ก่อนหน้านี้ Apple เคยแจ้งว่าจะปิดบริการ iTunes Radio ฟังฟรีมีโฆษณาที่ยังให้บริการอยู่ 2 ประเทศคือสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย (เพราะเป็นประเทศที่มี iTunes Radio มาก่อน Apple Music) ในวันที่ 29 มกราคมนี้ และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ Apple จะปิดบริการ
เท่ากับว่าต่อไปนี้หากใครต้องการฟัง iTunes Radio ก็ต้องจ่ายเงินสมัคร Apple Music ซึ่งจะทำให้เหลือเพียงแค่ Beats 1 อย่างเดียวที่เป็นสถานีวิทยุฟังฟรีมีโฆษณาของ Apple
ที่มา - AppleInsider
ถ้าจำกันได้เมื่อเดือนตุลาคม Tim Cook เคยออกมาประกาศว่าบริการสตรีมเพลง Apple Music มีผู้จ่ายเงินรายเดือนมากถึง 6.5 ล้านคน หลังจากเปิดตัวมาครบ 6 เดือนก็มีรายงานชิ้นใหม่ระบุว่าตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 10 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อย
รายงานชิ้นดังกล่าวออกมาจากแหล่งข่าวของ Financial Times ซึ่งถ้ามองว่ายอดดังกล่าวเป็นของจริง จะถือว่าแอปเปิลทำผลงานได้ดีมาก เมื่อเทียบกับ Spotify ยักษ์ใหญ่ในวงการที่ใช้เวลากว่า 6 ปีในการทำยอดผู้ใช้ทะลุ 10 ล้านคนเมื่อปี 2014 (ปัจจุบันอยู่ที่ 20 ล้านคน)
ในช่วงแรกของการเปิดให้บริการ Apple Music สำหรับประเทศไทย มีค่ายเพลงในไทยบางค่ายที่ร่วมนำเพลงขึ้น Apple Music ให้ได้ฟังกันโดยที่ไม่มีวี่แววของค่ายใหญ่สองค่ายอย่าง RS และ GMM Grammy แม้แต่น้อย
ล่าสุด (ตัวผมเอง) ค้นเจอเพลงของ GMM Grammy เริ่มเข้ามาในระบบ Apple Music เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถกดฟัง และกด Bookmark ลง iCloud Music Library ได้ เพียงแต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูรายละเอียดรายอัลบั้มได้เท่านั้น (ระบบยังฟ้องว่า No items)
สำนักข่าวต่างประเทศเผยว่า Adele และทีมงานกำลังคุยกับ Spotify เพื่อให้ผู้ใช้ที่สามารถฟังอัลบั้ม 25 ได้มีเฉพาะผู้ใช้แบบจ่ายเงินเท่านั้น ส่วนผู้ใช้แบบ Freemium (ฟรีมีโฆษณา) จะไม่ได้ฟังอัลบั้มนี้ ซึ่งจะทำให้ผู้มีโอกาสฟังเพลงของเธอลดลงจากผู้ใช้ Spotify ทั้งหมด 75 ล้านคนเหลือเพียง 20 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งดูเหมือนว่าทาง Spotify จะไม่ยอม
หากย้อนกลับไปหลายปีก่อน ช่วงที่ Adele ออกอัลบั้ม 21 ในปี 2011 เธอก็เคยขอให้ Spotify สตรีมเพลงให้เฉพาะผู้ใช้แบบเสียเงินเท่านั้นเหมือนกัน และ Spotify ได้ปฏิเสธไปเพราะไม่อยากแบ่งคลังเพลงออกเป็นหลายส่วน แต่ตอนนั้น Adele ยังไม่มีชื่อเสียงนัก ส่วน Spotify ก็ยังเน้นให้บริการในยุโรป โดยหลังจากที่อัลบั้ม 21 วางขายทำให้เธอมีชื่อเสียงมากขึ้น
มาตามสัญญาที่ให้ไว้ตั้งแต่งาน WWDC 2015 ว่า Apple Music จะลง Android ล่าสุดแอปเปิลก็ได้ปล่อยแอพฯ Apple Music ขึ้น Google Play Store เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ความสามารถของ Apple Music บน Android เรียกว่าเทียบเท่าแอพฯ Music บน iOS แต่ตัดความสามารถในการเล่น Music Video ออกเพราะยังเป็น Beta Version และสามารถดึงรายการเพลงบน iCloud Music Library (ซึ่งเป็นเพลงที่อยู่บน iTunes) มาฟังได้ทั้งหมด
ในงานสัมมนา Wall Street Journal Digital Live ซีอีโอแอปเปิล Tim Cook ออกมาพูดคุยถึงผลิตภัณฑ์ในเครือแอปเปิลหลายอย่าง รวมถึงยอดผู้ใช้ Apple Music หลังหมดช่วงการให้ใช้ฟรีสามเดือนไปแล้ว
เริ่มต้นกันที่ Apple Music ที่ Cook ออกมายืนยันตัวเลขเป็นครั้งแรก โดยตอนนี้มีลูกค้าแบบเสียเงิน 6.5 ล้านราย จากผู้ใช้ทั้งหมด 15 ล้านราย ซึ่งยังห่างไกลกับเจ้าตลาดอย่าง Spotify ที่มีลูกค้าแบบเสียเงินรายเดือนราว 20 ล้านคน
Daniel Ek ซีอีโอ Spotify กล่าวในงานสัมมนาที่ประเทศแคนาดา ระบุว่าตั้งแต่ Apple Music เปิดตัวนั้น จำนวนผู้ใช้งาน Spotify ก็ยังคงเพิ่มขึ้นแบบทำสถิติใหม่ทุกสัปดาห์ แต่ไม่ได้ให้ตัวเลขว่าเติบโตมากน้อยเพียงใด
ปัจจุบัน Spotify มีผู้ใช้งานแบบเสียเงิน 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน อยู่ประมาณ 20 ล้านคน ซึ่งมีราคาเท่ากับ Apple Music ในต่างประเทศ
Ek บอกว่าปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้จำนวนผู้ใช้ Spotify ยังเติบโตได้ดีคือความร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ซึ่ง Spotify มีแคมเปญร่วมกับเครือข่ายมือถือกว่า 40 แห่งทั่วโลกแล้ว
ที่มา: Bloomberg
ข่าวนี้มีสองเรื่องที่ต่อเนื่องกันนะครับ รายงานโดย The Wall Street Journal ทั้งคู่
เมื่อช่วงสิ้นเดือนที่ผ่านมา Ian Rogers หนึ่งในผู้บริหารของแอปเปิลที่รับผิดชอบการสร้างสถานี Beats 1 บน Apple Music (ได้ตัวมาจากการเข้าซื้อ Beats) ประกาศลาออกจากตำแหน่ง แต่ในตอนนั้นยังไม่มีการระบุว่าเขาจะไปทำงานด้านไหนต่อ ยกเว้นแค่ระบุว่าจะย้ายไปทำงานที่ยุโรป
มาตอนนี้บริษัท LVMH ประกาศว่า Ian Rogers จะเข้ามารับตำแหน่งกับบริษัท โดยมีตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัล (Chief Digital Officer) โดยทางบริษัทระบุว่า Rogers จะเข้ามาช่วยในการพัฒนางานด้านดิจิทัลของทั้งบริษัทเองและในเครือด้วย
แม้ว่า Apple Music บริการสตรีมเพลงจากแอปเปิลที่เปิดตัวมาอย่างร้อนแรง มีผู้ใช้มากกว่า 11 ล้านรายภายในเวลาเพียงเดือนเศษๆ ก็เริ่มเจอกับกำแพงปัญหาแล้ว หลังจากบริษัทวิจัยอุตสาหกรรมเพลงอย่าง MusicWatch ออกมาเผยผลการศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้เกือบครึ่งที่ลอง Apple Music ได้หยุดใช้งานบริการสตรีมเพลงนี้ไปเสียแล้ว
ในรายงานชิ้นดังกล่าวครอบคลุมหลายประเด็นเกี่ยวกับ Apple Music ซึ่งเก็บข้อมูลมาจากผู้ใช้ 5,000 ราย โดยรายละเอียดที่น่าสนใจมีดังนี้
หลังจากเริ่มให้บริการในช่วงปลายเดือนมิถุนายนพร้อมๆ กับการอัพเดต iOS 8.4 ผ่านไป 5 สัปดาห์ Eddy Cue รองประธานของแอปเปิลฝ่ายอินเทอร์เน็ตซอฟต์แวร์ระบุว่ามีผู้ใช้ Apple Music ไปแล้วกว่า 11 ล้านคน โดยในกลุ่มนี้มีคนเลือก Family Plan ที่ 2 ล้านคน
ถึงแม้ตัวเลขนี้จะวัดจำนวนผู้ใช้จริงไม่ได้มาก เพราะยังอยู่ในช่วงทดลองใช้ฟรี 3 เดือน แต่ Eddy Cue ได้ให้สัมภาษณ์ USA Today ว่าตื่นเต้นกับตัวเลขข้างต้นมาก พร้อมทั้งระบุด้วยว่าจะอัพเดตแก้บั๊คและปัญหาต่างๆ ใน Apple Music ที่ได้รับการร้องเรียนให้เร็วที่สุด
จากที่มีข่าวลือว่า FTC สนใจสอบสวนแอปเปิล ข้อหากีดกันบริการเพลงออนไลน์คู่แข่ง ทาง The Verge รายงานว่า FTC เริ่มดำเนินการสอบสวนแล้ว ถึงแม้เรื่องนี้ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการต่อสาธารณะ แต่ FTC ก็เชิญผู้ให้บริการเพลงออนไลน์คู่แข่งของแอปเปิลหลายรายไปให้ข้อมูลแล้ว
ประเด็นที่เป็นปัญหาคือนโยบายหัก 30% ของแอปเปิลสำหรับการซื้อขายภายในแอพ (IAP) ที่ส่งผลให้ต้นทุนของผู้ให้บริการเพลงคู่แข่งเพิ่มขึ้น ในขณะที่ Apple Music ไม่มีปัญหานี้เพราะเป็นบริการของแอปเปิลเอง
Jim Dalrymple เจ้าของเว็บไซต์ The Loop ข่าวและบทความเกี่ยวกับแอปเปิล เขียนเล่าประสบการณ์ของเขากับ Apple Music ที่ไม่ค่อยดีนัก
ปัญหาของ Dalrymple อยู่ที่ส่วนการเพิ่มเพลงจากไลบรารี iTunes ของเราเข้าไปยัง Apple Music โดยมีทั้งปัญหาเพิ่มเพลงแล้วไม่เข้าระบบ หายไปบางเพลง ซ้ำซ้อนกันบางเพลง การซิงก์เพลงเข้าเฉพาะบางอุปกรณ์
แต่ปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดคือเมื่อ Dalrymple เหน็ดเหนื่อยกับกระบวนการเพิ่มเพลงที่ยุ่งยาก เขาตัดสินใจปิดการทำงานของ Apple Music สิ่งที่เกิดขึ้นคือไลบรารีเพลง 4,700 เพลงของเขาถูกลบไปด้วย ซึ่งเขาบอกว่าเพลงจำนวนมากแปลงมาจากซีดีที่เขาหาไม่ได้อีกแล้ว
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐและ FTC จับตาแอปเปิล หลังมีข่าวบีบค่ายเพลงเลิกสัญญาคู่แข่ง ล่าสุดสำนักข่าว Reuters รายงานข่าววงในอีกรอบว่า FTC สนใจประเด็นนี้จริง และเริ่มสอบสวนอย่างไม่เป็นทางการแล้ว
ประเด็นที่เป็นปัญหาคือนโยบายการหักค่าใช้จ่าย 30% ของแอปเปิล ทำให้บริการเพลงออนไลน์คู่แข่งไม่สามารถคิดเงินลูกค้าได้ในราคาปกติถ้าจ่ายผ่าน App Store และแข่งขันเรื่องราคากับ Apple Music ได้ยากกว่าเดิม (เมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งมีข่าว Spotify แนะนำให้ผู้ใช้สมัครบริการผ่านเว็บแทน App Store ด้วยเหตุผลเดียวกัน)
Apple Music บน iOS 8.4 ใช้การปรับบิตเรตอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับว่าอุปกรณ์ต่ออยู่กับเครือข่ายไวไฟ หรือข้อมูลเครือข่ายมือถือ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี และช่วยประหยัดแพ็คเกจข้อมูลมือถือ
ตัวเลือกนี้จะเป็นการบังคับให้ Apple Music สตรีมมิงเพลงที่คุณภาพสูงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายแบบใด แต่ทางแอปเปิลยังไม่เปิดเผยว่าใช้บิตเรตใดในการให้บริการสตรีมมิง และมีข้อความเตือนว่า "อาจใช้ข้อมูลมือถือมากขึ้นและใช้เวลานานขึ้นเมื่อจะเริ่มเล่นเพลง" อยู่ใต้ตัวเลือก
ตัวเลือกนี้น่าจะถูกใจผู้ใช้ที่ต้องการคุณภาพเสียง และมีแพ็คเกจข้อมูลเหลือเฟือ
แอปเปิลปล่อยอัพเดต iOS 8.4 ตัวจริงแล้ว ของใหม่ที่สำคัญในเวอร์ชันนี้คือบริการเพลงออนไลน์ Apple Music และแอพฟังเพลง Music เวอร์ชันปรับปรุงใหม่ ของใหม่อื่นๆ คือปรับปรุงแอพ iBooks หลายจุด (ย้าย audiobooks จากแอพ Music มาอยู่ใน iBooks)
ความสามารถของ Apple Music แบบเต็มๆ อ่านได้จากข่าวเก่าตอนเปิดตัว
ผู้ใช้ iOS สามารถกดอัพเดต OTA ได้แล้ว ส่วนขนาดไฟล์ก็แตกต่างกันขึ้นกับอุปกรณ์ที่ใช้งานครับ
ที่มา - MacRumors
นักร้องสาว Taylor Swift ยอมนำอัลบั้มล่าสุด 1989 ขึ้น Apple Music แล้ว หลังจากมีการประกาศจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงให้กับศิลปินและค่ายเพลงในช่วงทดลองใช้งาน
Taylor Swift โพสต์ลงบนทวิตเตอร์ของเธอว่า การกระทำของแอปเปิลเป็นที่ถูกต้อง จึงเต็มใจนำอัลบั้ม 1989 มาลงบริการ Apple Music โดยเธอไม่รับข้อตกลงพิเศษแต่อย่างใด และสุดท้ายเธอยังขอบคุณแอปเปิลที่ยอมเปลี่ยนใจในเรื่องนี้
The New York Times ระบุว่าแอปเปิลจะจ่ายเงินให้กับเจ้าของเพลงที่ 0.002 เหรียญต่อการสตรีมหนึ่งครั้ง ส่วนต้นสังกัดจะได้รับ 0.00047 เหรียญต่อการสตรีมหนึ่งครั้ง
ก่อนหน้านี้ Taylor Swift ได้ออกมากล่าวถึงเรื่อง Apple Music ไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงช่วงทดลองใช้ ว่าส่งผลต่อศิลปินอย่างไรจนเกิดการวิจารณ์ในวงกว้าง ล่าสุด Eddy Cue ผู้บริหารของ Apple ได้ออกมาทวีตถึงเรื่องนี้แล้ว
Eddy Cue ได้ทวีตลงบัญชี @cue กล่าวถึงเรื่องนี้ 3 ทวีตด้วยกัน โดยเนื้อความหลักๆ คือ Cue บอกว่าศิลปินต้องได้รับเงินค่าตอบแทน โดยบริษัทจะจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงที่สตรีมผ่าน Apple Music แม้ว่าจะอยู่ในช่วงการทดลองใช้ก็ตาม โดยในทวีตสุดท้ายได้เมนชั่นถึง Taylor Swift (@taylorswift13) ว่าเราได้รับฟังเสียงจากเธอและศิลปินอิสระแล้ว
นักร้องสาว Taylor Swift ออกมาเขียนบล็อกอธิบายเหตุผลที่เธอตัดสินใจถอนอัลบั้ม 1989 ออกจาก Apple Music โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะบริการทดลองฟังฟรี 3 เดือนของแอปเปิลนั้นไม่ยอมจ่ายค่าตอบแทนใดๆ ให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์เลย
Taylor บอกว่าตัวเธอเองไม่มีปัญหาเรื่องรายได้ เพราะลำพังแค่การเล่นคอนเสิร์ตก็เลี้ยงทีมงานทั้งหมดได้แล้ว แต่เธอต้องการแสดงจุดยืนว่าสนับสนุนคนทำงานด้านดนตรีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตัวศิลปินเอง นักประพันธ์เพลง โปรดิวเซอร์ และคนทำงานในตำแหน่งอื่นๆ
การเปิดตัว Apple Music มาพร้อมกับแคมเปญต้อนรับลูกค้าใหม่อย่างใจป๋าด้วยการให้ใช้บริการฟรีๆ ไปถึงสามเดือนเต็ม จนหลายคนสงสัยว่าแอปเปิลจะยอมเข้าเนื้อขนาดนั้นเพื่อชนกับบรรดาคู่แข่งในตลาดเลยหรือ ล่าสุด Robert Kondrk รองหัวหน้าฝ่าย iTunes ของแอปเปิลออกมาพูดถึงเรื่องนี้ รวมถึงการแบ่งรายได้แก่ศิลปินไว้ด้วย
ในเรื่องของการแบ่งรายได้ บริการ Apple Music จะแบ่งรายได้แก่เจ้าของสิทธิ์ในตัวเพลงดังกล่าวราว 71.5% โดยผันผวนในบางประเทศ อย่างสหรัฐฯ จะอยู่ราว 73% ซึ่งตัวเลขนี้จะส่งไปยังค่ายเพลงก่อนจะถูกแบ่งสรรปันส่วนแก่บรรดาศิลปินอีกที ส่วนศิลปินอิสระจะได้รับโดยตรง ตัวเลขนี้ถือว่าใกล้เคียงกับคู่แข่งในตลาด แต่อาจถูกใจค่ายเพลงมากกว่าเนื่องจากไม่มีบริการแบบฟรี
สำหรับคนที่สงสัยว่าแอปเปิลจะตั้งราคา Apple Music นอกสหรัฐฯ เท่าไหร่ จะตั้งราคาเท่ากับสหรัฐฯ หรือปรับตามค่าครองชีพแต่ละประเทศ ตอนนี้มีเบาะแสเพิ่มเติมออกมาจากสกรีนช็อตของ Apple Music ของในอินเดียแล้ว
จากข้อมูลที่ออกมา ราคาของ Apple Music ในอินเดียจะเริ่มต้นที่ 120 รูปี (ประมาณ 63 บาท) สำหรับใช้คนเดียว และ 180 รูปี (ประมาณ 95 บาท) สำหรับโปรโมชันครอบครัว จากราคาที่ออกมาเรียกได้ว่าชนกับคู่แข่งในอินเดียที่ตั้งราคาไว้ในระดับเดียวกัน และถูกกว่าหลายๆ บริการคู่แข่งด้วยซ้ำ
นอกจากถูกแล้ว ยังได้ใช้ฟรีสามเดือนเช่นกัน ถ้าเข้ามาในประเทศไทยน่าจะทำราคาได้ถูกใจคนแถวนี้ไม่น้อย
จากข่าวลือเรื่องการบีบให้ค่ายเพลงยกเลิกสัญญากับคู่แข่ง ในขณะนี้ Eric T. Schneiderman อัยการรัฐนิวยอร์ก และ George Jepsen อัยการรัฐคอนเนตทิคัต กำลังตรวจสอบข้อตกลงการเจรจาทางการค้าระหว่างแอปเปิลกับค่ายเพลงว่าเข้าข่ายร่วมกันผูกขาดทางการค้าหรือไม่ ก่อนการเปิดให้ใช้บริการในสิ้นเดือนนี้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้บริโภค
หลังการเปิดตัว Apple Music ที่มีราคาแบบกลุ่ม 14.99 ดอลลาร์ ใช้งานได้ 6 คน ส่งผลให้คู่แข่งอย่าง Spotify ออกมาประกาศว่าจะลดราคาลงมาให้อยู่ระดับเดียวกัน
ราคาของ Apple Music แบบคนเดียวอยู่ที่ 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน เท่ากับ Spotify และคู่แข่งรายอื่นในตลาด แต่ราคาแบบกลุ่มของ Spotify นั้นแพงกว่ามากคือ 14.99 ดอลลาร์ต่อ 2 คน และ 29.99 ดอลลาร์ต่อ 5 คน (ราคาเฉพาะในสหรัฐ)
ตัวแทนของ Spotify ให้สัมภาษณ์ว่าบริษัทตั้งราคาแตกต่างกันในแต่ละประเทศ และปัจจุบัน บริการในสวีเดนก็มีสมาชิกแบบกลุ่ม 5 คนที่ราคาประมาณ 20 ดอลลาร์อยู่แล้ว บริษัทจะปรับลดราคาในตลาดอื่นลงมาเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่บอกชัดว่าเมื่อไร
โดนเจิมมาตั้งแต่ช่วงเย็นว่าแอปเปิลจะเปิดตัวบริการสตรีมเพลงของตัวเองในชื่อ Apple Music ในงาน WWDC คืนนี้ และก็เปิดตัวมาตามคาดช่วง One More Thing
Apple Music จะถูกรวมเข้าไปในแอพ Music โดยฟีเจอร์มาตรฐานจะมีตั้งแต่การรองรับสถานีวิทยุสดทั่วโลก 24 ชั่วโมง ร่วมกับเพลงใน iTunes มากกว่า 30 ล้านเพลง สามารถเลือกสตรีมได้ทุกเพลง ทุกอัลบั้ม ทุกลิสต์ หรือแม้แต่จะให้ Apple Music เลือกให้ก็ยังได้ รวมถึงสามารถใช้งานร่วมกับ Siri เพื่อหา หรือเลือกเพลงด้วยภาษาปากก็ยังได้ อย่างหาเพลงเมื่อปี 1994 หรือเพลงอันดับหนึ่งของชาร์ทเมื่อเดือนที่แล้ว เป็นต้น รวมถึงมีมิวสิควิดีโอให้ชมมากกว่าหมื่นวิดีโอ ไม่มีโฆษณาติดมาด้วย
Doug Morris ซีอีโอ Sony Music ให้สัมภาษณ์ในงานเทศกาล Midem Music Industry ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ว่าแอปเปิลจะเปิดตัวบริการ Apple Music บริการสตรีมมิงเพลงในงาน WWDC คืนนี้ แต่ก็ไม่เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม ขณะที่แหล่งข่าวอื่นๆ ก็ได้รายงานว่าบริการนี้จะเปิดตัวในงานเช่นกัน
คาดว่าข้อมูลนี้มาจากเพื่อนสนิทของเขา Jimmy Iovine คนในของแอปเปิลซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจรจาหาความร่วมมือให้บริการสตรีมมิงเพลงนี้ Morris ยังให้ความเห็นว่าการเปิดให้บริการสตรีมมิงเพลงของแอปเปิลในครั้งนี้จะทำให้อุตสาหกรรมเพลงเปลี่ยนแปลงอีกครั้งจากกระแสการดาวน์โหลดไปสู่กระแสการสตรีมมิง