The Walt Disney Company
Blognone มีข่าวเรื่องการนำอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน มาใช้งานก็หลายข่าว สำหรับข่าวนี้เป็นการนำโดรนมาใช้งานด้านความบันเทิง ที่ทำให้เห็นว่าโดรนสามารถต่อยอดไปได้ไกลกว่าที่คิดครับ
Disney ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตร 3 รายการที่เกี่ยวข้องกับโดรน ซึ่งทั้งสามสิทธิบัตรนี้ทำให้เห็นว่า Disney กำลังศึกษาการนำโดรนมาใช้ประกอบการแสดงเพื่อความบันเทิงในสวนสนุก Disneyland ที่อาจยกระดับโชว์ไปอีกขั้น สิทธิบัตรทั้งสามประกอบด้วย
Disney Research ได้เผยแพร่ผลงานการวิจัยใหม่ ว่าด้วยเรื่องของซอฟต์แวร์ที่ช่วยตัดต่อคลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายจากกล้องหลายตัวเข้าเป็นคลิปเดียวกัน
ซอฟต์แวร์ที่ Disney Research พัฒนาขึ้นมานี้ สามารถนำคลิปจากกล้องหลายตัวที่บันทึกภาพเหตุการณ์เดียวกันจากหลายมุมมองเข้าเป็นคลิปเดียวกัน โดยมันจะเลือกเอาภาพที่ดีจากกล้องแต่ละตัวในแต่ละขณะมาประกอบกัน ทั้งยังสามารถตัดภาพแบบซูมเจาะเฉพาะส่วนที่สำคัญในแต่ละขณะได้ด้วย
จากความโด่งดังของตุ๊กตาซีรีย์ใหม่ของดิสนีย์ในญี่ปุ่น ไปสู่เกมพัซเซิลน่ารักๆ ที่ครองใจชาวญี่ปุ่นด้วยยอดดาวน์โหลดมากกว่า 20 ล้านครั้งของเกม LINE: Disney Tsum Tsum (อ่านว่า ซูม ซูม) วันนี้ LINE ประเทศไทย จับมือกับ Disney เปิดตัวเกมนี้ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว
LINE: Disney Tsum Tsum เป็นเกมพัซเซิลที่เล่นง่ายๆ ด้วยการลากตุ๊กตาตัวละครของ Disney เรียงกันเพื่อทำลายเก็บแต้ม โดยจะมีตุ๊กตาที่เรียกว่า Tsum Tsum ตกลงมาตั้งกันเรื่อยๆ ตามคำแปลของ Tsum ที่หมายถึงการทับกันนั่นเอง โดยตุ๊กตาที่มีให้เล่นในเกมนี้ก็มีขายจริงๆ อยู่ในร้านค้าของ Disney มากกว่าสามสิบแบบด้วยกันอีกด้วย
เชื่อว่าในที่นี่ต่างก็รู้จักหนังเรื่อง Frozen จากค่าย Disney เป็นอย่างดี (แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก ขอเล่าสั้น ๆ ว่าเป็นหนังแอนนิเมชั่นเกี่ยวกับเรื่องราวของราชินี Elsa ที่สาปเมืองของตัวเองให้เป็นน้ำแข็ง เพราะแค่เรื่องของความรักอย่างเดียว ไม่อยากสปอยเยอะเดี๋ยวไม่สนุก) และดูเหมือนว่ากระแสของหนังเรื่องนี้ค่อนข้างดังมากในญี่ปุ่น และหนังเรื่องนี้ค้างอยู่ที่ 1 ใน box office ของญี่ปุ่นยาวนานถึง 16 สัปดาห์ติดต่อกันเลยทีเดียว (เมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาที่ระยะเวลาเท่ากัน แต่ติดแค่ใน 10 อันดับแรกเท่านั้น)
พิกซาร์ซึ่งเป็นสตูดิโอแอนิเมชันที่หลายๆ คนรู้จักกันดี ได้ประกาศปรับราคาค่าใช้งานโปรแกรม RenderMan ที่เป็นตัวเรนเดอร์ยอดนิยมในวงการวิชวลเอฟเฟค ภาพยนตร์และแอนิเมชันทั่วโลกจากเดิมที่มีราคาสูงกว่า 1000 เหรียญ เหลือเพียง 495 เหรียญต่อหนึ่งไลเซนส์ นอกจากนี้ยังอนุญาตให้ผู้สนใจใช้งานได้ฟรีสำหรับงานแบบไม่ใช้เพื่อการค้า เช่น ทดลองใช้ การศึกษา การพัฒนาปลั๊กอิน และงานวิจัย เป็นต้น โดยจะเริ่มใช้ราคาใหม่นี้หลังการเปิดตัว RenderMan เวอร์ชันใหม่ในงานประชุมวิชาการ SIGGRAPH 2014 ที่กำลังจะถึงนี้
ผลงานล่าสุดของ Disney Research ในตอนนี้คือการทดลองสร้างตุ๊กตาหมีจากวัสดุสิ่งทอโดยใช้เทคนิคการพิมพ์ 3 มิติ
ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าการพิมพ์ แต่การทดลองวิจัยในครั้งนี้ไม่ได้ใช้การพ่นเนื้อวัสดุเพื่อขึ้นรูป หากแต่เป็นการถักทอเส้นด้ายต่อกันทีละน้อยทีละชั้น จนได้เป็นวัตถุมีรูปทรงตามต้องการ (ตัวอย่างเช่นตุ๊กตาหมี) ซึ่งชิ้นงานที่ได้ก็จะมีรูปทรงตามแบบที่วาดไว้ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หากแต่สิ่งที่ต่างออกไปจากผลงานการพิมพ์ 3 มิติทั่วไป คือแทนที่จะได้ชิ้นงานซึ่งมีความแข็งเกร็ง ก็จะได้ชิ้นงานที่มีความยืดหยุ่นและมีผิวสัมผัสที่อ่อนนุ่มนั่นเอง
Disney ประกาศว่า Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้งของทวิตเตอร์และระบบจ่ายเงินผ่านมือถืออย่าง Square ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของ Disney อย่างเป็นทางการแล้ว โดย Disney ระบุว่า Dorsey จะทำงานในตำแหน่ง กรรมการอิสระ และมีผลในทันที
ทั้งนี้ Dorsey บอกว่า เขารู้สึกยินดีที่ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของ Disney บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ไร้กาลเวลา และเป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตได้ด้วยการเรียนรู้ และคำชื่นชม
ต้องดูต่อไปว่า เมื่อ Dorsey เข้ามาเป็นคณะกรรมการของ Disney แล้ว บริษัทจะเปลี่ยนแปลงในด้านเทคโนโลยีในทิศทางใด
ข่าวนี้อาจแสดงให้เห็นถึงอนาคตของรายการทีวีที่เริ่มย้ายขึ้นมาอยู่บนโลกออนไลน์ครับ
ค่ายการ์ตูนฝรั่ง Marvel (ปัจจุบันเป็นบริษัทลูกของ Disney) ประกาศว่าจะทำซีรีส์การ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ของตัวเอง 4 เรื่อง เพื่อฉายเฉพาะบนบริการดูหนังออนไลน์ Netflix เท่านั้น โดยจะเริ่มฉายในปี 2015 เป็นต้นไป
ฮีโร่ของ Marvel ที่จะได้ไปอยู่บน Netflix คือ Daredevil, Jessica Jones, Iron Fist, Luke Cage โดยซีรีส์หนึ่งจะมีความยาว 13 ตอน ฉายต่อๆ กันไปเป็นเวลาหลายปี และจะมีมินิซีรีส์รวมฮิตซูเปอร์ฮีโร่อีกหนึ่งภาคด้วย
ผลงานวิจัยใหม่ของ Disney Research เป็นการพัฒนาหน้าจอสัมผัส ที่นอกจากจะใช้แสดงภาพแล้ว ยังสามารถถ่ายทอดผิวสัมผัสของวัตถุตามที่ปรากฏบนหน้าจอให้ผู้ใช้รับรู้ผ่านปลายนิ้วได้ด้วย
ผลงานนี้มุ่งเน้นการสร้างผิวสัมผัสที่แตกต่างกันในแต่ละส่วนของหน้าจอ โดยพื้นที่ซึ่งให้ผิวสัมผัสที่แตกต่างกันนั้นจะแปรเปลี่ยนตามภาพที่ฉายอยู่บนหน้าจอนั้น โดยเทคนิคที่ Disney นำมาใช้คือการปล่อยแรงดันไฟฟ้าเพื่อสร้างการสั่นสะเทือนให้แก่หน้าจอซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียดทานขึ้นที่ปลายนิ้วของผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้เกิดความรู้สึกเสมือนได้สัมผัสวัตถุในภาพ ทั้งนี้แรงสั่นสะเทือนที่แตกต่างกันจะมีผลให้ความเสียดทานที่เกิดขึ้นมามีความแตกต่างกันออกไปด้วย จึงสามารถถ่ายทอดผิวสัมผัสของวัตถุที่มีความลึกหลากหลายได้
Disney เปิดตัวเกม Where's My Water? ภาค 2 บนแพลตฟอร์ม iOS, Windows 8 และ Windows Phone 8 ซึ่งในคราวนี้ Disney จะเปิดให้ดาวน์โหลดตัวเกมฟรี (แต่มี in-app purchase แทน)
สำหรับตัวเกมนั้น เราสามารถเล่นจากด่านของ 3 ตัวละครหลักทั้ง Swampy, Allie และ Chanky ซึ่งตัวเกมแทบไม่ต่างจากเดิม แต่จะเพิ่มด่านใหม่อย่าง Duck Rush เกมขุดดินให้น้ำไหลไปให้เร็วที่สุด, Challenge Mode ด่านท้าทายต่าง ๆ เช่น ห้ามให้เป็ดโดนน้ำ หรือแม้แต่ด่าน Mystery Duck ด่านใหม่ ซึ่งทุกด่านมี power-up สำหรับเพิ่มความสามารถเพื่อให้เราสามารถผ่านด่านไปได้
Disney Research ได้พัฒนา AIREAL อุปกรณ์ตัวต้นแบบซึ่งเป็นปืนพ่นลม ที่สามารถพ่นอากาศให้ไปกระทบผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดความรู้สึกทางประสาทสัมผัสสอดคล้องกับตำแหน่งและทิศทางของวัตถุเสมือนจริงในโลกคอมพิวเตอร์
AIREAL เป็นปืนพ่นลมที่มีลักษณะคล้ายหีบเพลงที่ยืดและหดตัวได้โดยมีจุดเด่นสามารถหันทิศทางการพ่นลมได้เป็นมุมกว้าง ใช้ชิ้นส่วนที่สร้างขึ้นด้วยการพิมพ์ 3 มิติเป็นส่วนใหญ่ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเติมเต็มการตอบสนองและสร้างการรับรู้ผ่านทางประสาทสัมผัสให้แก่ผู้ใช้ โดยจะทำงานสัมพันธ์กับคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมมันอยู่
Disney เผยงานวิจัยในการสร้างภาพเสมือนของวัตถุหรือทิวทัศน์ในแบบ 3 มิติได้โดยอาศัยข้อมูลภาพถ่าย 2 มิติของวัตถุหรือทิวทัศน์นั้นๆ ซึ่งจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการสร้างวัตถุเสมือนจริงในการผลิตเกมและภาพยนตร์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
อัลกอริทึมที่ Disney พัฒนานี้ จะพิจารณาภาพถ่ายวัตถุหรือทิวทัศน์ เพื่อทำการวัดความลึกของวัตถุต่างๆ ในภาพนั้น โดยอ้างอิงจากแสงที่ตกกระทบวัตถุดังกล่าว จากนั้นก็ใช้การทำงานด้วยซอฟต์แวร์สร้างภาพเสมือนของวัตถุจากภาพถ่ายในรูปแบบ 3 มิติที่มีความลึกแตกต่างกันตามที่วัดได้ ทั้งนี้สามารถใช้ภาพถ่ายจากมุมมองที่แตกต่างกันเพื่อเสริมข้อมูลพื้นผิวแก่วัตถุที่อยู่ลึกและโดนบดบังโดยวัตถุอื่นได้ด้วย
Disney ในฐานะเจ้าของรายใหม่ของแบรนด์ Star Wars ประกาศข้อตกลงกับค่ายเกม Electronic Arts โดย EA จะได้สิทธิทำเกมตระกูล Star Wars แต่เพียงผู้เดียว (exclusive) เป็นเวลาต่อเนื่องหลายปี (ไม่ระบุว่ากี่ปี)
ตอนนี้ยังมีรายละเอียดของข้อตกลงนี้ไม่เยอะนัก แต่ทาง EA ระบุชื่อค่ายลูกที่จะเข้ามาทำเกม Star Wars ได้แก่ BioWare, DICE, Visceral
ค่าย BioWare เคยมีประวัติทำเกม Star Wars มาบ้างแล้ว เช่น Knights of the Old Republic และ The Old Republic ส่วนค่าย DICE ในฐานะผู้พัฒนาเกมดังตระกูล Battlefield คงถูกจับตามองเป็นอย่างมากเมื่อมาทำเกม Star Wars
หลังจาก Disney ควัก 4 พันล้านดอลลาร์ซื้อ Lucasfilm ครอบครองสิทธิความเป็นเจ้าของ Star Wars ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว อนาคตของบริษัทลูกอย่าง LucasArts ก็ถูกตั้งคำถามว่าจะเป็นอย่างไรต่อ
ล่าสุด Disney ออกมาประกาศแล้วว่าจะวางตำแหน่ง LucasArts ในฐานะ "ผู้จัดจำหน่าย" (publisher) เกมตระกูล Star Wars โดยใช้วิธีจ้างสตูดิโอเกมภายนอกพัฒนาตัวเกม (แบบเดียวกับที่ LucasArts ให้ BioWare ทำเกมตระกูล The Old Republic)
Disney จับมือกับค่าย Imangi Studios เจ้าของเกมตระกูล Temple Run ออกเกมเวอร์ชันพิเศษสำหรับภาพยนตร์เรื่อง Oz ที่กำลังเข้าฉายอยู่ในขณะนี้
เกมใหม่นี้ชื่อว่า Temple Run: Oz ถือเป็นเกม Temple Run ที่ปรับตัวละครและฉากให้เข้ากับหนัง ซึ่งก่อนหน้านี้ Disney กับ Imangi ก็เคยร่วมกันทำเกม Temple Run: Brave สำหรับภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Brave มาแล้ว
Temple Run: OZ มีให้เล่นทั้งบน iOS และ Android ราคา 0.99 ดอลลาร์เท่ากันทั้งสองแพลตฟอร์ม
ที่มา - @TempleRun, Android Guys
Disney เปิดตัว "โครงการเกม" ใหม่ในชื่อ Disney Infinity อธิบายแบบสั้นๆ มันคือการเอาตุ๊กตาหรือหุ่นของ Disney/Pixar มาเล่นร่วมกันบนวิดีโอเกมดิจิทัล
การเล่น Disney Infinity จะต้องซื้อชุด "Play Set" โดยหนึ่ง Play Set ประกอบด้วยตัวละคร ผู้ร้าย เนื้อเรื่อง ฉากหลัง ปริศนาในเกม ฯลฯ ผู้เล่นสามารถซื้อ Play Set แล้วนำไปวางบน "ฐาน" เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับวิดีโอเกมในเนื้อเรื่องของ Play Set นั้นๆ
แต่จุดเด่นของเกมชุดนี้คือการนำ Play Set หลายชุดมาเล่นร่วมกัน (Disney เรียกโหมด Toy Box) ทำให้เราสามารถนำตัวละครจากต่างซีรีส์มาผจญภัยร่วมกันได้ รองรับการเล่นร่วมกันสูงสุด 4 ผู้เล่นพร้อมกัน
ราว 2 สัปดาห์ก่อน Disney ได้ยื่นคำขอจดสิทธิบัตรเทคนิคการแสดงผล augmented reality แบบ 3 มิติ ซึ่งคาดกันว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการทำเครื่องเล่นเกมที่ชื่อ Toy Box
ในคำบรรยายของสิทธิบัตร อธิบายเทคนิคใหม่นี้ว่าเป็นการสร้างภาพเสมือน 3 มิติโดยอาศัยภาพจริงจากกล้องในหลายมุมมอง โดยแสดงผลแบบต่อเนื่อง เช่น เมื่อผู้ใช้มองแก้วกาแฟบนโต๊ะผ่านทางกล้องของอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีนี้ จะมองเห็นแก้วดังกล่าวเป็นตัวการ์ตูนและสามารถเคลื่อนไหวได้
นอกจากนี้ในคำขอจดสิทธิบัตรดังกล่าว มีภาพประกอบเป็นเครื่องเล่นเกมแบบพกพา จึงทำให้มีการคาดกันว่า Disney เตรียมใช้งานเทคโนโลยีใหม่นี้ร่วมกับเครื่องเล่นเกม Toy Box ที่ Disney กำลังพัฒนาอยู่
สิ้นสุดการรอคอย เพราะว่าเกมชื่อดังบนแพลตฟอร์ม iOS และ Android จากค่ายดิสนีย์อย่าง Where's My Water และ Where's My Perry ได้ขยายแพลตฟอร์มสู่ Windows Phone เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคราวนี้สามารถเล่นได้เฉพาะ Windows Phone 8 อีกแล้วครับท่าน
แอพตัวนี้ไม่ต้องการ Xbox LIVE สามารถดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ในราคา 35 บาททั้ง Where's My Water และ Where's My Perry สามารถลองก่อนซื้อได้เฉพาะ Where's My Water ครับ
Disney Research เผยวิดีโอการทดลองควบคุมหุ่นยนต์ให้โต้ตอบโยน-รับลูกบอลกับมนุษย์ได้สำเร็จ โดยใช้ Kinect และกล้องถ่ายภาพของ Asus เป็นตัวตรวจสอบตำแหน่งของมนุษย์และลูกบอล
หุ่นยนต์ดังกล่าว รับสัญญาณจาก Kinect และกล้อง Asus Xtion Pro Live เพื่อระบุตำแหน่งศีรษะของมนุษย์ และตำแหน่งของลูกบอล จากนั้นจึงขยับแขนกลและส่วนต่างๆ เพื่อเคลื่อนไหวตอบโต้กับตำแหน่งของมนุษย์และลูกบอลที่ตรวจจับได้
ถ้าใครตกข่าวอาจต้องย้อนไปอ่าน ดิสนีย์ซื้อกิจการ Lucasfilm ได้สิทธิ์การสร้าง Star Wars ไตรภาคที่สาม สรุปง่ายๆ คือดิสนีย์กลายเป็นเจ้าของแบรนด์ Star Wars อย่างสมบูรณ์แล้ว
ดิสนีย์ประกาศตัวชัดเจนว่าจะทำภาพยนตร์ Star Wars ภาคต่อ ส่วนฝั่งของเกม Star Wars (ที่ปกติเป็นงานของ LucasArts ที่อยู่ใต้ Lucasfilm อีกทีหนึ่ง) ทางซีอีโอของดิสนีย์ Bob Iger ออกมาประกาศแผนแล้วเช่นกันว่าจะไม่เน้นเกมคอนโซลมากนัก และจะเน้นไปที่ตลาดมือถือหรือโซเชียลเน็ตเวิร์คให้มากขึ้น เหตุผลของดิสนีย์คือ Star Wars เน้นขายคาแรกเตอร์และการเล่าเรื่อง ซึ่งเหมาะกับเกมมือถือหรือโซเชียลมากกว่า
ผลงานวิจัยจาก Disney Research นี้มีชื่อว่า **Capacitive Fingerprinting** ซึ่งเป็นระบบจำแนกบุคคลสำหรับอุปกรณ์ที่มีหน้าจอสัมผัส แม้จะใช้ชื่อดังกล่าวแต่งานนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับลายนิ้วมือเลย
เทคโนโลยีใหม่นี้พัฒนาจากความสามารถของระบบ [Touché](http://www.blognone.com/node/32285) โดยอาศัยการปล่อยคลื่นแรงดันไฟฟ้าหลายความถี่จากหน้าจอสัมผัสและจดจำการตอบสนองของสัญญาณไฟฟ้าดังกล่าวซึ่งจะแตกต่างกันไปในขณะที่ผู้ใช้แต่ละคนสัมผัสหน้าจอ
Disney Research พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ชื่อว่า **Botanicus Interacticus** ซึ่งใช้ต้นไม้ทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์จับการสัมผัสของผู้ใช้ และส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์ที่ต่ออยู่เพื่อแสดงผลตอบโต้การใช้งาน
เทคโนโลยีใหม่อันน่าทึ่งนี้เป็นการต่อยอดมาจาก[เทคโนโลยี Touché ซึ่งอาศัยการตรวจจับคลื่นแรงดันไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามลักษณะการสัมผัสเซ็นเซอร์ของผู้ใช้งาน](http://www.blognone.com/node/32285) โดยอยู่บนหลักการที่ว่าร่างกายมนุษย์ผู้ใช้งานเป็นตัวนำไฟฟ้าอย่างหนึ่ง ซึ่งจะตอบสนองต่อคลื่นแรงดันไฟฟ้าที่ความถี่แต่ละระดับแตกต่างกันไปตามท่าทางผู้ใช้งานขณะนั้น
ก่อนหน้านี้เราได้เห็น TapSense จอสัมผัสที่สามารถแยกแยะได้ว่าวัตถุไหนที่มาสัมผัสกับหน้าจอ โดยใช้เสียงเพื่อช่วยแยกประเภท วันนี้ Disney Reseach ได้ออกมาโชว์ Touché (อ่านว่า "ทู-เช") เซนเซอร์รับสัมผัสที่เหนือขึ้นไปอีกว่านอกจากจะบอกได้ว่าเราใช้อะไรสัมผัส ยังบอกละเอียดขึ้นไปว่าใช้นิ้วกี่นิ้ว ท่าที่สัมผัส (จีบนิ้ว หรือกุมทั้งมือ) แถมยังใช้ได้กับวัตถุอย่างอื่นนอกเหนือจากจอสัมผัส แม้แต่ในน้ำ หรือกระทั่งร่างกายของเราก็ได้ด้วย
กูเกิลประกาศความร่วมมือกับค่ายหนังใหญ่ Disney (รวม Pixar) และ DreamWorks สำหรับการเช่าหนังบน YouTube
หนังช่วงแรกที่ให้เช่า มีทั้งหนังเก่าอย่าง Alice in Wonderland ไปจนถึงหนังใหม่อย่าง Cars 2 และ Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides ซึ่งจะทยอยเพิ่มรายการหนังให้เลือกเรื่อยๆ ตามกาลเวลา
บริการเช่าหนังบน YouTube ยังจำกัดเฉพาะในสหรัฐเท่านั้น แต่ข่าวนี้แสดงให้เห็นว่ากูเกิลพยายามจะปั้น YouTube ให้มีวิดีโอคุณภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงหลัง และเราคงได้เห็นข่าว YouTube เซ็นสัญญากับค่ายหนัง-ทีวีอื่นๆ ตามมาอีกเยอะ
ที่มา - YouTube Blog
Disney เข้าซื้อกิจการบริษัท Rocketpack ซึ่งมีผลิตภัณฑ์คือ Rocket Engine เครื่องมือสร้างเกมด้วย HTML5 ล้วนๆ
Rocket Engine ใช้เพียง JavaScript และ CSS นอกจากนั้นตัว Rocket Engine ยังมาพร้อมกับโปรแกรมสร้างเกมผ่านเบราว์เซอร์ เกมที่สร้างขึ้นมาสามารถทำงานได้บนทุกอุปกรณ์ที่มีเบราว์เซอร์ ตั้งแต่ netbook ยัน iPhone ดูวิดีโอได้ที่ท้ายข่าวครับ
ที่มา TechCrunch