OnePlus วางขายนาฬิกาอัจฉริยะ OnePlus Watch 3 ในสหรัฐอเมริกา หลังกลับไปแก้ปัญหาพิมพ์คำว่า "Made in China" ผิด

ประเด็นที่น่าสนใจคือ เดิมที OnePlus ประกาศราคา Watch 3 ไว้ที่ 329.99 ดอลลาร์ แต่ราคาใหม่กลายเป็น 499.99 ดอลลาร์เรียบร้อยแล้ว น่าจะเป็นสินค้าชิ้นแรกๆ ที่ปรับราคาจากนโยบายภาษีของ Donald Trump

ตัวแทนของ OnePlus ปฏิเสธไม่แสดงความเห็นเรื่องราคาใหม่ของ OnePlus Watch 3

ที่มา - Android Authority

นอกจาก Find N5 แล้ว OPPO ประเทศไทย เปิดตัว Watch X2 สมาร์ทวอตช์แฟลกชิปเพื่อสุขภาพ ตรวจสุขภาพภายใน 1 นาที เพียงยกข้อมือและแตะปุ่ม มาพร้อมกับ หน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์ และกันกระแทกระดับ Military Grade

Watch X2 สามารถตรวจจับ 7 สัญญาณสุขภาพ

Garmin เปิดตัว Garmin Connect+ แผนสมัครใช้งานเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้งานแอป Garmin Connect ซึ่งเพิ่มความสามารถด้านข้อมูลสุขภาพและการออกกำลังกายเชิงลึกด้วย AI และฟีเจอร์เสริมอื่นอีกหลายอย่าง

Garmin Connect+ คิดค่าบริการเพิ่มรายเดือน ๆ ละ 6.99 ดอลลาร์ หรือจ่ายรายปี 69.99 ดอลลาร์ สามารถสมัครทดลองใช้งานได้ 30 วัน โดย Garmin บอกว่าลูกค้าที่ใช้งาน Garmin Connect อยู่แล้ว ไม่ได้เสียอะไรไป ทุกอย่างที่เคยใช้งานได้ฟรีจะยังใช้ได้ฟรีต่อไป

ตัวอย่างฟีเจอร์เสริมที่มากับ Garmin Connect+ เช่น AI วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพและการออกกำลังกาย, แสดงข้อมูลกิจกรรมบนแอปแบบเรียลไทม์, คำแนะนำจากเทรนเนอร์มืออาชีพ และอื่น ๆ

รายงานจาก Counterpoint Research พบยอดขายสมาร์ทวอทช์ทั่วโลกลดลงเป็นครั้งแรกในปี 2024 โดยมียอดจัดส่งลดลง 7% เทียบกับปีก่อน และลดลง 9% ในไตรมาสที่ 4/2024 เทียบกับปีก่อน ซึ่งลดลงต่อเนื่องสี่ไตรมาสติด

หนึ่งปัจจัยที่ทำให้ยอดจัดส่งทั่วโลกลดลงมาจากยอดจัดส่ง Apple Watch ที่ลดลง 19% ส่วนหนึ่งมาจากการขาดฟีเจอร์ใหม่ ๆ, ไม่มีการเปิดตัวรุ่น Ultra 3 ตามที่คาดไว้, และการถูกแบนในสหรัฐฯ จากข้อพิพาทด้านสิทธิบัตร ทำให้รายได้ของ Apple Watch ลดลง 23% ในไตรมาสที่ 4/2024 เทียบกับปีก่อน และส่วนแบ่งลดลงจาก 25% เหลือ 22%

นอกจากนี้ ตลาดในอินเดียยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ยอดจัดส่งลดลง เนื่องจากความต้องการอุปกรณ์ท้องถิ่นราคาถูกมากหดตัวลง ทำให้ส่วนแบ่งลดลงจาก 30% เหลือ 23%

ผู้ใช้งานสมาร์ทวอทช์ Garmin หลายคนรายงานปัญหานาฬิกาดับและรีบูทวนแสดงโลโก้สามเหลี่ยมสีฟ้า เมื่อเปิดแอปที่ต้องใช้งาน GPS ทำให้ไม่สามารถกลับมาใช้งานนาฬิกาได้ตามปกติ

Garmin ชี้แจงในหน้า Status ว่าบริษัทรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว โดยให้แนวทางแก้ไขเบื้องต้นคือ กดปุ่ม Power ค้างจนกว่านาฬิกาจะปิด จากนั้นเปิดขึ้นมาอีกครั้ง แล้วซิงก์นาฬิกากับแอป Garmin Connect หรือแอป Garmin Express แต่หากยังวนลูปในโลโก้สามเหลี่ยม ให้ Factory Reset ตามขั้นตอนในลิงก์นี้ แต่จะทำให้ข้อมูลการใช้งานพื้นฐานถูกลบออกไปต้องตั้งค่าใหม่ด้วย

Garmin เปิดตัว Instinct 3 สมาร์ทวอทช์เน้นความถึกทนรุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ซึ่ง Garmin บอกว่าทำให้ทนยิ่งขึ้น พร้อมตัวเลือกจอ AMOLED และยังมีรุ่นที่ใช้การชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์เหมือนรุ่นก่อนหน้านี้

Instinct 3 ได้รับการออกแบบใหม่ให้พร้อมรับความทนทุกสภาพด้วยกรอบโลหะ เคสโพลิเมอร์ที่เสริมไฟเบอร์ มาตรฐานการทนต่อความร้อนและแรงกระแทก MIL-STD 810 กันน้ำลึก 100 เมตร มีไฟฉายปรับความเข้มแสงเป็นสีแดงได้สำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มืดมาก

หน้าปัดมีให้เลือก 2 แบบได้แก่ รุ่นจอ AMOLED ชาร์จเต็มอยู่ได้นานสูงสุด 24 วัน ส่วนรุ่นจอพลังงานแสงอาทิตย์ Solar ยังคงเคลมว่าใช้งานได้นานไม่จำกัด หน้าปัดมีสองขนาดคือ 45 มม. และ 50 มม.

Huawei เปิดตัว Huawei Watch D2 สมาร์ตวอตช์สายสุขภาพ ดีไซน์บาง น้ำหนักเบา พร้อมจอ AMOLED ขนาด 1.82 นิ้ว ความละเอียด 480 × 408 พิกเซล มาในขนาด 48 × 38 × 13.3 มม เป็นการต่อยอดจากรุ่นแรกที่เปิดตัวไปเมื่อปีก่อน

จุดเด่นของสมาร์ตวอตช์รุ่นนี้คือฟีเจอร์ด้านสุขภาพ เช่น การติดตามภาพรวมด้านสุขภาพเรียลไทม์ ไปจนถึงการวัดความดันโลหิตด้วยถุงลมแบบเดียวกับเครื่องมือโรงพยาบาลเพื่อทราบข้อมูลโดยละเอียด เช่น การอ่านค่า SBP และ DBP โดยเฉลี่ยในระหว่างวัน ตอนกลางคืน และในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ HUAWEI WATCH D2 จะเริ่มวางขาย 29 พฤศจิกายนนี้ ราคา 13,990 บาท โดยจะมีสองสีให้เลือกคือสีดำและสีขาวทอง

ประเด็นระหว่างแอปเปิลกับบริษัทอุปกรณ์การแพทย์ Masimo มีคดีที่แยกจากเรื่อง Masimo ฟ้องแอปเปิล โดยกรณีแยกคือแอปเปิลก็ฟ้อง Masimo เช่นกันเรื่องละเมิดสิทธิบัตร ว่าสมาร์ทวอทช์รุ่น W1 (รูปประกอบด้านล่าง) และ Freedom ของ Masimo ละเมิดสิทธิบัตรการออกแบบของแอปเปิล

คณะลูกขุนของรัฐบาลกลางออกคำตัดสินว่า Masimo ละเมิดสิทธิบัตรการออกแบบของแอปเปิลจริง โดยแอปเปิลจะได้เงินค่าเสียหาย 250 ดอลลาร์ (พิมพ์ถูกแล้ว) ซึ่งเป็นเงินต่ำที่สุดในการจ่ายค่าปรับคดีละเมิดสิทธิบัตร เพราะทนายของแอปเปิลบอกว่าคดีนี้บริษัทไม่ได้ต้องการเงิน แต่ต้องการให้สินค้านี้หยุดขาย

Pokémon Sleep เกมโปเกมอนที่ใช้ข้อมูลการนอนหลับของผู้ใช้งานมาประกอบการเล่น ซึ่งเปิดให้เล่นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ออกอัปเดตโดยสามารถเชื่อมต่อข้อมูลการนอนหลับจากแอปของสมาร์ทวอทช์ได้แล้ว

ทาง Pokémon บอกว่าอัปเดตนี้น่าจะทำให้ประสบการณ์การเล่นและการใช้อุปกรณ์ตรวจจับการนอนหลับของแต่ละคน มีความสะดวกเชื่อมต่อข้อมูลได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม Pokémon Sleep รองรับข้อมูลการนอนหลับจากสมาร์ทวอทช์เฉพาะบางรุ่นเท่านั้น ได้แก่ Apple Watch, Samsung Galaxy Watch, Google Pixel Watch และ Fitbit

ที่มา: Nintendo Life

เว็บไซต์ Dealabs Magazine ของฝรั่งเศส อ้างว่าได้ข้อมูลสเปกละเอียดของนาฬิกา Galaxy Watch 7 และ Galaxy Watch Ultra ที่ซัมซุงจะเปิดตัวในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้

นาฬิกาทั้งสองรุ่นใช้ชิป Exynos W1000 จำนวน 5 คอร์ ผลิตที่ 3nm, แรม 2GB, รอม 32GB เท่ากัน

จุดต่างอยู่ที่ขนาด วัสดุ และแบตเตอรี่

• Galaxy Watch 7 ตัวเรือนอะลูมิเนียม ลงน้ำลึกได้ 5 ATM มีสองขนาดคือ

กูเกิลเปิดตัว Fitbit Ace LTE สมาร์ทวอทช์ที่ออกแบบมาสำหรับให้เด็กอายุ 7 ขวบขึ้นไปใช้งาน มีฟังก์ชันที่ออกแบบมาบนสองแนวคิด ว่าเด็กชอบวิ่งเล่นเคลื่อนไหว และชอบเล่นวิดีโอเกม เลยนำสองสิ่งนี้มารวมกันใน Ace LTE

โดยสมาร์ทวอทช์จะเกม 3D ต่าง ๆ ที่ออกแบบมาให้ผู้สวมใส่ต้องขยับร่างกายไปมาเพื่อเอาชนะผ่านด่าน ใช้ลูกเล่นทั้งการสั่งตอบสนอง ส่งเสียง วัดการเคลื่อนที่ นอกจากนี้เกมจะมีอัปเดตใหม่ออกมาเรื่อย ๆ ผ่าน Fitbit Arcade

สเป็กของ Ace LTE มีหน้าปัดสี่เหลี่ยมมน OLED 333PPI, กระจก Gorilla Glass 3, แบตเตอรีอยู่ได้นาน 16 ชั่วโมง ในโหมดเชื่อมต่อ LTE, กันน้ำ 5 ATM (50 เมตร), แรม 2GB และหน่วยความจำ 32GB

Sammobile อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ระบุว่าซัมซุงกำลังพิจารณาทำสมาร์ทวอทช์หน้าปัดสี่เหลี่ยม ซึ่งไม่ใช่ของใหม่แต่อย่างใด แค่ต้องย้อนไปในสมัย Galaxy Gear เมื่อปี 2013

จาก Galaxy Gear เวลานั้น ซัมซุงก็ทำสมาร์ทวอทช์หน้าปัดสี่เหลี่ยมออกมาอีกหลายรุ่นเช่น Gear 2 หรือ Gear Live แต่หลังจากนั้นซัมซุงก็เปลี่ยนมาทำสมาร์ทวอทช์หน้าปัดวงกลมโดยตลอด จนถึง Galaxy Watch ในปัจจุบัน

OnePlus เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะ OnePlus Watch 2 ในงาน MWC 2024 โดยเป็นนาฬิการุ่นแรกของบริษัทที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS ของกูเกิล (OnePlus Watch รุ่นแรกออกปี 2021 ใช้ระบบปฏิบัติการ RTOS ของตัวเอง ออกมารุ่นเดียวแล้วเงียบหายไปหลายปี)

จุดเด่นของ OnePlus Watch 2 คือการใช้ชิปประมวลผล 2 ตัวทำงานแบบไฮบริด (Dual-Engine Architecture) โดยมีชิปตัวใหญ่ประสิทธิภาพสูง Snapdragon W5 ทำงานสลับกับชิป MCU BES 2700 รันระบบปฏิบัติการ RTOS ที่พัฒนาเอง รันงานประมวลผลเบาๆ อย่างการแจ้งเตือน หรือการแสดงผลหน้าจอ ช่วยให้การใช้พลังงานดีขึ้น แบตเตอรี่อยู่ได้ยาวนานขึ้นเป็น 100 ชั่วโมง

สเปกอื่นได้แก่

Xiaomi เปิดตัวสินค้ากลุ่มอุปกรณ์สวมใส่ wearable จำนวน 3 รุ่นในงาน MWC 2024 โดยมีทั้งกลุ่มสายรัดข้อมือ (band) และนาฬิกาอัจฉริยะที่ใช้ทั้ง HyperOS ของตัวเอง และ Wear OS ของกูเกิล ได้แก่

• Xiaomi Smart Band 8 Pro สายรัดข้อมืออัจฉริยะสำหรับสายออกกำลังกาย หน้าจอ 1.74" AMOLED ใหญ่ขึ้นจากเดิม อัตรารีเฟรช 60Hz กระจก Corning Gorilla Glass Victus, แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นเป็น 289mAh, น้ำหนัก 22.5g, ราคาเริ่มต้น 69 ยูโร
• Xiaomi Watch S3 นาฬิกาอัจฉริยะทรงคลาสสิค เน้นสายแฟชั่น ระบบปฏิบัติการ HyperOS, หน้าจอแบบกลม 1.43" AMOLED, แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 15 วัน, รองรับ heart rate monitoring, ราคาเริ่มต้น 149 ยูโร
• Xiaomi Watch 2 นาฬิกาอัจฉริยะ ชิป Snapdragon W5+ Gen 1, ระบบปฏิบัติการ Google Wear OS, หน้าจอแบบกลม 1.43" AMOLED, แบตเตอรี่ 495mAh ใช้งานได้ 65 ชั่วโมง, สตอเรจขนาดใหญ่ 32GB, ราคาเริ่มต้น 199 ยูโร

ที่มา - Xiaomi

องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA ออกคำเตือนถึงความเสี่ยงในการใช้ฟีเจอร์ของสมาร์ทวอทช์หรือสมาร์ทริง ที่อ้างว่าสามารถวัดระดับกลูโคส (น้ำตาล) ในเลือดได้ โดยไม่ต้องเจาะผิวหนัง ซึ่ง FDA ย้ำว่าจนถึงตอนนี้หน่วยงานยังไม่เคยอนุญาตหรืออนุมัติ อุปกรณ์สมาร์ทวอทช์หรือสมาร์ทริงรุ่นใดในส่วนของฟีเจอร์วัดระดับกลูโคสดังกล่าว

FDA บอกว่าการใช้งานตัววัดในอุปกรณ์เหล่านี้ มีความเสี่ยงที่จะให้ค่าผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง ไม่แม่นยำ นำไปสู่การเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง แล้วส่งผลต่ออาการป่วยหรืออาจถึงแก่ชีวิตได้

Fossil ยืนยันว่าบริษัทจะเลิกผลิตสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ออกมาแล้ว นับจากนี้เป็นต้นไป ซึ่งรวมทั้งสมาร์ทวอทช์ Wear OS และสมาร์ทวอทช์รุ่น Hybrid ที่เป็นหน้าจอ e-ink

โดย Fossil ให้เหตุผลว่าตลาดสมาร์ทวอทช์มีพัฒนาการมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่จะถอนตัวจากตลาดนี้ เพื่อทุ่มทรัพยากรกับจุดแข็งของบริษัทมากขึ้นแทนคือ นาฬิกาแบบคลาสสิก เครื่องประดับ และสินค้าเครื่องหนัง

Fossil บอกว่าจะยังให้การสนับสนุนสมาร์ทวอทช์รุ่นที่มีอยู่ในตลาดต่อไปเป็นระยะเวลาอีกหลายปี แต่ยังไม่ได้บอกตัวเลข

Strava แอปบันทึกข้อมูลการออกกำลังกายยอดนิยม ออกรายงานประจำปีจากข้อมูลที่ผู้ใช้งานอัปโหลดเข้ามาตลอดปี 2023 โดยพบข้อมูลน่าสนใจคืออุปกรณ์ตรวจจับการวิ่ง ที่มีการใช้งานมากที่สุดจากผู้ใช้งานทั่วโลกคือ Garmin Forerunner 235 ซึ่งเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2015 มากกว่าสมาร์ทวอทช์ออกกำลังกายทุกรุ่น

รายงานนี้ยังระบุอุปกรณ์จับการปั่นจักรยานยอดนิยมคือ Garmin Edge 530 ซึ่งรุ่นนี้ออกมาในปี 2019

Strava ให้ข้อมูลเฉพาะอุปกรณ์ที่มีการอัปโหลดข้อมูลมากที่สุด แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลอันดับอื่น จึงไม่มีตัวเปรียบเทียบเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามการที่อุปกรณ์ซึ่งขายมาตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว ยังเป็นอุปกรณ์ยอดนิยมก็อาจจะสะท้อนพฤติกรรมการไม่เปลี่ยนแทร็กเกอร์ในกลุ่มนักวิ่งได้ทางหนึ่งเช่นกัน

มีรายงานจากผู้ใช้ Google Pixel Watch หลายคนที่หน้าจอแตก และนำนาฬิกาไปรับการซ่อม แล้วพบว่ากูเกิลไม่มีบริการซ่อมหน้าจอที่แตกนี้

Bridget Starkey ตัวแทนของกูเกิลยืนยันข้อมูลนี้ โดยบอกว่า Pixel Watch ยังไม่มีตัวเลือกซ่อมอุปกรณ์ในตอนนี้ หากนาฬิกาเสียหายจากเหตุใด ๆ ให้ติดต่อฝ่ายซัพพอร์ตเพื่อดูเงื่อนไขรับประกัน เพื่อพิจารณาเปลี่ยนนาฬิกาใหม่

ก่อนหน้านี้ iFixit เคยแกะ Pixel Watch และพบว่าส่วนหน้าจอนั้นถอดแยกออกมาได้ยากมาก จึงอาจเป็นสาเหตุที่แม้แต่กูเกิลเองก็ไม่มีบริการซ่อมแซมหน้าจอนี้ ซึ่งต้องรอดูว่า Pixel Watch 2 จะปรับปรุงขั้นตอนการซ่อมแซมให้ดีขึ้นหรือไม่

Garmin เปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ ที่เน้นความสมบุกสมบันในการใช้งานใน 2 ซีรีส์คือตระกูล Fenix และตระกูล Epix Pro

เริ่มกันที่ Fenix 7 Pro (ตัวสะกดทางการคือ fēnix 7 Pro) สมาร์ทวอทช์รุ่นต่อจาก Fenix 7 ในปีที่แล้ว รองรับการชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ ออกแบบสำหรับนักกีฬาและนักผจญภัย พร้อมหน้าปัดและเซ็นเซอร์ เก็บและแสดงข้อมูล ทั้งพิกัดแผนที่ ข้อมูลสุขภาพ สถานะการออกกำลังกาย และทุกกิจกรรม

9to5google ให้ข้อมูลของนาฬิกาอัจฉริยะ Google Pixel Watch 2 ที่น่าจะเปิดตัวช่วงปลายปีนี้พร้อม Pixel 8

เว็บไซต์ 9to5google รายงานข่าวลือว่า Xiaomi อาจออกสินค้านาฬิกาสมาร์ทวอทช์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS 3 ของกูเกิล หลังจากที่ใช้ OS เฉพาะของตัวเองมาตลอดสำหรับสินค้ากลุ่มสวมใส่ทั้ง Mi Band และ Xiaomi Watch

ระบบปฏิบัติการของ Xiaomi ในปัจจุบันมีชื่อเรียกว่า MIUI Watch OS แม้ข้างในเป็น Android แบบคัสตอม แต่ก็ใช้ร่วมกับ Wear OS 3 ของกูเกิลไม่ได้ จึงทำให้ขาดแคลนแอพหรือฟีเจอร์ที่ผูกกับบริการของกูเกิลโดยตรง (ซึ่งผู้ใช้มักต้องการ)

ข้อมูลที่มีตอนนี้มีเพียงว่านาฬิการุ่นใหม่จะยังใช้ชื่อ Xiaomi Watch เหมือนเดิม และเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอพ Mi Fitness / Xiaomi Wear เหมือนเดิม เปลี่ยนแค่ตัว OS มาเป็น Wear OS 3 โดยคาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2023

นอกจากสมาร์ทโฟนเรือธง Xiaomi 13/13 Pro ที่เปิดตัวในตลาดนานาชาติ Xiaomi ยังเปิดตัวสินค้ากลุ่มอุปกรณ์เสริมและ gadget ในตลาดนานาชาติพร้อมกัน ดังนี้

• หูฟังไร้สาย Xiaomi Buds 4 Pro มีฟีเจอร์ Sony LDAC ส่งข้อมูล 990kbps + HiRes Audio, ตัดเสียงรบกวน ANC สูงสุดที่ความดัง 48dB, แบตเตอรี่ใช้ฟังเพลงได้นาน 9 ชม. หรือ 38 ชม. ร่วมกับเคส, ราคา 249 ยูโร
• นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 Pro หน้าจอ 1.47” AMOLED กระจกแซฟไฟร์กันรอย, แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 14 วัน, รองรับการแทร็คกิจกรรมกว่า 100 ประเภท, ราคา 299 ยูโร
• สกูตเตอร์ไฟฟ้า Xiaomi Electric Scooter 4 Ultra ล้อขนาด 10 นิ้ว, ความเร็วสูงสุด 25km/h, มอเตอร์กำลัง 940W, ระยะวิ่งสูงสุด 70 km ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง, ราคา 999 ยูโร

Fitbit เริ่มรีแบรนด์ตัวเองเป็น "Fitbit by Google" พร้อมประกาศแนวทางใหม่หลังเข้ามาเป็นบริษัทลูกของกูเกิลตั้งแต่ปี 2021

นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกๆ Pebble เลิกกิจการไปตั้งแต่ปี 2016 โดยขายสินทรัพย์ให้ Fitbit โดย Fitbit ปิดเซิร์ฟเวอร์ของ Pebble ในปี 2018 หลังจากนั้นยังมีชุมชนผู้ใช้งานคอยช่วยดูแลกันต่อไปในชื่อ Rebble

สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือ Fitbit ขายกิจการต่อให้กูเกิล (เสร็จสมบูรณ์ในปี 2021) ทำให้ตอนนี้กูเกิลมีสถานะเป็น "เจ้าของ" สินทรัพย์ของ Pebble ด้วย