Adobe เปิดตัว Adobe Fresco แอพพลิเคชั่นวาดรูปแยกออกมาอีกตัว โดยเน้นที่ Brush พู่กันสีน้ำและสีน้ำมันเสมือนจริง โดยเริ่มใช้บน iPad ก่อน ล่าสุด Adobe ประกาศจะขยาย Fresco ไปยังอุปกรณ์ไมโครซอฟท์ และ Wacom ด้วย

สามารถใช้งานได้ในอุปกรณ์ ดังนี้

ในการ save ไฟล์งานบน Adobe Illustrator ผู้ใช้งานต้องหยุดทำทุกอย่างเพื่อรอให้กระบวนการบันทึกไฟล์เสร็จสิ้น จากนั้นจึงค่อยทำงานอื่นต่อ

ล่าสุด Adobe อัพเดตใหม่ ให้สามารถบันทีกงานได้ และทำงานอย่างอื่นไปด้วยได้โดยไม่สะดุด สามารถแก้ปัญหาให้นักออกแบบได้มาก เพราะบางทีหากเผลอทำจุดอื่นบน Illustrator ระหว่างบันทึกไฟล์ อาจส่งผลให้โปรแกรมหยุดทำงานได้เลย

ก่อนที่งานออกแบบจะไปถึงมือลูกค้า นักออกแบบย่อมไม่ต้องการให้มีคำผิด ในงาน Adobe Max มีการประกาศความสามารถใหม่ของ Adobe Illustrator ตรวจจับคำสะกดผิดบนอาร์ตเวิร์กได้เรียลไทม์ โดยจะปรากฏขีดเส้นใต้สีแดงใต้คำที่น่าจะผิด

กระแส TikTok กำลังมาแรงจริงๆ ล่าสุด แม้แต่ Adobe ก็เข้าร่วมขบวนเทรนด์วิดีโอสั้นด้วย โดย Adobe ได้ร่วมมือกับ TikTok ให้สามารถแชร์คลิปจาก Premiere Rush แอพพลิเคชั่นตัดต่อวิดีโอไปยัง TikTok ได้เลย

ในงาน Adobe Max 2018 ทาง Adobe เปิดตัว Photoshop เวอร์ชั่นเต็มใช้งานบน iPad Pro ในปีนี้ Adobe ได้เปิดตัว Illustrator เวอร์ชั่นเต็มบน iPad ด้วยตามคำเรียกร้อง

Adobe ระบุว่า การเตรียม Illustrator ให้พร้อมกับอุปกรณ์ iPad นั้นยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้น และจะเริ่มเปิดใช้งานในปี 2020

Illustrator เวอร์ชั่นเต็มบน iPad มาพร้อมกับความสามารถใช้งานหลักๆ คือ ทำงานร่วมกันข้ามอุปกรณ์ได้ บันทึกผลงานไว้บน Creative Cloud, เปิดไฟล์ Illustrator ได้แบบไม่สูญเสียความละเอียด, ตัวแอพออกแบบมาให้รองรับการใช้งานปากกา และมีการออกแบบหน้าตาการใช้งานใหม่ แถบเครื่องมือเล็กลงเมื่อเทียบกับ Illustrator บนพีซี ซึ่งหน้าตาคล้ายกับ Adobe Fresco แอพวาดรูป และ Adobe Photoshop บน iPad

Adobe เปิดให้โหลด Photoshop เวอร์ชั่นเต็มบน iPad แล้วบน App store ใช้งานได้ฟรี 30 วันแรก ถ้าต้องการใช้งานต่อจากนั้นต้องสมัครเป็นสมาชิก Creative Cloud โดย Adobe เปิดตัว Photoshop เวอร์ชั่นเต็มบน iPad มาตั้งแต่งาน Adobe Max ปี 2018

Adobe ประกาศอัพเดตแอป Creative Cloud สำหรับ iOS โดยมาพร้อมกับฟอนต์หลากหลายสไตล์ที่มีให้เลือกจากผู้ผลิตฟอนต์ทั่วโลกที่พร้อมติดตั้งบน iOS 13 และ iPadOS พร้อมให้แอปอื่น ๆ เรียกใช้งานผ่าน API

ปัจจุบัน ผู้สมัครสมาชิก Adobe Creative Cloud จะสามารถใช้งานคอลเลคชั่นฟอนต์ของ Adobe ที่มีกว่า 17,000 ฟอนต์ได้ทั้งหมด (ส่วนผู้ใช้ที่มี Adobe ID แต่ไม่ได้สมัคร Creative Cloud จะใช้งานได้เพียง 1,300 ฟอนต์) ซึ่งเดิมฟอนต์เหล่านี้จะใช้งานได้เฉพาะในเดสก์ท็อปเท่านั้น แต่ล่าสุด Adobe ปล่อยให้ผู้ใช้ iOS ได้ใช้ฟอนต์เหล่านี้แล้ว

Adobe ประกาศนำเครื่องมือ Creative Cloud Libraries รวมเข้ากับ Microsoft Office สำหรับการดึงสิ่งจำเป็นต่าง ๆ มาใช้งานได้ในซอฟต์แวร์ด้านสำนักงาน

Creative Cloud Libraries จะเป็นพื้นที่สำหรับจัดเก็บโลโก้, สี และอื่น ๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำเป็นในการใช้งานกับแอป Creative Cloud และไลบรารีนี้จะซิงค์ข้ามเครื่องอัตโนมัติรวมถึงแชร์กันใช้งานได้ ฟีเจอร์ใหม่นี้จะเปิดให้ Microsoft Office ดึงสิ่งที่เก็บไว้ในไลบรารีไปใช้งานได้โดยตรง และสำหรับการทำงานในองค์กรที่แชร์โลโก้หรือ asset อื่น ๆ กันภายในอยู่แล้ว การเปิดให้ดึงมาใช้งานโดยตรงก็ช่วยทำให้งานนำเสนอต่าง ๆ รักษาแนวทางภาพลักษณ์ของสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัทให้เป็นไปในทางเดียวกันได้ง่ายขึ้น

บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ Comparitech ค้นพบฐานข้อมูลลูกค้า Adobe Creative Cloud ที่เข้าถึงได้จากอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องใส่รหัสผ่านใดๆ โดยมีข้อมูลลูกค้า อีเมล ข้อมูลบัญชี (ไม่มีรหัสผ่านและเลขบัตรเครดิต) ของลูกค้าราว 7.5 ล้านคน

Bob Diachenko นักวิจัยความปลอดภัยที่ค้นพบฐานข้อมูลนี้ แจ้งเตือนไปยัง Adobe ในวันเดียวกับที่ค้นพบ แต่ไม่มีข้อมูลว่ามีคนอื่นเข้าถึงฐานข้อมูลนี้ก่อนหน้าหรือไม่

ถึงแม้ฐานข้อมูลนี้ไม่มีข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่านหรือบัตรเครดิต แต่ก็มีข้อมูลอีเมลที่อาจนำไปใช้หลอกลวงหรือ phishing ผู้ใช้กลุ่มนี้บนบริการอื่นๆ ได้เช่นกัน

หลังจาก Adobe เปิดตัว Photoshop ตัวเต็มบน iPad Pro ไปแล้วในงาน Adobe Max ปี 2018 ล่าสุด Bloomberg รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าววงในบอกว่าหลังจาก Photoshop ทาง Adobe ก็มีแผนจะเปิดตัว Illustrator อีกหนึ่งแอพพลิเคชั่นออกแบบเรือธงของ Adobe บน iPad ตามกันมา

Adobe เปิดตัว Photoshop for iPad มาตั้งแต่กลางปี 2018 และเปิดรับผู้ทดสอบ Beta มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2019 แต่หลังจากนั้นข่าวคราวก็เงียบหายไปนาน

ล่าสุด Adobe ออกมาให้ข่าวกับ Bloomberg ว่าจะปล่อย Photoshop for iPad ตามกำหนดเดิมที่ระบุว่า "ปลายปีนี้" และคาดว่าจะเผยข้อมูลเพิ่มเติมในงานสัมมนาประจำปี Adobe Max ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้

จากประเด็นที่ Adobe ระงับบัญชีผู้ใช้ในเวเนซุเอลาตามคำสั่งของรัฐบาลสหรัฐ เป็นมาตรการคว่ำบาตรแบบเดียวกับที่ทำกับประเทศเกาหลีเหนือ อิหร่าน ซีเรีย และผู้ที่ซื้อบริการ Adobe ไปจะขอเงินคืนไม่ได้ด้วยนั้น ล่าสุด Adobe ออกมาบอกแล้วว่า สามารถเรียกเงินคืนได้ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้

ความเข้าใจนี้เกิดขึ้นจากในเอกสารแถลงจาก Adobe เวอร์ชั่นก่อนหน้าระบุว่า เป็นการหยุดกิจกรรมการค้าทั้งหมด ทั้งซื้อ ขาย การสนับสนุนต่างๆ เครดิต การคืนเงิน แต่ Adobe ออกมาพูดใหม่ว่าคืนเงินได้ และยังสามารถใช้งาน Behance โซเชียลชุมชนครีเอทีฟต่อได้

Adobe เตรียมระงับบัญชีผู้ใช้ชาวเวเนซุเอลา ทั้งผู้ใช้แบบฟรีและเสียเงิน โดยที่ไม่สามารถขอคืนเงินได้ตามคำสั่งของรัฐบาลสหรัฐ โดยทาง Adobe เตือนว่าให้ดาวน์โหลดข้อมูลของตัวเองก่อนจะถูกระงับบัญชีในวันที่ 28 ตุลาคมนี้

รายละเอียดของคำสั่งนี้คือประธานาธิบดี Donald Trump ออกคำสั่งฝ่ายบริหาร (executive order) ที่ระบุว่าห้ามบริษัทสัญชาติอเมริกันทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเวเนซุเอลา ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเอกชน, องค์กรรัฐบาล, องค์กรไม่แสวงหากำไร, หรือบุคคลก็ตาม

Adobe ออกอัพเดตซอฟต์แวร์แบบขายขาด Photoshop Elements และ Premiere Elements เวอร์ชันปี 2020 ซึ่งเน้นกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการซอฟต์แวร์แต่งภาพและวิดีโอแบบใช้งานแบบง่าย ซึ่งสำหรับรุ่นสำหรับมืออาชีพตอนนี้ Adobe เน้นขายแบบสมัครรายเดือน Creative Cloud

โดยในเวอร์ชัน Elements 2020 นี้มีของใหม่ที่ Adobe นำมาชูโรงได้แก่ เทคโนโลยี Adobe Sensei AI ที่ช่วยสร้างสรรค์การตกแต่งภาพ พร้อมเพิ่มลูกเล่นและเอฟเฟกต์ใหม่อีกหลายอย่าง เช่น การทำภาพขาวดำเลือกพื้นที่, Pattern Brush, Painterly, หลังละลาย (Depth of Field) ไปจนถึงเครื่องมือแก้ไขภาพขั้นสูงแบบใช้ง่าย ทำงานทีละขั้นตอน

สุดท้ายในเวอร์ชัน 2020 นี้ ยังรองรับไฟล์ HEIF (ภาพ) และ HEVC (วิดีโอ) แล้วด้วย

Adobe ปล่อยวิดีโอพรีวิวฟีเจอร์ใหม่ของ Content-Aware Fill ซึ่งเป็นเครื่องมือเพื่อลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพ โดยปัจจุบัน Photoshop จะเลือกหา pixel ที่เหมาะสมมาวางแทนวัตถุที่ถูกลบออกไป

สำหรับเครื่องมือ Content-Aware Fill ที่ออกพรีวิวมาใหม่นี้ จะมีตัวเลือกกำหนด Sampling Area ให้ 3 แบบ คือ Auto, Rectangular และ Custom โดยแต่ละแบบจะทำงานดังนี้

Adobe เปิดตัวแอพวาดรูปใหม่ Adobe Fresco สำหรับใช้งานใน iPad มาได้สักพักแล้ว และเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนใช้งานเวอร์ชั่นเบต้ามา Blognone เองก็ได้ลองจับลองใช้งานคร่าวๆ มาแล้ว สามารถอ่านรีวิวและดูวิดีโอประกอบการรีวิวได้ ที่นี่

ล่าสุด Adobe เปิดให้ดาวน์โหลด Adobe Fresco แล้ว ข่าวดีคือ ไม่ต้องเป็นสมาชิก Creative Cloud ก็ซื้อแอพได้ แต่เป็นราคาจ่ายรายเดือน 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชั่นใช้ฟรีด้วย แต่ไม่สามารถเข้าถึง brush ต่างๆ บนคลาวด์ได้ รวมถึงอาจใช้งานฟีเจอร์ต่างๆได้ไม่ครบครันเท่าแบบเสียเงิน

Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (มิถุนายน-สิงหาคม) รายได้รวมเติบโต 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 2,834 ล้านดอลลาร์ และกำไรสุทธิอยู่ที่ 793 ล้านดอลลาร์

กลุ่ม Digital Media เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตสูง รายได้เพิ่มขึ้น 22% เป็น 1,960 ล้านดอลลาร์ โดยผลิตภัณฑ์กลุ่ม Creative มีรายได้ 1,650 ล้านดอลลาร์ และ Document Cloud 307 ล้านดอลลาร์

John Murphy ซีเอฟโอ Adobe กล่าวว่า เป็นอีกไตรมาสของ Adobe ที่รายได้เติบโตทำสถิติใหม่สูงสุดอีกครั้ง ซึ่งมาจากฐานลูกค้าแบบ subscription ที่ยังเติบโตแข็งแรง รวมทั้งอัตรากำไรบริษัทที่เพิ่มมากขึ้น

Adobe Premiere Pro เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Auto Reframe ให้วัตถุที่เคลื่อนไหวในภาพอยู่ตรงกลางโดยอัตโนมัติในไซส์งานต่างๆ ทั้งวิดีโอแนวตั้ง ขนาด 1:1 และ 16:9

ปกติผู้ใช้งานต้องขยับงานให้ตรงเฟรม ในกรณีที่ต้องเปลี่ยนไซส์งานวิดีโอ โดยเฉพาะวิดีโอแนวตั้งที่เป็นเทรนด์กำลังมาบนมือถือ ล่าสุดผู้ใช้แค่ต้องกดเมนู Auto Reframe ตรง panel เลือกไซส์วิดีโอที่ต้องการก็สามารถดูพรีวิวผลงานที่ออกมาได้ สามารถดูรายละเอียดได้ที่คลิปด้านล่าง

ในงาน Adobe Max ปี 2018, Adobe เปิดตัว Project Gemini แอพพลิเคชั่นวาดรูปในตระกูล Adobe Creative Cloud ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานบน iPad และปากกา Apple Pencil โดยเฉพาะ ล่าสุด Adobe เปลี่ยนชื่อ Project Gemini เป็น Adobe Fresco และเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนใช้งานเวอร์ชั่นเบต้าแล้ว

จุดเด่นของ Fresco คือฟังก์ชั่นสีน้ำและสีน้ำมันที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังวาดสีบนปูนหรือผ้าใบจริงๆ โดย Blognone มีโอกาสได้ลองใช้งานแอพเวอร์ชั่นเบต้ามาช่วงสั้นๆ ก่อนจะเปิดให้ใช้งานจริงภายในปีนี้

Adobe เปิดเผยผลสำรวจเนื่องในวันอีโมจิโลก (World Emoji Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 17 กรกฎาคม โดยได้สอบถามคนอเมริกา 1,000 คน เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งานอีโมจิ พบข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้

อีโมจิยอดนิยมที่สุดยังคงเป็นใบหน้าดีใจพร้อมน้ำตาไหล (?) ตามด้วยหัวใจ (❤️) ในอันดับที่สอง และใบหน้าส่งจูบ (?) อยู่ในอันดับที่สาม นอกจากนี้ยังมีการจัดอันดับอีโมจิที่นิยมใช้คู่กัน โดยใบหน้าดวงตาหัวใจและส่งจูบ (??) เป็นคู่อีโมจิที่นิยมใช้มากที่สุด

ข้อมูลอื่นมีดังนี้

วันนี้ Adobe ได้นำแอป Lightroom ลง Mac App Store แล้ว ซึ่งถือเป็นแอปสำคัญของ Adobe แอปแรกที่ลง Mac App Store ตามที่ Apple เคยกล่าวไว้ในงาน WWDC ปีที่แล้วตอนเปิดตัว Mac App Store โฉมใหม่ว่าจะนำแอปสำคัญมาลงสโตร์ให้ได้จำนวนมาก

การที่ Adobe นำ Lightroom ลง Mac App Store ถือครั้งแรกที่ Adobe ยอมนำแอปสำคัญของบริษัทลงบนสโตร์ของ Apple เนื่องจากก่อนหน้านี้ Adobe จะนำแอปลง Mac App Store เฉพาะแอปขนาดเล็ก ๆ เท่านั้น เช่น Photoshop Elements

แอป Lightroom เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีจาก Mac App Store โดยมีระยะทดลองใช้งาน 7 วัน หลังจากนั้นจะต้องสมัครสมาชิก โดยค่าสมาชิกรายเดือนอยู่ที่ 319 บาท และรายปีอยู่ที่ 3,800 บาท สามารถจ่ายผ่านระบบชำระเงินของ iTunes ได้เลย

Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (มีนาคม-พฤษภาคม) รายได้รวมยังคงทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง ไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 25% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 2,744 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 633 ล้านดอลลาร์

กลุ่มธุรกิจ Digital Media ซึ่งรวมทั้งผลิตภัณฑ์สำคัญอย่าง Creative Cloud กับ Document Cloud มีรายได้เพิ่มขึ้น 22% เป็น 1,890 ล้านดอลลาร์ และกลุ่ม Digital Experience รายได้เพิ่มขึ้น 34% เป็น 784 ล้านดอลลาร์

Shantanu Naraye ซีอีโอ Adobe กล่าวว่าการเติบโตของ Adobe ยังคงต่อเนื่องจากการขยายตัวในธุรกิจที่ต้องใช้ความสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลก ตลอดจนการเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ดิจิทัล ทำให้เป็นโอกาสเติบโตของ Adobe

Adobe ได้โพสต์งานวิจัยใหม่ที่ Adobe Research ร่วมกับ UC Berkeley พัฒนาเครื่องมือตรวจสอบใบหน้าในรูปภาพว่าผ่านการแต่งจาก Photoshop หรือไม่ โดยจุดประสงค์ของงานวิจัยครั้งนี้เพื่อเพิ่มความไว้วางใจในสื่อดิจิทัล เนื่องจากปัจจุบันเครื่องมือมีประสิทธิภาพสูงมากจนใช้สายตาคนดูได้ยากว่าถูกตกแต่งมา

Adobe ระบุว่า เครื่องมือจากงานวิจัยนี้เทรนด้วย Convolutional Neural Network (CNN) ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบของ deep learning โดย training set ที่ใช้มีทั้งทำ Face Aware Liquify บน Photoshop บนรูปภาพนับพันรูปจากอินเทอร์เน็ตและเลือกรูปในนั้นมาใช้เทรน รวมถึงจ้างศิลปินมาแต่งภาพและนำเข้าไปในดาต้าเซ็ทด้วย เพื่อให้ระบบเรียนรู้เทคนิคที่ใช้ตกแต่งรูปภาพที่หลากหลาย

Adobe และ Pantone Color Institute ได้ร่วมมือกับ Ocean Agency เพื่อเปิดตัวแคมเปญเพื่ออนุรักษ์ปะการัง โดยได้วิเคราะห์ภาพที่จัดทำโดย Ocean Agency เพื่อสร้างสามสีใหม่ คือ Glowing Yellow, Glowing Blue และ Glowing Purple

สามสีดังกล่าวเป็นสีปะการังที่ดูสวย แต่มันเป็นสีของปะการังใกล้ตาย เพราะยิ่งปะการังต้องทนกับอุณหภูมิที่สูงขึ้น สีก็จะยิ่งแรง นักออกแบบสามารถใช้สามสีไปออกแบบผลิตภัณฑ์หรือทำแคมเปญที่จะสร้างความตระหนักถึงการอนุรักษณ์ปะการังต่อไปได้ โดยสามารถเข้าไปเลือกได้ที่แพลตฟอร์ม Pantone และ ชุดเครื่องมือดิจิทัลสำหรับผลิตภัณฑ์ Adobe ผู้อ่านสามารถดูทั้งสามสีได้ที่แหล่งข่าวต้นทาง

มีผู้ใช้หลายรายได้รับ E-Mail จาก Adobe ว่าซอฟแวร์ Creative Cloud (CC) รุ่นเก่า (ดูรายชื่อได้จากที่มา) จะไม่อนุญาตให้ใช้บริการตาม License agreement ได้อีกต่อไป ให้ผู้ใช้ติดตั้งรุ่นใหม่ทดแทน เมื่อสอบถามไปยัง Adobe ก็ได้ความว่า Adobe จะเลิกให้บริการสนับสนุนซอฟแวร์ CC รุ่นเก่า เนื่อจากหากยังใช้งานต่อไป อาจจะถูกตั้งข้อหาละเมิดสิทธิ์การใช้งานจาก "บุคคลที่สาม" ได้

ทั้งนี้ บางสำนักข่าวตั้งข้อสังเกตว่า "บุคคลที่สาม" ที่ Adobe กล่าวถึงน่าจะเป็น Dolby Laboratories, Inc. ที่ขณะนี้กำลังฟ้อง Adobe ณ ศาลแขวงแคลิฟอร์เนียร์เหนือในข้อหาละเมิดสัญญาหรือละเมิดลิขสิทธิ์การใช้งานเทคโนโลยีด้านเสียงที่ใช้บนซอฟแวร์ต่างๆ ของ Adobe เช่น Premiere Pro, After Effect, หรือ Audition เป็นต้น