เกมออนไลน์บน Facebook นั้นเป็นที่นิยมกันพอสมควรทีเดียว ทั้งปลูกผัก ขายเพื่อน เป็นมาเฟีย ฯลฯ และคราวนี้เกมโด่งดังของ Sid Meier อย่าง Civilization นั้นก็จะเอากับเขาด้วย!
เกมใหม่ที่จะมีนี้ใช้ชื่อว่า Sid Meier's Civilization Network โดยจะมีทั้งสามารถเล่นคนเดียว แข่งกับผู้อื่น และเล่นแบบช่วยกันได้ ตัวเกมนั้นจะเปิดให้เล่นฟรีเหมือนเกมอื่นๆ ที่มีอยู่บน Facebook และจะเริ่มเปิดทดสอบแบบ closed beta เร็วๆ นี้ ส่วนเกมตัวจริงนั้นน่าจะออกภายในปีหน้า ใครสนใจลองเพิ่มเป็น fan ก่อนได้ที่นี่
มีข่าวลือว่า EA ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเกมกำลังจะซื้อบริษัทเกมบน social network โดยมีเป้าหมายเป็น Zynga หรือ Playfish
Zynga เจ้าของเกมดังอย่าง Mafia Wars, FarmVille และ Vampires มีผู้เล่นบน Facebook ประมาณ 150 ล้านรายต่อเดือน และมีฐานผู้เล่นอีกจำนวนมากบน MySpace มีข่าวว่ากำลังเจรจากับ EA ในขั้นต้น โดยราคาบริษัทตกอยู่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ โฆษกของ Zynga ออกมาปฏิเสธข่าวนี้แล้ว อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Zynga เตรียมจะขายหุ้นในตลาดหุ้นเร็วๆ นี้ด้วยเช่นกัน
อีกรายคือ Playfish เจ้าของเกมขวัญใจคนไทยอย่าง Restaurant City, Pet Society และ Biggest Brain มีผู้เล่นบน Facebook ประมาณ 60 ล้านรายต่อเดือน มีข่าวเช่นกันว่าคุยกับ EA อยู่ และอาจประกาศข่าวการซื้อกิจการได้เร็วๆ นี้
Facebook ได้สร้างดัชนีผลมวลรวมแห่งความสุข (Gross National Happiness Index) ซึ่งจะใช้ถ้อยคำด้านบวกและด้านลบในสถานะของผู้ใช้ Facebook เพื่อประเมินสภาพทางจิตใจหรืออารมณ์ของชาวอเมริกัน
บล็อกทางการของ Facebook ระบุว่า "ในแต่ละวัน การปรับปรุงสถานะโดยผู้ใช้ Facebook เป็นการแสดงออกให้คนที่เขารักรับรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร จึงเป็นเหมือนกระจกสะท้อนสภาพทางจิตใจของพวกเขา และเมื่อนำมารวมกัน ก็จะได้เป็นดัชนีซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงสภาพทางจิตใจของพวกเราทุกคน"
ช่วงนี้ใครจะเล่นเก็บผักใน Facebook หรือ tweet หาสาวในที่ทำงานระวังให้ดี เพราะรายงานที่สำรวจบริษัทในสหรัฐฯ พบว่าบริษัทจำนวนกว่า 54% ทำการบล็อคการใช้งานเหล่าเว็บไซต์สังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น Facebook, Twitter, LinkedIn หรือ MySpace เป็นที่เรียบร้อย อีก 19% อนุญาตให้ใช้ได้ในส่วนที่เกี่ยวกับงานเท่านั้น และ 16% จำกัดการใช้งานส่วนบุคคล ในขณะที่มีบริษัทจำนวนเพียง 10% เท่านั้นที่อนุญาตให้เล่นได้อย่างสบายใจ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าถึงปัจจุบันจำนวนนี้จะลดลงเหลือเท่าใด
สาเหตุหลักๆ ของการห้ามใช้ก็จะเป็นเรื่องของการรบกวนเวลาทำงานและผลผลิตในการทำงานลดลง นอกจากนี้ยังมีผลเกี่ยวเนื่องกับเหตุผลด้านความปลอดภัย ที่เกิดจากการที่ผู้ใช้ไม่ระมัดระวังในการใช้เว็บจำพวกนี้นั่นเอง
งานเข้ากันถ้วนหน้าสำหรับทีมงาน Facebook และเหล่าผู้พัฒนาแอพพลิเคชัน หลังเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ทำโพลบนหน้าเว็บถามว่า "โอบามาสมควรถูกฆ่าหรือไม่?"
คำตอบนั้นมีให้เลือก 4 ตัวเลือกคือ "สมควร", "ไม่สมควร", "ไม่แน่" และ "สมควรถ้าเขาตัดเงินประกันสุขภาพของฉัน" โพลมีผู้ตอบไปราว 750 คน ก่อนจะมีผู้ใช้รายงานเข้าไปและถูกลบทิ้งในเวลาต่อมา ซึ่งหลังจากนั้นก็เป็นเรื่องทันที เพราะการคุกคามต่อชีวิตประธานาธิบดีถือเป็นการก่ออาชญากรรมอย่างหนึ่ง เมื่อหน่วยราชการลับสหรัฐฯ ทราบเรื่องจึงเริ่มเข้าสอบสวนทีม Facebook ในวันจันทร์ที่ผ่านมาทันที
เคยมีข่าวการจับตัวคนร้ายขโมยของ และใช้เทคโนโลยีมาช่วยตามคืนมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น SETI หรือ Macbook ซึ่งทั้ง 2 กรณีสามารถติดตาม laptop ที่ถูกขโมยไปกลับมาได้
คราวนี้เป็นคิวของ Facebook ครับ
เรื่องเกิดขึ้นในเพนซิลวาเนีย โดยหัวขโมยรายนี้เข้าไปขโมยแหวนเพชรในบ้านหลังหนึ่ง แล้วก็สามารถหลบหนีออกมาได้ ก่อนที่จะโดนจับในเวลาต่อมา โดยตำรวจสามารถติดตามจับขโมยรายนี้ได้เพราะว่า ดันแอบไปใช้คอมพิวเตอร์ของเจ้าของบ้านล็อกอินเข้า Facebook
แต่ดันลืมล็อกเอาท์
ทำให้ตำรวจสามารถตามไปจับกุมได้ในที่สุด
ต่อไปจะมีขโมยที่ไหน tweet ระหว่างปฏิบัติการบ้างไหมครับ
ฟีเจอร์ยอดนิยมใน Facebook คือการใส่แท็ก (tagging) ให้กับเพื่อนๆ ในรูปที่เราอัพโหลด ภายหลังได้ขยายมายังวิดีโอและ note ด้วย ล่าสุดอาจเป็นเพราะกระแสของ Twitter หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ Facebook ได้ขยายการใส่แท็กเข้ามายัง status update แล้ว
รูปแบบการใส่แท็กของ status update จะต่างออกไปจากรูปหรือวิดีโอ (ที่คลิกที่รูปแล้วมีชื่อเพื่อนขึ้นมาให้เลือกจิ้ม) แต่จะใช้การพิมพ์แล้วใส่ @ นำหน้าชื่อเพื่อนแทน จากนั้น Facebook จะขึ้นรายชื่อเพื่อนมาให้เลือกอีกครั้งหนึ่ง ในข้อความที่แสดงบน status update จะไม่มีตัว @ แต่จะกลายเป็นลิงก์ไปยังเพื่อนของเราคนนั้นแทน
เพื่อนคนที่ถูกแปะแท็กสามารถเอาชื่อตัวเองออกจาก status update ได้ Facebook กำลังทยอยเปิดฟีเจอร์นี้ให้ผู้ใช้เป็นบางส่วนอยู่ครับ
เมื่อมีนักเรียนมัธยมคนหนึ่งถามประธานาธิบดีโอบามาว่า จะทำอย่างไรถึงจะได้งานทำดีๆขั้นสุดยอด โอบามาก็ได้ให้คำแนะนำนักเรียนคนนี้ว่า ให้ระวังการโพสต์อะไรก็ตามที่ดูงี่เง่าบนอินเทอร์เน็ต ถึงแม้ว่าวัยเรียนเราอาจคึกคะนองทำสิ่งที่ดูงี่เง่า แต่จงคิดให้รอบคอบอีกทีก่อนจะโพสต์สิ่งเหล่านั้นบนโลกออนไลน์
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ข่าวนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ และมาจากหนังสือพิมพ์นะครับ
หนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษได้รายงานว่า Dr. Tracy Alloway จาก University of Stirling ในสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาที่เชี่ยวชาญด้านความจำระดับใช้งาน (Working Memory -- เป็นความจำระยะสั้นชนิดหนึ่ง) ได้กล่าวปาฐกถาเรื่องเกี่ยวกับงานวิจัยของเธอ ที่ศึกษาเกี่ยวกับการฝึกเด็กที่เรียนช้าให้มีความจำระดับใช้งานที่ดีขึ้น และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ คือเด็กที่ผ่านการอบรมนั้นมีไอคิวที่ดีกว่า, มีความสามารถในการอ่านดีกว่า และได้คะแนนจากการทดสอบด้านคณิตศาสตร์ดีกว่า
ทีมพัฒนา Bing เตรียมทดสอบฟีเจอร์ใหม่ Bing & Ping กับผู้ที่เป็นแฟนบนหน้า Bing ของ Facebook (คลิกที่นี่เพื่อ Become a fan)
Bing & Ping ทำให้ผู้ใช้สามารถแบ่งปันผลลัพธ์การค้นหาผ่าน Facebook, Twitter, และอีเมลได้ นอกจากนั้นยังมีปุ่ม Copy เพื่อให้ผู้ใช้แบ่งปันผลัพธ์กับบริการอื่นได้ด้วย หน้าตาเป็นอย่างไรดูรูปได้จากข้างล่าง
อัพเดต ตอนนี้ลิงก์สมัคร Bing & Ping ได้ถูกส่งออกไปยังผู้ที่เป็นแฟน Bing บน Facebook แล้ว หากใครยังไม่ได้ก็ในช่วงสองถึงสามวันนี้
A link to sign up for the Bing & Ping preview has been sent out to all those that signed up to become fans of Bing on Facebook.
สถิติจากเว็บไซต์ CheckFacebook บอกว่าตอนนี้ประเทศไทยมีผู้ใช้ Facebook เกิน 1 ล้านคนไปเรียบร้อยแล้วครับ
สถิติอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่
ปัจจุบันการอัพเดตข้อความจาก Twitter ไปยัง Facebook ทำได้ง่ายเพราะมีโปรแกรมช่วยหลายตัว แต่ในทางกลับกัน ถ้าอยากอัพเดตอะไรใน Facebook แล้วให้ไปโผล่ที่ Twitter นั้นเป็นไปไม่ได้เลย
ตอนนี้ Facebook เริ่มทานกระแสของ Twitter ไม่ไหว เลยเปิดให้เราสามารถโพสต์ข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอลงใน Facebook Page (เฉพาะ Page ของ Profile ยังไม่มี) แล้วส่งต่อไปยัง Twitter ได้
Marc Andreessen ได้ชื่อว่าเป็นผู้สร้าง Mosaic และ Netscape เขาเป็นตำนานอีกคนหนึ่งของซิลิคอนวัลเลย์ แม้ว่าตอนหลัง Netscape จะพ่ายแพ้แต่ Andreessen ก็หันเหไปเป็นนักลงทุนในกิจการหน้าใหม่แทน เขาเป็นบอร์ดของ Facebook คนที่ 4 ถัดจากผู้ก่อตั้ง, ลงทุนใน Ning.com และขายบริษัท Opsware ให้ HP ไปด้วยมูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์
ตอนนี้ Andresssen และทีมของเขาที่ Opsware (ซึ่งเคยทำงานกับ Netscape เช่นกัน) กำลังจะกลับมาอีกครั้งกับบริษัท RockMelt ที่มีข่าวรั่วออกมาว่า "กำลังทำเว็บเบราว์เซอร์"
Techcrunch รายงานว่า Facebook ได้ทำการเข้าซื้อ Friendfeed แล้ว ทั้งสองบริษัทได้ประกาศว่าทั้งสองบริษัทมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน และในขณะนี้ Friendfeed จะยังให้บริการเหมือนเดิมจนกว่าทั้งสองบริษัทจะวางแผนในระยะยาวเสร็จ
ดูเหมือนว่า Social Network กำลังตามเราไปในทุกๆ ที่ไม่เว้นแม้แต่เครื่องเล่นเกมมือถือ เมื่อเฟิร์มแวร์รุ่น 1.4 ของ Nintendo DSi เริ่มจะรองรับการเชื่อมต่อกับ Facebook แล้ว
ยังไม่แน่ชัดว่าเฟิร์มแวร์ใหม่นี้ทำอะไรได้บ้างนอกจากการอัพโหลดภาพขึ้น Facebook แต่ที่แน่ๆ โดยทางนินเทนโดระบุแค่ว่าตัวเครื่องจะแสดงภาพจากกล้องได้เร็วขึ้นเท่านั้น
เฟิร์มแวร์รุ่นใหม่นี้เปิดให้ใช้เฉพาะในญี่ปุ่นส่วนในสหรัฐฯ นั้นจะได้รับภายในปีนี้
ที่มา - Joystiq
คงทราบกันดีว่าเราสามารถส่งข้อความจาก Twitter ขึ้นไปบน Wall Post ของ Facebook ได้ทันที โดยปรับค่าเงื่อนไขการใช้งานก่อน แต่ล่าสุดวันนี้ มีรายงานจาก TechCrunch ว่ามีผู้ใช้งาน Facebook จำนวนมาก พบว่าตนเองไม่ได้อนุญาตให้ส่งข้อความ แต่ทุก tweet กลับไปโผล่บน Facebook Wall ได้ซะอย่างนั้น
ผลตอบรับใน Facebook และ Twitter ทันทีก็มีทั้งแปลกใจไปจนถึงเคืองกันเลยก็มี ส่วนใหญ่พบว่ามาจากการที่ผู้ใช้งานลง application ของ Twitter ใน Facebook และน่าจะเกิดปัญหาบางอย่างทำให้ที่ไม่อนุญาตกลายเป็นอนุญาต อย่างไรก็ดีตอนนี้ทาง Twitter ได้อ้างว่าปัญหาถูกแก้ไขแล้ว โดยสันนิษฐานว่ามาจากการที่ Facebook ทำการอัพเกรด API วันนี้
แม้ว่าในวันนี้บิล เกตส์จะไม่ใช่ผู้ที่กุมบังเหียนของไมโครซอฟต์อีกแล้ว แต่ทว่าทั่วโลกก็ยังให้ความสนใจในตัวเขาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดบิล เกตส์ที่เดินทางไปรับรางวัล ณ กรุงนิวเดลี ได้กล่าวเกี่ยวกับเฟซบุคว่าเขาพยายามที่จะลองเล่นเฟซบุคดู แต่หลังจากที่มีคนอยากเป็นเพื่อนกับเขามากจนเขามีจำนวนผู้ที่ต้องการเป็นเพื่อนกับเขาถึง 10,000 คน ซึ่งมากพอที่จะทำให้เขาตัดสินใจเลิกเล่นทันที
นอกจากนี้เขายังยืนยันในงานนั้นอีกว่า ตัวเขาเองไม่ได้ใช้เวลาทั้งวันไปกับเรื่องเทคโนโลยี เพราะเขาต้องใช้เวลาอ่านในเรื่องอื่น ๆ เช่นกัน
ที่มา - Tom's Hardware
เป็นข่าวใหญ่อีกครั้งเมื่อ Facebook ถูกตีพิมพ์เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลจากการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานที่เลิกใช้งานไปแล้ว หลังจากที่ถูกเปิดเผยโดย Ars Technica (ข่าวเก่า)
Jennifer Stoddart คณะกรรมมาธิการองค์กรพิทักษ์สิทธิส่วนบุคคลโดยรัฐสภาแห่งแคนาดากล่าวว่า Facebook ควรเก็บเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้น
ผู้ใช้บริการ Facebook ในปัจจุบันมีมากกว่า 250 ล้านคน ซึ่งเป็นชาวแคนาดากว่า 12 ล้านคน
เมื่อเดือนมกราคม Blognone เคยลงข่าวไปว่า Facebook มีผู้ใช้ขึ้นหลัก 150 ล้านคน เวลาผ่านมาครึ่งปีพอดี ตัวเลขนี้กลายเป็น 250 ล้านเรียบร้อยแล้ว
ในโอกาสนี้ Facebook ได้ทำวิดีโอแสดงพัฒนาการของจำนวนผู้ใช้ Facebook ในแต่ละประเทศ แบ่งช่วงทีละ 50 ล้าน ของประเทศไทยมาเพิ่มแบบก้าวกระโดดในช่วง 200 ล้านมาเป็น 250 ล้าน วิดีโออยู่ด้านใน
ปิดท้ายด้วยโฆษณา Blognone Page สมัครเล่นๆ ไว้ไม่เสียหลาย
ที่มา - Facebook Blog
ถึงแม้บรรดาเว็บ Social Network จะประสบปัญหาคล้ายๆกันคือยังหากลยุทธ์สร้างรายรับเป็นกอบเป็นกำไม่ได้ แต่ Mark Andreessen บอร์ดของ Facebook ได้ลั่นว่าภายใน 5 ปีจากนี้ Facebook จะมีรายได้สูงถึงระดับพันล้านเหรียญ
Andreessen กล่าวว่าปีนี้ Facebook น่าจะมีรายได้อยู่ที่ราว 500 ล้านเหรียญ และสามารถดันไปได้ถึงระดับพันล้านถ้าหากเพิ่มความสนใจในการขายโฆษณามากขึ้น เขากล่าวเพิ่มเติมอีกว่าเทียบสัดส่วนกับจำนวนผู้ใช้งานตอนนี้ประมาณ 225 ล้านคน รายได้เท่านี้จึงถือเป็นตัวเลขที่น้อยมากๆ
MI6 หรือ Secret Intelligence Service คือหน่วยสืบราชการลับ (ฝ่ายต่างประเทศ) ของสหราชอาณาจักร และเป็นองค์กรต้นสังกัดของเจมส์ บอนด์ ส่วนผู้อำนวยการของ MI6 ก็เทียบเท่ากับ "M" หัวหน้าของบอนด์ในภาพยนตร์และนิยาย แน่นอนว่าความปลอดภัยของ M (ทั้งในโลกจริงและภาพยนตร์) ต้องอยู่ในระดับเข้มข้น
แต่ข้อมูลส่วนตัวของว่าที่ "M" คนใหม่ ได้แก่ ที่อยู่บ้าน, ข้อมูลของลูกและญาติสนิท รวมถึงเพื่อนฝูง กลับถูกโพสต์ลงใน Facebook และที่หักมุมกว่านั้น คนโพสต์คือภรรยาของ M ซะเอง!
ปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวบน social network เป็นปัญหาที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ฝั่งผู้ให้บริการ social network ก็มักจะออกมาพูดทำนองว่า "เรารักษาความเป็นส่วนตัวของคุณอย่างเต็มที่" แต่เอาเข้าจริงแล้วจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่?
หลังมี [ข่าวลือ] เตรียมจับจองชื่อบน Facebook สัปดาห์นี้ ออกมาปลายเดือนก่อน ตอนนี้ Facebook Blog ประกาศข่าวออกมาแล้วครับ
เว็บไซต์ TechCrunch ได้รายงานว่า Facebook นั้นเตรียมที่จะให้ผู้ใช้นั้นสามารถสร้าง URL ที่มีชื่อของตัวเองอยู่ด้วยได้เองภายในสัปดาห์นี้ครับ
จากเดิมที่ URL ที่อ้างอิงไปยังหน้าของผู้ใช้นั้นจะเป็นตัวเลขที่จำยาก (เช่น http://www.facebook.com/profile.php?id=1448613910) ยกเว้นเพียงบางคนที่เป็นคนสำคัญหรือมีเอี่ยวทางธุรกิจกับ Facebook ถึงจะมีชื่อได้เท่านั้น (เช่นของ TechCrunch ก็มี http://www.facebook.com/techcrunch) แต่ในช่วงหลังนั้นเว็บไซต์อื่นๆ นั้นเปิดให้บริการในลักษณะนี้ฟรีแก่ผู้ใช้แล้ว (เช่น twitter และ myspace เป็นต้น) ทำให้ทาง facebook เองได้กลับมาทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง และเตรียมจะเปิดให้บริการในลักษณะเดียวกันภายในสัปดาห์นี้
งาน D:All Things Digital ครั้งที่ 7 หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า D7 เริ่มขึ้นแล้ว โดยปีนี้มีแขกรับเชิญที่น่าสนใจหลายต่อหลายคน ไฮไลท์ของงานในปีนี้อยู่ที่