Chrome เวอร์ชันเดสก์ท็อป เพิ่มฟีเจอร์ยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมทริก (เช่น ลายนิ้วมือ) ก่อนช่วยกรอกรหัสผ่านที่เซฟเก็บไว้ เพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงรหัสผ่านบน Google Password Manager อีกชั้น
ฟีเจอร์นี้เหมาะกับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกับคนอื่นๆ และกลัวคนอื่นเข้ามาล็อกอินด้วยบัญชีของเราได้ ก่อนหน้านี้ Chrome ใช้วิธียืนยันตัวตนด้วยรหัสผ่าน (master password) แต่ก็ไม่สะดวกเพราะต้องกรอกใหม่ทุกครั้ง การยืนยันด้วยตนด้วยไบโอเมทริกก็ช่วยให้สะดวกขึ้นกว่าเดิม
Chrome รองรับการยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมทริกอยู่แล้ว แต่เฉพาะการกรอกรหัส CVC ตอนจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตเท่านั้น รอบนี้คือขยายมายังการกรอกรหัสผ่านด้วย
Chrome 110 ที่ตอนนี้มีสถานะเป็น Early Stable เริ่มปล่อยอัพเดตในวงจำกัด รองรับฟีเจอร์ RTX Video Super Resolution (VSR) ของจีพียูค่าย NVIDIA (GeForce ซีรีส์ 30/40 ส่วนซีรีส์ 20 จะตามมาภายหลัง) ที่ให้พลัง AI ช่วย upscaling การแสดงผลวิดีโอในเบราว์เซอร์แล้ว
ปกติแล้วเราคุ้นกับฟีเจอร์ Deep Learning Super Sampling (DLSS) ที่ใช้ AI ช่วยขยายภาพตอนเล่นเกมให้มีความคมชัดมากขึ้น คราวนี้ NVIDIA นำเทคนิคแบบเดียวกันมาใช้กับการแสดงผลวิดีโอใดๆ ก็ได้ในเบราว์เซอร์ (เช่น การขยายวิดีโอที่ต้นฉบับ 1080p เพิ่มเป็น 4K ให้คมชัดขึ้น) โดยระบุว่าใช้ได้กับ Chrome และ Edge
มาตรฐาน WebSQL เคยได้รับความสนใจช่วงสิบปีที่แล้ว ที่หลายคนอยากให้เบราว์เซอร์มีฐานข้อมูล SQL ใช้งานได้ในตัวโดยไม่ต้องเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ แต่มาตรฐานนี้ก็ไม่ได้รับความนิยมนักทำให้เบราว์เซอร์หยุดซัพพอร์ตกันไปโดย Chrome เองก็ประกาศเตรียมถอด WebSQL ตั้งแต่ Chrome 105 เมื่อปีที่แล้วแต่ยังสามารถเปิด policy กลับมาใช้งานได้ ล่าสุดกูเกิลโชว์ให้ดูว่านักพัฒนาที่ต้องการใช้ SQL ในเบราว์เซอร์ตอนนี้สามารถใช้งานได้ด้วยเทคโนโลยี WebAssembly และ OPFS
โครงการ Chromium ที่เป็นโครงการต้นน้ำของเบราว์เซอร์ Chrome ประกาศเริ่มรองรับไลบรารีภาษา Rust เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ภาษา Rust เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ซอฟต์แวร์โดยรวม
การใช้งานช่วงแรกจะเป็นการใช้งานทางเดียว นั่นคือตัวโค้ด Chromium หลักที่เป็น C++ จะเรียกไลบรารีที่เป็นภาษา Rust ได้แต่ไลบรารีเหล่านั้นห้ามเรียกโค้ด C++ อื่นอีก และโค้ด Rust ที่ใช้งานจะเป็นส่วนประกอบที่แยกเฉพาะทาง (standalone components) เท่านั้น ไม่ใช่ส่วนที่เป็นแกนหลักของตัวเบราว์เซอร์ โดยทั่วไปไลบรารีเหล่านี้มักรับผิดชอบงานเฉพาะทางเท่านั้น
กูเกิลเริ่มปล่อย Chrome 109 โดยมีฟีเจอร์สำคัญ 3 รายการ ได้แก่
lh
(line-height) ระบุความสูงของบรรทัดปัจจุบัน ทำให้สามารถสร้างกรอบพอดีกับจำนวนบรรทัดได้ หรือตัวเลือก hyphenate-limit-chars
สำหรับกำหนดตัวขีดคั่นคำผู้ใช้ Chrome น่าจะคุ้นเคยกับระดับความเสถียรแยกตาม channel เช่น Canary, Dev, Beta, Stable แต่ล่าสุดกูเกิลจะเพิ่มระดับ Early Stable เข้ามาอีกอัน
Chrome Early Stable จะไม่แยกเป็น Channel ต่างหาก แต่จะเป็นการทยอยปล่อย Chrome Stable ให้กับผู้ใช้กลุ่มเล็กๆ ก่อนประมาณ 1 สัปดาห์ เมื่อทดสอบว่าไม่มีปัญหาแล้วจะปล่อยอัพเดตให้ผู้ใช้ในวงกว้างขึ้นต่อไป
นโยบาย Early Stable จะเริ่มใช้ใน Chrome 110 ช่วงต้นปีหน้า โดยปล่อยกลุ่ม Early Stable วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2023 และปล่อย Stable ในวงกว้าง 7 กุมภาพันธ์ 2023
ที่มา - Chrome Developer via 9to5google
Chrome, Safari/WebKit, Firefox ประกาศร่วมกันพัฒนาเบนช์มาร์ควัดประสิทธิภาพของเบราว์เซอร์ Speedometer เวอร์ชัน 3 เพื่อเบนช์มาร์คให้สะท้อนการใช้งานของผู้ใช้จริงมากขึ้น
Speedometer เป็นเบนช์มาร์คที่เริ่มพัฒนาโดยทีม WebKit แต่ภายหลังก็ได้รับความนิยมใช้ทดสอบกับเบราว์เซอร์ตัวอื่นด้วย เวอร์ชันล่าสุดในปัจจุบันคือ 2.1 รูปแบบการทำงานคือสร้างเว็บแอพ TodoMVC ที่มีการเรียกใช้ DOM API ของเบราว์เซอร์ผ่าน ECMAScript 5/6 รวมถึงเฟรมเวิร์ค JavaScript ยอดนิยมหลายตัว เช่น Vue.js, jQuery, React, Ember เพื่อจำลองสถานการณ์เสมือนเป็นการใช้งานของผู้ใช้ที่พบในโลกจริงๆ
กูเกิลประกาศยืดระยะเวลาเริ่มทดสอบการยกเลิก Manifest V2 สำหรับพัฒนาส่วนขยายเบราว์เซอร์ จากเดิมที่มีกำหนดเริ่มทดสอบปิดการทำงานบางส่วนในเดือนมกราคมนี้ออกไปโดยไม่มีกำหนด หลังนักพัฒนาโวยว่า Manifest V3 นั้นมีข้อจำกัดมากเกินไป
ประเด็นที่ถูกบ่นมากใน Manifest V3 คือ ข้อจำกัดการใช้ DOM ในหน้าเว็บ และอายุการทำงานของ service worker กูเกิลระบุว่าแก้ไขเรื่อง DOM แล้วใน Chrome 109
Chrome 108 Stable เริ่มรองรับการล็อกอินแบบไร้รหัสผ่านหรือ Passkey ตามที่กูเกิลประกาศไว้ตั้งแต่เดือนตุลาคม
Passkey เป็นวิธีการยืนยันตัวตนแบบใหม่ที่พยายามแก้ปัญหาเดิมๆ ของรหัสผ่าน ด้วยการใช้คู่กุญแจดิจิทัล (private/public key) ยืนยันตัวตนแทน แต่ปรับให้ใช้ง่ายขึ้นด้วยการซิงก์กุญแจผ่านคลาวด์ของผู้ให้บริการ (ในที่นี้คือ Google Password Manager แต่ถ้าเป็นของค่ายอื่นก็อย่างเช่น แอปเปิลซิงก์ผ่าน iCloud) ตอนนี้เริ่มมีบริการออนไลน์ดังๆ อย่าง PayPal เริ่มรองรับการล็อกอินวิธีนี้แล้ว
กูเกิลประกาศเปิดฟีเจอร์ใหม่ในเบราว์เซอร์ Chrome แก้ปัญหาที่ค้างคาใจผู้ใช้มายาวนานคือการใช้แรมสูงมากและการกินพลังงานสูง โดยเพิ่มโหมดเพื่อปรับลดปัญหานี้ได้
โหมด Memory Saver จะปิดการทำงานของแท็บที่ไม่ได้ใช้งานออกไป ทำให้การใช้ความจำโดยรวมลดลง และเมื่อกลับมาเปิดแท็บเดิมเบราว์เซอร์ก็จะโหลดข้อมูลกลับมาให้ ผู้ใช้สามารถเปิดโหมดนี้ได้เองตลอดเวลา
โหมด Energy Saver จะประหยัดพลังงานรวมโดยปิดการทำงานเบื้องหลังของเว็บไซต์ต่างๆ เช่น ภาพเคลื่อนไหว, วิดีโอ, และเอฟเฟกต่างๆ โหมดนี้จะเปิดใช้เองอัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่เครื่องเหลือต่ำกว่า 20%
ทั้งสองฟีเจอร์นี้จะค่อยๆ ปล่อยให้ผู้ใช้เป็นกลุ่มๆ ทั่วโลก โดยมีฟีเจอร์นี้ทั้งบน Windows, macOS, และ ChromeOS
มีคนพบว่า Chrome เริ่มแสดงข้อความแจ้งเตือนในตัวเบราว์เซอร์เวอร์ชันที่รันบน Windows 7 SP1, Windows 8.1 และ Windows Server 2012 R2 บอกว่าจะไม่มี Chrome เวอร์ชันใหม่บนระบบปฏิบัติการเก่าอีกแล้ว และขอให้อัพเกรดเป็น Windows 10 ขึ้นไปแทน
Windows 7 SP1, 8.1, 2012 R2 จะหมดระยะซัพพอร์ตอย่างสมบูรณ์ (หมดระยะ Extended Security Update ที่ต้องจ่ายเงินซื้อแพตช์) ในเดือนมกราคม 2023 ซึ่ง Chrome ก็ประกาศหยุดซัพพอร์ตวันเดียวกับไมโครซอฟท์ โดยจะออก Chrome 110 ให้เป็นเวอร์ชันสุดท้าย
การขึ้นข้อความเตือนของ Chrome สามารถกดปิดได้ แต่เมื่อเปิดเบราว์เซอร์ขึ้นมาใหม่ก็จะแสดงใหม่อีกครั้งเสมอ
Chrome เวอร์ชันเดสก์ท็อปเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับช่อง address bar สามารถค้นหาข้อมูลภายในเครื่องได้ละเอียดขึ้น ผู้ใช้สามารถใช้ท่า @tabs, @bookmarks, @history เพื่อกำหนดวงการค้นหาแท็บ บุ๊กมาร์ก หรือประวัติการท่องเว็บของตัวเองได้
กูเกิลบอกว่า @tabs จะช่วยให้ผู้ใช้ที่เปิดแท็บไว้เยอะๆ สามารถค้นหาแท็บได้เร็วขึ้น ส่วน @bookmarks และ @history ก็ช่วยให้ตามหาข้อมูลเก่าๆ ได้จาก address bar โดยตรง เพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงเช่นกัน
ที่มา - Google
Google เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญ 3 อย่างให้กับ Chrome เวอร์ชั่น 108 ที่กำลังจะปล่อยให้ผู้ใช้อัพเดตใช้งานกัน โดยมีทั้งระบบติดตามราคาของสินค้าบนร้านค้าออนไลน์, การเพิ่มแถบแสดงผลการค้นหาด้วย Google Search บริเวณด้านข้างของหน้าจอ รวมถึงการซิงก์รหัสผ่านของผู้ใช้จากการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ของบัญชีผู้ใช้คนเดียวกัน
รายละเอียดของฟีเจอร์ใหม่ข้างต้นมีดังนี้
Google ประกาศแผนการปล่อยอัพเดต Chrome เวอร์ชั่น 110 ซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นสุดท้ายที่สนับสนุนการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Windows 7 และ Windows 8.1 ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ปีหน้า
แม้ว่า Windows 7 จะมีอายุนานกว่า 13 ปีมาแล้ว และ Microsoft ได้ประกาศหยุดการอัพเดตเพื่อสนับสนุน Windows 7 ไปตั้งแต่ปี 2020 แต่จากการประเมินเมื่อต้นปี 2021 ยังมีอุปกรณ์ที่รันระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นนี้อยู่มากกว่า 100 ล้านเครื่องทั่วโลก ซึ่งเท่ากับว่าหลังจากปีหน้าไปเครื่องของใครที่ยังรัน Windows 7 อยู่ก็จะขาดการสนับสนุนจากทั้งผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการเองและผู้พัฒนาเว็บเบราว์เซอร์รายใหญ่
กูเกิลประกาศอัพเดต Chrome บน Android Tablet ให้ใช้งานหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นได้เต็มความสามารถ ของใหม่มีดังนี้
กูเกิลประกาศรองรับการล็อกอินแบบ Passkey บนโทรศัพท์แอนดรอยด์และเบราว์เซอร์โครม หลังจากก่อนหน้านี้แอปเปิลรองรับไปก่อนแล้ว ทำให้สามารถใช้โทรศัพท์ล็อกอินบริการต่างๆ ได้โดยไม่ต้องตั้งรหัสผ่านอีกต่อไป
Passkey เป็นมาตรฐานบน WebAuthn อีกทีหนึ่ง เปิดทางให้บริการต่างๆ สามารถยืนยันตัวตนผู้ใช้ด้วยกุญแจเข้ารหัสที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ของผู้ใช้ ทั้งโทรศัพท์มือถือและเบราว์เซอร์ โดยกุญแจนี้สามารถซิงก์ข้ามเครื่องไปมาได้ ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการล็อกอินบนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ Passkey แต่สร้างบัญชีไว้โดยไม่ได้ตั้งรหัสผ่าน ก็สามารถใช้งานตั้งล็อกอินผ่าน QR ได้ คล้ายกับการล็อกอิน LINE บนเดสก์ทอปทุกวันนี้
กูเกิลประกาศปรับแผนการเลิกใช้ API ส่วนขยายแบบเก่า Manifest V2 โดยยืดเวลาจากที่เคยประกาศไว้เล็กน้อย
โครงการ Chromium ที่เป็นฐานของเบราว์เซอร์ Chrome ประกาศโครงการ Chrome Root Program และ Chrome Root Store เพื่อจัดการฐานข้อมูล root CA ที่สามารถออกใบรับรองเข้ารหัสแบบต่างๆ ได้
ที่ผ่านมา Chromium/Chrome ใช้ฐานข้อมูล root CA ของแพลตฟอร์มเป็นหลัก ทำให้ประสบการณ์ใช้งานต่างกันในแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น บนระบบปฎิบัติการรุ่นเก่าๆ ก็อาจจะไม่สามารถเข้าเว็บที่ใบรับรองจาก root CA ใหม่ๆ ได้แม้จะใช้ Chrome รุ่นใหม่ก็ตาม อย่างไรก็ดี แม้จะใช้ฐานข้อมูลของระบบปฎิบัติการแต่ที่ผ่านมา Chrome ก็มีนโยบายเพิ่มเติมไม่ยอมรับ root CA บางรายอยู่แล้ว เช่น เหตุการณ์ถอดถอน root CA ของ Synmantec การมีโครงการ root CA ของตัวเองจะทำให้ตัวเบราว์เซอร์ควบคุมได้มากขึ้น
กูเกิลออกอัพเดต Chrome เวอร์ชัน 105.0.5195.102 ทั้งบน Windows, Mac และ Linux ซึ่งแก้ไขบั๊ก Zero-Day โดยมีความรุนแรงระดับ High จึงแนะนำให้ผู้ใช้งาน Chrome อัพเดตทันที
ช่องโหว่ที่แก้ไขคือ CVE-2022-3075 ที่อาศัยช่องโหว่ในไลบรารี่ของ Mojo ทั้งนี้กูเกิลระบุว่าจะเปิดเผยรายละเอียดของบั๊กนี้เมื่อมีผู้อัพเดตเบราว์เซอร์เป็นจำนวนมากพอสมควร แม้มีรายงานการโจมตีแล้ว
อัพเดตดังกล่าวเป็นการแก้ไขช่องโหว่ Zero-Day ครั้งที่ 6 ในปีนี้ของ Chrome
ที่มา: Bleeping Computer
หลังจาก Chrome เพิ่มปุ่ม Follow เพื่อให้ผู้ใช้ติดตามเว็บไซต์ที่สนใจผ่าน RSS ในมือถือ Android และ iOS ไปแล้วซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถดูข่าวหรือบทความจากเว็บที่กดติดตามไว้ในหน้าฟีด คาดว่าในเวอร์ชันอัปเดทใหม่ Chrome 106 ผู้ใช้ผ่านเดสก์ท็อปจะสามารถใช้ฟังก์ชันดังกล่าวได้ด้วยเช่นกัน
การคาดการณ์ดังกล่าวมีสาเหตุมาจากนักพัฒนาซอร์ฟแวร์ชื่อ Kevin Tofel ของ About Chromebooks ได้เปิดเผยว่าพบโค้ดและ UI ของ Chrome 106 Dev Channel ที่เกี่ยวฟังก์ชันการใช้ RSS สำหรับผู้ใช้งานผ่านเดสก์ท็อป รวมถึงปุ่ม “Follow Site” แต่หน้า RSS Feed ยังไม่สามารถใช้งานได้
กูเกิลประกาศเลื่อนการใช้งาน Privacy Sandbox เทคนิคการตามรอยผู้ใช้ที่เตรียมนำมาใช้แทนระบบคุกกี้แบบดั้งเดิม โดยให้เหตุผลว่าต้องการระยะเวลาทดสอบตัว API มากขึ้น
โครงการ Privacy Sandbox ประกอบด้วยเทคโนโลยีหลายตัว เช่น Topics API, FLEDGE API สำหรับยิงโฆษณาจากเว็บไซต์ที่เคยเข้ามาก่อนแล้ว (remarketing) และ Attribution Reporting API ใช้วัดว่าโฆษณาที่ถูกคลิกหรือชมนั้นเปลี่ยนเป็นการซื้อจริง (conversion) แค่ไหน
กูเกิลออกอัพเดต Chrome เวอร์ชัน 103.0.5060.114 เฉพาะผู้ใช้ Windows เพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรง Zero-Day ที่มีความรุนแรงระดับ High ผู้ใช้งาน Chrome ควรอัพเดตทันที
ช่องโหว่ที่รายงานคือ CVE-2022-2294 ซึ่งเป็นช่องโหว่ใน WebRTC ทำให้โปรแกรมแครช หรือสามารถรันคำสั่งเพื่อโจมตีได้ โดยกูเกิลไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดแม้เป็น Zero-Day แต่จะเผยแพร่เมื่อมีผู้อัพเดตเป็นส่วนใหญ่
อัพเดต Zero-Day นี้ของ Chrome เป็นครั้งที่ 4 ของปีนี้ โดยครั้งล่าสุดคือเดือนเมษายนในเวอร์ชัน 100
ที่มา: Bleeping Computer
กูเกิลประกาศอัพเดตบริการจัดการรหัสผ่าน Google Password Manager ให้หน้าตาเหมือนกันทุกแพลตฟอร์ม
ก่อนหน้านี้ กูเกิลมีแอพ Password Manager ที่หน้าตาคล้ายๆ กันแต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว (ซิงก์ข้อมูลกับบัญชี Google Account ได้เหมือนกันหมด) คือบนเว็บ (โดเมนเท่ๆ คือ passwords.google), บน Chrome และบนแอพ Settings ของ Android
ประกาศครั้งนี้คือแอพทุกเวอร์ชันจะปรับมาใช้หน้าตา Password Manager แบบเดียวกับเวอร์ชันเว็บ และมีฟีเจอร์ทัดเทียมกับเวอร์ชันเว็บ เช่น การแจ้งเตือนว่าใช้รหัสซ้ำ รหัสผ่านไม่แข็งแรง รวมถึงสามารถกดปุ่มเพิ่มรหัสผ่านใหม่โดยตรง แบบไม่ต้องเข้าหน้าเว็บก่อน
ถึงแม้ไม่ใช่แพลตฟอร์มหลัก แต่กูเกิลก็ยังเดินหน้าเพิ่มฟีเจอร์หลายอย่างให้ Chrome for iOS สำหรับคนที่ต้องการใช้เบราว์เซอร์เดียวข้ามทุกแพลตฟอร์ม
กูเกิลรายงานผลของการนำ Machine Learning มาใช้กับเบราว์เซอร์ Chrome รวมทั้งโครงการในอนาคต เพื่อให้เป็นเบราว์เซอร์ที่ปลอดภัย และปรับแต่งให้เข้ากับการใช้งานแต่ละคนมากยิ่งขึ้น
โดย Safe Browsing ฟีเจอร์แจ้งเตือนเว็บไซต์ที่อันตราย กูเกิลบอกว่าตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้ปรับปรุง ML ใหม่ ทำให้ตรวจจับเว็บไซต์ที่อันตรายได้มากขึ้น 2.5 เท่า
ส่วนต่อมาคือการปรับปรุงประสบการณ์ใช้งาน โดยเฉพาะ Web Notification ซึ่งในอัพเดตถัดไป Chrome จะเรียนรู้รูปแบบการโต้ตอบกับการขอแจ้งเตือนของเว็บไซต์ต่าง ๆ ของผู้ใช้งาน และบล็อกหรืออนุญาตอัตโนมัติในการถามครั้งถัดไปที่ระดับอุปกรณ์เลย