Strategy Analytics บริษัทวิเคราะห์ตลาดเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ยอดขายของ Apple Watch ตลอดปี 2019 ที่ผ่านมาอยู่ที่ราว 30.7 ล้านเรือน เพิ่มขึ้นจากปี 2018 ถึง 36% ที่น่าสนใจคือยอดขายของ Apple Watch แบรนด์เดียวสูงกว่านาฬิกา Swiss-Made ทุกแบรนด์รวมกันที่คาดว่าจะอยู่ที่ราว ๆ 21.1 ล้านเรือน เติบโตลดลง 13%
Strategy Analytics ระบุว่านาฬิกาแอนาล็อกส่วนใหญ่ยังคงรับความนิยมในหมู่ผู้สูงอายุมากกว่า ขณะที่คนรุ่นใหม่มักเลือกซื้อสมาร์ทวอทช์ จากทั้งดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งาน และทำให้กลุ่มผู้ผลิตนาฬิกา Swiss-Made อย่าง Tissot หรือ TAG Heuer อาจพ่ายแพ้ในสงครามนี้ในระยะยาว
มีรายงานข่าวลือเกี่ยวกับสินค้าใหม่ของแอปเปิลที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาชุดใหญ่หลายตัว เลยรวบรวมมาไว้เป็นข่าวเดียวเลย รายละเอียดดังนี้ครับ
ในแผนงานระบุว่า แอปเปิลจะเริ่มติดต่อนักพัฒนาภายนอกเพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์ AR นี้ ในปี 2021 เพื่อให้ทันกำหนดจำหน่ายสินค้าปี 2022 นั่นเอง
บริษัทวิจัยตลาด Strategy Analytics ออกรายงานภาพรวมตลาดสมาร์ทวอทช์ในไตรมาสที่ 3 ปี 2019 จำนวนส่งมอบเพิ่มขึ้นถึง 42% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน เป็น 14.2 ล้านชิ้น ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากความต้องการด้านฟิตเนสและตัววัดสุขภาพ จากฐานผู้ใช้สมาร์ทโฟนเดิม ผลักดันให้ยอดขายสมาร์ทวอทช์เพิ่มขึ้น
ส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ยังเป็นของแอปเปิลต่อไป ที่ 47.9% ตามด้วยซัมซุง 13.4% และ Fitbit ในอันดับ 3 ที่ 11.3%
ในภาพรวมนั้นมีเพียงแอปเปิลและซัมซุงที่ทำส่วนแบ่งยอดขายได้เพิ่มสูงขึ้น ส่วน Fitbit มีส่วนแบ่งที่ลดลง นักวิเคราะห์ของ Strategy Analytics จึงตั้งข้อสงสัยว่าหลังการขายกิจการให้กูเกิลนั้น Fitbit จะมีอนาคตอย่างไรต่อไป ซึ่งจะเห็นผลที่ส่วนแบ่งการตลาดในอนาคตนั่นเอง
แอปเปิลออกอัพเดต watchOS 5.3.2 ให้กับผู้ใช้ Apple Watch Series 4 วันนี้ โดยอัพเดตนี้มีผลเฉพาะกับผู้ที่ใช้ Apple Watch Series 4 และทำงานคู่กับ iPhone รุ่นเก่าที่อัพเดตเป็น iOS 13 ไม่ได้ (iPhone 5s, iPhone 6) ทำให้ไม่สามารถอัพเดตเป็น watchOS 6 ได้
ก่อนหน้านี้แอปเปิลออกอัพเดต watchOS 5.3.2 ให้เฉพาะกับ Apple Wacth รุ่นเก่าที่อัพเดตเป็น watchOS 6 ไม่ได้
ทั้งนี้ watchOS 5.3.2 เป็นการอัพเดตโดยปรับปรุงด้านความปลอดภัย
ที่มา: 9to5Mac
แม้จะมีข่าวลือมาก่อนหน้านี้ แต่แอปก็ยังไม่มีออกมาจริง ๆ ล่าสุดก็มีผู้พบ ซึ่งอาจยืนยันว่าแอปเปิลน่าจะเตรียมออกแอปสำหรับตรวจจับการนอนหลับใน Apple Watch แล้ว ในชื่อแอปว่า Sleep
โดยในหน้า App Store ของแอป Alarms บน Apple Watch แอปเปิลได้แสดงภาพหน้าจอของแอป ซึ่งระบุข้อความว่า "ตั้งเวลานอนและตื่นในแอป Sleep" เท่ากับเป็นการพูดถึงแอปที่ชื่อ Sleep ซึ่งยังไม่มีออกมานั่นเอง ทั้งนี้แอปเปิลได้แก้ไขภาพหน้าจอแอปโดยลบข้อความดังกล่าวออกไปแล้ว
ทั้งนี้ยังไม่ชัดเจนว่าแอป Sleep จะมีออกมาเมื่อใด เนื่องจากในเวอร์ชันเบต้าสำหรับทดสอบของ watchOS ล่าสุด ก็ยังไม่มีแอป Sleep แต่อย่างใด
หลังเปิดตัวไปเมื่อ 10 กันยายนที่ผ่านมา ตอนนี้ Apple Watch Series 5 ก็ได้วันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้วในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ โดยแบ่งเป็นสองรุ่นคือ GPS กับ GPS+Cellular เช่นเดิม
สำหรับ Apple Watch Series 5 (รุ่น GPS) ราคาเริ่มต้นที่ 13,400 บาท และ Apple Watch Series 5 (รุ่น GPS + Cellular) เริ่มต้นที่ 16,900 บาท ด้วยกัน โดยคาดว่านี่จะเป็นราคาของรุ่นหน้าปัด 40 มิลลิเมตร ที่ทางเว็บไซต์ iFixit ได้แกะดูภายในไปก่อนหน้านี้ และราคาของ Series 5 เมื่อเทียบราคากับ Series 4 ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วจะถูกลง 1,000 บาททั้งรุ่น GPS และ GPS+Cellular
จาก iOS 13.1.2 วันนี้แอปเปิลก็ได้ออกอัพเดตย่อย ของระบบปฏิบัติการสำหรับ Apple Watch คือ WatchOS 6.0.1 ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นอัพเดตแรกนับตั้งแต่ watchOS 6 ออกมาเมื่อวันที่ 20 กันยายน
การอัพเดตสามารถทำได้โดยไปที่แอป Apple Watch ใน iPhone หรือหากอัพเดตเป็น watchOS 6 แล้ว ก็ทำได้ที่ Settings ใน Apple Watch โดยตรงก็ได้
รายการแก้ไขปรับปรุงในอัพเดตนี้ ได้แก่ แก้ไขปัญหาหน้าปัดมิกกี้เม้าส์-มินนี่เม้าส์ ไม่ขานเวลา, แก้ปัญหาปฏิทินอาจไม่แสดงกิจกรรม, แก้บั๊กที่กระทบการทำงานของหน้าจอแสดงผล
ที่ผ่านมา แบตเตอรีลิเธียมไอออนของ Apple Watch จะถูกบรรจุเอาไว้ในถุงฟอยล์เหล็กสีดำมาตลอด แต่หลังจากเว็บนักแกะซ่อมชื่อดังอย่าง iFixit จัดการเปิดฝา Apple Watch Series 5 ขนาด 40mm. ก็พบว่าแบตเตอรีถูกประกอบเอาไว้ในกล่องเหล็กแทน (แต่ไม่ทราบว่าเป็นโลหะชนิดไหน) ทำให้ประหยัดพื้นที่และปริมาณแบตเตอรีเยอะกว่าเดิม 10% อีกด้วย
ทาง iFixit ออกความเห็นว่าถ้าทำแบบนี้ ต่อไปใน Apple Watch รุ่นใหม่อาจจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามา และตอนซ่อมเครื่อง ช่างก็จะทำได้ง่ายขึ้นเพราะไม่ต้องห่วงว่าจะพลาดทำไขควงหรือเหล็กแหลมที่นำมางัดแทงโดนแบตเตอรีเสียหายอีกด้วย แต่รุ่น 44mm. ยังเป็นถุงฟอยล์เหล็กสีดำเหมือนเดิม
ต่อเนื่องจาก iOS 13 แอปเปิลก็ได้ออกอัพเดตใหญ่ watchOS 6 ระบบปฏิบัติการบน Apple Watch มาด้วยเช่นกัน โดยผู้ใช้งานสามารถอัพเดตผ่าน iPhone ที่อัพเดตเป็น iOS 13 แล้วได้ในแอป Apple Watch โดยไปที่ General > Software Update โดยต้องจัดเตรียม Apple Watch ให้มีแบตเตอรี่อย่างน้อย 50%, ชาร์จไฟอยู่ และอยู่ใกล้กับ iPhone ตลอดการอัพเดต
ทั้งนี้ watchOS 6 อัพเดตถัดไป จะสามารถอัพเดตได้โดยตรงผ่าน OTA ไม่ต้องทำผ่านแอป
ของใหม่ที่น่าสนใจบน watchOS 6 มีหลายอย่าง อาทิ App Store แยกเฉพาะบน watchOS, เพิ่ม API สำหรับสตรีมรายการเสียง, เพิ่มแอปบันทึกเสียง, เครื่องคิดเลข และแอปเตือนรอบเดือนสำหรับสุภาพสตรี
นอกจากจะเปิดตัว iPhone 11 ในงาน Keynote ครั้งล่าสุดแล้ว Apple Watch Series 5 ก็ได้รับฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพิ่มเข้าไปใกล้เคียงกับนาฬิกาที่เราคุ้นเคยมากยิ่งขึ้น แต่จากการทดสอบของสื่อต่างประเทศหลายเจ้าแล้ว Apple Watch Series 5 ก็ยังมีเรื่องให้เปรียบกับรุ่นก่อน ๆ อยู่หลายส่วนเช่นกัน
จุดเด่นอย่างแรกคงหนีไม่พ้นฟีเจอร์ Always-On เพราะรุ่นที่ผ่าน ๆ มาตอนจะดูเวลาต้องพลิกข้อมือขึ้นมาตลอด แต่ Series 5 นั้นแค่เหลือบตาดูก็ได้ ช่วยให้เหมือนใช้นาฬิกาจริง ๆ อยู่ แม้จะดูเล็กน้อยแต่ก็สะดวกขึ้นมาก ที่สำคัญคือใช้พลังงานไม่เยอะมากอีกด้วย
นอกจากราคา iPhone 8 และ iPhone XR ที่ปรับลดลงมาแล้ว แอปเปิลก็ได้ปรับลดราคา Apple Watch Series 3 ลงมาด้วยเช่นกัน หลังการเปิดตัว Apple Watch Series 5 ส่วน Series 4 ได้ยุติการขายไปในร้านออนไลน์
ราคาขายใหม่ของ Apple Watch Series 3 นั้นน่าสนใจทีเดียว โดยเริ่มต้นที่ 6,400 บาท สำหรับรุ่น GPS จากเดิม 9,900 บาท และ 9,900 บาท สำหรับรุ่น GPS+Cellular จากราคาเดิม 13,400 บาท
Apple Watch Series 3 เปิดตัวในปี 2017 คุณสมบัติเด่นตอนนั้นคือการรองรับ e-sim เชื่อมต่อผ่านเครือข่ายมือถือได้
เมื่อคืนนี้แอปเปิ้ลได้เปิดตัว Apple Watch Series 5 พร้อมกันนั้นได้มีการเปิด Research App ตัวใหม่ ให้ผู้ใช้งานในสหรัฐฯ สามารถเข้าร่วมได้ง่ายมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ผู้ใช้งาน Apple Watch ที่ต้องการเข้าร่วมงานวิจัยต้องไปดาวโหลด App ของแต่ละงานวิจัยมาใช้เอง เช่น Apple Heart Study ที่ทำร่วมกับ Stanford แต่ด้วย App ใหม่ตัวนี้ผู้ใช้สามารถกำหนดได้ในที่เดียวว่าต้องการเข้าให้ข้อมูลกับงานวิจัยใดๆ บ้าง
แอปเปิลเปิดตัว Apple Watch รุ่นใหม่ Apple Watch Series 5 ซึ่งมีขนาดหน้าจอและรูปร่างคล้ายกับ Apple Watch Series 4 แต่ฟีเจอร์ที่โดดเด่นมาก คือหน้าจอที่แสดงผลตลอดเวลา (Always-On) ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องพลิกข้อมือขึ้นมาเพื่อดูหน้าจอทุกครั้ง แต่สามารถชำเลืองมองดูได้เหมือนนาฬิกาทั่วไป
เทคโนโลยีที่แอปเปิลบอกว่าอยู่เบื้องหลังการทำงานแบบ Always-On นี้เรียกว่า LTPO ซึ่งใช้พลังงานต่ำกว่าในการแสดงผลหน้าจอเวลาไม่ได้พลิกข้อมือขึ้นมาดู
มีรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวภายในว่า แอปเปิลได้พัฒนาฟีเจอร์ตรวจจับการนอนหลับสำหรับ Apple Watch มาระยะหนึ่ง มีโค้ดเนมภายในว่า Burrito และน่าจะเปิดตัวฟีเจอร์นี้ได้ในงานเปิดตัว iPhone สัปดาห์หน้า ซึ่งในงานนี้คาดว่าแอปเปิลจะเปิดตัว Apple Watch รุ่นอัพเกรดสเป็กด้วยเช่นกัน
ฟีเจอร์นี้จะมีชื่อเรียกว่า Time in Bed tracking โดยต้องใส่ Apple Watch ไว้ขณะนอนหลับ ซึ่งหากมีผู้ใช้มี Apple Watch หลายเรือน ก็สามารถเลือกกำหนดได้ว่าเรือนไหนจะใช้ตรวจสอบการนอนหลับ
สหรัฐได้เริ่มขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในหมวดสินค้าต่าง ๆ แล้ว เพิ่มขึ้น 15% โดยมีผลตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา มูลค่าสินค้าที่ได้รับผลกระทบอยู่ที่ 112,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนเองก็ได้ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐเช่นกันมูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์
สินค้านำเข้าจากจีนที่ได้รับผลกระทบนั้นนอกจากเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ยังมีรายการสินค้าด้านเทคโนโลยี อาทิ สมาร์ทวอทช์, ลำโพงอัจฉริยะ ไปจนถึงหูฟัง ทำให้สินค้าแอปเปิลหลายรายการอย่าง Apple Watch, HomePod และ AirPods ที่ขายในสหรัฐได้รับผลกระทบ ส่วนรายการสินค้าที่จะขึ้นภาษีนำเข้ารอบถัดไปในวันที่ 15 ธันวาคม จะมีแล็ปท็อปและสมาร์ทโฟน รวมอยู่ด้วย
Steve Wozniak หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิล ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Bloomberg Television เขาบอกว่าในบรรดาอุปกรณ์เทคโนโลยีตอนนี้ เขาชอบใช้ Apple Watch ที่สุดแล้ว เพราะมันช่วยให้เขาไม่เสพติดการใช้โทรศัพท์มากจนเกินไป
เขาบอกว่า ปกติจะตามข่าวสารและทำงานบนเครื่อง Mac และจะใช้ Apple Watch ตอนอยู่ข้างนอก นั่นทำให้เขาไม่ต้องใช้งานโทรศัพท์มากก็ได้
แอปเปิลประกาศโปรแกรมรับเปลี่ยนหน้าจอ Apple Watch Series 2 และ Series 3 ให้ฟรี จากปัญหาหน้าจอร้าว
อย่างไรไม่ใช่ว่าใครจอร้าวจะไปขอเปลี่ยนได้ เพราะแอปเปิลชี้แจงลักษณะปัญหานี้ว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นได้ยากมาก (very rare) โดยรอยร้าวจะเกิดเป็นเส้นตามแนวขอบหน้าจอ พบในรุ่นกรอบอลูมิเนียมเฉพาะใน Series 2 และ 3 การร้าวจะเริ่มที่ด้านหนึ่งแล้วค่อย ๆ ขยายเป็นแนวยาวรอบเครื่อง (ดูรูประกอบ)
หากลูกค้าพบอาการหน้าจอร้าวในแบบดังกล่าว สามารถขอเปลี่ยนหน้าจอใหม่ที่ศูนย์ AASP หรือ Apple Store ได้ฟรี
ที่มา: แอปเปิล
Mark Gurman แห่งสำนักข่าว Bloomberg ซึ่งเป็นหนึ่งในนักข่าวที่รายงานข้อมูลสินค้าใหม่ของแอปเปิลมาโดยตลอด คราวนี้เขารายงานข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าใหม่ของแอปเปิลที่มีแผนจะออกมาในอนาคตจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ iPhone ที่เตรียมออกมา 3 รุ่น ในเดือนกันยายนนี้ ไปจนถึง iPad และ Apple Watch รายละเอียดมีดังนี้
เว็บไซต์ iHelpBR ค้นพบไฟล์ภาพใน watchOS 6 เบต้าตัวล่าสุด ซึ่งเปิดเผยข้อมูลว่า Apple Watch Series 5 รุ่นใหม่ จะมีรุ่นที่ทำจากวัสดุตัวใหม่เพิ่มเข้ามาด้วย
โดยไฟล์ที่พบเป็นไฟล์ภาพที่จะแสดงตอนเซตอัพ Apple Watch ใหม่ ระบุข้อมูลว่าเป็น Apple Watch 44 มม. กรอบทำจากไทเทเนียม อีกภาพระบุว่าเป็น Apple Watch 44 มม. กรอบทำจากเซรามิก
ทั้งนี้ Apple Watch เริ่มมีตัวเลือกรุ่นเซรามิก ตั้งแต่ Series 2 ในตระกูล Edition แต่ก็ยกเลิกจำหน่ายไปใน Series 4 โดยมีจำหน่ายเฉพาะวัสดุอะลูมิเนียม กับสแตนเลสสตีล นอกจากนี้ก็ไม่ชัดเจนเช่นกันว่าไทเทเนียม จะมาแทนที่วัสดุใดหรืออาจเพิ่มเป็นตัวเลือกใหม่ไปเลย
ตามปกติแอปเปิลจะเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในเดือนกันยายนของทุกปี ซึ่งก็ใกล้เข้ามาแล้ว แต่มีอีกผลิตภัณฑ์ที่คาดว่าจะเปิดตัวในงานเดือนกันยายนด้วยเช่นกันแต่ไม่ค่อยมีข่าวออกมาให้เห็นมากนัก นั่นคือ Apple Watch Series 5
Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ที่มีประวัติทำนายสินค้าแอปเปิลรุ่นใหม่ได้แม่นยำที่สุด ออกรายงานล่าสุดว่าด้วย Apple Watch Series 5 โดยบอกว่า Apple Watch รุ่นใหม่นี้มีกำหนดเปิดตัวในงานเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ที่มีแผนจะออกมาทั้ง 3 รุ่น
ประเด็นสำคัญในรายงานบอกว่า Apple Watch รุ่นนี้ จะเริ่มใช้ชิ้นส่วนหน้าจอ OLED จาก Japan Display (JDI) เป็นครั้งแรก โดยจะนำมาใช้ช่วงแรกราว 20% ของการผลิตทั้งหมดแล้วทยอยเพิ่มจำนวนมากขึ้น
เว็บ Above Avalon ซึ่งเน้นวิเคราะห์แอปเปิลในมุมมองธุรกิจ ออกรายงานเกี่ยวกับกลุ่มธุรกิจอุปกรณ์สวมใส่ (Wearables) ของแอปเปิล ซึ่งประกอบด้วย Apple Watch ที่เป็นสินค้าทำเงินหลัก ตลอดจนหูฟัง AirPods และ Beats โดยเมื่อพิจารณาจากผลประกอบการไตรมาสล่าสุด มีประเด็นน่าสนใจดังนี้
บริษัทวิจัยตลาด Strategy Analytics ออกรายงานภาพรวมตลาดสมาร์ทวอทช์ประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2019 โดยยอดส่งมอบรวมเติบโต 44% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เป็นมากกว่า 12 ล้านเรือน
แอปเปิลยังครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด มีจำนวนส่งมอบ 5.7 ล้านเครื่อง คิดเป็น 46.4% หรือเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งตลาด
ส่วนอันดับ 2 คือ ซัมซุง 2.0 ล้านเรือน 15.9% ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองว่า Galaxy Watch Active 2 ที่เพิ่งออกมา จะช่วยให้ซัมซุงครองส่วนแบ่งได้ดีตลอดถึงสิ้นปี และอันดับ 3 คือ Fitbit 1.2 ล้านเรือน คิดเป็น 9.8% ตกจากอันดับ 2 เมื่อปีก่อน ปัจจัยสำคัญคือสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ Versa Lite ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีตามที่บริษัทคาดหวัง
ย้อนอดีตไปเมื่อตอนแอปเปิลเปิดตัว Apple Watch รุ่นแรก ซึ่งมีคอลเล็คชั่นราคาแพงสุดคือ Apple Watch Edition เป็นรุ่นที่ตัวเรือนทำจากทองคำ 18 กะรัต ราคาขายในไทยเริ่มต้นเกือบ 400,000 บาท (ข้อมูล MacThai) แต่ความพยายามสร้าง Apple Watch เป็นสินค้าหรูระดับบนดูไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเมื่อแอปเปิลเปิดตัว Apple Watch Series 2 ก็ยกเลิกการขายรุ่นทองคำ 18 กะรัต มีเพียง Edition ที่ใช้วัสดุเซรามิก ที่ต่อมาก็รุ่นเซรามิก Edition นี้ก็ยกเลิกไปทั้งหมดตั้งแต่ Series 4 ในปีที่แล้ว
แอปเปิลได้ปิดการทำงานของแอป Walkie Talkie บน Apple Watch เป็นการชั่วคราว โดยแอปเปิลให้เหตุผลว่าพบช่องโหว่ ซึ่งอาจทำให้บุคคลอื่นสามารถดักฟังข้อความเสียงที่ส่งหากันได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตก่อน ซึ่งแอปเปิลจะกลับมาเปิด Walkie Talkie ให้ใช้งานได้อีกครั้ง เมื่อแก้ไขปัญหานี้สมบูรณ์
แอป Walkie Talkie มีไว้สำหรับส่งข้อความเสียงสั้น ๆ หากันระหว่างผู้ใช้ Apple Watch เริ่มมีตั้งแต่ watchOS 5 และเป็นแอปพื้นฐานที่อยู่บน watchOS ฉะนั้นตัวแอปจะยังคงอยู่ เพียงแต่ไม่สามารถใช้งานได้
มีประเด็นน่าสนใจหลายอย่างหลังการประกาศลาออกของ Jonathan Ive หัวหน้าฝ่ายออกแบบของแอปเปิล โดยรายงานของ Mark Gurman แห่งสำนักข่าว Bloomberg บอกว่า การลาออกของ Ive นั้น ไม่ได้เกิดขึ้นกะทันหัน แต่มีการวางแผนเพื่อรองรับเรื่องนี้กันนานหลายปีแล้ว
บทบาทของ Ive ในแอปเปิลนั้นเพิ่มสูงมากหลังการเสียชีวิตของสตีฟ จ็อบส์ ผู้ก่อตั้งแอปเปิล เขามีบทบาทชี้นำทิศทาง รูปแบบ ฟังก์ชันของผลิตภัณฑ์แอปเปิลในช่วงเวลานั้น อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ตัวสุดท้ายที่ Ive มีส่วนร่วมในการออกแบบพัฒนาเต็มตัวก็คือ Apple Watch ที่เริ่มจำหน่ายในปี 2015 ซึ่งหลังจากนั้นมา Ive ลดบทบาทงานประจำวัน เข้ามาที่สำนักงานใหญ่แอปเปิลสัปดาห์ละ 2 วัน เท่านั้น