฮิร์ต

แม้จะเป็นตัวเลขเพียงเล็กน้อย แต่ก้ทำให้เมนบอร์ดรุ่นนี้ดูเหมือนจะเร็วกว่าคู่แข่งเสมอๆ

ทำอย่างกับเด็กแอบโกงข้อสอบ.....

ที่มา Rojak Pot

หลังจากเคยประกาศไปก่อนหน้านี้นานแล้วว่าจะมีการปล่อยซอร์สของเกม Quake3 ออกมาให้ยลกัน ในวันนี้ซอร์สของเกมดังกล่าวก็ถูกปล่อยออกมาจริงๆ แล้ว โดยเป็นโค้ดที่สามารถคอมไพล์ได้ทั้งบน ลินิกซ์ วินโดว์ และเครื่องแมค

ปรกติเวลาผมใช้เครื่อง มักมีเกมให้ระบายอารมณ์ไว้สักเกมอย่างเช่น CS

งานนี้ถ้าย้ายไปลินิกซ์จะได้ไม่เหงา...

ที่มา ShackNews

หลังจากโดนวิจารณ์อย่างหนัก ICANN ก็ประกาศเลื่อนการใช้งานโดเมนลำดับสูงสุด (Top Level Domain - TLD) ตัวใหม่คือ .xxx ออกไป โดยการเลื่อนครั้งนี้ไม่มีการแถลงข่าวเป็นทางการแต่อย่างใด เพียงแต่วาระการโหวตอนุมัติถูกถอนออกไปจากการประชุมของ ICANN อย่างเงียบๆ เท่านั้น

ICANN เคยระบุถึงเหตุผลที่ต้องการอนุมัติ .xxx ว่าเพื่อให้โปรแกรมต่างๆ สามารถกรองเว็บลามกเหล่านี้ออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ความคิดนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า ผลที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นผลเสียทำให้เว็บเหล่านี้ถูกพบได้ง่ายขึ้น และยังไม่สามารถกรองเว็บเหล่านี้ออกไปได้อยู่ดี เพราะเว็บเหล่านี้มักมีชื่อโดเมนเป็นดอทคอมอยู่แล้ว

สงครามฟอร์แมตแห่งอนาคตยังไม่จบง่ายๆ

หลังจากเราผ่านสงครามฟอร์แมตวิดีโอ (VHS vs BetaMax) ซึ่งจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ BetaMax ยุคถัดๆ มาเราก็ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้อีก (CD, DVD) แต่แผ่นดิสก์ยุคหน้ามันจะไม่ใช่อย่างนั้นแล้วครับ ทาง Blognone ได้รายงานเกี่ยวกับสงครามของฟอร์แมต Blu-ray (BD-ROM) กับ HD-DVD หลายครั้งแล้ว และคราวนี้เป็น Blu-ray ที่ได้พันธมิตรเพิ่ม คือ Universal Music และ Lion-Gate Entertainment ข่าวจาก Ars

หมกไว้หลายเรื่อง เขียนรวบเดียวเลยแล้วกัน

เรื่องแรกก็นินเทนโดจะออกเกมบอยรุ่นใหม่ในชื่อ Game Boy Micro ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ราคาค่าตัวคร่าวๆ 99 ยูโร หรือประมาณหกพันบาท โดยมีจุดเด่นคือขนาดที่เล็กลง จอที่อ้างว่าดีที่สุดนับแต่ทำเกมบอยมา และเปลี่ยนหน้ากากได้ ไม่มีมือถือในตัวไม่งั้นกลายเป็น Nin-Gage แหงๆ

เรื่องต่อมาคือ XBox360 ที่ผู้อ่านของเราไม่ค่อยอยากได้กันเท่าใหร่ ออกมาประกาศแล้วว่าปลายปีนี้จะออกมาพร้อมกันสองรุ่นคือรุ่น 299 ดอลล่าห์ ที่ไม่มีฮาร์ดดิสก์ และไวร์เลส ส่วนรุ่นที่่มีนั้นราคาจะอยู่ที่ 399 ดอลล่าห์ เรื่องนี้ทำให้คอลัมนิสต์บางคนเปลี่ยนชื่อให้กลายเป็น Xpensive ไปเลย

แฟนๆ ลินิกซ์ทุกวันนี้คงรุ้กันดีว่าลินิกซ์นั้นสร้างขึ้นตามแบบของยูนิกซ์ เช่นเดียวกับระบบตระกูล *nix ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น BSD, HP-UX, AIX, ฯลฯ โดยระบบต้นตอของมันจริงๆ นั้นถูกสร้างขึ้นที่เบลล์แลปในยุครุ่งเรื่องของเบลล์ สมัยปี 1969

มาในวันนี้แผนกหมายเลข 1127 ของเบลล์แลปซึ่งเป็นผู้ดูแลยูนิกซ์อยู่นั้นก็ถูกปิดตัวลงแล้ว หลังจากที่รอดพ้นมาหลายครั้งหลายครา ไม่ว่าจะเป็นการแตกบริษัท การปรับโครงสร้าง

ในความเป็นจริงแล้วแลปนี้ก็ไม่ค่อยมีบทบาทมากนักในยุคหลัง ที่โลกของลินิกซ์เข้ามาเรืองอำนาจ

แต่ความทรงจำก็ควรค่าแก่การบันทึกไว้

สองบริษัทนี้ตอนนี้มีเรื่องให้เปรียบมวยกันสองเรื่อง

เรื่องแรกคือการนำคำ Keyword ในการค้นหาไปขายเพื่อใช้โฆษณาโดยบริษัทอย่าง Geico ซึ่งเป็นบริษัทประกันรถยนต์นั้นได้ฟ้องทั้งสองบริํษัท โดยของยาฮูเป็นการฟ้อง Overture ซึ่งเป็นบริษัทลูกอีกที ว่านำชื่อบริษัทไปขายโฆษณา

โดย Overture นั้นยอมจ่ายเงินชดใช้ไปแล้วเมื่อเดือนธันวาที่ผ่านมา ส่วนกูเกิลนั้นเพิ่งแพ้คดีไป โดยกูเกิลนั้นระบุว่าคำที่เป็นเครื่องหมายการค้านั้นจะไม่มีผลเรียกโฆษณาขึ้นมาอยู่แล้ว เว้นแต่ว่าคำนั้นมีอยู่ในตัวโฆษณาเอง -_-''

หลังจากบริจาคโค้ดเข้าโครงการโอเพ่นซอร์สไปหลายรอบแล้ว ไอบีเอ็มก็ประกาศบริจาคโค้ดเข้าไฟร์ฟ๊อกในส่วนของ DHTML เพิ่มเติม

โดยการบริจาคครั้งนี้เชื่อว่าจะทำให้ไฟร์ฟ๊อกมีความสามารถในการรองรับแอพลิเคชั่นความสามารถสูง (Rich Internet Application - RIA) ได้ดีขึ้นในเวอร์ชั่นถัดไป โดยมีการหวังกันว่า RIA นี้เองที่จะเป็นอาวุธในการเข้ามาแทนที่หลายๆ ส่วนที่ครองอยู่โดยไมโครซอฟท์

ไอบีเอ็มกล่าวถึงเรื่องนี้โดยเน้นไปถึงความห่วงใยของไอบีเอ็มต่อผู้พิการว่า การใช้ DHTML จะช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงเว็บของผู้พิการทางสายตาและการเคลื่อนไหวหลายๆ อย่างได้

หลังจากเริ่มโครงการได้เป็นเวลาแปดเดือน กูเกิลก็ประกาศพักโครงการแสกนห้องสมุดเอาไว้ชั่วคราวแล้ว โดยกูเกิลระบุว่าการเลื่อนโครงการนี้ออกไป เพื่อให้สำนักพิมพ์ต่างๆ สามารถแจ้งมายังกูเกิลได้ว่าหนังสือเล่มใดบ้างที่สำนักพิมพ์ไม่ต้องการให้ถูกแสกนเพื่อให้มีการค้นหาด้วยกูเกิลในอนาคต

กูเกิลเริ่มโครงการขนาดยักษ์นี้ด้วยการแสกนหนังสือจากห้องสมุด 5 แห่งด้วยกัน ได้แก่ ห้องสมุดมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด, มิชิแกน และสแตนฟอร์ด พร้อมกับห้องสมุดนิวยอร์ค และห้องสมุดมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด โดยสองที่หลังนั้นอนุญาตให้กูเกิลสแกนเฉพาะหนังสือที่ไม่มีลิขสิทธิ์แล้วเท่านั้น