Tim Sweeney ซีอีโอ Epic Games ประกาศผ่านบัญชี Twitter ของเขา บอกใบ้ว่า Fortnite จะกลับมาลงในแพลตฟอร์ม iOS ปี 2023 หลังจากเกมถูกแอปเปิลแบนไปตั้งแต่ปี 2020 ตามมาด้วยคดีฟ้องร้องกันระหว่างสองบริษัท
มีรายงานจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ว่าแอปเปิลกำลังเตรียมการรองรับให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอป ผ่านช่องทาง Store จากรายอื่นนอกจาก App Store ของแอปเปิลเองได้ เนื่องจากต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของ EU ภายในปี 2024 โดยมอบหมายวิศวกรส่วนหนึ่งในการปรับแต่ง iOS 17 ให้รองรับการทำงานส่วนนี้แล้ว
ข้อกำหนดของ EU ออกมาเพื่อให้ผู้ใช้งานมีทางเลือก โดยมองว่าแอปเปิลและกูเกิล ที่เป็นสองระบบปฏิบัติการหลัก และควบคุมสโตร์สำหรับดาวน์โหลดแอป มีอำนาจควบคุมตลาดที่สูงมาก มีผลในปี 2024 ทั้งนี้เงื่อนไข EU บอกว่าบริษัทที่กฎหมายผล ต้องมีขนาดกิจการมากกว่า 75,000 ล้านยูโร หรือมีผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศ EU มากกว่า 45 ล้านคน ซึ่งทั้งแอปเปิลและกูเกิลเข้าเงื่อนไขดังกล่าว
แอปเปิลประกาศเพิ่มการกำหนดราคาใน App Store โดยเพิ่มราคาใหม่ให้เลือกมากกว่า 700 แบบ เพื่อให้นักพัฒนามีความยืดหยุ่นในการตั้งราคาทั้งตัวแอป และการซื้อภายในแอป (In-App)
โดยราคาใหม่ใน App Store ที่มีให้นักพัฒนาเลือกนั้น สามารถกำหนดราคาได้มากถึง 900 แบบ ราคาต่ำสุดในหน่วยดอลลาร์สหรัฐ เริ่มต้นที่ 0.29 ดอลลาร์ ไปจนถึงช่วงราคาสูงที่สูงสุดคือ 10,000 ดอลลาร์ ซึ่งกลุ่มราคาสูงนั้นนักพัฒนาต้องยื่นคำขอเพื่อพิจารณาเป็นกรณี และยังแยกย่อยสเต็ปการเพิ่มราคา เช่น เพิ่มทีละ 0.10 ดอลลาร์ สำหรับราคาที่ 0.29 ดอลลาร์ถึง 9.99 ดอลลาร์ เพิ่มทีละ 1 ดอลลาร์ สำหรับช่วง 0.99 ถึง 199.99 ดอลลาร์ เป็นต้น
Coinbase ประกาศว่าต้องปิดฟีเจอร์ NFT ในแอพเวอร์ชัน iOS หลังได้รับแจ้งจากแอปเปิลว่าต้องจ่ายส่วนแบ่ง 30% ด้วย ไม่อย่างนั้นจะไม่ยอมให้แอพขึ้น App Store
ข้อมูลของ Coinbase บอกว่าแอปเปิลบังคับให้การจ่ายค่าแก๊สเพื่อโอน NFT จำเป็นต้องจ่ายผ่าน In-App Purchase (IAP) ของ App Store ด้วย ซึ่ง Coinbase บอกว่าไม่สามารถทำได้เพราะ IAP ของแอปเปิลยังไม่รองรับการจ่ายด้วยเงินคริปโต ดังนั้น Coinbase จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถอดฟีเจอร์นี้ออกชั่วคราว
Mark Zuckerberg ไปพูดที่งานสัมมนา DealBook ของ The New York Times มีประเด็นที่น่าสนใจคือเขาวิจารณ์การผูกขาดสโตร์ของแอปเปิล ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน
Zuckerberg บอกว่าแอปเปิลเป็นบริษัทเดียวที่พยายามควบคุมว่าแอพไหนถึงมีสิทธิอยู่ในโทรศัพท์ได้ ซึ่งเขามองว่ามันไม่ยั่งยืน เขายังเปรียบเทียบกับกรณีของ Android ที่กูเกิลยอมให้ sideload ได้ และยอมให้มีสโตร์อื่นเข้ามาแข่งขันกับ Google Play ซึ่งเขาบอกว่า Meta จะใช้แนวทางนี้กับแว่น VR/AR เช่นกัน
Zuckerberg บอกว่าแอปเปิลนั้นมีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะคู่แข่งธุรกิจของแอปเปิลต้องเผยแพร่แอพผ่านช่องทางของแอปเปิล
สงครามระหว่าง Elon Musk กับแอปเปิลจบลงเร็วกว่าที่คาดกัน หลัง Elon Musk โพสต์ภาพว่าไปพบกับ Tim Cook ที่สำนักงานใหญ่ของแอปเปิล พาเดินทัวร์สวนกันอย่างชื่นมื่น
Elon Musk ยังบอกว่าแก้ไขความเข้าใจผิดเรื่อง Twitter จะโดนถอดออกจาก App Store โดย Tim Cook ยืนยันว่าแอปเปิลไม่เคยคิดทำอะไรแบบนั้น
อย่างไรก็ตาม Elon ไม่ได้เปิดเผยว่าได้คุยกันเรื่องอื่นหรือไม่ เช่น เรื่องแอปเปิลจะไม่ลงโฆษณากับ Twitter แล้ว หรือประเด็นเรื่องส่วนแบ่ง 30% ของ App Store ที่เขาไม่อยากจ่าย
Apple ประกาศแอปพลิเคชันและแอปพลิเคชันเกมผู้ชนะรางวัล App Store Award เป็นแอปและเกมที่ดีที่สุดแห่งปี 2022 รวม 16 แอป ผลการคัดเลือกมาจากฝ่ายบรรณาธิการของ App Store ทั่วโลก ผู้ชนะจะได้รับรางวัลรูปไอคอน App Store สีฟ้า
Pavel Durov ซีอีโอ Telegram ออกมาเปิดศึกกับแอปเปิลอีกครั้ง หลังจาก Telegram ทดสอบฟีเจอร์ใหม่ จ่ายเงินเพื่อดูโพสต์ ซึ่งพบว่าในแอปบน iOS ทาง Telegram เลี่ยงให้การจ่ายเงินเป็นการตัดบัตรเครดิตโดยตรง ไม่ได้ทำผ่านระบบ In-App Purchase ของแอปเปิล ที่หักส่วนแบ่ง 30%
Durov บอกว่าการจ่ายเงินผ่านช่องทางอื่น ทำให้ครีเอเตอร์ผู้สร้างสรรค์โพสต์นั้น ๆ ได้ผลประโยชน์สูงสุดเกือบ 100% เต็ม แต่ล่าสุดแอปเปิลได้ติดต่อมาว่าไม่ต้องการให้ใช้วิธีจ่ายเงินแบบนี้ พวกเขาต้องการให้การจ่ายเงินทำผ่านระบบของแอปเปิล ที่เราต้องจ่ายภาษี 30% ให้แอปเปิล ฉะนั้น Telegram ไม่มีทางเลือก นอกจากปิดการทำงานฟีเจอร์ Paid Post นี้ ในแอปบน iOS ทั้งหมด
Apple เปลี่ยนแปลงกฎใหม่บน Apple Store อย่างแรก คือ จะบังคับให้การซื้อโฆษณาบนแอปพลิเคชัน เช่น การซื้อบูสต์บน Facebook หรือ Instagram จะต้องชำระเงินผ่านระบบชำระเงินภายในแอปของ Apple (in-app purchase) ซึ่งหมายความแพลตฟอร์มจะถูก Apple หักค่าธรรมเนียม 30%
การซื้อผลงาน NFT ในแอปก็จะต้องใช้ระบบชำระเงินของ Apple และถูกหักค่าธรรมเนียมในอัตราเท่ากันเช่นเดียวกันซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้สร้างและขายผลงานลงในแอปที่จะมีรายได้ลดลงทำให้อาจขายผลงานในราคาที่แพงขึ้น
Spotify ออกมาเปิดศึกกับแอปเปิลรอบใหม่อีกครั้ง โดยคราวนี้เป็นบริการ Audiobook หรือหนังสือเสียง ที่เพิ่งเปิดตัวเฉพาะผู้ใช้งานในอเมริกาไปเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งปัญหาที่ Spotify ร้องเรียนก็คือเรื่องเดิม นั่นคือกฎระเบียบของ App Store ที่มองว่าทำลายการแข่งขัน
บริการ Audiobook ของ Spotify นั้นต้องทำการแยกซื้อเป็นรายเรื่อง จึงเป็นที่มาซึ่ง Spotify ออกแคมเปญร้องเรียน สาเหตุหลักเพราะแอปเปิลจะเก็บค่าธรรมเนียม 30% ผ่านการซื้อด้วย In-App Purchase (IAP) ทำให้หนังสือมีราคาแพงมากเกินไป เมื่อ Spotify ใช้วิธีการอื่นเพื่อให้ลูกค้าซื้อนอกแอป แอปเปิลก็ห้ามไม่ให้ทำ ซึ่ง Spotify บอกว่าได้เสนอรูปแบบไปถึง 3 ครั้ง จึงผ่านการอนุมัติ แต่ก็เป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากมากเกินไป
แอปเปิลส่งอีเมลแจ้งนักพัฒนา บอกว่า App Store จะเริ่มแสดงผลโฆษณาของแอปที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ในแถบหัวข้อ Today ระบุในส่วน You Might Also Like เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม เป็นต้นไป มีผลกับทุกประเทศยกเว้นจีน
แอปที่เป็นโฆษณาในหน้า Today จะมีไอคอนสีฟ้าระบุว่าเป็น Ad
Today เป็นหัวข้อที่ทีมบรรณาธิการของแอปเปิล จะเลือกแอปน่าสนใจมาแนะนำในรูปแบบต่าง ๆ โดยไม่มีส่วนโฆษณาที่มาแสดงผลแทรก การเปลี่ยนแปลงทำให้นักพัฒนาสามารถจ่ายเงินเพื่อแทรกแอปของตนในเนื้อหาได้
แอปเปิลเดิมแสดงผลโฆษณาใน App Store เฉพาะหน้าผลการค้นหา แต่ทิศทางที่แอปเปิลต้องการเพิ่มรายได้จากโฆษณามากขึ้น ทำให้จากนี้เราจะเห็นพื้นที่โฆษณาเพิ่มอีกนั่นเอง
แอปเปิลนำแอปโซเชียล VKontakte และแอปเมล Mail.ru ของรัสเซียกลับเข้า App Store แล้ว หลังก่อนหน้านี้แอปเหล่านี้ รวมทั้งแอปในเครือ VK ถูกถอดออกจาก Store
ก่อนหน้านี้แอปเปิลให้เหตุผลที่ถอดแอปดังกล่าว ว่าเป็นไปตามมาตรการคว่ำบาตรของรัฐบาลอังกฤษ
อย่างไรก็ตามในการนำแอปกลับมาที่ App Store แอปเปิลไม่ได้ชี้แจงสาเหตุ ฝั่งผู้พัฒนาเองก็ระบุว่าไม่ได้มีการแก้ไขแอปใด ๆ ซึ่งมีการติดต่อสอบถามแอปเปิลไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ
ที่มา: MacRumors
จากที่กลุ่ม KMGA (Korea Mobile Game Association) สมาคมนักพัฒนาเกมมือถือของเกาหลีใต้ได้ร้องเรียนว่า Apple ได้หักส่วนแบ่งการขายแอปใน App Store เกินไปหลายพันล้าน ทำให้ทาง KFTC (Korea Fair Trade Commission) เข้าตรวจสอบเรื่องนี้ที่สำนักงานของ Apple ใน Seoul เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา
เรื่องนี้เกี่ยวพันกับวิธีการคิดส่วนแบ่งรายได้ระหว่างนักพัฒนาแอปและ Apple โดย Apple หักส่วนแบ่งจากการขายแอปในสัดส่วน 30% ของราคาขายที่ปรากฏบน App Store ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มไปแล้ว 10% ซึ่งทางฝั่ง KMGA ผู้ร้องเรียนมองว่า Apple ควรหักส่วนแบ่งเพียงแค่ 30% ของราคาที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
Tim Sweeney ซีอีโอ Epic Games ออกมาให้ความเห็น หลังจากแอปเปิลประกาศปรับขึ้นราคาแอปและบริการในแอป มีผลกับประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร และอีกหลายประเทศ ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากอัตราแลกเปลี่ยน
โดย Sweeney บอกว่า ลองนึกถึงแลนด์ลอร์ดบอกกับร้านค้ารายย่อยที่เช่าที่ดินอยู่ ว่าเขาต้องขึ้นราคาค่าเช่าแบบไม่มีทางเลือกอื่นให้ด้วย นี่คือสิ่งที่แอปเปิลกำลังทำกับนักพัฒนา ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อรักษาระดับกำไรของแอปเปิลเอง นักพัฒนาไม่มีทางเลือกอื่น เพราะการเข้าถึงผู้ใช้งาน App Store ระดับพันล้านคน ก็คือต้องยอมขึ้นราคาตามที่แอปเปิลกำหนด
ในรายละเอียดการขึ้นราคาบน App Store นั้น ตัวอย่างเช่น แอปเปิลกำหนดให้เทียร์ราคาต่ำที่สุดในแอปที่ตั้งราคาได้คือ 0.99 ยูโร ก็ปรับมาเป็น 1.19 ยูโร เป็นต้น
VK ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ในรัสเซีย รวมทั้งโซเชียลเน็ตเวิร์ก VKontakte แถลงว่าแอปในเครือของบริษัทถูกถอดออกจาก App Store ของแอปเปิล มีผลให้ผู้ใช้งานไม่สามารถดาวน์โหลดหรืออัพเดตแอปได้
อย่างไรก็ตาม VK บอกว่า แอปที่ติดตั้งในอุปกรณ์แล้วจะยังใช้งานได้ตามปกติ แต่หากผู้ใช้งานไม่มีแอป ก็แนะนำให้ใช้งานผ่านเว็บไปก่อน ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่าแอปเปิลได้ปิดบัญชีนักพัฒนาของ VK ด้วย จึงมีผลให้แอปทั้งหมดหายไปจาก App Store ส่วนแอปของ VK บน Play Store ของกูเกิลยังมีอยู่ตามปกติ
The Verge สอบถามไปยังแอปเปิลถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ
Apple ประกาศว่าจะขึ้นราคาแอปพลิเคชันใน App Store และราคาค่าบริการภายในแอปในประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ได้แก่ โปแลนด์ สวีเดน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ชิลี อียิปต์ มาเลเซีย ปากีสถาน และเวียดนาม โดยเริ่มอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 5 ตุลาคมนี้
KMGA (Korea Mobile Game Association) สมาคมนักพัฒนาเกมมือถือของเกาหลีใต้ได้ร้องเรียนต่อ FTC เมื่อเดือนก่อน ให้ช่วยตรวจสอบ Apple ในประเด็นการหักเงินส่วนแบ่งการขายแอปและไอเทมอื่นๆ ใน App Store เกินจากที่กำหนดไว้
ข้อกำหนดของ Apple นั้นระบุว่านักพัฒนาต้องแบ่งรายได้จากการขายแอปและไอเทม 30% ให้ทาง Apple แต่ Hwang Sung-ick ประธาน KMGA ระบุว่าความจริงแล้ว Apple เก็บเงินส่วนแบ่งจากพวกเขาในสัดส่วน 33% ซึ่งเกินกว่าที่กำหนดไว้ในข้อตกลง สาเหตุเป็นเพราะ Apple นำเอาราคาขายหลังบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 10% มาเป็นฐานในการคำนวณส่วนแบ่ง
แอปพลิเคชันแต่งรูป Pixelmator Photo เปลี่ยนจากแอปจ่ายเงินครั้งเดียวไปเป็นแบบรายเดือนแล้ว โดยผู้ใช้ใหม่ที่ต้องการดาวน์โหลดแอปจะต้องเสียค่าบริการรายเดือน $4.99 ต่อเดือน (ประมาณ 178 บาท) หรือราคาโปร $23.99 ต่อปี (ประมาณ 857 บาท) ส่วนผู้ใช้เก่าสามารถใช้แอปได้อย่างไม่จำกัดโดยไม่เสียเงิน นอกจากนี้ บริษัทเปิดเผยว่ากำลังจะเปิดให้ดาวน์โหลด Pixelmator สำหรับ MacOS ในปีนี้หรือต้นปีหน้า
Telegram เปิดตัว Telegram Emoji Platform ฟีเจอร์ใหม่เกี่ยวกับอีโมจิ รวมทั้งฟีเจอร์ใหม่อีกหลายรายการ มีรายละเอียดดังนี้
ฟีเจอร์อื่นได้แก่ แถบสติกเกอร์-GIF แบบใหม่ สำหรับผู้ใช้ iOS ซึ่ง Android และบนเว็บอัพเดตไปแล้วก่อนหน้านี้, สามารถส่งของขวัญเป็น Telegram Premium หากันได้ และ Interactive Emoji แบบใหม่เพิ่มเติม
Pavel Durov ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Telegram เปิดเผยผ่านแชนเนลของเขา ว่า Telegram เวอร์ชันใหม่ที่เตรียมออกมาให้อัพเดต ซึ่งมีฟีเจอร์สำคัญ ที่จะปฏิวัติวิธีแสดงความรู้สึกผ่านข้อความ ตอนนี้ขั้นตอนการตรวจสอบและอนุมัติขึ้น App Store ยังค้างอยู่ที่แอปเปิลถึง 2 สัปดาห์แล้ว และแอปเปิลก็ไมได้ตอบกลับความเห็นใด ๆ มาด้วย
ทั้งนี้ Durov ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าฟีเจอร์ใหม่ที่ว่าคืออะไร ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้แอปเปิลใช้เวลาตรวจสอบแอปนานกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม Telegram ถือเป็นแอปสนทนายอดนิยมตัวหนึ่งของ App Store
Jetpack Joyride เกม side-scrolling นี่หลายๆ คนน่าจะเคยเล่นหรือติดงอมแงม เตรียมเปิดให้ดาวน์โหลดภาค 2 เฉพาะบน iOS และเอ็กคลูซีฟเฉพาะบน Apple Card เท่านั้นด้วย ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้
ก่อนหน้านี้ Halfbrick ผู้พัฒนาเกม Jetpack Joyride ได้ปล่อยเกมภาค 2 ออกมาให้เล่นทั้งในระบบ iOS และ Android เมื่อปีที่แล้ว แต่ดึงออกไปจากหน้าสโตร์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ในอีเมล์ข่าวของ Apple ระบุว่า Jetpack Joyride 2 จะมีการปรับเปลี่ยนและเพิ่มเติมจากภาคแรก โดยนอกจากการยิง หลบสิ่งกีดขวาง เอาชีวิตรอดและรับเหรียญ ในภาคนี้จะเน้นไปที่การดำเนินเกมด้วยเรื่องราว
มีรายงานจากบริษัทวิจัยตลาดแอป Sensor Tower พบข้อมูลน่าสนใจของรายได้จาก App Store ของแอปเปิลเฉพาะในอเมริกา โดยรายได้รวมของกลุ่มแอปที่ไม่ใช่เกม มีมูลค่ารวมมากกว่าแอปประเภทเกมเป็นครั้งแรก ซึ่งเริ่มแซงตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2022 แนวโน้มยังคงเพิ่มขึ้นต่อในเดือนมิถุนายน ทำให้ภาพรวมของไตรมาส 2/2022 รายได้แอปที่ไม่ใช่เกม มากกว่าแอปเกม ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่บันทึกข้อมูล
หากย้อนไป 5 ปีที่แล้ว รายได้ของ App Store ในอเมริกา ยังมาจากแอปเกมเป็นหลัก โดยคิดเป็น 2 ใน 3 ของรายได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามแนวโน้มนี้เกิดขึ้นใน App Store เฉพาะอเมริกาตอนนี้ ส่วน Google Play ภาพรวมเกมยังทำเงินสูงกว่ามาก
มหากาพย์แอปเปิลกับรัฐบาลเกาหลีใต้ จบลงด้วยการที่แอปเปิลยอมเปิด App Store ให้นักพัฒนาแอพสามารถใช้ระบบจ่ายเงินอื่นๆ นอกเหนือจากของแอปเปิลได้ โดยจะเสียค่าธรรมเนียมถูกลง 4% (เหลือ 26%)
ตอนนี้ระบบจ่ายเงินออนไลน์ที่แอปเปิลรองรับคือ KCP, Inicis, Toss, NICE โดยนักพัฒนาสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ระบบจ่ายเงินของแอปเปิลต่อไปตามปกติ หรือจะเปลี่ยนมาใช้ระบบจ่ายเงินค่ายอื่น ซึ่งจะเสียฟีเจอร์อย่าง Ask to Buy, Family Sharing และจำเป็นต้องเชื่อมต่อผ่าน StoreKit External Purchase Entitlement ซึ่งเป็น API พิเศษเวอร์ชันเฉพาะของสโตร์เกาหลีใต้ด้วย
แอปเปิลประกาศแนวทางการรีวิวแอปบน App Store (App Store Review Guideline) ในประเด็นหากแอปมีบริการสร้างบัญชีใหม่ในตัวแอป แอปนั้นจะต้องรองรับการลบบัญชีภายในแอปนั้นเช่นกัน โดยแอปทั้งหมดที่เข้าเงื่อนไขนี้จะต้องรองรับการลบบัญชีภายใน 30 มิถุนายน 2022 (รายละเอียดอยู่ในข้อ 5.1.1(v))
แอปเปิลประกาศเกณฑ์ดังกล่าวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ก็เลื่อนวันกำหนดให้มีผลมาสองครั้ง แต่ครั้งนี้แอปเปิลบอกว่าไม่เลื่อนแล้ว
แอปเปิลประกาศการเปลี่ยนสำหรับนักพัฒนา ในระบบสมัครสมาชิกแบบต่ออายุอัตโนมัติ (auto-renewable subscription) จากเดิมที่หากค่าสมาชิกรายเดือนหรือรายปี มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น ผู้สมัครใช้งานต้องกดยอมรับทุกครั้ง (opt-in) ซึ่งพบปัญหาว่าผู้ใช้งานไม่ได้กดยอมรับหรือปฏิเสธ ทำให้การสมัครสมาชิกต้องยกเลิกไปแบบไม่ตั้งใจ
โดยเงื่อนไขใหม่นี้ แอปเปิลกำหนดว่าเมื่อแอปมีการปรับราคาค่าสมาชิก ให้ระบบแจ้งเตือน ส่งอีเมล แสดงข้อความถึงการเปลี่ยนแปลง แต่ผู้ใช้งานไม่ต้องกด opt-in ก็สามารถใช้งานต่อได้เลยในราคาใหม่นี้