The Walt Disney Company
ในงานเผยผลประกอบการของดิสนีย์ ไตรมาสสองปีนี้ ซีอีโอ Bob Iger ถือโอกาสนี้เปิดเผยว่า Avengers Endgame จะลงฉายใน Disney+ แบบเอ็กซ์คลูซีฟ 11 ธันวาคม
Disney+ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 12 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าบนแพลตฟอร์มจะมีหนังจากสตูดิโอลูกของดิสนีย์ไม่ว่าจะเป็น Pixar รวมไปถึงสารคดีระดับโลกจาก National Geographic, จักรวาล Star Wars, Marvel และแน่นอนว่าต้องมี Avengers Endgame เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งตอนนี้หนังทำเงินทะลุ 2 พันล้านดอลล่าร์ไปเรียบร้อยแล้ว
ใน Disney+ ยังมีซีรีส์มาร์เวลที่จัดทำขึ้นชุดใหม่ด้วย คือ Falcon & Winter Soldier, WandaVision, Marvel’s What If…? (แอนิเมชัน), Loki (ซีรีส์)
หลังการเปิดตัวบริการสตรีมมิ่ง Disney+ ของดิสนีย์เองอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันก่อน ก็มีประเด็นว่าซีอีโอดิสนีย์ Bob Iger อาจต้องลาออกจากการเป็นบอร์ดบริหารของแอปเปิลหรือไม่ เนื่องจากแอปเปิลเองก็เพิ่งเปิดตัวบริการสตรีมมิ่ง Apple TV+ (ชื่อคล้ายกันอีก) ซึ่งมองว่าเป็นธุรกิจคู่แข่งกันได้
โดย Iger ให้สัมภาษณ์กับ CNBC บอกว่าเขารับทราบในประเด็นนี้ รวมทั้งงดเข้าร่วมหารือเมื่อแอปเปิลพูดถึงบริการสตรีมมิ่งในที่ประชุม เขาบอกว่าธุรกิจนี้สำหรับแอปเปิลนั้นถือว่ายังมีขนาดเล็กมาก จึงมองว่าไม่ใช่ปัญหาที่เขายังนั่งอยู่ในบอร์ด แต่ก็จะเฝ้าดูสถานการณ์ต่อไป
เมื่อคืนนี้ Disney และ Lucasfilm ประกาศข้อมูลสำคัญของภาพยนตร์ Star Wars ภาคหลักภาคสุดท้าย Episode IX ว่าจะใช้ชื่อภาคว่า Star Wars: The Rise of Skywalker ถือเป็นการขมวดปมของภาพยนตร์ชุด Star Wars ที่ดำเนินมานาน 42 ปี (ภาคแรก Episode IV ออกปี 1977)
Star Wars: The Rise of Skywalker ยังออกทีเซอร์แรกความยาว 2 นาที ให้แฟนๆ ได้คาดเดาเรื่องราวต่างๆ ในภาคนี้ จุดสำคัญคือการกลับมาของตัวละครเก่าอย่าง Lando Calrissian ที่กลับมาขับยาน Millennium Falcon, เจ้าหญิงเลอาที่กลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง (นักแสดง Carrie Fisher เสียชีวิตไปแล้ว) และเสียงหัวเราะของจักรพรรดิ Palpatine ในตอนท้ายคลิป (Ian McDiarmid ที่รับบทเป็นจักรพรรดิ ก็มาร่วมงานแถลงข่าวด้วย)
Bob Iger ซีอีโอของ Disney เผยภาพแรกของ Disney+ บริการสตรีมมิ่งภาพยนตร์ที่จะเปิดบริการช่วงปลายปีนี้ ในงานแถลงข่าวต่อนักลงทุนประจำปี
ข้อมูลอื่นๆ ที่แถลงในงานคือ รองรับหนังความละเอียด 4K และ HDR, หนังทุกเรื่องสามารถดาวน์โหลดเพื่อดูออฟไลน์ได้, มีแอพบนแพลตฟอร์ม Apple TV, Roku, PS4, Nintendo Switch รวมถึงรองรับ Android TV และ Chromecast ด้วย
ฝั่งของคอนเทนต์ที่จะอยู่บน Disney+ มีทั้งหนังของบริษัทเองอย่าง Captain Marvel, Avengers: Endgame, The Lion King และ Frozen 2 รวมถึงหนัง/ซีรีส์ใหม่ๆ ที่เพิ่งประกาศในงานนี้ เช่น
หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าดิสนีย์มีแนวทางการปล่อยภาพยนตร์หนึ่งที่เรียกว่า Disney Vault เป็นการเก็บหนังคลาสสิคของดิสนีย์ไว้แล้วนานๆ จะปล่อยออกมาให้ซื้อกัน ถ้าไม่ซื้อภายในเวลาที่กำหนด หนังก็จะถูกเก็บเข้าไปอีกหลายปีไม่ขายในช่องทางอื่น ต้องรอจนกว่าดิสนีย์จะปล่อยออกมาขายอีกครั้ง
ล่าสุดซีอีโอดิสนีย์ Bob Iger บอกกับผู้ถือหุ้นว่า บริษัทจะยกเลิกโปรแกรม Disney Vault และหนังที่อยู่ในนั้นทั้งหมดจะมาอยู่บนสตรีมมิ่งใหม่ Disney+ เป็นการตอกย้ำความจริงจังของดิสนีย์ในการทำให้ Disney+ เป็นแพลตฟอร์มที่คนจะได้ดูหนังแบบ exclusive จริงๆ
หลังจากที่มีข่าวลือ หลุดออกมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่าสุด Mars Media ผู้จัดทัวร์นาเมนต์ชื่อดังจากจีนได้เปิดตัว MDL Disneyland Paris Major อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งทัวร์นาเมนต์ Dota 2 ระดับ Major นี้จะจัดขึ้นในพื้นที่ของ Disneyland Paris ในวันที่ 4 - 12 พฤษภาคม 2019 นี้
Disney กำลังจะเปิดตัวสตรีมมิ่งของตัวเองในปี 2019 นี้ แต่ล่าสุด Disney ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายในญี่ปุ่น Docomo เตรียมเปิดตัวสตรีมมิ่งให้ดูหนังดังจากทั้งสี่สตูดิโอใหญ่อย่าง Walt Disney Studios, Marvel Studios, Pixar และ Lucasfilm คาดว่าจะเปิดตัวเร็วๆนี้
ตัวราคาสตรีมมิ่งยังไม่เปิดเผย อย่างไรก็ตาม ถือเป็นทั้งโอกาสดีของ Disney ที่จะเจาะฐานลูกค้า Docomo ที่มีอยู่ราว 70 ล้านราย และเป็นโอกาสดีของ Docomo ที่ลูกค้าจะได้ดูคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็น Frozen, Star Wars ที่เนื้อหาครอบคลุมทุกช่วงอายุ
Docomo มีส่วนแบ่งตลาดประมาณร้อยละ 45 ในญี่ปุ่น และไม่ใช่เจ้าเดียวที่พยายามดึงเอาสตรีมมิ่งมาสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า KDDi ก็ได้ร่วมกับ Netflix ให้ดาต้าไม่อั้นแก่คนใช้งาน ด้าน SoftBank ก็ได้เสนอการสมัครสมาชิก Netflix แก่ผู้ใช้งาน 40 ล้านคนนับตั้งแต่มีการเปิดตัว Netflix ในญี่ปุ่นในปี 2015
เว็บไซต์ข่าวธุรกิจบันเทิง Variety ของสหรัฐอเมริกา รายงานข่าวลือที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า Disney กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาขอซื้อหุ้น Hulu หนึ่งในบริการสตรีมมิ่งวิดีโอยอดนิยมของสหรัฐอเมริกา ส่วนที่ AT&T ถือไว้อยู่ 10% ผ่าน WarnerMedia เปิดทางให้บริษัทควบคุมแพลตฟอร์มและบริการนี้อย่างเบ็ดเสร็จ ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่กว่า 70%
YouTube เจอปัญหาอีกครั้งเมื่อพบว่า YouTube รันโฆษณาคู่กับคลิปเด็กผู้หญิงที่อาจมีท่าทางล่อแหลม ล่าสุดผู้ลงโฆษณารายใหญ่อย่าง Nestle, ดิสนีย์, Epic Games หยุดการโฆษณาบน YouTube แล้ว
เรื่องราวเริ่มต้นจาก Mark Watson ยูทูเบอร์รายหนึ่งโพสต์คลิปตีแผ่ปรากฏการณ์ทั้งหมด เริ่มจากมีคลิปที่เด็กๆ โพสต์ซึ่งเป็นเรื่องรวธรรมดาที่เกิดขึ้น เช่น เล่นของเล่น ฝึกโยคะ แต่มีผู้ใช้บางรายไปทำ time stamp หรือระบุช่วงเวลาคลิปที่เด็กๆ แสดงอาการบางอย่างออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ล่อแหลมเป็นที่ชื่นชอบของของคนที่ชอบร่วมเพศกับเด็ก และเมื่อคลิกเข้าไป อัลกอริทึม YouTube ก็จะแนะนำคลิปลักษณะเดียวกันมาให้ และมันมีโฆษณาด้วย นอกจากนี้ Watson ยังให้ดูผู้ใช้ที่มีพฤติกรรมคอมเม้นท์หยาบคาย ละลาบละล้วงต่อเด็ก เขาเรียกร้องให้มีใครทำอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้
มีเรื่องมาให้ชวนลุ้นกันอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีรายงานจากเว็บไซต์ Esports Insider (ESI) ออกมาระบุว่า Disneyland Paris อาจจะเป็นหนึ่่งในสนามจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ Dota 2 ระดับ Major ของ Dota Pro Circuit 2018-2019
ESI ได้ข้อมูลดังกล่าวจากโฆษณาของบริษัทรับจัดหางานที่ระบุถึงตำแหน่งงานขายสำหรับงาน “Dota 2 Major Paris” จากนั้น ESI ได้ติดต่อแหล่งข่าวและได้รับการยืนยันว่าจะมีทัวร์นาเมนต์นี้จะจัดขึ่้นที่ Disneyland Paris ซึ่งจัดโดย Mars Media ที่เคยจัดทัวร์นาเมนต์ชื่อดังอย่าง MDL
Hulu ประกาศว่าตอนนี้ยอดผู้สมัครสมาชิกมีจำนวนถึง 25 ล้านคนแล้ว โดยจำนวนสมาชิกของ Hulu ในปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 50% ซึ่งแม้ว่าจะน้อยกว่าคู่แข่งอย่าง Netflix อยู่มาก แต่แนวโน้มจำนวนสมาชิกของ Hulu ก็ยังคงเติบโตอยู่เรื่อย ๆ
Bob Iger ซีอีโอของ Disney กล่าวถึงแผนการขยายคลังคอนเทนต์ของ Hulu ว่า จะต้องทำ original content รวมถึงซื้อลิขสิทธิ์ซีรีส์จากต่างประเทศมาฉายบนแพลตฟอร์มแบบ exclusive ให้มากกว่าเดิม รวมถึงมีโอกาสที่ Disney จะขยาย Hulu ออกไปให้บริการในต่างประเทศด้วย ทั้งนี้จะต้อง Disney จะต้องรอให้กระบวนการซื้อกิจการของ Fox ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Hulu ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
Netflix จ้าง CFO คนใหม่ Spencer Neumann ซึ่งมีประสบการณ์เป็น CFO จากบริษัท Activision Blizzard ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานเกมชื่อดังอย่าง Overwatch, World of Warcraft
การมาครั้งนี้ของ Neumann อยู่ในช่วงที่ Netflix กำลังครองตลาดสตรีมมิ่งทั่วโลก รวมทั้งกำลังลงทุนเรื่องคอนเทนต์มหาศาลเพื่อจะสู้กับคู่แข่งทั้งหน้าเดิมและหน้าใหม่อย่าง Amazon, Hulu, Disney จึงไม่แปลกที่ Netflix ต้องการผู้เชี่ยวชาญมาดูแลการเงินในช่วงนี้
LINE ประกาศสถิติใหม่ของเกมพัซเซิลมือถือ LINE: Disney Tsum Tsum ซึ่ง LINE เป็นผู้ดูแลเกมนี้ ว่าตอนนี้มียอดดาวน์โหลดทะลุ 80 ล้านครั้งทั่วโลกแล้ว
เกม LINE: Disney Tsum Tsum เปิดให้ดาวน์โหลดตั้งแต่ปี 2014 และเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วโลก โดยมีจุดเด่นคือการนำคาแรกเตอร์ของดิสนีย์มาใส่ในเกม รวมทั้งใช้เป็นเกมในการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ใหม่ของดิสนีย์ในทุกครั้งที่มีการเข้าฉาย
กูเกิลเผยได้ร่วมมือกับดิสนีย์อย่างเป็นทางการด้านโฆษณา ส่งผลให้โฆษณารูปแบบดิจิทัลทั้งหมดของดิสนีย์จะมาอยู่ในกูเกิลโดยมีเทคโนโลยี Google Ad Manager เป็นตัวขับเคลื่อนและกระจายโฆษณาของดิสนีย์ในแพลตฟอร์มต่างๆ ของกูเกิล และช่วยการโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
ส่วนหนึ่งของข้อตกลงนี้ดิสนีย์และกูเกิลยังวางแผนที่จะทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาโซลูชันการโฆษณาใหม่ๆ ในรูปแบบวิดีโอทั้งบนมือถือและจอเดสก์ทอปซึ่งอาจแตกต่างจากโฆษณาที่ปรากฏบนจอทีวี นอกจากโฆษณาจากดิสนีย์โดยตรงแล้วยังมีโฆษณาจากแบรนด์ ABC, ESPN, Marvel, Pixar และ Star Wars ด้วย
Stan Lee นักเขียนบทการ์ตูนคนดัง ผู้ก่อตั้งบริษัท Marvel Comics เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 95 ปี
Stan Lee หรือชื่อเต็ม Stanley Martin Lieber เป็นบิดาผู้สร้างตัวละครดังๆ ที่เรารู้จักกันดี ทั้ง Spider-Man, Hulk, Iron-Man, Thor, Fantastic Four, X-Men, Doctor Strange, Black Panther ฯลฯ (ตัวละครบางตัวสร้างร่วมกับนักเขียนคนอื่น)
Stan Lee เริ่มงานเป็นนักเขียนการ์ตูนกับบริษัท Timely Comics ซึ่งภายหลังกลายมาเป็น Marvel Comics ในระยะเวลาถัดมา ผลงานที่โดดเด่นของเขาคือสร้างตัวละครฮีโร่ค่าย Marvel ที่มีความเป็นมนุษย์สูง มีจุดอ่อนหรือข้อบกพร่องเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ต่างจากฮีโร่ในยุคนั้นที่มักเป็นบุคคลในอุดมคติ
Ted Sarandos ผู้บริหารของ Netflix ตำแหน่ง Chief Content Officer ที่ดูแลงานด้านคอนเทนต์ทั้งหมด ตอบคำถามสื่อเอเชียเรื่องการแข่งขันระหว่าง Netflix กับ Disney+ ที่เพิ่งเปิดตัว ว่าเขาไม่กลัวคู่แข่งใดๆ
Sarandos บอกว่าตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งมีผู้เล่นหน้าใหม่ๆ เข้ามาหลายราย ซึ่ง Disney เป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ที่กำลังจะเข้าตลาด แน่นอนว่าคอนเทนต์ของ Disney+ แตกต่างกับ Netflix ดังนั้นก็ขึ้นกับผู้บริโภคว่าชอบดูหนัง/ซีรีส์จากค่ายใด หรือจะสมัครทั้งสองค่ายก็ไม่ผิดอะไร
ในที่สุดก็ประกาศชื่อแล้วกับบริการสตรีมมิ่งของ Disney ที่จะใช้ชื่อว่า Disney+ โดยจะเปิดให้บริการในสหรัฐปลายปี 2019
หน้าเว็บ preview.disneyplus.com ที่เปิดให้ลงทะเบียนอีเมลเพื่อรับข่าวสารขึ้นโลโก้ที่ชี้ว่า นอกจากคอนเทนท์ในเครือดิสนีย์อย่าง Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars แล้วยังมีคอนเทนท์จาก National Geographic ที่ได้มาจากฟ็อกซ์เข้ามาด้วย และที่สำคัญคือหน้าเว็บนี้มีภาษาไทย พอจะบอกใบ้ให้บริการในไทยแน่ๆ
ใครที่กำลังรอเกม Disney Heroes เปิดให้เล่นอาจสนใจเกมนี้ คือ Disney Epic Quest เป็นเกมมือถือแนว RPG รวมทีมฮีโร่ดิสนีย์และ Pixar สู้กับเหล่าร้ายเช่นโดยเกมจะเปิดตัวให้เล่นในปี 2019 ที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อนและรองรับภาษาไทยด้วย
Disney Epic Quest พัฒนาโดย goGame บริษัทเกมมือถือสัญชาติสิงคโปร์อยู่ในเครือ SEGA และบริษัท The Walt Disney Company South East Asia (TWDC) ที่ดูสื่อธุรกิจบันเทิงในภูมิภาคอาเซียน เป็นเกมสวมบทบาทตัวละครต่างๆ ในดิสนีย์และ Pixar รวมทีมให้เป็น 3 คน เพื่อสู้กับเหล่าพิกเซลที่ติดเชื้อไวรัส Syntax
Netflix ประกาศสร้างหนังแฟนตาซีสุดยิ่งใหญ่ Chronicles of Narnia จากผลงานของผู้เขียนหนังสือ C.S. Lewis ที่มีรวมชุด 7 เล่ม
ถือเป็นอีกก้าวย่างที่สำคัญของ Netflix ที่จะสู้ Disney ที่มีคอนเทนต์แฟนตาซีมากมายในมือ ในขณะที่ Netflix ยังมีไม่มากเท่า ซึ่ง Chronicles of Narnia ที่สร้างมาจากนิยายยาวถึง 7 เล่ม จะช่วยตอบโจทย์ได้ นอกจากนี้ Narnia ยังเคยมีเวอร์ชั่นหนังไตรภาคที่ประสบความสำเร็จทั่วโลกมาแล้ว และผู้สร้างคือ Disney
หนังไตรภาค Narnia ออกมาในปี 2005, 2008 และ 2010 ทำรายได้ 745, 419, 415 ล้านคอลลาร์ตามลำดับ ด้านหนังสือก็ขายไปแล้วกว่า 100 ล้านชุด แปลไปแล้ว 47 ภาษา
หลังมีการประกาศสร้างซีรีส์ Star Wars ฉบับคนแสดงที่ฉายบนสตรีมมิ่งของดิสนีย์ โดยได้ Jon Favreau ผู้กำกับ Iron Man และ The Jungle Book มานั่งเก้าอี้โปรดิวเซอร์ ล่าสุดเจ้าตัวเผยชื่อและพล็อตย่อๆ ของซีรีส์นี้แล้วคือ The Mandalorian
Jon Favreau ประกาศบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของตัวเอง ระบุเรื่องย่อคร่าวๆ ว่าเรื่องราวจะเกิดขึ้นระหว่างภาค 6 และภาค 7 ตัวละครหลักเป็นนักแม่นปืนที่มีบทบาทในพื้นที่ชายขอบของกาแลกซี่ ห่างไกลจากอำนาจของสาธารณรัฐใหม่
สตรีมมิ่งไม่เพียงให้ความบันเทิงแค่ผู้ใหญ่ แต่ผู้ชมที่เป็นกลุ่มเด็กและครอบครัวก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันสตรีมมิ่งเปรียบเหมือนเป็นพี่เลี้ยงเด็กไปแล้ว ดังนั้นการแข่งขันคอนเทนต์ของวงการสตรีมมิ่งจึงต้องเจาะกลุ่มเด็กและครอบครัว
ตลาดตอนนี้ที่ใหญ่ที่สุดยังคงเป็น Netflix โดย Andy Yeatman อดีตผู้จัดการคอนเทนต์เด็กและครอบครัวบอกว่า ในบรรดาคอนเทนต์สำหรับเด็กที่มีอยู่ประมาณ 200 เรื่องมีการรับชมไปแล้ว 2 ล้านครัวเรือน ตัวเลขกลุ่มผู้ชมที่เป็นเด็กและครอบครัวโตขึ้น 61% เป็นตัวเลขทั่วโลก ส่วนในสหรัฐฯ โตขึ้น 13% เพราะตลาดเริ่มอิ่มตัว (ตัวเลขเดือนตุลาคม 2017)
ตลาดสตรีมมิ่งจะเริ่มสนุกสนานมากขึ้นไปอีกเมื่อ Disney กำลังจะเปิดตัวสตรีมมิ่งของตัวเอง แม้จะตามหลัง Netflix แต่ด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเด็กๆ รู้จักก็น่าจะทำให้เด็กติดตามได้ไม่ยาก มาดูกันว่าแต่ละเจ้ามีทีเด็ดอะไรมาเจาะตลาดเด็กและครอบครัวได้บ้าง
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าดิสนีย์กำลังจะเปิดตัวสตรีมมิ่งที่ว่ากันว่าจะเป็นแนวทางธุรกิจหลักอย่างหนึ่งของดิสนีย์ มีข่าวลือแพร่ว่าชื่อใหม่ของสตรีมมิ่งคือ Disney Play อย่างไรก็ตามมีการอัพเดตล่าสุดว่า ดิสนีย์ยังไม่ได้เปิดเผยชื่อแต่อย่างใด
สตรีมมิ่งของดิสนีย์จะเปิดตัวในปี 2019 และซีอีโอดิสนีย์ Bob Iger บอกเองเลยว่าราคาบริการจะถูกกว่า Netflix คืออยู่ระหว่าง 8 - 14 ดอลลาร์ต่อเดือน และคอนเทนต์ที่แฟนๆ ตั้งตารอคือ ซีรีส์ Star Wars ฉบับคนแสดง
ถือว่าเซอร์ไพร์สแฟนๆ อย่างมากสำหรับการประกาศฉาย Star Wars: Clone Wars ซีซัน 7 ในงาน San Diego Comic-Con หลังถูกตัดจบแบบค้างคาตอนซีซัน 6 หลัง LucasFilm ถูกดิสนีย์ควบรวม
จากเทรเลอร์ ตัวละครหลักของ Clone Wars มากันหมดทั้ง Anakin, Obi-Wan, กัปตัน Rex และ Ahsoka โดยซีซันนี้จะมีทั้งหมด 12 ตอนและจะฉายบนบริการสตรีมมิ่งของดิสนีย์ ที่เตรียมจะเปิดบริการปีหน้า และคาดว่าซีซันนี้น่าจะทำให้ซีรีส์ Clone War จบลงอย่างสมบูรณ์และทำให้เรื่องราวเชื่อมเข้ากับภาค Revenge of Sith มากยิ่งขึ้น
ที่มา - Gamespot
Overwatch League หนึ่งในลีกแข่งขัน eSports ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เซ็นสัญญาลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขันผ่านช่องโทรทัศน์กับ Disney พร้อมถ่ายทอดการแข่งขันผ่านช่องเครือข่ายของ ESPN, Disney และ ABC
ดีลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขันนี้จะเริ่มต้นที่การถ่ายทอดสดแข่งขันรอบ Playoff ของ Overwatch League ที่จะแข่งขันกันในเวลา 7 นาฬิกาตรงของเช้าวันที่ 12 กรกฎาคม 2018 ตามเวลาบ้านเรา โดยดีลนี้จะครอบคลุมไปถึงการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของฤดูกาลแข่งขันแรกและฤดูกาลถัดไปของ Overwatch League ในปีหน้า รวมถึงรีเพลย์กการแข่งขันและเทปไฮไลท์ของการแข่ง
Disney พัฒนาหุ่นยนต์แบบใหม่เพื่อการแสดงโชว์ผาดโผนชื่อว่า "Stuntronics" โดยหุ่นยนต์ที่ว่านี้มีความสามารถในการออกท่าทางต่างๆ ในขณะที่มันลอยตัวอยู่ในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นการตีลังกาไปด้านหน้าหรือด้านหลัง รวมทั้งหมุนตัวบิดเกลียวก็ทำได้ โดยเป้าหมายของการพัฒนา Stuntronics นี้ก็เพื่อใช้เพื่องานแสดงในสวนสนุกหรือโชว์ต่างๆ ทดแทนนักแสดงที่เป็นคนจริงๆ เพื่อลดความเสี่ยงอุบัติเหตุของนักแสดง