Taylor Swift ประกาศตัวในโพสต์บน Instagram ว่าเธอสนับสนุนรองประธานาธิบดี Kamala Harris ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐช่วงเดือนพฤศจิกายน 2024
การที่ดาราหรือคนดังประกาศสนับสนุนผู้สมัครคนใดไม่ใช่เรื่องแปลกของสหรัฐอเมริกา แต่กรณีของ Taylor นั้นเธออ้างถึงปัญหาภาพปลอมที่สร้างด้วย AI นำรูปเธอไปสนับสนุน Donald Trump โดยตัวของ Trump เองถึงขั้นโพสต์ภาพปลอมของเธอและชาว Swifties บนบัญชี @RealDonaldTrump บนเครือข่าย Truth Social ของเขาในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
Spotify ประกาศสถิติใหม่หลังจากศิลปิน Taylor Swift นำอัลบั้มใหม่ล่าสุด "The Tortured Poets Department" (Poets) ลงสตรีมบนแพลตฟอร์ม โดยเป็นอัลบั้มแรกที่ถูกสตรีมมากถึง 200 ล้านครั้ง ภายในวันเดียว
ต่อมา Spotify ก็สรุปสถิติใหม่อีกครั้งว่า Poets ถูกสตรีมรวมทั้งหมดภายในหนึ่งวันมากกว่า 300 ล้านครั้ง
นอกจากอัลบั้มจะสร้างสถิติใหม่แล้ว "Fortnight" ซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้ม Poets นี้ ก็ทำสถิติเป็นเพลงที่ถูกสตรีมมากที่สุดภายในวันเดียว โดยสถิติเก่าเป็นของ "Easy on Me" จาก Adele ในปี 2021
ที่มา: Variety
เพลงของ Taylor Swift กลับมาปรากฏในตัวเลือกแคตตาล็อกคลังเพลงของ TikTok สำหรับผู้ใช้งานใส่ลงในคลิปวิดีโออีกครั้ง ซึ่งรวมทั้งเพลงในอัลบั้มก่อนหน้าเช่น "You Belong With Me", "Cardigan", "Lover", "Fearless (Taylor’s Version)", "Cruel Summer", "Style (Taylor’s Version)" ฯลฯ จากก่อนหน้านี้เพลงทั้งหมดถูกถอดออกจากแพลตฟอร์ม หลัง Universal Music Group (UMG) ประกาศนำเพลงทั้งหมดที่ดูแลลิขสิทธิ์ออกจาก TikTok เนื่องจากไม่สามารถทำข้อตกลงผลประโยชน์ใหม่ได้ ซึ่งรวมทั้งเพลงของ Taylor Swift ด้วย
Disney+ เปิดเผยสถิติการรับชมภาพยนตร์บันทึกการแสดงคอนเสิร์ต Taylor Swift: The Eras Tour (Taylor’s Version) โดยมีจำนวนการรับชม 4.6 ล้านครั้ง ใน 3 วันแรกที่ลงแพลตฟอร์ม ทำให้เป็นภาพยนตร์ดนตรีที่มีการรับชมสูงสุดที่เคยมีมา
ทั้งนี้จำนวนวิวที่ Disney+ คำนวณ ใช้จำนวนชั่วโมงที่ถูกสตรีมทั้งหมด หารด้วยความยาวของคอนเทนต์ ซึ่งกรณีคอนเสิร์ต Taylor Swift: The Eras Tour นี้ มีความยาว 3 ชั่วโมง 30 นาที
Taylor Swift: The Eras Tour (Taylor’s Version) เป็นบันทึกการแสดงคอนเสิร์ตจาก 3 รอบแรกที่แสดงในลอสแอนเจลิส เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว มีตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการว่าดิสนีย์จ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์สำหรับเผยแพร่บันทึกการแสดงคอนเสิร์ตนี้ทั่วโลก ด้วยมูลค่า 75 ล้านดอลลาร์
มีประเด็นเล็ก ๆ จากการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล Super Bowl ล่าสุด โดย Jack Dorsey อดีตผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอ Twitter ซึ่งไม่ปรากฏตัวในสื่อมานานมากแล้ว ได้เข้าร่วมชมการแข่งขันครั้งนี้ในสนามด้วย โดยนั่งอยู่ในบริเวณเดียวกับ Beyonce และ Jay-Z พร้อมกับใส่เสื้อยืดที่สกรีนคำว่า Satoshi ที่น่าจะหมายถึง Satoshi Nakamoto ผู้สร้างบิตคอยน์ที่ยังคงเป็นบุคคลปริศนาถึงตอนนี้
เหตุผลที่เขาไปนั่งอยู่ตรงนั้นเป็นเพราะ Block บริษัทการเงินที่เขาเป็นซีอีโออยู่ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ Tidal แพลตฟอร์มฟังเพลงสตรีมมิ่ง (ตอนนั้นยังเป็น Square) ที่ก่อตั้งโดย Jay-Z นั่นเอง
ก่อนหน้านี้ X ได้บล็อกผลการค้นหาข้อความที่มีคีย์เวิร์ด "Taylor Swift" ศิลปินชื่อดัง หลังจากมีคอนเทนต์ภาพไม่เหมาะสมซึ่งสร้างด้วย AI จำนวนมากปรากฎอยู่ในโซเชียลมีเดียดังกล่าว ล่าสุด X ได้ยกเลิกการบล็อกผลการค้นหานี้แล้ว
แถลงการณ์ของ X บอกว่า การค้นหาได้กลับมาเปิดให้ใช้งานอีกครั้ง และเรายังคงระมัดระวังตรวจสอบความพยายามเผยแพร่เนื้อหาประเภทนี้ และจะลบออกเมื่อพบ
ประเด็นดังกล่าวถูกหารือไปถึงระดับสมาชิกสภาคองเกรส ในเรื่องการกำกับดูแล AI สร้างรูปภาพ เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ขณะที่สมาคมนักแสดง SAG-AFTRA ก็แถลงว่าเหตุการณ์จากคอนเทนต์ AI นี้ น่าผิดหวัง เป็นอันตราย และสร้างความกังวลมาก จึงเรียกร้องให้มีการควบคุมเทคโนโลยีนี้มากขึ้นก่อนจะสายเกินไป
X หรือ Twitter เดิม ได้บล็อกการค้นหาโพสต์จากคีย์เวิร์ด Taylor Swift ศิลปินชื่อดังชั่วคราว หลังจากมีรายงานปัญหาภาพปลอมสร้างด้วย AI ที่ไม่เหมาะสม ถูกโพสต์ลง X จำนวนมาก โดยหากเสิร์ชคำว่า "Taylor Swift" หรือ "Taylor Swift AI" จะได้ผลลัพธ์ว่ายังโหลดโพสต์ไม่ได้ในขณะนี้
ก่อนหน้านี้ X ได้ชี้แจงปัญหาจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยย้ำว่าการโพสต์ภาพเปลือยที่ไม่ได้รับการยินยอมเป็นการละเมิดเงื่อนไขของแพลตฟอร์ม ซึ่งทีมได้ทำการลบและระงับบัญชีที่เกี่ยวข้อง ตอนนี้ก็ยังคงตรวจสอบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้ซ้ำอีก
แอปเปิลประกาศให้ Taylor Swift เป็นศิลปินแห่งปี 2023 ของ Apple Music โดยให้เหตุผลว่าตลอดปีที่ผ่านมา Swift แสดงให้เห็นถึงพลังของซูเปอร์สตาร์ ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่ติดอันดับชาร์ต, ยอดการสตรีมเพลงที่ทำสถิติ ตลอดจนคอนเสิร์ตที่ประสบความสำเร็จสูง
สถิติน่าสนใจของเพลง Taylor Swift ตลอดปี 2023 เฉพาะอัลบั้มที่เป็น Taylor's Version บน Apple Music มีหลายอย่างเช่น เซตลิสต์ Taylor Swift’s Eras Tour เป็นเซตลิสต์ที่ถูกฟังมากที่สุดในปีนี้, หลายเพลงที่บันทึกเสียงใหม่เป็น Taylor's Version ขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ต เช่น Bad Blood, Blank Space, Style, Shake It Off ฯลฯ, อัลบั้ม Midnights เป็นอัลบั้มของศิลปินหญิงที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ทั้งยอดสตรีมวันแรกและสัปดาห์แรก
Megan Mansfield และ Darryl Seligman นักวิจัยด้านฟิสิกส์สองคนจากมหาวิทยาลัยชิคาโก เผยแพร่ร่างรายงานวิจัยวิเคราะห์อารมณ์ของนักร้องสาว Taylor Swift จากเพลงที่เธอแต่งในแต่ละช่วงเวลา
เป็นที่รู้กันดีในหมู่แฟนเพลงว่า ชีวิตรักของ Taylor Swift มีสีสันมากมาย และเธอก็นำมุมมองต่างๆ ทั้งดีและแย่มาใส่ในเพลงของเธอ ทีมผู้วิจัยจึงสนใจวิเคราะห์รูปแบบของเพลงที่เธอแต่งมาตลอด 14 ปีของอาชีพนักร้อง ว่าแต่ละอัลบั้มสะท้อนอารมณ์ของเธออย่างไรบ้าง
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าตัวแทนของศิลปินสาว Taylor Swift ได้แจ้งกับผู้ให้บริการสตรีมมิ่งรายต่างๆ ในเบื้องต้นว่าจะไม่นำอัลบั้มใหม่ Reputation ให้ฟังผ่านบริการสตรีมมิ่งทั้งหลาย อย่างน้อยในช่วงสัปดาห์แรกที่อัลบั้มวางจำหน่าย ซึ่งกำหนดอยู่วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ (รวมทั้งช่องทางดาวน์โหลดอย่าง iTunes)
เพลงใหม่ของ Taylor Swift ในซิงเกิลที่มีชื่อว่า Look What You Made Me Do เปิดให้ฟังพร้อมกันทั่วโลกเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ปล่อยเพลงในทุกแพลตฟอร์ม และยังทำลายสถิติยอดฟังเพลงสูงสุดบน Spotify ด้วย โดยเฉพาะวันแรกที่ปล่อยซิงเกิล มียอดฟังแล้วกว่า 8 ล้านครั้ง
Taylor Swift ศิลปินสาวชื่อดังประกาศนำเพลงลง Spotify รวมถึงบริการสตรีมมิ่งอื่น ๆ อย่าง Amazon Music, Tidal อีกครั้ง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองยอดขายอัลบั้ม 1989 ครบ 10 ล้านชุดทั่วโลก
Swift เคยมีปัญหากับ Spotify เนื่องจากเป็นบริการที่ไม่ยอมแยกไลบรารีเพลงสำหรับผู้ใช้ฟรีและผู้ใช้เสียเงิน จึงทำให้เธอนำเพลงทั้งหมดออกจากบริการ (แม้ภายหลัง Spotify จะยอมแล้วก็ตาม) โดยเธอเคยให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ว่าเพลงไม่ควรจะเป็นของฟรี การละเมิดลิขสิทธิ์, การแชร์ไฟล์ และการสตรีมมิ่งทำให้ยอดขายอัลบั้มลดลงอย่างรุนแรง
ศิลปินดัง Taylor Swift ได้โพสต์วิดีโอโฆษณาตัวใหม่ความยาว 60 วินาที บน Twitter และ Instagram ของตน ซึ่งเป็นโฆษณา Apple Music ที่เจ้าตัวแสดงนำเอง เนื้อหาเป็นการนำเสนอระบบเพลย์ลิสท์ตามเหตุการณ์ ซึ่งในที่นี้คือการฟังเพลงขณะวิ่งออกกำลังกาย
ที่เรื่องนี้น่าสนใจ เพราะก่อนหน้านี้ Taylor Swift เป็นศิลปินแกนนำที่ออกมาประท้วง Apple Music ที่ไม่ยอมจ่ายลิขสิทธิ์ให้ศิลปินในช่วงทดลองฟังฟรี 3 เดือนแรก จนทำให้แอปเปิลต้องยอมจ่ายเงินในช่วงดังกล่าว และ Taylor Swift ก็ยอมนำเพลงในอัลบั้มล่าสุดลง Apple Music ด้วยเช่นกัน การที่เธอมาโฆษณาให้ Apple Music เองนี้ ก็น่าจะบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง Swift และแอปเปิลในตอนนี้นั่นเอง
นักร้องสาว Taylor Swift ยอมนำอัลบั้มล่าสุด 1989 ขึ้น Apple Music แล้ว หลังจากมีการประกาศจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงให้กับศิลปินและค่ายเพลงในช่วงทดลองใช้งาน
Taylor Swift โพสต์ลงบนทวิตเตอร์ของเธอว่า การกระทำของแอปเปิลเป็นที่ถูกต้อง จึงเต็มใจนำอัลบั้ม 1989 มาลงบริการ Apple Music โดยเธอไม่รับข้อตกลงพิเศษแต่อย่างใด และสุดท้ายเธอยังขอบคุณแอปเปิลที่ยอมเปลี่ยนใจในเรื่องนี้
The New York Times ระบุว่าแอปเปิลจะจ่ายเงินให้กับเจ้าของเพลงที่ 0.002 เหรียญต่อการสตรีมหนึ่งครั้ง ส่วนต้นสังกัดจะได้รับ 0.00047 เหรียญต่อการสตรีมหนึ่งครั้ง
ก่อนหน้านี้ Taylor Swift ได้ออกมากล่าวถึงเรื่อง Apple Music ไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงช่วงทดลองใช้ ว่าส่งผลต่อศิลปินอย่างไรจนเกิดการวิจารณ์ในวงกว้าง ล่าสุด Eddy Cue ผู้บริหารของ Apple ได้ออกมาทวีตถึงเรื่องนี้แล้ว
Eddy Cue ได้ทวีตลงบัญชี @cue กล่าวถึงเรื่องนี้ 3 ทวีตด้วยกัน โดยเนื้อความหลักๆ คือ Cue บอกว่าศิลปินต้องได้รับเงินค่าตอบแทน โดยบริษัทจะจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงที่สตรีมผ่าน Apple Music แม้ว่าจะอยู่ในช่วงการทดลองใช้ก็ตาม โดยในทวีตสุดท้ายได้เมนชั่นถึง Taylor Swift (@taylorswift13) ว่าเราได้รับฟังเสียงจากเธอและศิลปินอิสระแล้ว
นักร้องสาว Taylor Swift ออกมาเขียนบล็อกอธิบายเหตุผลที่เธอตัดสินใจถอนอัลบั้ม 1989 ออกจาก Apple Music โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะบริการทดลองฟังฟรี 3 เดือนของแอปเปิลนั้นไม่ยอมจ่ายค่าตอบแทนใดๆ ให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์เลย
Taylor บอกว่าตัวเธอเองไม่มีปัญหาเรื่องรายได้ เพราะลำพังแค่การเล่นคอนเสิร์ตก็เลี้ยงทีมงานทั้งหมดได้แล้ว แต่เธอต้องการแสดงจุดยืนว่าสนับสนุนคนทำงานด้านดนตรีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตัวศิลปินเอง นักประพันธ์เพลง โปรดิวเซอร์ และคนทำงานในตำแหน่งอื่นๆ