อโดบีรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2017 (กันยายน-พฤศจิกายน) รายได้เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และทำสถิติใหม่ผ่านด่าน 2 พันล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์บริษัท เป็น 2,006.6 ล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 501.5 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Shantanu Narayen กล่าวว่าธุรกิจของอโดบียังเติบโตแข็งแกร่ง จากการมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นผู้นำตลาด และช่วยให้ลูกค้าสร้างสรรค์ตลอดจนรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล
Adobe Experience Cloud เป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตสูง มีรายได้เพิ่มขึ้น 18% เป็น 550 ล้านดอลลาร์
ที่มา: Adobe
Adobe ได้ออกอัพเดตใหม่ให้ Lightroom CC ทุกแพลตฟอร์ม พร้อมทั้ง Lightroom Classic กับ Adobe Camera Raw โดยมีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจในครั้งนี้คือโหมดแต่งภาพอัตโนมัติแบบใหม่ที่ Adobe จะนำ Sensei แพลตฟอร์ม AI และ machine learning เข้ามาช่วยในการทำให้ภาพดูดียิ่งขึ้น และรองรับกล้องใหม่ ๆ ที่เพิ่งเปิดตัว
การแต่งภาพด้วยโหมดอัตโนมัติแบบใหม่ Adobe จะใช้วิธีการเรียนรู้จากภาพนับหมื่นที่ถูกแต่งโดยช่างภาพระดับโปร และวิเคราะห์ภาพของผู้ใช้ที่ต้องการจะแต่งว่าจะทำให้ได้ภาพแบบไหนที่ดีที่สุด เพื่อทำให้ได้ภาพที่แต่งโดยโหมดอัตโนมัติที่ดูสวยงามยิ่งกว่าเดิม
ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจมีดังนี้
Adobe ได้อัพโหลดวิดีโอโชว์ฟีเจอร์ใหม่ที่จะมาอัพเดตเพิ่มเติมให้ผู้ใช้ Photoshop CC ในอนาคต คือฟีเจอร์ “Select Object” หรือฟีเจอร์เลือกวัตถุภายในภาพ โดยใช้ Adobe Sensei ระบบ AI ของ Adobe เข้ามาช่วยเลือกวัตถุ
จากเดิม การเลือกวัตถุของผู้ใช้จะต้องใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น เครื่องมือระบุขอบ ไปจนถึงปากกาแล้วก็ตัดขอบวัตถุเอาเอง แต่ฟีเจอร์การเลือกวัตถุใหม่ใน Photoshop CC นี้ Adobe จะใช้ machine learning มาทำการระบุวัตถุที่อยู่ในภาพ และจะทำการเลือกวัตถุให้ผู้ใช้อย่างแม่นยำที่สุด เพียงแค่ผู้ใช้คลิกเพียงคลิกเดียวเท่านั้น
ปัญญาประดิษฐ์เริ่มกลายเป็นสิ่งใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ งานวิจัยอย่างหนึ่งที่ทำกันมานานคือ image segmentation ที่พยายามสร้างปัญญาประดิษฐ์เพื่อให้ระบุว่าส่วนใดของภาพเป็นวัตถุประเภทใด ตอนนี้ Adobe ก็นำปัญญาประดิษฐ์นี้มาสาธิตใน Photoshop CC เพื่อการเลือกคนในภาพแล้ว ในชื่อ Subject Select
Subject Select ใช้แพลตฟอร์ม Sensei ของ Adobe เอง แม้ว่าจะมีปลั๊กอินที่ทำงานคล้ายกันได้อยู่แล้วแต่การที่ Adobe พัฒนาฟีเจอร์นี้เองก็น่าจะมีการพัฒนาที่เร็วกว่ามากและใช้ได้ทันทีที่ลง Photoshop
ที่มา - Engadet
Adobe Scan แอพสำหรับสแกนเอกสารแล้วแปลงเป็น PDF พร้อมระบบ OCR แยกแยะข้อความได้ออกอัพเดตล่าสุด โดย Adobe ได้นำฟีเจอร์เหล่านี้สแกนคลังภาพในมือถือให้เลย ดังนั้นแม้ว่าผู้ใช้จะถ่ายภาพใบเสร็จ, แบบฟอร์ม หรือนามบัตรมา แอพจะหาให้โดยอัตโนมัติโดยใช้เทคโนโลยีเบื้องหลังคือ Adobe Sensei ฉะนั้นไม่ต้องไล่ดูรูปภาพเพื่อค้นหาภาพที่ต้องการแปลงเป็น PDF และระบบยังสามารถค้นหาไฟล์ตามชื่อหรือเรียงไฟล์ตามวันที่ได้อีกด้วย
ถัดไปคือฟีเจอร์การรองรับระบบ Files บน iOS 11 เพื่อให้แอพอื่น ๆ สามารถเข้าถึงเอกสารที่สแกนผ่าน Adobe Scan ได้ด้วย Files ไม่ต้องสลับแอพไปมา ส่วนบน Android ก็เพิ่มฟีเจอร์เข้าถึงไฟล์ที่สแกนไว้แบบออฟไลน์ และยังมีการปรับปรุงเรื่อง image cleaning ด้วย ทำให้ไฟล์ที่สแกนออกมาจากภาพดูสะอาดขึ้น
เซสชั่น MAX Sneaks ในงาน Adobe MAX หลายครั้งที่ผ่านมา ถือเป็นอีกช่วงที่ผู้เข้าร่วมงานต่างให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เพราะจะได้เห็นโปรเจคเจ๋งๆ ที่นักพัฒนาของ Adobe จะมาเปิดเผยให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับชมกัน อาจจะเปิดให้ใช้จริงหรือไม่ก็ได้ ซึ่งปีนี้ก็เป็นอีกครั้งที่แต่ละโปรเจคมีความน่าสนใจและชวนตื่นเต้น โดยเปิดตัวทั้งหมด 11 โปรเจคด้วยกัน และความสนุกอีกอย่างของเซสชั่นนี้คือการสร้างธีมสนุกๆ ระหว่างพูดคุยขึ้นมา ปีนี้เป็นการนำเสนอด้วยธีมเกม 8bit และเชิญ Kumail Nanjiani นักแสดงจากซีรีย์ Silicon Valley มาร่วมพูดคุยและสร้างเสียงหัวเราะในงาน ไปดูกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
งาน Adobe MAX วันที่ 2 มีช่วงหนึ่งของงานที่เรียกว่า MAX Sneaks เป็นการเปิดตัวโปรเจคใหม่ๆ ที่ทีมงานของ Adobe Research คิดค้นขึ้นมา สำหรับโปรเจคแรกนี้เป็นเครื่องมือสำหรับการตัดต่อวิดีโอประเภท VR/AR ที่บอกว่าเสียงในวิดีโอเกิดขึ้นตรงไหนบ้าง ชื่อว่า SonicScape
แนวคิดของโปรเจคนี้ มาจากปัญหาว่าหากนักตัดต่อวิดีโอต้องการตัดต่อหรือแก้ไขส่วนเสียงในคลิป จะรู้ได้อย่างไรว่าเสียงเกิดขึ้นตรงไหน โปรเจคนี้จึงเกิดขึ้นและแก้ปัญหานี้ การทำงานคือมันจะแสดงจุดสีบนวิดีโอขึ้นมา ซึ่งจะบอกว่าจุดไหนเสียงดังหรือเบาผ่านสีต่างๆ ที่บนจอ ทำให้ผู้ใช้สามารถหมุนหาตำแหน่งของเสียงที่ถูกต้องเจอ จากวิดีโอสาธิตจะสามารถปรับแต่งเสียง เปลี่ยนทิศทางและพรีวิวงานบนอุปกรณ์ VR และโปรแกรมได้ทันที
สามารถดูการทำงานของโปรเจค SonicScape ได้ท้ายข่าวครับ
ที่มา : TechCrunch
ที่งาน Adobe MAX 2017 มีการเปิดตัวแคมเปญที่ร่วมมือกับ Coca-Cola ในชื่อ Coke x Adobe x You ชวนดีไซเนอร์ออกแบบกราฟิกที่สื่อถึงงานกีฬาโตเกียวโอลิมปิก 2020 โดยต้องใช้องค์ประกอบไม่ว่าจะเป็นโลโก้, ริบบิ้นและสีของแบรนด์โค้กเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบงาน
วิธีเข้าร่วมแคมเปญนี้คือ เข้าไปยังเว็บไซต์ cokexadobexyou.com เพื่อดาวน์โหลดโจทย์ในการออกแบบอย่างละเอียดและชุดองค์ประกอบจากโค้ก จากนั้นใช้เครื่องมือของ Adobe Creative Cloud สร้างสรรค์ผลงานตามโจทย์ เสร็จแล้วโพสต์ลง Behance, Twitter หรือ Instagram ของตัวเอง พร้อมกับติดแท็ก #cokexadobexyou งานที่ออกแบบก็จะขึ้นไปแสดงบนแกลอรีเว็บต่อไป
Brush หรือหัวแปรงเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่ผู้ใช้งาน Photoshop มักคุ้นเคยและใช้งานกันเป็นประจำ ล่าสุดทาง Adobe ได้แจกหัวแปรงมากกว่า 1,000 แบบให้กับผู้ใช้งาน Photoshop CC ฟรี
Adobe อธิบายว่าได้เข้าซื้อ KyleBrush.com ซึ่งเป็นเว็บที่ขายหัวแปรงดีที่สุดในโลกจากนักออกแบบชื่อว่า Kyle T. Webster มา ซึ่งตัวเขาเองได้ร่วมงานกับทีมงาน Adobe เพื่อพัฒนาเครื่องมือหัวแปรงมาโดยตลอด ทำให้ Adobe มีความสนใจและดึงตัว Kyle เข้ามาร่วมทำงานในที่สุด
ผู้ใช้งาน Photoshop CC สามารถรับหัวแปรงฟรีทั้งหมดได้จากเมนู brush แล้วเลือก "Get More Brushes" ส่วนผู้ใช้บน iOS และ Android สามารถใช้ brush ได้บนแอพ Photoshop Sketch ฟรีเช่นกัน ดู brush ทั้งหมดได้ที่ adobe.com/go/more-brush-presets
ที่มา : Adobe Blog
ปีที่แล้ว Adobe เปิดตัว AI ของตัวเองที่ชื่อ Sensei ซึ่งยังไม่มีพรีวิวการทำงานให้เห็น แต่ในงาน Adobe MAX ปีนี้มีการแสดงความสามารถทางด้าน AI ออกมาแล้ว ทั้งระบบการทำงานด้วยคำสั่งเสียง, รู้จำใบหน้าและอื่นอีกมากมาย
Adobe ได้สาธิตการทำงานของ Sensei บน Photoshop โดยมันสามารถวิเคราะห์งานที่กำลังทำได้อัตโนมัติว่าเป็นงานแบบไหน มีองค์ประกอบอะไรบ้าง, ช่วยค้นหารูปภาพที่ใกล้เคียงใน collection, ตรวจจับใบหน้าของภาพได้ว่าเอียงไปทางไหน, ไดคัทพื้นหลังออกจากภาพคนให้อัตโนมัติและมีระบบ generate ภาพและข้อความตามรูปแบบงานที่กำลังทำอยู่ได้
วันนี้ Adobe ได้เปิดตัว Lightroom CC โฉมใหม่ในงาน Adobe MAX รวมถึงการรีแบรนด์ Lightroom CC เดิมในชื่อว่า Lightroom Classic CC เพื่อเน้นการใช้งานแบบดั้งเดิมบนเดสก์ท็อป
ปีที่แล้ว Adobe ได้เปิดตัวเครื่องมือที่ช่วยออกแบบโมเดล 3 มิติชื่อ Project Felix ออกมา ตอนนี้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Dimension CC และพร้อมให้ใช้งานแล้ว
Adobe Dimension CC เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักออกแบบนำภาพ 2 มิติมาใช้งานกับภาพ 3 มิติได้อย่างลงตัว เหมาะกับงานออกแบบแพคเกจผลิตภัณฑ์และสร้างภาพ 3 มิติสำหรับโฆษณา ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้การออกแบบภาพ 3 มิติเองทั้งหมดเพราะเมื่อนำภาพหรือโลโก้ที่ออกไปวางลงบนวัสดุเช่นกล่องหรือขวด ก็จะประมวลผลทั้งเรื่องแสงและความสูงต่ำต่างๆ ออกมาให้อัตโนมัติ ซึ่งการทำงานแบ่งเป็น 2 ส่วนคือส่วนออกแบบ จัดวางวัตถุ ใส่ข้อความและเลือกวัสดุที่ต้องการ และอีกส่วนคือส่วนการเรนเดอร์ภาพเพื่อนำไปใช้กับ Photoshop และ Illustrator ต่อไป
Adobe Dimension เปิดให้ใช้งานแล้ว ทั้งบน Creative Cloud และแอพบน iOS, Android
ที่มา : TechCrunch
Adobe Experience Design เครื่องมือออกแบบ UX สำหรับนักพัฒนาที่ออกเบต้าแรกตั้งแต่ต้นปี 2016 มาวันนี้ ในงาน Adobe MAX ได้เปิดตัวเวอร์ชันเต็มของ Experience Design ครั้งแรก และเลิกใช้ชื่อ Experience Design ไปใช้ชื่อสั้น ๆ ว่า “XD” แทน
แม้ Adobe มีผลิตภัณฑ์สายครีเอทีฟสำหรับมืออาชีพอย่าง Photoshop และ Premiere Pro ตามแนวทาง Creative Cloud ที่อาศัยโมเดลสมัครสมาชิกรายเดือนและรายปีอยู่ก็ตาม แต่ Adobe ก็ยังคงมีซอฟต์แวร์คล้ายๆ กันสำหรับผู้ใช้ทั่วไปอย่าง Photoshop Elements และ Premiere Elements อยู่เช่นกัน ซึ่งใช้โมเดลซื้อขาดแทน
หลังออกรุ่นสุดท้ายคือปี 2015 และหายไป 2 ปี ล่าสุด Adobe ได้ออก Photoshop Elements 2018 และ Premiere Elements 2018 รุ่นใหม่ โดยยังคงคอนเซ็ปใช้งานง่ายกว่ารุ่นมืออาชีพ พร้อมเครื่องมือที่แต่งรูปและวิดีโอแบบ Guided Edit ที่มีขั้นตอนบอกให้ทีละสเต็ปที่ได้รับการปรับปรุงให้มีลูกเล่นมากขึ้น
ทีมความปลอดภัยของ Adobe ทำผิดพลาดอย่างแรง ด้วยการโพสต์ private key ลงบนบล็อก Adobe Product Security Incident Response Team ของบริษัท
ปกติแล้วเวลาสร้างกุญแจ PGP เราจะได้ text file ที่มีคีย์ public/private วางต่อกันอยู่ในไฟล์เดียว คาดว่าทางพนักงานของ Adobe จะโพสต์เฉพาะ public key แต่เลือกคัดลอกข้อความมาทั้งไฟล์ เลยมี private key แถมมาด้วย
โชคดีว่า private key อันนี้ต้องใช้คู่กับ passphrase ทำให้มันไม่สามารถใช้งานได้ลำพัง และตัวมันเองเป็นคีย์ใหม่ที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นเพียง 3 วัน (เพื่อใช้แทนคีย์เก่าที่หมดอายุไป) และหลังเกิดเหตุ Adobe ก็ยกเลิกคีย์ตัวนี้แล้ว
อโดบีรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2017 (มิถุนายน-สิงหาคม) รายได้รวมเพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 1,841 ล้านดอลลาร์ ทำสถิติใหม่สูงสุดต่ออีกไตรมาส และมีกำไรสุทธิ 419.6 ล้านดอลลาร์
Creative Cloud ยังคงเป็นธุรกิจทำเงินหลักของอโดบี โดยรายได้เฉพาะส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1,064 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอีกด้านหนึ่งการที่อโดบีมีรายได้จากบริการ Creative Cloud ซึ่งเป็น subscription ที่ชัดเจนขึ้น ก็เป็นข้อดีสำหรับนักลงทุนในการคาดการณ์รายได้อนาคต
ที่มา: อโดบี
ไมโครซอฟท์ประกาศเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์กับ Adobe โดยเน้นไปที่การเชื่อมต่อ Office 365 เข้ากับชุด Adobe Creative/Document/Experience Cloud
ความร่วมมือเบื้องต้นมีดังนี้
หลังจาก Adobe ซื้อกิจการ Macromedia เมื่อปี 2005 และประกาศหยุดพัฒนา Flash บนมือถือในปี 2011 ในที่สุด อวสานของ Flash ก็กำลังจะมาอย่างแท้จริง ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
Adobe ประกาศว่าจะยุติการพัฒนาและสนับสนุน Flash สำหรับทุกแพลตฟอร์มภายในปี 2020 สอดคล้องกับผู้ผลิตเบราว์เซอร์ชื่อดัง อาทิ Google Chrome, Safari ของ Apple, Mozilla Firefox รวมถึง Microsoft อันเป็นเจ้าของ Microsoft Edge และ Internet Explorer ที่ประกาศตัดความสัมพันธ์กับ Flash ไปก่อนหน้านี้
Adobe ได้ออกอัพเดตแอพแต่งภาพ Lightroom สำหรับ iOS และ Android ใหม่ โดยเพิ่มฟีเจอร์หลายอย่าง ดังนี้
สำหรับ iOS
Facebook เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานจำนวนมากต้องใช้ Adobe Creative Cloud โดยซื้อไลเซนส์แบบองค์กร เมื่อมีพนักงานต้องใช้แอพใดสักตัวในชุด Creative Cloud ทีมไอทีของ Facebook ต้องสร้างแพ็กเกจสำหรับติดตั้งด้วยเครื่องมือของ Adobe ที่มีความยุ่งยาก ซับซ้อน และต้องทำแพ็กเกจใหม่ทุกครั้งเมื่อแอพมีอัพเดต
Adobe จัดงานประชุมสุดยอดด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง Adobe Experience Forum 2017 จัดขึ้นในไทยเป็นครั้งแรก เพื่อปูทางธุรกิจด้วยข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งระดับโลก งานนี้จัดขึ้นที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล
ในระหว่างการประชุมนี้ Adobe เผยแพร่รายงาน Best of the Best Report ฉบับล่าสุดของ Adobe Digital Insights โดยอ้างอิงจากข้อมูลการเยี่ยมชมราว 100,000 ล้านครั้งบนเว็บไซต์กว่า 3,000 แห่งในปี 2559 พบว่ามีการใช้ระยะเวลาบนเว็บไซต์ลดลง แต่อัตราการดำเนินการที่มาจากโฆษณากลับเพิ่มขึ้น
Adobe รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงิน 2017 (มีนาคม-พฤษภาคม) รายได้รวม 1,772.2 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และเป็นสถิติรายได้สูงสุดใหม่อีกครั้งของบริษัท โดยมีกำไรสุทธิ 500.4 ล้านดอลลาร์
ซีเอฟโอ Mark Garrett กล่าวว่า Adobe ยังคงมั่นใจว่าผลประกอบการตลอดปีนี้และอนาคต จะยังคงเติบโตด้วยโมเมนตัมเช่นนี้ต่อไปอีก
ทุกกลุ่มธุรกิจของ Adobe ล้วนแต่เติบโต โดยเฉพาะกลุ่ม Creative Cloud ที่มีรายได้รอบันทึกในอนาคตอีกถึง 4,560 ล้านดอลลาร์ และยังคงเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส
ที่มา: Adobe
Adobe เปิดตัวแอพมือถือใหม่ Adobe Scan ทำงานตรงไปตรงมาคือถ่ายภาพเอกสารแล้วแปลงเป็น PDF ให้อัตโนมัติ แถมมีฟีเจอร์ text recognition (OCR) แยกแยะข้อความในภาพได้
Adobe Scan จะถ่ายภาพเอกสารแล้วอัพโหลดขึ้น Adobe Document Cloud เพื่อใช้พลังประมวลผลบนคลาวด์แยกแยะข้อความในเอกสาร จากนั้นเราสามารถดาวน์โหลดกลับมาใช้งานได้จากโปรแกรม Acrobat Reader (ต้องล็อกอินบัญชี Adobe ด้วย ใช้ได้ฟรี) และถ้าการแยกแยะข้อความทำงานได้ถูกต้อง เราสามารถคัดลอกข้อความในเอกสารได้เลย
Adobe เปิดตัวเครื่องมือวิเคราะห์ใหม่ Virtual Analyst เพื่อนำมาเสริมทัพ Analytics Cloud โดย Virtual Analyst นี้จะรันอยู่ในเบื้องหลังตลอดเวลาเพื่อตรวจจับข้อมูลและตรวจสอบหาสาเหตุของสิ่งผิดปกติของกิจกรรมออนไลน์ โดยจะนำมาใช้แทนที่การใช้วิศวกรหรือทีมงานที่เป็นคนทำการค้นหาข้อมูลที่ผิดปกติในข้อมูลจำนวนมาก
กูเกิลร่วมมือกับอโดบีเปิดตัวฟอนต์ Source Han Sans มาตั้งแต่ปี 2014 ตอนนี้ก็ถึงคราวของการเปิดตัวฟอนต์ในแบบ "มีเชิง" กันแล้วในชื่อ Source Han Serif
ฟอนต์ใหม่นี้รวมเอาภาษากลุ่ม CJK (จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี) เอาไว้ด้วยกันทำให้เวลาพิมพ์แล้วจะดูเป็นเนื้อความเดียวกัน และความเป็นฟอนต์แบบมีเชิงจะทำให้ตัวอักษรคล้ายกับตัวเขียนมากขึ้น
ตัวฟอนต์มีอักขระ 65,535 ตัว และมีน้ำหนัก 7 ระดับตั้งแต่บางพิเศษไปจนถึงหนักพิเศษ
การพัฒนาฟอนต์รอบนี้เป็นความร่วมมือระหว่างอโดบี, กูเกิล, Iwata, Sandoll Communications, และ Changzhou Sinotype (สามบริษัทหลังเป็นผู้พัฒนาฟอนต์ท้องถิ่น)