ถ้ายังจำกันได้ ครั้งหนึ่งซัมซุงเคยพยายามทำระบบปฏิบัติการ bada ที่ใช้กับสมาร์ทโฟนตระกูล Wave แต่ไม่ประสบความสำเร็จจนเลิกทำไป (ก่อนจะกลับมาอีกรอบด้วย Tizen)
คำถามคือผู้ที่ซื้อ Wave ไปแล้วจะเป็นอย่างไร คำตอบอาจอยู่ที่โครงการ BadaDroid ซึ่งเป็นการพอร์ต Android มารันบน Samsung Wave
โครงการนี้เคยพอร์ตเคอร์เนลของ Galaxy S รุ่นแรกมาลง Wave S8500 และ Wave 2 S8503 ที่มีฮาร์ดแวร์คล้ายคลึงกัน จากนั้นทางทีมพัฒนาก็สามารถพอร์ต Android 4.x และ 5.x ตามมา ล่าสุดมีนักพัฒนารอมชื่อ fire855 สามารถพอร์ต Android 6.0 Lollipop ลง Wave ได้แล้ว ถึงจะยังมีบั๊กอยู่บ้างแต่ในภาพรวมก็ดูจะทำงานได้ดีครับ
คดีความรอบใหม่ระหว่างแอปเปิลกับซัมซุง ทำให้เราได้เห็นเอกสารภายในของแอปเปิลถูกเปิดเผยออกมาหลายชุด คราวนี้มาดูเอกสารฝั่งของซัมซุงบ้างครับ
เว็บไซต์ AppleInsider รวบรวมเอกสารของซัมซุงที่ถูกแอปเปิลใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาล ช่วยให้เราได้เห็นข้อมูลที่น่าสนใจของซัมซุงในช่วงปี 2011-2012 ว่าคิดและวางแผนอย่างไร
ผู้บริหารของซัมซุงยืนยันกับสำนักข่าว Yonhap ของเกาหลีใต้แล้วว่าระบบปฏิบัติการ Bada จะหมดอายุขัยเมื่อ Tizen เปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้
ที่มา - The Verge
เว็บไซต์ SamMobile เปิดเผยโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ซัมซุงจะไม่ทำมือถือบนแพลตฟอร์ม Bada แล้ว แต่ในครึ่งปีหลังของปีนี้จะมุ่งมือถือบนแพลตฟอร์ม Android และ Windows Phone 8 เป็นหลัก โดยบริษัทจะพยายามวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์มือถือ Android ให้ดีกว่าเดิม และต้องการจะชิงส่วนแบ่งตลาด Windows Phone คืนจากโนเกีย
แหล่งข่าวอีกรายกล่าวว่าซัมซุงเลื่อนแผนปล่อยฮาร์ดแวร์ตัวแรกบนแพลตฟอร์ม Tizen เป็นปีหน้าแทน
ที่มา: SamMobile
ในที่สุดซัมซุงก็พูดถึงอนาคตของระบบปฏิบัติการอีก 2 ตัวที่ตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้อง นั่นคือ bada ที่ทุกคนรู้จักกันดี และ Tizen ที่จับมือกับอินเทล สืบทอดตำนานจาก MeeGo
สำนักข่าว DigiTimes อ้างแหล่งข่าวภายในอีกครั้งว่าผู้ผลิตที่เคยประกาศร่วมกับ MeeGo อย่าง Acer และ Asus นั้นได้ย้ายมาร่วมกับ Tizen ตามอินเทลเรียบร้อยแล้ว โดยทั้งสองบริษัทเคยมีแผนจะวางตลาดอุปกรณ์ MeeGo ในปีนี้ก็หยุดสินค้าเหล่านั้นและเตรียมออกสินค้าอีกครั้งหลัง Tizen ออกตัวจริง
Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวไม่ระบุชื่อให้ข่าวว่าซัมซุงจะเปิดซอร์ส Bada ให้กับนักพัฒนาภายนอกในปี 2012 เพื่อให้มีการใช้งานแพร่หลายขึ้น รวมถึงเตรียมจะนำ Bada บุกตลาดโทรทัศน์อีกด้วย
เหตุผลสนับสนุนแนวทางนี้คือการที่กูเกิลซื้อโมโตโรล่าทำให้กูเกิลเองกลายเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์รายใหญ่ไปในตัว บริษัทผู้นำตลาดอย่างซัมซุงนั้นคงไม่อยากพึ่งพิง Android ไปเรื่อยๆ โดยไม่มีทางเลือกที่สอง การสร้างตลาดให้กับ Bada แม้จะไม่ใช่เครื่องที่ซัมซุงผลิตเองทั้งหมด อย่างน้อยก็ยังทำให้ซัมซุงมีตลาดอีกตลาดเป็นทางเลือก และซัมซุงยังเป็นคนควบคุมการพัฒนา Bada เองอีกด้วย
ผู้ใช้ Samsung Wave คงใจชื้นกันไม่น้อย เมื่อซัมซุงออกมาประกาศผ่าน @samsungbada ว่า Wave ทุกรุ่นจะได้อัพเป็น bada 2.0 ในไตรมาสที่สี่ของปีนี้
ซัมซุงบอกว่าลำดับการอัพเกรดอาจต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยจะเริ่มจากยุโรปก่อน และมือถือแต่ละรุ่นอาจได้ฟีเจอร์ของ bada 2.0 ไม่เท่ากัน ขึ้นกับฮาร์ดแวร์ของแต่ละรุ่นด้วย
ที่มา - @samsungbada, Sammy Hub
ซัมซุงเปิดตัวมือถือตระกูล Wave ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ bada 2.0 สามตัว โดยใช้ วิธีการตั้งชื่อแบบใหม่ แบบเดียวกับ
หลังจากให้ชาว bada รอคอยกันมานาน ซัมซุงก็ออก bada SDK 2.0.0 สำหรับพัฒนาแอพบนระบบปฏิบัติการ bada 2.0 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้
เว็บไซต์ bada World รายงานข่าวจากซัมซุงประเทศฝรั่งเศสว่า ปีนี้ซัมซุงจะออกมือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการ bada 2.0 อีกสองตัว ซึ่งยังไม่มีชื่อรุ่นทั้งคู่
ตัวแรกจะเป็นรุ่นท็อป ใช้จอขนาด 3.65" HVGA, กล้อง 5MP+VGA, รองรับ Bluetooth 3.0 เริ่มขายเดือนกันยายน
ตัวต่อมาจะใช้จอขนาด 3.14" QVGA, กล้อง 3MP, รองรับ Bluetooth 3.0 ออกขายเดือนพฤศจิกายน
ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ bada ได้รับความนิยมมาก โดยมีส่วนแบ่ง 20.1% เป็นอันดับสามรองจาก iOS 20.5% (อันดับหนึ่งคือ Android 31.3%)
ที่มา - bada World
ซัมซุงประเทศอินเดียได้ส่งอีเมลไปยังนักพัฒนา Symbian โดยมีเนื้อหาว่า ถ้าคุณเป็นนักพัฒนาที่ไม่พอใจแนวทางของโนเกียและกำลังมองหาแพลตฟอร์มอื่น เราก็ขอบอกคุณว่า "ยินดีต้อนรับสู่ Bada" พร้อมลิงก์ไปยังเอกสารแนะนำการพัฒนาซอฟต์แวร์บน Bada
ตัวแทนของซัมซุงบอกว่าคำเชิญนี้ส่งออกไปโดยผู้จัดงานสัมมนาด้าน Bada ในอินเดีย โดยทางฝ่ายมือถือของซัมซุงเองไม่ได้มีแผนจะจ้างนักพัฒนาจากโนเกียแต่อย่างใด ภาพประกอบบัตรเชิญสามารถดูได้ตามลิงก์ครับ
ที่มา - Unwiredview, Samsung Hub
หนึ่งปีหลังจาก bada วางตลาดทางซัมซุงก็ได้ประกาศในงานสัมนานักพัฒนาที่ประเทศเกาหลีใต้ว่าปีหน้า bada 2.0 จะเข้าสู่ตลาด โดยมีฟีเจอร์ใหม่ๆ จำนวนมาก นับแต่การทำมัลติทาสก์, รองรับ HTML5, การส่งข้อมูลแบบพุช (Push), NFC, การจดจำเสียง, และการเปลี่ยนเสียงเป็นข้อความ
ซัมซุงคาดว่ายอดขายรวมของโทรศัพท์ที่ใช้ bada จะเกิน 5 ล้านเครื่องในปีนี้ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านเครื่องภายในครึ่งปีหน้า
ไม่มีการยืนยันว่าโทรศัพท์รุ่นเดิมนับแต่ Wave เป็นต้นมาจะได้รับอัพเกรดเป็น bada 2.0 นี้หรือไม่
ที่มา - Samsung Hub
Gregory Lee ซีอีโอของซัมซุงภาคพื้นเอเชีย ให้สัมภาษณ์กับ CNET ถึงสถานการณ์มือถือโลกและทิศทางของซัมซุง
Lee บอกว่าเป้าหมายของซัมซุงต้องการเป็นเบอร์หนึ่งของโลกแซงโนเกีย แม้ว่ายอดขายจะโตขึ้นทุกปี แต่ตอนนี้ก็ยังทำได้ไม่ดีพอ เขาบอกว่าตลาดที่โตเร็วที่สุดในตอนนี้คือสมาร์ทโฟน และซัมซุงจะทุ่มทรัพยากรลงใน Android เพราะได้เสียงตอบรับดีจากบรรดาเครือข่ายที่ช่วยขาย Galaxy S แต่เขาก็ยอมรับว่าการออก Android 2.2 ช้าเป็นข้อจำกัดของบริษัทที่ตามกระบวนการพัฒนาของกูเกิลไม่ทัน
เมื่อซัมซุงประกาศออก Samsung Wave II S8530 ซึ่งเป็นผู้สืบทอดตัวจริงของ Wave ตัวแรก ก็เกิดความสับสนขึ้นทันทีกับ Wave 2 และ Wave 2 Pro ที่เปิดตัวก่อนหลายเดือน
ล่าสุดซัมซุงประกาศเปลี่ยนชื่อมือถือตัวเดิมแล้ว โดย Wave 2 จะถูกเรียกว่า Wave 525 และ Wave 2 Pro รุ่นมีคีย์บอร์ดจะเปลี่ยนเป็น Wave 533 ทั้งสองตัวมีขายในรัสเซียแล้ว และจะทำตลาดประเทศกำลังพัฒนาอื่นในเร็ววัน ไม่รองรับ 3G ทั้งคู่ครับ
ซัมซุงออกมือถือระบบปฏิบัติการ bada ตัวที่ห้า มันคือ Wave II S8530 ซึ่งเป็นผู้สืบทอดอย่างเป็นทางการของ Wave S8500 ตัวแรก
ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าทำไมซัมซุงถึงเลือกชื่อ Wave II ซึ่งอาจสับสนกับ Wave 2 S5250 แต่ Wave II เป็นมือถือระดับกลาง-บนเหมือนกับ Wave ต่างจาก Wave 2 ที่จับตลาดกลาง-ล่าง
โดยรวมแล้ว Wave II เหมือนกับ Wave ทุกประการ ยกเว้นใช้จอใหญ่ขึ้น 3.7" (ของเดิม 3.3") โดยเปลี่ยนมาใช้จอ Super LCD เนื่องจากจอ Super AMOLED ขาดตลาด และหน่วยความจำภายในเพิ่มจาก 1.5 GB มาเป็น 2 GB
กำหนดวางขายที่เยอรมนีในเดือนพฤศจิกายน ราคา 429 ยูโรหรือประมาณ 18,000 บาท
Samsung Wave ซึ่งเป็นมือถือตัวแรกของ Samsung ที่ใช้ระบบปฏิบัติการที่พัฒนาจาก Samsung เองอย่าง Bada OS ทำยอดขายได้ดีเกินคาดในยุโรป โดยสามารถขายเครื่องได้ถึง 1 ล้านเครื่องภายใน 4 เดือนที่วางจำหน่าย ก่อนหน้านี้ในตลาดโลก Samsung Wave ก็ทำยอดขายถึง 1 ล้านเครื่องภายใน 1 เดือน ก่อนหน้าแฝดรุ่นใหญ่สุดฮิตอย่าง Samsung Galaxy S มาแล้ว
จุดเด่นของ Samsung Wave อยู่ที่ หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 3.3 นิ้ว, Wi-Fi, GPS, กล้อง 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวีดีโอแบบ HD 720p ได้ ซึ่งมาปูทางให้รุ่นน้องอย่าง Samsung Wave 2, Wave 2 Pro และ Wave 723 ได้เป็นอย่างดี
ในขณะที่ผู้ใช้ Android ในไทยยังไม่สามารถซื้อโปรแกรมได้จาก Market เสียที แต่ผู้ใช้มือถือ bada (ซึ่งในตอนนี้คือ Samsung Wave) แซงหน้าไปแล้ว เพราะซัมซุงได้เริ่มขาย paid apps ในประเทศไทยแล้ว
ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งใน 14 ประเทศที่ซัมซุงเพิ่ม paid apps เข้ามาในรอบนี้ ข้อมูลจาก BadaThai ระบุว่าต้องจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น และซัมซุงคิดอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์ = 45 บาท ทำให้ราคาในไทยแพงกว่าราคาของสหรัฐมาก
ที่มา - Bada Forums, BadaThai
ขอรวบสองข่าวเป็นข่าวเดียวเลยครับ
ข่าวแรก ซัมซุงนำ Wave 723 รัน Bada ที่เพึ่งเปิดตัวไปล่าสุดมาโชว์ในงาน IFA 2010 ซึ่งดูข้อมูลทางเทคนิคแล้วไม่น่าเป็นเครื่องราคาถูกดังที่ผู้บริหารระบุไว้เลย โดย Wave 723 มาพร้อมกับหน้าจอ TFT LCD 3.2 นิ้ว กล้อง 5 ล้านพิกเซลพร้อมออโต้โฟกัสและไฟแฟลช รองรับ Wi-Fi (802.11 b/g/n) และรัน Bada 1.1 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ UI auto-scaling
ในที่สุดซัมซุงก็ปล่อย Bada SDK เวอร์ชัน 1.0 ตัวจริงอย่างเป็นทางการ โดยเวอร์ชันตัวจริงนี้มีฟีเจอร์ทดสอบการทำงานบนตัวเครื่องอื่นจากระยะไกล (remote testing) เพิ่มมาให้ด้วย
ใครสนใจก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ bada Developers
ที่มา: bada Developers ผ่าน MobileBurn ผ่าน Electronista
จากที่เคยมีข่าว กองทัพ bada มาแล้ว: Samsung Wave 2 และ Wave 2 Pro ข่าวคราวก็เงียบหายไปสักพัก ล่าสุด CNET Asia มีโอกาสได้ลองจับ Samsung Wave 2 Pro รุ่นมีคีย์บอร์ดแบบสไลด์ข้าง
แม้ว่า Wave 2 จะเป็นมือถือรุ่นถูก จับตลาดต่ำกว่า Wave รุ่นแรก แต่ก็ยังมี FM tuner, ช่องเสียบ Micro SD, Wi-Fi, Bluetooth, GPS ครบถ้วน ส่วนที่โดนตัดออกไปคือ 3G HSPA (รองรับแค่ EDGE) และหน้าจอ 3.2" ความละเอียด 400x240 (WQVGA) แถมเป็นจอ TFT ไม่ใช่ Super AMOLED
ตามข้อมูลของ Samsung บอกว่า Wave 2 และ Wave 2 Pro จะวางขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เฉพาะตลาดอาเซียนและรัสเซียเท่านั้น ราคาที่ประกาศในรัสเซียอยู่ที่ประมาณ 10,000 รูเบิล (10,500 บาท)
หลังจากข่าวเก่าที่มีการรวมตัวกันของเหล่าผู้ใช้ Samsung Wave เพื่อพอร์ต Android ลง Samsung Wave ล่าสุดจากแหล่งเดิมพบว่า มีภาพหลุด Samsung Wave ที่ลง Android ได้สำเร็จแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นเวอร์ชั่น 2.1 เพราะมี Live Wallpaper เสียด้วย นอกจากนั้น แหล่งข่าวมีการพูดคุยอีกว่า การพอร์ตครั้งนี้น่าจะทำได้สมบูรณ์ เพราะรุ่น Wave มีฮาร์ดแวร์ที่ใกล้เคียงกับ Galaxy S อย่างมาก
Samsung ได้ยินข่าวนี้คงคันๆ แล้วหล่ะครับงานนี้
ภาพหลังข่าวนะครับ
ที่มา - Bada Forums ผ่าน Bada Thai
แม้ปัจจุบัน Samsung Wave มียอดขายไปมากกว่า 1 ล้านเครื่องทั่วโลกไปแล้ว แต่ก็มีกลุ่มผู้ใช้จำนวนหนึ่งออกมาแสดงความคิดเห็นที่ยังไม่พอใจในระบบ Bada โดยให้ความคิดเห็นว่า "Samsung Wave มีฮาร์ดแวร์ทุกอย่างที่มือถือระดับแนวหน้ามี ซึ่งทำให้ฝันของผู้กลุ่มผู้ใช้ Smart phone เป็นจริง แต่ฝันอาจถูกทำลายลงถ้าไม่มีซอฟต์แวร์ที่ดีพอที่จะมาตบตีกับ iOS ได้"
หลังจากเริ่มวางขาย Samsung Wave มือถือ bada ตัวแรก ไปเมื่อไม่นานนี้ ทางซัมซุงเริ่มตั้งตัวกับระบบปฏิบัติการ bada ได้ และส่งภาคต่อ Samsung Wave 2 และ Wave 2 Pro ตามมาอย่างรวดเร็ว
มือถือทั้งสองรุ่นนี้เปิดตัวที่งาน CommunicAsia 2010 ที่สิงคโปร์ โดย Wave 2 (S5250) เป็นรุ่นไม่มีคีย์บอร์ด และ Wave 2 Pro (S5330) มีคีย์บอร์ดแบบสไลด์ข้าง (เหมือนกับ Galaxy S Pro) สเปกคร่าวๆ มีดังนี้
มีรายงานข่าวไม่ยืนยันจากทาง MXPhone ว่า Samsung WAVE S8500 ที่เพิ่งมีรีวิวโดย mk ไปนั้นจะวางขายในเดือนหน้า เนื่องจากต้องการหลบฉากให้กับ Samsung Galaxy S ที่จะเปิดตัวในเดือนนี้ ส่วนราคานั้นจะอยู่ที่ 14,000-15,000 บาท
ถ้าข่าวนี้เป็นจริง คงต้องบอกว่า WAVE จะเป็นตัว "ทำลายเกม" ของสงครามสมาร์ตโฟนในตอนนี้เลยทีเดียว ด้วยฮาร์ดแวร์ที่พอๆ กับสมาร์ตโฟนรุ่นสูงๆ ของค่ายอื่นๆ แต่ราคาระดับนี้จะอยู่ในระดับกลาง-สูงเท่านั้น
อย่างไรก็ตามราคานี้เป็นราคาที่ขัดกับเมืองนอกพอสมควร เพราะเมื่อต้นปีทางซัมซุงประกาศราคาของ WAVE ไว้ที่ 579 ดอลลาร์หรือเกือบๆ สองหมื่นบาท แต่นับแต่การเปิดให้สื่อมวลชนเข้าทดสอบ ทางซัมซุงท่องคาถา "ไม่แพงเกินเอื้อม" อยู่เรื่อยมา