Adobe ปล่อยอัพเดตใหญ่ของ Photoshop CC (นับเวอร์ชันเป็น 20.0 หรือ October 2018) ในงาน Adboe Max ประกอบด้วยฟีเจอร์สำคัญๆ มากมาย
ในงาน Adobe Max 2018 ได้เปิดตัวและจำลองการใช้งาน Project Aero ตัวช่วยออกแบบสื่อ AR โดยดีไซเนอร์สร้างงานกราฟฟิกผ่าน Adobe Photoshop CC และ Dimension CC ตามปกติ แต่สามารถนำงานที่ได้มาลองทาบกับสิ่งแวดล้อมจริงบน Project Aero ยกตัวอย่างเช่นการใช้ไฟล์ผลิตภัณฑ์งานที่ออกแบบบนโปรแกรม Dimension CC มาวางทาบบนชั้นวางสินค้าจริง และยังสามารถดูส่วนประกอบสินค้า และข้อมูลสินค้าได้ไปพร้อมๆ กัน
ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่ให้ผลมหาศาลสำหรับฟีเจอร์ ctrl+z เพื่อ undo ใน Photoshop CC เพราะก่อนหน้านี้ต้องกดถึงสามปุ่มด้วยกัน สามารถอัพเดตฟีเจอร์ได้ใน Creative Cloud เมื่ออัพเดตครั้งแรกจะมีกล่องข้อความขึ้นถามว่าจะให้อัพเดตอัตโนมัติหรือไม่ เลือก Enable auto update now เพื่อเปิดใช้ฟีเจอร์นี้
ข่าวดีสำหรับใครที่ชอบการวาดรูป ต้องไม่พลาด project ใหม่ของ Adobe ที่มีชื่อว่า Gemini สำหรับใช้งานบน iPad ในปี 2019 พัฒนาโดยทีม Drawing and Painting ของ Adobe โดยอาจบอกได้ว่า Gemini เป็นเสมือน Photoshop แบบย่อส่วนที่เด่นในด้านการวาดรูปและลงสี โดยมี Interface ที่เข้าใจได้ง่าย
Adobe มีโปรแกรมตัดต่อวิดีโอหลักๆ คือ Premiere Pro สำหรับมืออาชีพ และ Premiere Elements สำหรับคนทั่วไปที่ไม่เน้นการตัดต่อหนักๆ มาก โดย Premiere Elements เป็นโมเดลซื้อขาด ไม่ได้เป็นส่วนหสึ่งของ Creative Clouds แต่ล่าสุดในงาน Adobe Max 2018 ทาง Adobe เปิดเพิ่มอีกตัวคือ Premiere Rush CC ที่รวมเอาเครื่องมือปรับแต่งจากทั้ง Premiere Pro, After Effect, Audition เข้าไว้ด้วยกัน
ในงาน Adobe Max 2018 ได้เปิดตัว Photoshop เวอร์ชันเต็ม บน iPad Pro ที่หลายคนรอคอย โดยก่อนหน้านี้ Adobe มี Photoshop Fix and PS Express ที่ใช้งานบน iPad แต่เครื่องไม้เครื่องมือไม่สมบูรณ์เท่า Photoshop บนเดสก์ทอป
Photoshop เวอร์ชันเต็ม บน iPad Pro รองรับการใช้งานปากกา และนิ้วลากได้ด้วย ใช้งานได้ 2019
Photoshop ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สองที่ Adobe พยายามพัฒนาและขยายการใช้งานไปยังอุปกรณ์อื่นนอกเหนือจากเดสก์ทอป ก่อนหน้านี้มี Lightroom CC ที่ปรับแต่งรูปบนมือถือได้ และใช้เครื่องมือได้เหมือนเดสก์ทอปทุกอย่าง และในรายงานก่อนหน้า ระบุด้วยว่า Illustrator เวอร์ชัน iPad ก็กำลังพัฒนาอยู่ด้วยแต่จะเปิดตัวจริงคงจะหลังจาก Photoshop อีกสักระยะหนึ่ง
Adobe ออกอัพเดต Acrobat DC โฉมใหม่ มาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านการแชร์เอกสารที่ใช้งานได้สะดวกขึ้น พร้อมกับแอพสำหรับจัดการเอกสารอื่นคือ Adobe Acrobat Reader และ Adobe Scan ด้วย
ไฮไลต์ของอัพเดตครั้งนี้จะเป็นเรื่องระบบจัดการเอกสาร คือการแชร์และรีวิวไฟล์ PDF โดยผู้ใช้สามารถเก็บเอกสารไว้บน Adobe Document Cloud และส่งลิงก์เพื่อแชร์ไฟล์ทางอีเมลหรือแอพแชทก็ได้ ส่วนฝ่ายผู้รับก็สามารถกดลิงก์เพื่อเข้าใช้งานได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิก Creative Cloud หรือ Adobe DC
Adobe ออกแพตช์ความปลอดภัยให้กับ Acrobat และ Acrobat Reader นอกรอบปกติ แก้ช่องโหว่ out-of-bounds write ที่เป็นช่องโหว่ระดับวิกฤติ ทำให้แฮกเกอร์สามารถส่งโค้ดเข้ามารันบนเครื่องของเหยื่อได้ และช่องโหว่ out-of-bounds read ที่เปิดเผยข้อมูลในเครื่องของเหยื่อ
Adobe เพิ่งปล่อยแพตช์ประจำเดือนไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ตรงกับ patch Tuesday ของไมโครซอฟท์ การออกแพตช์นอกรอบเช่นนี้นับว่าเป็นเรื่องผิดปกติ ที่มักมีการปล่อยแพตช์เร่งด่วนเพราะมีการโจมตีแล้ว อย่างไรก็ดี ประกาศของ Adobe ไม่ได้ระบุว่ามีการโจมตีแต่อย่างใด
Adobe ประกาศเข้าซื้อกิจการ Marketo ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับบริหารจัดการแผนการตลาดออนไลน์ และงานด้าน CRM ด้วยมูลค่า 4,750 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.5 แสนล้านบาท ทำให้กลายเป็นซื้อกิจการบริษัทเทคโนโลยีดีลใหญ่อีกดีลของปีนี้ และเป็นดีลซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดของ Adobe
ที่น่าสนใจคือ Marketo เพิ่งขายกิจการให้กลุ่มทุน Vista Equity ไปเมื่อปี 2016 ที่มูลค่า 1,800 ล้านดอลลาร์ เท่ากับกลุ่ม Vista นี้ได้กำไรมากกว่าเท่าตัวในเวลาสองปี โดยมีข่าวก่อนหน้าว่า Vista ได้เสนอขายกิจการให้กับ SAP แต่ไม่สามารถตกลงได้เนื่องจากราคาที่ต้องการสูงเกินไป เช่นเดียวกับ Salesforce ที่ได้รับข้อเสนอเช่นกัน แต่มองว่าราคานี้สูงเกินไป
Adobe ประกาศว่า Creative Cloud เวอร์ชันหน้าที่จะออกในเร็วๆ นี้ (น่าจะเปิดตัวในงาน Adobe MAX เดือนหน้า) จะไม่ซัพพอร์ตระบบปฏิบัติการรุ่นเก่าแล้ว ได้แก่
ส่วน Windows 7 ที่ยังมีผู้ใช้เป็นจำนวนมากจะยังซัพพอร์ตต่อไป ยกเว้นแอพพลิเคชันสายวิดีโอได้แก่ Adobe Media Encoder, After Effects, Audition, Character Animator, Prelude, Premiere Pro จำเป็นต้องใช้ Windows 10 v1703 ขึ้นไปเท่านั้น ไม่สามารถใช้บน Windows 7 ได้อีกแล้ว
ผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นเก่ายังสามารถใช้ Creative Cloud เวอร์ชันปัจจุบันได้ต่อไป แต่จะไม่สามารถติดตั้งแอพเวอร์ชันใหม่ได้แล้ว
Adobe ประกาศขยายความสามารถของ AI หรือ Adobe Sensei ไปยัง Adobe Target และ Adobe Experience Manager ผลักดันประสบการณ์ AI ให้นักการตลาดนำไปใช้บริการลูกค้า
Adobe Experience Manager และ Adobe Target คือบริการที่ให้ธุรกิจนำไปใช้เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า และวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อเสนอโปรโมชั่นหรือสินค้าที่ลูกค้าน่าจะต้องการได้ ซึ่ง Adobe ระบุว่าการนำ Adobe Sensei เข้ามาจะเพิ่มความสามารถการบริการลูกค้าหลายอย่าง เช่น
อโดบีรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2018 (มิถุนายน-สิงหาคม) รายได้รวมยังคงทำสถิติใหม่สูงสุดอีกไตรมาส 2,291 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 666 ล้านดอลลาร์
ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Creative ยังคงเป็นตัวทำเงินหลักให้บริษัท รายได้ส่วนนี้ 1,360 ล้านดอลลาร์ ส่วนกลุ่ม Document Cloud ก็เติบโตสูงเช่นกัน มีรายได้ 249 ล้านดอลลาร์
แนวโน้มที่ยังคงเป็นต่อเนื่องของอโดบีคือการขายซอฟต์แวร์แบบ Subscription ส่วนนี้รายได้โต 28% ส่วนการขายไลเซนส์แบบเดิมลดลง 6%
Adobe ประกาศเปิดแพลตฟอร์ม Adobe XD CC เครื่องมือออกแบบ UI ของแอพพลิเคชั่น ให้สามารถรองรับเครื่องมือปลั๊กอินจากแอพภายนอกเข้ามาบน API ของ Adobe XD เวอร์ชั่นเดสก์ทอปได้
พาร์ทเนอร๋ภายนอกเข้ามาสร้างปลั๊กอินได้ คือ Microsoft, Trello, UserTesting, Airtable, Dribbble, Silicon Publishing, Slope, inMotionNow, Astute Graphics, Anima, Google Cloud, Behance และ Adobe Stock
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Adobe กำลังพัฒนาแอพ Photoshop เวอร์ชันเต็มมาลง iPad โดยคาดว่าจะเปิดตัวในงาน Adobe MAX เดือนตุลาคมปีนี้ และจะเข้าสู่ตลาดจริงในปี 2019
ในรายงานของ Bloomberg เผยว่า Adobe จะนำ Photoshop เป็นเวอร์ชันเต็มที่มีความสามารถเหมือนกับบน Mac และ PC มาลง iPad เพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้ต่อเนื่องกันระหว่างคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พกพา โดยเป็นไปตามเป้าหมายของ Adobe ที่ต้องการเพิ่มยอดขาย Creative Cloud
แม้ว่า Adobe จะเปิดตัวแอพที่ใช้แบรนด์ว่า Photoshop มาหลายครั้งแล้ว แต่ว่าทุกแอพต่างก็ถูกตัดฟีเจอร์ออกเพื่อพัฒนาใหม่ให้เหมาะกับอุปกรณ์พกพา ในขณะที่แอพจากคู่แข่งอย่าง Pixelmator, Affinity, Enlight Photofox ต่างมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่จัดเต็มกว่า
Adobe พัฒนาปัญญาประดิษฐ์โดยใช้ machine learning ศึกษาภาพจำนวนมากจนสามารถตรวจสอบได้ว่าภาพแต่ละภาพนั้นผ่านการตัดต่อหรือไม่
วิธีที่มันใช้เพื่อการวิเคราะห์เพื่อจำแนกว่าภาพเหล่านั้นมีการตัดต่อหรือไม่ ก็คือการวิเคราะห์ noise ในภาพถ่าย ภาพแต่ละภาพนั้นจะมีรูปแบบลักษณะของ noise ที่แตกต่างกันจนสามารถใช้จำแนกภาพได้ และแม้แต่บริเวณต่างๆ ในภาพเดียวกัน ก็ยังมีรูปแบบของ noise ที่แตกต่างกันด้วย
ปัญญาประดิษฐ์ของ Adobe สามารถตรวจสอบภาพที่ผ่านการตัดต่อได้ 3 แบบ คือการเพิ่มวัตถุเข้าไปในภาพ (splicing), การทำซ้ำวัตถุในภาพ (copy move) และการลบบางสิ่งบางอย่างออกจากภาพ (removal)
ปีที่แล้ว Adobe เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์ ทำให้เราเริ่มเห็นผลของความร่วมมือนี้ออกมาบ้างแล้ว
ล่าสุด Adobe ประกาศว่าลูกค้า Office 365 จะได้ฟีเจอร์สร้างและแก้ไข PDF จากใน Word, Excel PowerPoint, OneDrive, SharePoint โดยตรง โดยจะมีแถบเครื่องมือของ Adobe โผล่เข้ามาใน Office 365 เวอร์ชันเว็บ อย่างไรก็ตาม การจะได้ฟีเจอร์นี้ ลูกค้าจะต้องเป็นสมาชิกทั้ง Office 365 และ Adobe Document Cloud ด้วยจึงจะใช้ได้ (เสียเงินตามปกติ แต่เพิ่มเรื่องบริการสองค่ายเชื่อมต่อกัน)
Adobe เผยความสามารถใหม่ที่อาศัย Sensei A.I. ของ Adobe Scan แอพสำหรับสแกนเอกสารว่า สามารถสแกนนามบัตร และถอดเอาหมายเลขโทรศัพท์บันทึกเข้ามาในสมุดโทรศัพท์ได้
เมื่อเบอร์โทรศัพท์ถูกตรวจจับได้แล้ว จะมีปุ่ม "บันทึกลงใน contacts" ให้กดบันทึกได้ทันที ซึ่งไม่ใช่แค่เพิ่มเบอร์ได้เท่านั้น แต่ยังรวมถึง อีเมล ชื่อบริษัท,บุคคล ด้วย
Adobe Scan มีตัวเลขดาวน์โหลดไปแล้ว 10 ล้านดาวน์โหลด
อโดบีรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2018 (มีนาคม-พฤษภาคม) รายได้รวม 2,195 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และยังคงทำสถิติใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกไตรมาส และมีกำไรสุทธิ 498 ล้านดอลลาร์
ปัจจุบันรายได้ของอโดบีมาจากการขายแบบ Subscription ซึ่งเติบโตต่อเนื่อง ไตรมาสนี้อยู่ที่ 1,923 ล้านดอลลาร์ ส่วนการขายแบบเดิมรายได้ลดลงเป็น 151 ล้านดอลลาร์
Shantanu Narayen ซีอีโออโดบีกล่าวว่า อโดบีได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ทุกด้านที่ช่วยเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ทั้งเครื่องการสร้างเนื้อหา เครื่องมือจัดการในการทำงาน ซึ่งผลประกอบการที่ทำสถิติใหม่อีกครั้งในไตรมาสนี้ก็สะท้อนความสำเร็จในฐานะผู้นำตลาดของอโดบีได้ชัดเจน
Adobe ประกาศซื้อกิจการ Magento Commerce บริษัทผู้พัฒนา CMS ด้านอีคอมเมิร์ซชื่อดัง ด้วยมูลค่า 1.68 พันล้านดอลลาร์
เป้าหมายของ Adobe คือผนวก Magento เข้ามาอยู่ใต้ร่ม Adobe Experience Cloud (ชื่อเดิมคือ Adobe Marketing Cloud) หนึ่งในสามบริการหลักของบริษัท นอกเหนือจาก Creative Cloud และ Document Cloud
Magento เป็น CMS สำหรับสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซแบบโอเพนซอร์ส พัฒนาด้วยภาษา PHP และได้รับความนิยมอย่างสูง มีชุมชนนักพัฒนาขนาดใหญ่กว่า 300,000 ราย บริษัทก่อตั้งในปี 2007 และถูก eBay ซื้อกิจการในปี 2011 ก่อนแยกตัวออกมาเป็นบริษัทอิสระในปี 2015 และมาถูก Adobe ซื้ออีกรอบในปีนี้
การใช้งานโปรแกรม Photoshop, Illustrator หรือ Lightroom บน Adobe Creative Cloud อาจต้องจ่ายค่าใช้งานเป็นจำนวนเงิน 10 - 83 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่ล่าสุด Adobe ให้ใช้งานในราคาพิเศษ 5 ดอลลาร์ต่อ 1 ในไลเซนส์เท่านั้น เป็นโปรโมชั่นสำหรับเด็ก K-12 หรือตั้งแต่เด็กอนุบาลไปจนถึงระดับเกรด 12 โดยเฉพาะ
ราคานี้จะจำกัดที่ 500 ไลเซนส์ต่อโรงเรียน หรือ 2,500 ไลเซนส์ต่อเขต นั่นหมายความว่า เด็กๆ จะสามารถล็อกอินเข้าระบบในอุปกรณ์ใดก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนเท่านั้น เด็กๆ สามารถทำโปรเจกต์นอกโรงเรียนได้ด้วย โปรโมชั่นนี้เริ่มใช้ได้ต้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม
Adobe ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า Creative Cloud สำหรับ เด็กๆ K-12 สอดคล้องกับกฎหมายตุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กหรือ COPPA และสามารถตั้งค่าได้ด้วยการลงชื่อเพียงครั้งเดียว นักเรียนและครูสามารถใช้รหัสที่มีอยู่ในการเข้าถึง Creative Cloud ได้เลย
การใช้งานโปรแกรม Photoshop, Illustrator หรือ Lightroom บน Adobe Creative Cloud อาจต้องจ่ายค่าใช้งานเป็นจำนวนเงิน 10 - 83 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่ล่าสุด Adobe ให้ใช้งานในราคาพิเศษ 5 ดอลลาร์ต่อ 1 ในไลเซนส์เท่านั้น เป็นโปรโมชั่นสำหรับเด็ก K-12 หรือตั้งแต่เด็กอนุบาลไปจนถึงระดับเกรด 12 โดยเฉพาะ
ราคานี้จะจำกัดที่ 500 ไลเซนส์ต่อโรงเรียน หรือ 2,500 ไลเซนส์ต่อเขต นั่นหมายความว่า เด็กๆ จะสามารถล็อกอินเข้าระบบในอุปกรณ์ใดก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนเท่านั้น เด็กๆ สามารถทำโปรเจกต์นอกโรงเรียนได้ด้วย โปรโมชั่นนี้เริ่มใช้ได้ต้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม
Adobe ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า Creative Cloud สำหรับ เด็กๆ K-12 สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กหรือ COPPA และสามารถตั้งค่าได้ด้วยการลงชื่อเพียงครั้งเดียว นักเรียนและครูสามารถใช้รหัสที่มีอยู่ในการเข้าถึง Creative Cloud ได้เลย
Adobe เข้าใจว่านักวาดภาพลูกค้าของตนส่วนใหญ่ต้องนั่งทำงานใช้เวลาหน้าจอคอมพิวเตอร์จนหาเวลากินข้าวกินปลายากเหลือเกิน บางครั้งแค่จะลุกไปโทรสั่งอาหารมากินก็ยังดูเป็นเรื่องยุ่งยาก อย่ากระนั้นเลย Adobe จึงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ Adobe Illustrator (Ai) เพื่อช่วยแก้ปัญหานี้
เมื่อผู้ใช้วาดรูปการ์ตูนเป็นรูปอาหารแบบต่างๆ แล้วคัดลอกรูปอาหารที่ว่านั้นไปวางในช่องตรวจสอบ ระบบปัญญาประดิษฐ์จะวิเคราะห์ว่ารูปที่วาดนั้นหมายถึงอาหารประเภทใด จากนั้นมันจะเสนอตัวเลือกภาพถ่ายของอาหารประเภทนั้นขึ้นมาให้ผู้ใช้เลือก ซึ่งภาพถ่ายที่ว่านี้เป็นภาพจากร้านอาหารที่มีบริการส่งอาหารถึงบ้าน
อโดบีรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2018 (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) รายได้ยังคงเดินหน้าทำสถิติใหม่สูงสุดต่อเนื่องอีกไตรมาส เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 2,078.9 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 583.1 ล้านดอลลาร์
รายได้จาก Subscription ซึ่งเป็นช่องทางหลักของอโดบียังคงเติบโตสูง เพิ่มขึ้นถึง 29.6% เป็น 1.79 พันล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์แบบดั้งเดิมลดลง 6.4% เป็น 171 ล้านดอลลาร์ เมื่อแยกตามหมวดผลิตภัณฑ์ Creative Cloud มีรายได้ 1.23 พันล้านดอลลาร์
ราคาหุ้นของอโดบียังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และตอนนี้มีมูลค่ากิจการสูงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์แล้ว
เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ Adobe ได้ปล่อยอัพเดตให้กับ Adobe XD เครื่องมือออกแบบ User Experience (UX) โดยได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ประโยชน์จากความสามารถของแพลตฟอร์ม Windows 10 เข้ามาอย่างการรองรับอินพุทจากปากกาและหน้าจอสัมผัส
ด้วยอัพเดตข้างต้นผู้ใช้จะสามารถสั่งงานเครื่องมือต่างๆ บน Adobe XD ได้ด้วยปากกาและหน้าจอสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง artwork, เลือก layer, แก้ไขค่า properties, เชื่อมโยงหน้า prototype, เลื่อนไปยังตำแหน่งต่างๆ ของหน้าต่างพรีวิว ฯลฯ
นอกจากการสั่งงานพื้นฐานแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถปากกาและหน้าจอสัมผัสช่วยปรับค่า property ต่างๆ ที่เป็นตัวเลข ด้วยการแตะที่หน้าจอค้างไว้แล้วลากเพื่อถู (scrub) ค่าให้มากขึ้นหรือน้อยลงตามทิศทางของปากกาหรือนื้ว
Talos หน่วยวิจัยความปลอดภัยของ Cisco รายงานช่องโหว่ใหม่ของ Adobe Flash ที่พบว่าถูกนำไปใช้โจมตีเหยื่อแล้ว
ช่องโหว่ตัวนี้มีรหัส CVE-2018-4878 เป็นช่องโหว่แบบ zero day ที่พบใน Flash ทุกแพลตฟอร์มทุกเวอร์ชัน รวมถึงเวอร์ชันล่าสุดคือ Flash Player 28.0.0.137 ด้วย ส่วนการใช้งานพบว่าถูกใช้โดยกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ถูกตั้งชื่อว่า Group 123 และเน้นโจมตีผู้ใช้ในเกาหลีใต้เป็นหลัก (ยังไม่แน่ชัดว่า Group 123 มีความเชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือหรือไม่)