Cisco รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุดวันที่ 23 มกราคม 2021 รายได้รวมใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 11,960 ล้านดอลลาร์ มีกำไรสุทธิแบบ GAAP 2,545 ล้านดอลลาร์
กลุ่มสินค้า Infrastructure Platform รายได้ลดลง 3% ขณะที่กลุ่มสินค้า Security มีรายได้เพิ่มขึ้น 10% และรายได้ส่วน Services เพิ่มขึ้น 2% Cisco ระบุว่าผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้โดดเด่นในไตรมาสได้แก่ Catalyst 9000 และกลุ่มสวิตช์สำหรับศูนย์ข้อมูล
Scott Herren ซีเอฟโอ Cisco กล่าวว่ารายได้จากธุรกิจซอฟต์แวร์เติบโตในระดับเลขสองหลัก และมีทิศทางที่ดีเนื่องจากลูกค้าจ่ายเงินแบบ subscription มากขึ้น โดยคิดเป็น 76% ของรายได้ซอฟต์แวร์รวม
Cisco ประกาศหยุดขายผลิตภัณฑ์กลุ่ม AireOS คอนโทรลเลอร์จัดการเครือข่ายไร้สาย (Wireless LAN Controllers - WLC) ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 โดยจะถูกทดแทนด้วยผลิตภัณฑ์ใกล้เคียงกันคือ Cisco Catalyst Controllers ที่สามารถแทนที่ได้ทั้งหมด
Cisco บอกว่า AireOS อยู่กับเรามานาน 15 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวมาตั้งแต่ยุค 802.11n จนมาถึง Wi-Fi 6 ในปัจจุบัน แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ถึงเวลาต้องไป เพื่อเปิดทางให้กับอุปกรณ์ยุคใหม่ที่มีฟีเจอร์เหนือกว่า โดยแนะนำให้ลูกค้า AireOS เดิมหันมาใช้อุปกรณ์ซีรีส์ Catalyst 9800 แทน
ที่มา - Cisco
ซิสโก้เปิดตัวสวิตช์ตระกูลใหม่ Cisco Catalyst Micro Switches สวิตช์จิ๋วขนาดเพียง 4 พอร์ตแต่ยังคงฟีเจอร์ระดับองค์กร สำหรับลูกค้าที่เดินสายไฟเบอร์ไปทั่วทั้งอาคารแล้ว เพราะการวางเน็ตเวิร์ตแบบ Fiber-to-the-office (FTTO) หรือการเดินสายไฟเบอร์แบนวิดท์สูงไปทั่วอาคารช่วยลดปัญหาการจัดการด้วยการรวมสวิตช์กลางของอาคารไปไว้ที่เดียว
สวิตช์จิ๋วตระกูลใหม่มีขนาดเพียง 4 พอร์ตพอใช้งานสำหรับแต่ละห้อง แต่รองรับ SFP อีก 2 พอร์ตเพื่อรับสายไฟเบอร์หรือสายทองแดงเพิ่มเติม ทุกรุนรองรับการจ่ายไฟแบบ PoE+ (จ่ายไฟต่อเนื่องแม้สวิตช์รีบูต) รุ่นเดสก์ทอปนั้นจ่ายไฟผ่าน USB-C กำลังไฟ 60 วัตต์ได้อีกทางด้วย
Cisco เป็นบริษัทใหญ่อีกรายที่ออกมายอมรับว่า ได้รับผลกระทบจากไบนารีของ SolarWinds โดนสับเปลี่ยน โดยบอกว่าตรวจพบไบนารีที่ฝังมัลแวร์ในเครือข่ายของ Cisco จริง แต่มีเป็นจำนวนน้อย ถูกแก้ไขโดยเร็ว และไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อผลิตภัณฑ์ของ Cisco ที่ส่งให้ลูกค้า
Reuters อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับ Cisco ระบุว่าเครื่องที่ตรวจพบมัลแวร์มีประมาณ 50 เครื่องเท่านั้น และเป็นเครื่องที่ใช้ในห้องแล็บ
ศาลแขวงสหรัฐฯ ตัดสินโทษ Sudhish Kasaba Ramesh อดีตพนักงานของซิสโก้ที่ลาออกไปเมื่อเดือนเมษายน 2018 แต่กลับถือสิทธิ์เข้าถึงบัญชี AWS ของซิสโก้เอาไว้ และใช้สิทธิ์นั้นลบเซิร์ฟเวอร์ 456 เครื่องออกจากระบบเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2018 จนทำให้บัญชี WebEx Team ของบริษัทกว่า 16,000 บริษัทใช้งานไม่ได้ สร้างความเสียหายรวม 2,400,000 ดอลลาร์ ศาลตัดสินโทษปรับ 15,000 ดอลลาร์และจำคุกสองปี
Cisco จัดงาน WebexOne ประกาศฟีเจอร์ชุดใหญ่ใน Webex มีทั้งที่เปิดใช้งานแล้ว และที่กำลังจะตามมาในแอปพลิเคชั่นอีกในอนาคต ดังนี้
ฟีเจอร์ที่เปิดใช้งานแล้ว
ทิพยประกันภัยจับมือ Cisco เสนอแผนประกันภัยไซเบอร์การ์ดพลัส TIP Cyber Guard Plus Powered by Cisco เจาะกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กถึงกลางที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 900 ล้านบาท โดยมี Cisco มาช่วยออกแบบ แบบสอบถามประเมินความเสี่ยงด้านไอทีของธุรกิจนั้นๆ
แผนประกัน TIP Cyber Guard Plus Powered by Cisco ครอบคลุมความเสียหายต่อไปนี้
Cisco ประกาศซื้อกิจการ Slido ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมหรือการประชุมออนไลน์ โดยไม่มีการเปิดเผยมูลค่าของดีลดังกล่าว Cisco ระบุว่าจะนำเทคโนโลยีของ Slido มาเพิ่มเป็นฟีเจอร์ในแพลตฟอร์มสำหรับการประชุม WebEx
Slido มีผู้ใช้งานราว 7 ล้านคนต่อเดือน เป็นแพลตฟอร์มสำหรับสร้างปฏิสัมพันธ์ในอีเวนต์หรือการประชุมแบบเรียลไทม์ทั้งก่อน-ระหว่าง-หลังกิจกรรม ผ่านเครื่องมือต่าง ๆ อาทิ แบบสำรวจ ระบบถาม-ตอบ เกมตอบปัญหา ฯลฯ
ในวันเดียวกัน Cisco ยังประกาศซื้ออีกหนึ่งกิจการคือ IMImobile ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับพัฒนาประสบการณ์ลูกค้าสำหรับลูกค้าองค์กรจากประเทศอังกฤษ เพื่อเพิ่มการติดต่อผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยดีลดังกล่าวมีมูลค่าราว 730 ล้านดอลลาร์
Cisco รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุดวันที่ 24 ตุลาคม 2020 รายได้รวม 11,929 ล้านดอลลาร์ ลดลง 9% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิ 2,174 ล้านดอลลาร์
กลุ่มธุรกิจ Infrastructure Platform ซึ่งเป็นรายได้ส่วนใหญ่ของ Cisco มีรายได้ลดลง 16% จากการลดการใช้จ่ายของลูกค้าองค์กร อย่างไรก็ตาม Cisco เห็นการเติบโตต่อเนื่องจากสินค้าตระกูล Catalyst 9K และ WebEx ตลอดจนผลิตภัณฑ์โซลูชันความปลอดภัยเพื่อรองรับการทำงานจากที่บ้าน
Chuck Robbins ซีอีโอ Cisco กล่าวว่าบริษัทเห็นโอกาสอีกมากข้างหน้า เนื่องจากทุกบริษัท ทุกอุตสาหกรรม ต่างเร่งปรับยุทธศาสตร์เป็นดิจิทัลนำหน้า (digital-first)
ซิสโก้ออกประกาศแจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2020-3556 ของโปรแกรม AnyConnect Secure Mobility เวอร์ชั่นเดสก์ทอปทั้งวินโดวส์, ลินุกซ์, และแมค โดยช่องโหว่ยังไม่มีแพตช์แต่ทางซิสโก้แจ้งเตือนออกมาเนื่องจากมีโค้ดตัวอย่างออกมาสู่สาธารณะแล้ว
ช่องโหว่เกิดจากการเชื่อมต่อระหว่างโปรเซส (interprocess communication) ที่คนร้ายที่รันโปรแกรมบนเครื่องอยู่แล้วสามารถยิงข้อมูลที่ออกแบบเฉพาะเข้าไปยัง AnyConnect เพื่อรันสคริปต์ได้
ตอนนี้ยังไม่มีแพตช์และช่องทางแก้ไข แต่ซิสโก้แนะนำแนวทางลดความเสี่ยง เช่น การปิดฟีเจอร์ AutoUpdate และปิดคอนฟิก Enable Scripting จะช่วยลดโอกาสการโจมตี นอกจากนี้หากองค์กรมีการควบคุมการติดตั้งซอฟต์แวร์ลงบนเครื่องให้จำกัดเฉพาะซอฟต์แวร์ที่น่าเชื่อถือก็ลดความเสี่ยงได้
ซิสโก้ประกาศรวบโครงการพาร์ทเนอร์ที่ช่วยอิมพลีเมนต์โซลูชั่นให้ลูกค้า โดยจัดเป็น 3 ระดับเหมือนเดิมแต่เหลือ 4 โครงการหลัก ได้แก่
ซิสโก้เปิดตัว SecureX แพลตฟอร์มความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ในงาน Partner Summit ปีนี้บริษัทก็ประกาศขยายความสามารถพร้อมกับอินทิเกรตกับสินค้าตัวอื่นๆ ของซิสโก้เอง ได้แก่ ระบบยืนยันตัวตน Duo, Cisco Secure Cloud Analytics, Cisco SD-WAN, และ Secure VPN
ความสามารถของตัว SecureX เองเพิ่มฟีเจอร์ Extended Detection and Response (XDR) รองรับ workflow สำหรับตอบสนองต่อเหตุการณ์ความมั่นคงปลอดภัยเน็ตเวิร์คได้ในตัว โดยมี workflow สำเร็จรูปมาแล้วบางส่วน และสามารถสร้างใหม่ได้ด้วยหน้าจอแบบ drag-and-drop ไม่ต้องเขียนโค้ด
ซิสโก้เปิดตัว Webex Legislate ระบบประชุมออนไลน์เฉพาะทางที่ขยายมาจาก Webex แต่เน้นการประชุมสำคัญ เช่นการประชุมสภาเพื่อผ่านกฎหมายของรัฐบาลระดับต่างๆ พร้อมระบบลงคะแนนที่แต่ละรัฐจะมีเงื่อนไขต่างกันไป
Webex Legislate มีระบบยืนยันตัวตนมากกว่า เช่น รองรับการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน, มีระบบห้องล็อบบี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ยืนยันตัวตนก่อนเข้าประชุม, มีระบบตรวจสอบย้อนกลับ (chain of custody) การลงคะแนน รวมถึงการลงคะแนนแบบลับไม่เปิดเผยตัวตน และระบบลงคะแนนเฉพาะทาง (customized voting)
บริการนี้ซิสโก้พัฒนาร่วมกับบริษัท Davra ที่เป็น systems integrator ในไอร์แลนด์ โดยซิสโก้โชว์ว่าสินค้าตัวนี้เป็นผลจากการใช้ Webex SDK ไปต่อยอดบริการใหม่
Cisco ประกาศเข้าซื้อกิจการ PortShift บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติอิสราเอลที่พัฒนาแพลตฟอร์มด้านความปลอดภัยบน Kubernetes เพื่อขยายพอร์ตของบริษัทในด้านโซลูชั่นความปลอดภัย
PortShift เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ทางบริษัทเคยระดมทุนจาก Team8 ได้มูลค่าสูงสุดถึง 5.3 ล้านดอลลาร์ ผลิตภัณฑ์ของ PortShift คือเครื่องมืสำหรับการทำให้เห็นคอนฟิกในตัวคอนเทนเนอร์, จัดการช่องโหว่, จัดการคอนฟิก, การเข้ารหัส และอื่น ๆ ที่ครอบคลุมด้านความปลอดภัยของ Kuberntes ในหลายแง่มุม
PortShift จะเข้ามาเติมเต็มพอร์ตของผลิตภัณฑ์ Cisco ในด้านความปลอดภัย โดยกลุ่มลุกค้าหลักของ PortShift จะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับ DevOps และโลกของการจัดการคอนเทนเนอร์
Cisco ประกาศเพิ่มฟีเจอร์หลายอย่างให้ Webex โดยเฉพาะในยุค work from home ที่เน็ตบ้านอาจไม่ดีเท่าที่ทำงาน
Cisco บอกว่าแอพประชุมทางวิดีโอหลายตัวอาจใช้งานไม่ได้ หากแพ็กเกตข้อมูลสูญหายถึงระดับ 50% แต่ Webex ยังสามารถเอาตัวรอดได้ด้วยเทคนิคหลายอย่าง เช่น เลือกส่งเฉพาะแพ็กเกตของส่วนสำคัญในวิดีโอ (ใบหน้า แทนที่จะเป็นพื้นหลัง) หรือ ปิดโหมด grid view ชั่วคราวหากพบว่าแบนด์วิดท์ต่ำ แทนที่จะแสดงหน้าของเพื่อนร่วมประชุมเข้าๆ ออกๆ ตามสัญญาณเน็ต ก็ปรับวิธีการแสดงผล ลดจำนวนสตรีมวิดีโอที่แสดง เพื่อให้การพูดคุยราบรื่นขึ้น
จากงานแถลงข่าว Cisco ลงนามความร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ มช. พัฒนา Telehealth ผู้สื่อข่าวได้ถามเพิ่มเติมกรณีโรงพยาบาลสระบุรีถูก Ransomware โจมตี ผศ.นพ. ภาสกร สวัสดิรักษ์ รอง ผอ. โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เผยว่า ช่วงปลายปี 2019 ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลเองก็เคยถูก Ransomware โจมตีเช่นกัน แต่ไม่เกิดความเสียหายใดๆ ในตอนนั้น
Cisco ลงนามความร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่พัฒนาวัตกรรมด้านสาธารณสุขและเทคโนโลยีทางการแพทย์ ประกอบด้วยสองส่วนสำคัญคือ พัฒนาระบบดิจิทัลเฮลท์แคร์ให้กับผู้ใช้บริการและบุคลากรการแพทย์ในรูปแบบโรงพยาบาล และ พัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อการรักษาและการสาธารณสุข มุ่งหวังว่าจะรองรับผู้ป่วยจากทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือได้
ซิสโก้ประกาศเข้าซื้อ BabbleLabs บริษัทวิจัยประมวลผลเสียงเพื่อปรับปรุงคุณภาพการประชุมออนไลน์ โดยเตรียมจะนำเทคโนโลยีของ BabbleLabs มาให้บริการบนแพลตฟอร์มต่างๆ โดยเฉพาะบริการประชุมออนไลน์ WebEx ภายในปีนี้
BabbleLabs เป็นบริษัทวิจัยปัญญาประดิษฐ์สำหรับแยกเสียงรบกวนต่างๆ ออกจากเสียงพูด ตัดเสียงรบกวนทั้งเสียงรถหรือเสียงคีย์บอร์ดไม่ให้เข้าไปในห้องประชุม โดยตัวปัญญาประดิษฐ์สามารถรันบนเครื่องไคลเอนต์ได้โดยตรงไม่ต้องพึ่งคลาวด์ โดยก่อนซิสโก้เข้าซื้อทาง BabbleLabs ก็ขายซอฟต์แวร์เป็น SDK สำหรับบริการประชุมออนไลน์อยู่แล้ว
ซิสโก้ประกาศผลประกอบการไตรมาสสี่ของปีบัญชี 2020 ที่สิ้นสุดเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยรายได้รวมลดลง 9% เหลือ 12.2 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ทั้งปีรายได้ลดลง 5% เหลือ 49.3 พันล้านดอลลาร์ แต่กำไรไตรมาสสี่เพิ่มขึ้นถึง 19% เป็น 2.6 พันล้านดอลลาร์
ธุรกิจที่กระทบหนักที่สุดคือกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Platform) ที่รายได้ลดลงถึง 16% เหลือ 6,626 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้ฝั่งธุรกิจความมั่นคงปลอดภัยเติบโตถึง 10% เป็น 814 ล้านดอลลาร์
ฟีเจอร์เบลอหรือเปลี่ยนภาพฉากหลัง เริ่มนิยมขึ้นมาจาก Zoom ส่งผลให้คู่แข่งอย่าง Microsoft Teams และ Google Meet ต้องทำตาม
ล่าสุด คู่แข่งอีกรายคือ Cisco Webex หันมาทำตามบ้างแล้ว รองรับทั้งการเบลอฉากหลังและเปลี่ยนภาพพื้นหลัง ใช้ได้กับทั้งบน Windows, Mac, iOS, Android
ซิสโก้เปิดตัว SecureX บริการคลาวด์ที่เป็นแพลตฟอร์มความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์มาตั้งแต่งาน RSA Conference เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตอนนี้ทางบริษัทก็ระบุว่า SecureX พร้อมให้บริการจริงตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป
SecureX เป็นบริการคลาวด์ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของซิสโก้ได้ทั้งหมด พร้อมกับความสามารถในการเชื่อมต่อกับบริการด้านความมั่นคงปลอดภัยอื่นๆ อีกนับร้อยรายการ โดยสามารถสร้าง playbook สำหรับตอบสนองต่อความผิดปกติในเครือข่ายได้ โดยรวมนับว่าฟีเจอร์ต่างๆ ใกล้เคียงกับ Splunk อย่างมาก
ซิสโก้รายงานถึงการใช้งานบริการ Webex ในงาน Cisco Live ที่เป็นงานแถลงข่าวออนไลน์ของบริษัท โดยระบุว่าผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เฉพาะเดือนเมษายนที่ผ่านมามีการประชุมถึง 500 ล้านคนรวม 25,000 ล้านนาที มากกว่าสามเท่าตัวของการใช้บริการเฉลี่ยที่ผ่านมา และตอนนี้ทางซิสโก้ก็ขยายระบบที่สามเท่าตัวจากปกติ
วันนี้เองทางซิสโก้ก็ส่งอีเมลไปยังผู้ใช้บริการฟรี ระบุว่าเดือนนี้จะเป็นเดือนสุดท้ายที่ให้บริการฟรีแบบไม่จำกัดเวลา และเดือนกรกฎาคมนี้จะจำกัดระยะเวลาประชุมเหลือ 50 นาที และไม่รองรับการโทรศัพท์เข้าร่วมประชุมอีกแล้ว โดยผู้ที่ใช้งานอยู่เดิมสามารถสมัครแบบเสียเงินได้ต่อไปโดยแพ็กเกจรายปีจะลดราคาลง 33%
Cisco เป็นบริษัทล่าสุดที่ประกาศเลื่อนงานอีเวนต์ออกไป โดยงานใหญ่ประจำปี Cisco Live! 2020 ที่ต้องเลื่อนมาเป็นงานออนไลน์จากปัจจัย COVID-19 ก็ต้องเลื่อนอีกรอบเนื่องจากปัญหาประท้วงในสหรัฐอเมริกา
Cisco ให้เหตุผลของการเลื่อนงานว่ามาจากสถานการณ์ยังไม่เหมาะ และยังไม่ประกาศว่าจะจัดงาน Cisco Live! 2020 เมื่อไร บอกเพียงว่าจะจัดภายในเดือนนี้
Chuck Robbins ซีอีโอของ Cisco บอกว่าการตัดสินใจเลื่อนงานเป็นสิ่งที่เหมาะสม เขาอยากให้พนักงาน พาร์ทเนอร์ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีเวลาหยุดคิดถึงสถานการณ์ที่เป็นอยู่
หลังรัฐบาลสหรัฐใส่ชื่อ Huawei เข้าไปใน Entity List บริษัทที่รัฐบาลกังวลในประเด็นด้านความมั่นคงและบริษัทสหรัฐจะต้องขอใบอนุญาตก่อนเพื่อทำธุรกิจด้วย ล่าสุด The Global Times รายงานอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่า รัฐบาลจีนเตรียมจะทำแบบเดียวกับบริษัทสหรัฐแล้ว
บริษัทสหรัฐที่มีรายชื่อว่าน่าจะโดนมาตรการนี้คือ Apple, Cisco, Qualcomm และ Boeing ซึ่งอาจจะทั้งโดนสอบสวนและอยู่ในรายชื่อบริษัทที่ไม่น่าไว้ใจ (unreliable entity list)
ทั้งนี้ The Global Times อยู่ในเครือของ People's Daily ซึ่งเป็นสื่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
Cisco รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2020 (กุมภาพันธ์-เมษายน) รายได้รวม 11,983 ล้านดอลลาร์ ลดลง 8% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,774 ล้านดอลลาร์
Chuck Robbins ซีอีโอ Cisco ระบุว่าสถานการณ์โรคระบาด ทำให้องค์กรทั่วโลกต้องปรับการทำงานมาเป็นดิจิทัลมากขึ้น และสนับสนุนการทำงานแบบรีโมทให้ได้ความเร็วและรองรับผู้ใช้งานมากที่สุดเท่าที่มีมา Cisco จึงโฟกัสไปที่การนำเทคโนโลยีและโซลูชันมาตอบสนองความต้องการลูกค้านี้
กลุ่มธุรกิจหลัก Infrastructure Platform ที่เป็นการขายอุปกรณ์เครือข่าย รายได้ลดลง 15% เป็น 6,429 ล้านดอลลาร์ สาเหตุหลักจากปัญหาการผลิต และการขาดแคลนชิ้นส่วน ส่วน WebEx ที่เปิดให้ทดลองใช้งาน Cisco มองว่าเป็นโอกาสสร้างรายได้ในอนาคต