หลังจากที่แอปเปิลเปิดตัว iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ไป หลายคนเองก็เริ่มสงสัยถึงประสิทธิภาพของตัว iPhone 6 ว่าจะดีขึ้นสักแค่ไหน
ล่าสุด เว็บไซต์ของ Rightware ผู้ผลิตแอพ benchmark อย่าง Basemark X (ที่มีทั้งบน iOS, Android และ Windows Phone) เผยผลการทดสอบ Benchmark ของตัว iPhone 6 ในด้านกราฟิก โดย iPhone 6 ได้คะแนน benchmark อยู่ที่ 21,204.26 คะแนน ซึ่งห่างจากตัว iPhone 5s ที่มีคะแนนอยู่ที่ 20,253 คะแนน ไม่มากนัก
หลังจาก Galaxy Note 4 มีสเปกหลุดออกมาในฐานข้อมูลของ Antutu ออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ล่าสุดมีคะแนนเบนช์มาร์คของชิปเซ็ตสองตัวที่คาดว่าจะถูกใช้ใน Galaxy Note 4 อย่าง Exynos 5433 และ Snapdragon 805 ออกมา ปรากฎว่าเป็นชิปเซ็ตของทางฝั่งซัมซุงที่ดูจะทำคะแนนได้ดีกว่าไปได้
ผลคะแนนเบนช์มาร์คของชิปเซ็ต Exynos 5433 (ใช้ ซีพียู ARM-Cortex A57 และ A53 และจีพียู Mali-T760) อยู่ที่ 40,303 ซึ่งสูงกว่า Snapdragon 805 (ซีพียู Krait 540 จีพียู Adreno 420) ที่ 37,780 อย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ดีคะแนนที่หลุดออกมาครั้งนี้ เมื่อดูจากที่ซัมซุงเคยโกงคะแนนเบนช์มาร์คมาก่อน ทำให้อาจยังไม่สามารถสรุปผลว่าเป็นจริงดังที่หลุดออกมาได้
สิ่งหนึ่งที่เรามักจะพบในตลาดของมือถือหรือสมาร์ทโฟนระดับหรูอย่างหนึ่งคือปัญหาของสเปคที่ค่อนข้างต่ำ และไม่ได้มีประสิทธิภาพทัดเทียมเท่ากับเรือธงในตลาด (ตัวอย่างเช่น Gresso Radical Black ที่เพิ่งจะเปิดตัวไป) อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลล่าสุดที่ถูกเปิดเผยจาก Antutu ผู้ผลิตแอพ benchmark ชื่อดัง ทำให้ทราบว่า Vertu อาจจะมีแผนเปิดตัวโทรศัพท์สุดหรูที่มีสเปคทัดเทียมกับเรือธงในตลาดในอนาคตอันใกล้
ทุ่มเทกับกล้องบนสมาร์ทโฟนมานาน ก็เริ่มออกดอกออกผลแล้วสำหรับ Sony หลังจาก DxO Mark บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพ และจัดอันดับกล้องแทบทุกประเภท ได้ยก Xperia Z2 สมาร์ทโฟนเรือธงตัวล่าสุดของ Sony ให้เป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องยอดเยี่ยมที่สุด แซงหน้า Nokia 808 PureView ที่ครองอันดับหนึ่งมาอย่างยาวนาน
เมื่อหลายวันก่อนมีคนค้นพบว่า HTC One (M8) นั้นมีพฤติกรรมในการทดสอบตัวเครื่องแบบแปลกๆ โดยเฉพาะเวลาทดสอบตัวเครื่องกับแอพพลิเคชัน AnTuTu Benchmark เพราะคะแนนการทดสอบสามารถเอาชนะ Sony Xperia Z2 ได้แบบขาดลอย ทั้งๆ ที่สเปคของ Xperia Z2 นั้นจะเหนือกว่า HTC One (M8) อยู่พอสมควร
งานนี้ก็เลยมีการเปิดเผยครั้งใหญ่จาก HTC ว่า สิ่งที่หลายคนสงสัยว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงนั้น อันที่จริงแล้วเป็นปัญหามาจากฟังก์ชัน High Performance Mode ซึ่งเป็นฟังก์ชันซ่อนสำหรับนักพัฒนา โดย HTC ได้ปรับแต่งการทำงานของอุปกรณ์แต่ละชิ้นและได้พัฒนาฟีเจอร์นี้ขึ้น ซึ่งก็เหมือนกับการปรับแต่งรถฟอร์มูล่าวันที่ต้องมีการปรับแต่งรายละเอียดพอสมควรกว่าจะออกมาโลดแล่นบนสนามแข่งได้อย่างสมบูรณ์
Tegra K1 เปิดตัวอย่างอลังการกลางงาน CES ด้วยชิปสำหรับอุปกรณ์พกพาตัวแรกที่ใช้ชิปจีพียูมากถึง 192 คอร์ที่พ่วงมากับซีพียู ARM Cortex-A15 จนทำให้หลายคนสงสัยว่าประสิทธิภาพของชิปตัวนี้จะแรงแค่ไหน ตอนนี้มีผลทดสอบชุดแรกออกมาแล้ว
ผลทดสอบครั้งนี้ออกมาจากเว็บไซต์ Tom's Hardware โดยอ้างอิงชิป Tegra K1 บนจอมอนิเตอร์รันแอนดรอยด์ได้อย่าง Lenovo Thinkvison 28 ผลปรากฏว่า K1 นั้นทำผลงานได้เหนือกว่าคู่แข่งทุกรายในตลาดไม่ว่าจะเป็น Apple A7 และ Snapdragon 800 อย่างน้อย 25% โดยที่ชิป K1 รุ่นนี้ยังเป็นตัวที่ไม่ใช่ 64 บิตอีกด้วย คงต้องรอดูว่าซีพียูรหัส Denver จะทำผลงานได้ดีแค่ไหน
เมื่อต้นปีนี้เคยมีข่าวว่า LG กำลังพัฒนาหน่วยประมวลผลของตัวเองชื่อ Odin และมันถูกคาดว่าจะนำมาใช้กับ LG G2 แต่หลังจากนั้นข่าวคราวของ Odin ก็เงียบหายไป (และ LG G2 ก็ใช้ Snapdragon ตามปกติทั่วไป)
ล่าสุด Odin เริ่มกลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง โดยมีข้อมูลของมือถือตัวหนึ่งชื่อ LG Odin โผล่มาในฐานข้อมูลเบนช์มาร์คของโปรแกรม Antutu ซึ่งจุดที่น่าสนใจคือมันใช้ซีพียูชื่อ LG Odin ด้วยเหมือนกัน สเปกเท่าที่รู้คือเป็นซีพียู 8 คอร์ ความถี่ 100-1008 MHz, จีพียู PowerVR รหัส Rogue hood (ตัวเดียวกับใน iPhone 5s), แรม 2GB, Android 4.2.2
โปรแกรมเบนช์มาร์ค AuTuTu พบมือถือซัมซุงรหัส SM-G900F โผล่เข้ามาในฐานข้อมูลเบนช์มาร์ค คาดว่านี่คือรุ่นย่อยหนึ่งของ Galaxy S5 ที่จะเปิดตัวช่วงต้นปี 2014
มีการพบอุปกรณ์ของซัมซุงที่มีรหัสรุ่น SM-G900S โผล่บนโปรแกรม GFXBench สเปกที่หลุดออกมานั้นคือมีหน้าจอความละเอียด 2560×1440, ใช้ชิป Snapdragon 800 ความเร็ว 2.5 GHz รันบนแอนดรอยด์ 4.4 คิทแคท
ที่น่าสนใจคือชิป Snapdragon 800 ตัวปัจจุบันนั้นมีความเร็วอยู่ที่ 2.3 GHz ดังนั้นชิปในเครื่องดังกล่าวก็อาจจะเป็นรุ่นที่ถูกอัพเกรดใหม่ (อย่าง 8974AB หรือ 8974AC) เพื่อให้ใช้พลังงานน้อยลงก็เป็นได้ และก็มีความเป็นไปได้สูงมากว่าซัมซุงจะออกรุ่นที่ใช้ชิป Exynos 64 บิตมาด้วยเช่นกันสำหรับรุ่นที่ไม่รองรับ LTE (ภาพท้ายเบรคครับ)
ที่มา: SamMobile
Futuremark เจ้าของโปรแกรมเบนช์มาร์คชื่อดัง 3DMark ถอดผลเบนช์มาร์คของมือถือหลายรุ่นออกจากฐานข้อมูล ด้วยเหตุผลว่ามีพฤติกรรมของคะแนนที่น่าสงสัยว่าจะละเมิดกฎการเบนช์มาร์ค (ไม่ระบุละเอียดว่ากฎข้อไหน แต่ก็น่าจะเกี่ยวข้องกับการโกงเบนช์มาร์คที่เป็นข่าวเมื่อไม่นานมานี้)
มือถือที่ถูกถอด (delisted) จะไม่มีคะแนนการรันเบนช์มาร์คอีกต่อไป โดยมือถือที่เข้าข่ายมีทั้ง HTC One, HTC One Mini, Galaxy Note 10.1 (2014), Galaxy Note 3 (Exynos/Snapdragon)
DisplayMate ผู้เชี่ยวชาญด้านหน้าจอที่มีผลงานการทดสอบหน้าจออุปกรณ์พกพาชื่อดังหลายรุ่น ล่าสุดเพิ่งหยิบแท็บเล็ตหน้าจอขนาดเล็กสามรุ่นเด่นอย่าง Amazon Kindle Fire HDX 7, Retina iPad mini และ Nexus 7 (2013) มาทำการทดสอบร่วมกัน ซึ่งผลการทดสอบออกมาค่อนข้างน่าสนใจดังนี้ครับ
เริ่มต้นกันที่ภาพรวมของหน้าจอของทั้งสามรุ่นเสียก่อนฝั่ง Amazon Kindle Fire HDX 7 เป็นหน้าจอ iPS LCD ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิต a-Si ส่วน iPad mini นั้นมีหน้าจออยู่สองแบบ แบบหนึ่งเป็น IPS LCD ที่ใช้เทคโนโลยี IGZO และอีกแบบเป็น FFS LCD ที่ใช้เทคโนโลยี a-Si ปิดท้ายด้วย Nexus 7 ที่ใช้ IPS LCD แบบ LTPS (Low Temperature Poly Silicon) ในแง่ของความละเอียดนั้นกินกันไม่ลงเพราะมีค่าความหนาแน่นอยู่ที่ 320+ PPI ทั้งสิ้น
ตั้งแต่ที่ Steam รองรับ Linux มานั้น อนาคตของวงการเกมบน Linux ก็ดูสดใสขึ้นเรื่อยๆ และดูจะเทียบกับ Windows ซึ่งได้รับความนิยมในการเล่นเกมมาเนิ่นนาน ล่าสุดผลทดสอบของ Phoronix บอกว่าระบบปฏิบัติการที่มีฐานบน Linux อย่าง Ubuntu นั้นทำประสิทธิภาพในการเล่นเกมเข้าใกล้ Windows 8.1 ขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
ทีมทดสอบเปรียบระหว่าง Ubuntu 13.04 และ Windows 8.1 โดยใช้ซีพียูอินเทล Haswell และการ์ดจอหลายรุ่นทั้ง AMD และ NVIDIA ผลการทดสอบด้วยโปรแกรมเบนช์มาร์คทั้งสองระบบปฏิบัติการออกมาค่อนข้างใกล้เคียง และสลับกันแพ้ชนะในหลายการทดสอบ เมื่อทดสอบกับเกม Team Fortress 2 ก็ให้ผลออกมาค่อนข้างใกล้เคียงกัน
Primate Labs ได้เผยผลทดสอบ benchmark จากแอพ Geekbench 3 ของ iPad Air แล้ว ซึ่งคะแนนก็ออกมาตามที่แอปเปิลโม้ไว้คือ 2 เท่าเทียบกับ iPad รุ่นที่ 4
ผลทดสอบจากแอพ Geekbench 3 พบว่า iPad Air ได้คะแนนแบบซิงเกิลคอร์ 1465 คะแนน (มัลติคอร์ 2643 คะแนน) มากกว่า iPhone 5s ที่ได้คะแนนแบบซิงเกิลคอร์ 1400 คะแนน (มัลติคอร์ 2524 คะแนน) นิดหน่อย แต่ก็ทิ้งห่าง iPad รุ่น 4 ที่ได้คะแนนแบบซิงเกิลคอร์ 771 คะแนน (มัลติคอร์ 1408 คะแนน) ไปอย่างไม่เห็นฝุ่น
ส่วนสเปคของ iPad Air ที่ได้ทราบจาก benchmark คือใช้ชิพ Apple A7 ความถี่ 1.4GHz (มากกว่า iPhone 5s อยู่ 100MHz) ดูผลทดสอบได้ท้ายเบรคครับ
ที่มา - Primate Labs
หลังจากที่มีข่าวว่าผู้ผลิต Android หลายรายโกงผลเบนช์มาร์ค จนทำให้ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ AnTuTu ต้องออกเวอร์ชันใหม่ ตอนนี้มีผลทดสอบเปรียบเทียบ Samsung Galaxy Note 3 ระหว่างชิป Exynos 5 กับ Snapdragon 800 โดยใช้ซอฟต์แวร์เบนช์มาร์คเวอร์ชันล่าสุดออกมาแล้ว
ผลการทดสอบจากเว็บ Samsung Party พบว่า Galaxy Note 3 รุ่น Exynos 5 (N9000) ได้คะแนนเหนือกว่ารุ่น Snapdragon 800 (N9005) ในทุกการทดสอบ โดยเฉพาะผลจากโปรแกรม AnTuTu 3DRating ที่ Exynos 5 ได้ 10,577 คะแนน ในขณะที่รุ่น Snapdragon 800 ทำได้เพียง 2,985 คะแนนเท่านั้น สำหรับผลการทดสอบเพิ่มเติมดูได้จากที่มาครับ
ปกติเราเห็นบรรดาผู้ผลิตชิป ARM ทั้งหลายแข่งกันเองเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นเจ้าของพิมพ์เขียวอย่าง ARM ออกมาอัดคู่แข่งตรงๆ ล่าสุดเพิ่งปล่อยวิดีโอเปรียบเทียบกับ Atom จาก Intel ที่ลงมาแข่งกันหนักขึ้นในช่วงหลัง
ในวิดีโอ ARM เทียบระหว่างชิป ARM Cortex-A9 ควอดคอร์ความถี่ 1.4GHz ไม่ระบุรุ่นกับ Atom Z2560 ดูอัลคอร์ความถี่ 1.6GHz รันอยู่บนแท็บเล็ตไม่ระบุสเปค (คาดว่าน่าจะเหมือนกัน) มาเล่นเกมแข่งรถอย่าง Need For Speed Most Wanted
จากผลที่ออกมาปรากฎว่า ARM อายุปีกว่าทำผลได้ดีกว่าทั้งระยะเวลาการโหลดเกม เฟรมเรตระหว่างเล่น แม้ว่าเลขจากผลทดสอบจะออกมาพอกัน หรือแพ้ Atom เสียด้วยซ้ำ
ส่วนชนะกันขาดแค่ไหน ลองดูท้ายข่าวครับ
ก่อนหน้านี้มีผลการทดสอบ Atom Bay Trail โดย AnandTech มารอบหนึ่งแล้ว คราวนี้เป็นของ Engadget รันเบนช์มาร์คเทียบกับ Tegra 4 และ Snapdragon 800 บน Android ครับ
จากกรณีการโกงเบนช์มาร์คของผู้ผลิต Android หลายค่ายเมื่อสัปดาห์ก่อน ล่าสุดแอพเบนช์มาร์คชื่อดัง AnTuTu ออกมาประกาศว่าจะแก้ปัญหานี้โดยออกแอพตัวใหม่ชื่อ AnTuTu X
AnTuTu X จะมีหน้าตาและฟีเจอร์เหมือนกับ AnTuTu รุ่นปกติทุกประการ แต่จะมีทริคบางอย่างที่ AnTuTu เตรียมไว้ป้องกันกลโกงจากผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ โดย AnTuTu ไม่เปิดเผยเทคนิคแต่บอกเพียงว่าอุปกรณ์ต่างๆ จะไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ากำลังรัน AnTuTu อยู่
ที่มา - AnTuTu via Android Guys
หลังจากที่โดนหลายฝ่ายรุมจวกยับเยินจากกรณีที่ Galaxy Note 3 โดนจับได้ (อีกแล้ว) ว่าโกงผลเบนช์มาร์ค ในที่สุดทางซัมซุงก็ได้ออกมาตอบโต้กรณีดังกล่าวแล้ว
Galaxy Note 3 จะเร่งความถี่สัญญาณนาฬิกาสูงสุดเมื่อมีการประมวลผลงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ซึ่งนี่ไม่ใช่ความพยายามในการเพิ่มคะแนนเฉพาะส่วนของเบนช์มาร์ค เรายังคงเน้นย้ำเรื่องประสบการณ์ใช้งานที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้าเสมอ
กรณีนี้ดูเหมือนซัมซุงพยายามโบ้ยว่า เป็นเพราะโปรแกรมเบนช์มาร์คนั่นแหละที่จำเป็นต้องใช้พลังประมวลผลสูงเอง จึงทำให้ความถี่สัญญาณนาฬิกาสูงตามไปด้วย
ก็นับว่าเป็นข้ออ้างที่พอฟังขึ้น ถ้าไม่มีใครไปพบ source code ที่ซ่อนอยู่ดังรูป
หลังจากที่ AnandTech จับได้ว่า Galaxy S4 โกง benchmark และ Ars Technica ก็จับได้อีกว่า Galaxy Note 3 ก็โกง benchmark ด้วยเช่นกัน จน Phil Schiller รองประธานฝ่ายการตลาดแอปเปิลทวีตเรียกว่า "ไอ้ขี้โกง" แต่ตอนนี้การโกงดูเหมือนจะไม่หยุดแค่นั้นเสียแล้ว เพราะ AnandTech ได้ทดสอบอุปกรณ์รันแอนดรอยด์อีกหลายรุ่นกับโปรแกรมทดสอบ benchmark หลายโปรแกรม กลับพบว่าไม่ใช่แค่ Samsung ที่โกงคะแนน benchmark
DisplayMate ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับปรับตั้งค่าหน้าจอ และมีผลงานทดสอบหน้าจอของสมาร์ทโฟนชื่อดังมาหลายรุ่น เผยผลการทดสอบของ Galaxy Note 3 ที่ได้รับการสนับสนุนจากซัมซุง ผลออกมาค่อนข้างน่าประทับใจ โดยเฉพาะความสว่างของหน้าจอที่เรียกได้ว่าดีที่สุดในตลาดก็ว่าได้
การทดสอบส่วนใหญ่เป็นการเปรียบเทียบระหว่าง Galaxy Note 3 กับรุ่นก่อนหน้าอย่าง Galaxy Note II คัดเฉพาะส่วนที่น่าสนใจมีดังนี้ครับ
มีข้อมูลของ Nexus 5 โผล่มาในฐานข้อมูลเบนช์มาร์ค GFXBench (GLBenchmark เดิม) โดยระบุโค้ดเนมว่า hammerhead (ฉลามหัวค้อน ซึ่งตรงกับวิธีตั้งโค้ดเนมตระกูล Nexus ตามชื่อปลา) สเปกฮาร์ดแวร์ใช้ซีพียู Qualcomm ไม่ระบุรุ่น ความถี่ 2.2GHz (มีคนถอดมาได้เป็น Snapdragon 800), จีพียู Adreno 330, หน้าจอละเอียด 1794x1080 (1080p ตัดพื้นที่ปุ่มเสมือน), Android รหัส K ที่ยังระบุชื่อเป็น KeyLimePie (ข้อมูล)
บริษัท Agawi ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ cloud streaming ได้ทำการทดลองเพื่อวัดความเร็วในการตอบสนองของแอพบนมือถือแต่ละรุ่นเมื่อมีการสั่งงานผ่านทัชสกรีน โดยระบบปฏิบัติการที่ทำการทดลองมีทั้ง iOS, Windows Phone และ Android และเรียกการทดสอบประสิทธิภาพนี้ว่า Agawi TouchMarks I วิธีการทดสอบคือใช้กล้องวิดีโอความเร็วสูง 240 เฟรมต่อวินาทีเพื่อจับเวลาการตอบสนองของแอพเมื่อผู้ใช้กดที่จอ
มือถือที่ทำเวลาได้เร็วที่สุดก็คือ iPhone 5 ที่ใช้เวลาเพียง 55 ms โดยมือถือที่ทำได้ใกล้เคียงที่สุดก็ยังคงเป็น iPhone 4 ที่ 85 ms นอกเหนือจากนี้ใช้เวลาเกิน 100 ms ไม่ว่าจะเป็น Samsung Galaxy S4, Lumia 928, HTC One หรือ Moto X (ที่มาไม่ได้พูดถึง iPhone 5S และ iPhone 4S)
ผ่านครึ่งปีมาได้ราวสองเดือน AnTuTu Labs ผู้พัฒนาแอพเบนช์มาร์คชื่อดังบนแอนดรอยด์ AnTuTu Benchmark ก็ออกมาเผยตัวเลขสถิติต่างๆ จากผู้ใช้ในรอบครึ่งปีแรก 2013 โดยผลในหมวดต่างๆ มีดังนี้
หมวดสเปคแรงสุดอันดับหนึ่งตกเป็นของ Galaxy S4 รุ่นใช้ซีพียู Exynos Octa ที่ทำคะแนนเหนือเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง Galaxy S4 รุ่นใช้ซีพียู Snapdragon 600 ไป หลุดจากนั้นไปก็กลายเป็น Exynos ตัวก่อนหน้าอย่าง Exynos Quad ที่ใช้กับ Galaxy S III และ Galaxy Note II เลยทีเดียว
ส่วนหมวดที่เหลือเป็นระดับความนิยมของผู้ใช้ในแต่ละประเทศที่เอาเครื่องมาลองวัดผลคะแนน คงบอกอะไรไม่ได้มาก แต่ดูไว้พอเป็นสังเขปว่าคนใช้รุ่นอะไรในประเทศไหนบ้าตัวเลขมากกว่ากันนะครับ
จากกรณี Galaxy S4 โกงคะแนนเบนช์มาร์ค? จะเร่งประสิทธิภาพเมื่อรันเฉพาะแอพที่ระบุไว้ และ ซัมซุงชี้แจงกรณีเบนช์มาร์ค Galaxy S4 บอกไม่เคยล็อคความถี่ของ GPU ทางเว็บไซต์ AnandTech ไปทดสอบเพิ่มเติมได้ผลดังนี้ครับ
จากกรณี Galaxy S4 โกงคะแนนเบนช์มาร์ค? จะเร่งประสิทธิภาพเมื่อรันเฉพาะแอพที่ระบุไว้ ซัมซุงออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ Samsung Tomorrow ดังนี้