จากที่มีกระแสว่า Facebook มีหน่วยคัดกรองคุมเนื้อหาที่จะขึ้นในหน้า feed หรือมีบรรณารักษ์ข่าวนั้น Mark Zuckerberg โพสต์เฟสบุคย้ำจุดยืนของ Facebook ว่าเป็นพื้นที่ให้ทุกความคิด และในบ่ายวันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) ตัวเขาจะเป็นเจ้าภาพในการพูดคุยกับผู้นำทางการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยม (conservative) จำนวนหนึ่ง เพื่อทำให้แน่ใจว่า Facebook ยังคงเป็นพื้นที่สำหรับทุกความคิดทางการเมือง
เฟซบุ๊กได้อัพเดตเพิ่มตัวเลือกสำหรับการรีพอร์ตภาพที่ต้องสงสัย เข้าข่ายการซื้อหรือขายยาเสพติด อาวุธปืนหรือสินค้าผิดกฎหมาย (describing the purchase or sale of drugs, guns or regulated goods)
เฟซบุ๊กได้ประกาศนโยบาย เรื่องการแบนภาพการซื้อขายสินค้าผิดกฎหมายมาตั้งแต่เดือดมกราคมแล้ว หลังจากที่มีผู้ใช้นำภาพการซื้อขายปืนบนเฟซบุ๊กในกรุ๊ปปิด ไปแจ้งตำรวจ เหตุเพราะเขาเลือกรีพอร์ตได้เพียงแค่ "สร้างความอับอาย" (harrassment) หรือ "เสี่ยงก่อให้เกิดความรุนแรง" (credible threat of violence) ซึ่งไม่ชัดเจนและยากต่อการตรวจสอบของพนักงานเฟซบุ๊ก
รัฐบาลเวียดนามได้บล็อคการเข้าถึงเฟซบุ๊กในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสาเหตุสำคัญคือรัฐบาลพยายามปิดกั้นการรวมตัวประท้วงด้านสิ่งแวดล้อมของประชาชน ที่ใช้ทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมเป็นช่องทางในการนัดหมายและเผยแพร่รูปภาพการประท้วง
ชาวเวียดนามได้ออกมาประท้วงหลังโรงงาน Formosa Plastics ปล่อยของเสียลงสู่แม่น้ำ จนส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำและพื้นที่การเกษตรในบริเวณใกล้เคียง รวมถึงโจมตีรัฐบาลที่ไม่จัดการเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามสื่อต่างประเทศคาดว่ารัฐบาลเวียดนามจะยกเลิกการบล็อคแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานยืนยันครับ
Facebook ยังเดินหน้ารุกหนักกับเนื้อหาประเภทวิดีโอ จากเดิมที่มีโฆษณาแบบวิดีโอเฉพาะในเว็บ-แอพของ Facebook เอง ล่าสุดโฆษณาวิดีโอเหล่านี้สามารถแสดงผลบนเว็บไซต์อื่นๆ ผ่านเครือข่ายโฆษณา Facebook Audience Network แล้ว
โฆษณาแบบวิดีโอบน Facebook Audience Network มีได้ 2 รูปแบบคือ in-stream (โฆษณาวิดีโอก่อน ตรงกลาง หรือท้ายวิดีโออื่น) และ in-article ที่เป็นเหมือนแบนเนอร์วิดีโอแทรกตามบทความทั่วไป เล่นวิดีโออัตโนมัติแต่ไม่เปิดเสียง
การลงโฆษณาสามารถทำได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าผู้ลงโฆษณาจะลงโฆษณาใน Facebook อยู่แล้ว ก็แค่เลือก Audience Network เพิ่มอีกช่องทางหนึ่งก็เรียบร้อยแล้ว
Facebook ประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์ม CTF (Capture The Flag) เพื่อให้ใช้สำหรับการศึกษาเกี่ยวกับการแฮคและเสริมสร้างการพัฒนาทักษะด้านความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์
โดยทั่วไปแล้วสำหรับสถาบันการศึกษาต่างๆ นั้นไม่ง่ายเลยที่จะสร้างระบบแวดล้อมให้เด็กๆ สามารถฝึกการแฮคกันได้ แพลตฟอร์ม CTF ของ Facebook นี้ซึ่งถูกพัฒนาให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย จึงเป็นพื้นที่ล้ำค่าสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาตนเองในด้านการแฮคและการป้องกันการแฮค
เว็บไซต์ข่าวไอที Engadget รายงานว่า Facebook ได้ทำการจ้าง Paul Grewal อดีตผู้พิพากษาของศาลแขวงเหนือประจำมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เข้าทำงานเป็นรองที่ปรึกษาทั่วไปของบริษัท (Deputy General Consel) คอยให้คำปรึกษาด้านกฎหมายกับทางบริษัท โดยรายงานตรงกับ Colin Stretch รองประธานฝ่ายที่ปรึกษาทั่วไปของบริษัท
ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ThaiCERT) ออกประกาศเตือนเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่ากำลังมีการแพร่ระบาดของมัลแวร์ผ่าน Facebook ในลักษณะของการแจ้งเตือนว่ามีบุคคลอื่นพาดพิง (mention) ชื่อเราในโพสต์บน Facebook ซึ่งหากผู้ใช้คลิกเข้าไปอาจจะทำให้ติดมัลแวร์ที่สามารถสวมรอยหรือขโมยข้อมูลของผู้ใช้ได้
การแจ้งเตือนนี้เมื่อผู้ใช้คลิกเข้าไป จะนำผู้ใช้เข้าไปสู่เว็บไซต์ที่จะติดตั้งส่วนเสริมของ Google Chrome ที่เปลี่ยนสีของหน้าเว็บบน Facebook ขณะเดียวกันก็เปิดทางให้โพสต์ความเห็นใน Facebook โดยที่เราไม่ได้รับอนุญาต เมื่อเพื่อนเราได้รับการแจ้งเตือนก็จะถูกพาไปยังเว็บไซต์แบบเดียวกัน ซึ่งการกระทำแบบนี้อาจนำไปสู่การหลอกให้ดาวน์โหลดไฟล์ที่มีมัลแวร์หรือการขโมยรหัสผ่านได้
จากกรณีที่อดีตพนักงานเฟซบุ๊กออกมาแฉว่าบริษัทมีฝ่ายที่คอยควบคุมเนื้อหาบนแถบ Trending (ข่าวเก่า) ล่าสุดทางเฟซบุ๊กและ Mark Zuckerberg ซีอีโอออกมาแถลงอย่างเป็นทางการแล้ว
Justin Osofsky รองประธานฝ่าย Global Operations แถลงว่า ทางเฟซบุ๊กได้สอบสวนเกี่ยวกับข้อกล่าวหาข้างต้นอย่างจริงจัง และยืนยันไม่พบหลักฐานตามที่มีการกล่าวอ้าง พร้อมยืนยันว่าบริษัทให้ความสำคัญกับเนื้อหาบนแถบ Trending ซึ่งจะต้องสะท้อนประเด็นที่กำลังถูกพูดถึงอย่างแท้จริง โดยประเด็นเหล่านี้จะถูกตัดเลือกจากอัลกอริทึม ที่ติดตามคีย์เวิร์ดจากทั้งบนเฟซบุ๊กและ RSS Feed จากเว็บอื่นๆ ขณะที่ทีมงานมีหน้าที่คอยตรวจสอบว่าเนื้อหาที่ถูกเลือกมานั้น กำลังเป็นที่นิยมและถูกพูดถึงบนโลกแห่งความเป็นจริงและบนโซเชียลมีเดียเท่านั้น ซึ่งทีมงานเหล่านี้จะมีไกดืไลน์และกฎระเบียบที่ชัดเจนว่า "ห้ามก่อให้เกิดความลำเอียงทางการเมือง"
Facebook ประกาศจะแสดงภาพถ่ายแบบ 360 องศาบน News Feed หน้าปกติในเร็วๆ นี้ ถ้าหากเห็นเพื่อนของเราโพสต์ภาพ 360 องศาลักษณะนี้ เราสามารถใช้เมาส์ลากเพื่อดูมุมอื่นๆ ได้เลย หรือถ้าดูบนสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตก็สามารถหมุนเครื่องตามภาพได้
ภาพที่โพสต์ขึ้น Facebook ยังสามารถดูได้จากแอพ Oculus 360 Photos บนสมาร์ทโฟนของซัมซุง และบนแว่น Gear VR
ส่วนการถ่ายภาพแบบ 360 องศาเพื่อโพสต์ขึ้น Facebook สามารถใช้ได้ทั้งกล้องถ่ายภาพ 360 องศาในท้องตลาด หรือจากสมาร์ทโฟนโดยตรงก็ได้เช่นกัน
ที่มา - Oculus
ผู้ใช้เฟซบุ๊กน่าจะคุ้นเคยกับแถบ Trending ที่คอยบอกว่าข่าวหรือเนื้อหาแนวใดกำลังเป็นที่นิยมและพูดถึงอยู่ในขณะนี้ ซึ่งทางเฟซบุ๊กเคยออกมาบอกว่า อาศัยความสามารถของอัลกอริทึมในการประมวลผลและแสดงประเภทเนื้อหา แต่ทว่าอดีตพนักงานของเฟซบุ๊กหลายคน ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ข่าวไอทีต่างประเทศว่า แท้จริงแล้ว เฟซบุ๊กมีฝ่ายที่คอยควบคุมเนื้อหาบนแถบ Trending นี้
Quintly สถาบันวิเคราะห์สื่อ เผยผลการสำรวจผู้ใช้ Facebook ราว 130,000 คน ระหว่างวันที 10 - 25 เมษายน พบว่าปุ่ม reaction ที่คนกดมากที่สุด 76% ยังคงเป็นปุ่ม like ไม่เพียงเท่านี้ การกดไลค์ยังเป็นพฤติกรรมที่ผู้ใช้ Facebook กระทำมากที่สุด เมื่อเทียบกับการแชร์ คอมเมนท์ และอื่นๆ
ผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่า แม้ Facebook จะเปิดตัวปุ่ม reaction ใหม่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์สร้างความสนใจแก่ผู้ใช้ แต่เอาเข้าจริงกลับไม่ popular เท่าที่ควร มีอัตราการใช้ปุ่ม reaction ใหม่เพิ่มขึ้นน้อยกว่า 3% ผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังคงกดปุ่มไลค์มากที่สุด รองลงมาคือปุ่ม love angry ตามลำดับ
หลังเป็นประเด็นที่สังคมตั้งคำถามมาซักพัก ล่าสุดองค์การ Human Rights Watch ได้สอบถามไปยัง Facebook สำนักงานใหญ่ในประเด็นความปลอดภัยและการให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ ซึ่งได้รับคำยืนยันว่า Facebook ไม่เคยให้ข้อมูลใดๆ และไม่เคยให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยแต่อย่างใด สอดคล้องกับที่ Facebook ในกรุงลอนดอนออกมาให้ข้อมูลก่อนหน้านี้
นอกจาก "IPHONE" จะเป็นปัญหาเรื่องเครื่องหมายการค้าในจีนแล้ว สื่อโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่จาก Facebook ถึงแม้จะถูกบล็อกในจีน แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาในลักษณะเดียวกัน ต่างกันเพียงว่าศาลสูงตัดสินให้ Facebook เป็นผู้ชนะคดี
คู่กรณีของ Facebook คือ "face book" บริษัทผลิตเครื่องดื่มและอาหารจากมณฑลกวางตุ้ง ที่เพิ่งยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา โดยศาลระบุว่า face book จงใจเลียนแบบเครื่องหมายการค้าที่เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง ซึ่งคำตัดสินในครั้งนี้เท่ากับว่าทาง Facebook สามารถพิสูจน์ได้ว่า แบรนด์ของตนนั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมาก่อนแล้วในประเทศจีน
เฟซบุ๊ก โดนผู้ใช้รัฐอิลลินอยส์รวมตัวกันฟ้องแบบกลุ่ม ฐานละเมิดกฎหมายที่ว่าด้วยความเป็นส่วนตัวของข้อมูลไบโอเมตริก (Biometric Information Privacy Act - BIPA) จากฟีเจอร์ auto tag ที่เฟซบุ๊กใช้ซอฟต์แวร์ที่สามารถจดจำและแยกแยะหน้าตาของผู้ใช้
แรกเริ่มคดีนี้ถุกฟ้องที่ศาลในรัฐอิลลินอยส์ ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ในความรับผิดชอบของศาลเขตแคลิฟอร์เนียเหนือตามคำขอของเฟซบุ๊ก เพื่อต้องการให้ศาลแคลิฟอร์เนียยกฟ้อง เพราะรัฐแคลิฟอร์เนียไม่มีกฎหมายลักษณะเดียวกับ BIPA รวมถึงแย้งด้วยว่าผู้ใช้ไม่มีเหตุผลจะฟ้อง เพราะเฟซบุ๊กได้ระบุไว้ในเงื่อนไขและข้อตกลง ซึ่งออกในปี 2015 ไว้แล้ว พร้อมชี้แจงว่าการเก็บข้อมูลหน้าตาของเฟซบุ๊ก แตกต่างจากที่ระบุไว้ใน BIPA ด้วย
อย่างไรก็ตามล่าสุดศาลของแคลิฟอร์เนียระบุว่าชาวอิลลินอยส์ มีเหตุผลเพียงพอที่จะฟ้องร้องเฟซบุ๊ก แต่ไม่ได้ตัดสินว่าเฟซบุ๊กละเมิดกฎหมาย BIPA หรือไม่อย่างไร
ที่มา - Ars Technica
ข่าวการเมืองในช่วงนี้ สร้างความตื่นตัวเรื่องความปลอดภัยในการใช้งาน Facebook และบริการออนไลน์อื่นๆ ในหมู่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตชาวไทยขึ้นมาก บทความนี้เขียนขึ้นเพื่ออธิบายฟีเจอร์ความปลอดภัยต่างๆ ของ Facebook ที่มีอยู่แล้ว ที่ช่วยให้บัญชีผู้ใช้งานของเราแข็งแกร่ง ทนทานต่อการแฮ็กหรือการถูกเจาะมากขึ้น
ผู้ใช้ Facebook ทุกคนสามารถใช้งานฟีเจอร์เหล่านี้ได้ทันที และ Blognone แนะนำว่าเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ Facebook ทุกคนควรทำ
Facebook กำลังทดสอบฟีเจอร์ Discover ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำหรับค้นพบกลุ่มที่ผู้ใช้อาจจะสนใจ โดย Facebook จะคัดเลือกกลุ่มมาแสดงตามข้อมูลแวดล้อม, ความชอบของผู้ใช้และเพื่อน จากนั้นจะแสดงกลุ่มที่คาดว่าผู้ใช้น่าจะสนใจขึ้นมา หรือถ้าไม่พอใจก็มีปุ่มให้เลือกกลุ่มจากเรื่องที่สนใจ 25 ตัวเลือก เช่น กีฬา, งานอดิเรก, ซื้อขาย ฯลฯ
ฟีเจอร์ Discover ของ Facebook นี้ยังเปิดให้ใช้กับผู้ใช้จำนวนหนึ่งเท่านั้น และ Facebook จะเปิดฟีเจอร์นี้ให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้งานได้ในอีกไม่นานนัก
มีผู้ใช้คนหนึ่งใน Twitter ที่ใช้ชื่อว่า Sreedev Sharma ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพดอกไม้สีม่วง เพื่อบอกว่าตอนนี้ Facebook ได้ทำการทดสอบ Reactions พิเศษสำหรับวันแม่ในหลายประเทศที่ใกล้จะมาถึง
Reaction พิเศษของวันแม่ดอกไม้สีม่วงจะใช้ชื่อว่า thankful ซึ่งตัวแทนจาก Facebook ก็ได้กล่าวกับ The Verge ว่าตอนนี้กำลังทดสอบ Reactions ดอกไม้อยู่จริง และจะเปิดให้ผู้ใช้กลุ่มเป้าหมายบางกลุ่มเท่านั้น
หากการทดสอบนี้เป็นไปได้ด้วยดี ก็มีโอกาสที่ Facebook จะเปิด Reactions พิเศษให้ใช้งานในเทศกาลหรือวันสำคัญต่างๆ ในแต่ละประเทศ โดย Reactions พิเศษเหล่านี้จะกำหนดให้ใช้งานได้เฉพาะวันที่ระบุเท่านั้น
จากข่าว Facebook ตอบรับคำขอรัฐบาล บล็อคเพจหมิ่นเบื้องสูง และข่าวการจับกุมผู้ใช้ Facebook โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าใช้ข้อความจาก Facebook Messenger เป็นหลักฐานการจับกุม แต่ไม่เปิดเผยว่าเข้าถึงข้อความได้อย่างไร
ทางสำนักข่าว BBC Thai สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Facebook ในกรุงลอนดอน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อ้างข้อมูลจาก Facebook Government Requests Report ฉบับล่าสุด (นับถึงสิ้นปี 2015) ว่าบริษัทไม่ได้ให้ข้อมูลใดๆ ของผู้ใช้กับทางการไทย
เฟซบุ๊กยินยอมร่วมมือกับรัฐบาลไทยในประเด็นด้านความมั่นคงอีกครั้ง โดยเพจ กูKult ที่มีเนื้อหาหมิ่นเบื้องสูง ถูกปิดกั้นไม่ให้เข้าถึงได้แล้วจากประเทศไทย โดยระบุแต่เพียงว่า กฎหมายของไทยไม่อนุญาตให้เข้าถึงเนื้อหาของเพจนี้
สิ่งหนึ่งที่ผมตั้งข้อสังเกตคือ เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับการที่ตำรวจ สามารถเข้าถึงบทสนทนาใน Messenger ของแอดมินเพจ "เรารักพลเอกประยุทธ์" ที่โดนตั้งข้อกล่าวหากระทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเฟซบุ๊กได้ยื่นมือเข้ามาช่วยมากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานการปิดกั้นเพจอื่นๆ ในลักษณะเดียวกันครับ
ทั้งนี้ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฟซบุ๊กบล็อคคอนเทนต์ที่กระทบความมั่นคงตามคำขอของรัฐบาลไทย
ที่มา - Khaosod English
สืบเนื่องจาก WhatsApp ถูกศาลบราซิลสั่งให้ปิดระบบการใช้งานเป็นเวลา 72 ชั่วโมง เพราะการเข้ารหัสของแอพฯทำให้ตำรวจไม่สามารถสืบสวนคดีได้ ล่าสุดเมื่อวันอังคารศาลอุทธรณ์คำตัดสิน ส่งผลให้ WhatsApp กลับมาใช้งานได้อีกครัง หลังจากนั้น Mark Zuckerberg โพสต์ Facebook ว่า การที่คนบราซิลถูกเพิกเฉยในเรื่องเสรีภาพการสื่อสารในช่องทางที่พวกเขาต้องการ เป็นสิ่งที่น่ากลัวมากในระบอบประชาธิปไตย
หลังจาก Facebook เคยประกาศว่าเตรียมจะออกแอพที่สร้างใหม่เพื่อ Windows 10 เป็นการเฉพาะ วันนี้ทางบริษัทออกมาประกาศว่าพร้อมปล่อยให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอพดังกล่าว โดยไม่ได้มาเฉพาะ Facebook เท่านั้น แต่ยังมาคู่กับ Messenger และ Instagram ด้วย
สำหรับแอพ Facebook ความเปลี่ยนแปลงหลักๆ คงเป็นเรื่องของความสามารถในการแชร์รูปจาก File Explorer ได้โดยตรง กับปรับปรุงคุณสมบัติให้แอพบน Windows 10 รองรับคุณสมบัติทัดเทียมกับแพลตฟอร์มอื่น ส่วนแอพ Messenger และ Instagram ก็เป็นการเขียนใหม่หมด มีคุณสมบัติต่างๆ ทัดเทียมกับแอพบนแพลตฟอร์มอื่นๆ
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้จาก Windows Store โดย Facebook และ Messenger รองรับเฉพาะ Desktop อย่างเดียวก่อน (Windows 10 Mobile ยังรอต่อไป) ส่วน Instagram รองรับเฉพาะ Windows 10 Mobile อย่างเดียวเท่านั้นครับ
ที่มา - Facebook
Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2016 มีรายได้รวม 5,382 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 52% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,229 ล้านดอลลาร์ โดยรายได้จากโฆษณาบนมือถือคิดเป็น 82% ของรายได้รวม
ตัวเลขผู้ใช้งานยังคงเติบโตด้วยอัตราที่ใกล้เคียงอดีต มีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (Monthly active users - MAUs) 1,654 ล้านคน เพิ่มขึ้น 15% ส่วนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน (DAUs – Daily active users) อยู่ที่ 1,090 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16%
Facebook ยังประกาศปันผลหุ้นคลาส C ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 2 หุ้นคลาส C ต่อหนึ่งหุ้นคลาส A และ B โดยหุ้นนี้เป็นหุ้นด้อยสิทธิออกเสียง (non-voting) ซึ่งการเพิ่มหุ้นดังกล่าวจะทำให้ Facebook และซีอีโอ Mark Zuckerberg ยังคงอำนาจในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ระยะยาวต่อไปได้ราบรื่นเหมือนเดิม เหมือนกับกูเกิลที่เคยเพิ่มหุ้นแบบนี้
เหตุที่ Facebook ต้องเพิ่มหุ้นดังกล่าวก็เนื่องจาก Mark Zuckerberg ได้ประกาศยกหุ้น 99% เพื่อองค์กรการกุศล จึงอาจเกิดการแทรกแซงกิจการได้ในอนาคต โดยเขายกตัวอย่างว่าหาก Facebook ไม่คงอำนาจการตัดสินใจไว้ที่ตัวเขาแล้ว ดีลซื้อ Instagram ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ หรือไม่อย่างนั้น Facebook คงยอมขายกิจการให้ยาฮูไปแล้ว
Wall Street Journal รายงานข่าวลือว่า Facebook กำลังซุ่มพัฒนาแอพกล้องถ่ายภาพ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้แชร์ภาพและวิดีโอมากขึ้น
ตามข่าวบอกว่ารูปแบบแอพคล้ายกับ Snapchat คือเน้นถ่ายภาพและวิดีโอเพื่อแชร์ในกลุ่มเพื่อนๆ แต่ก็จะมีฟีเจอร์ถ่ายภาพเพื่อ Live ในอนาคตด้วย
Facebook Live กลายเป็นฟีเจอร์ที่ Facebook ผลักดันอย่างหนักในปีนี้ แต่หลายคนอาจรำคาญการแจ้งเตือนว่าเพื่อน เพจ หรือคนที่เราติดตามอยู่กำลังถ่ายทอด Live กันอยู่ตลอดเวลา
ล่าสุด Facebook เปิดให้เราสามารถ "ปิด" การแจ้งเตือนนี้ได้แล้ว ให้เข้าไปที่ Settings > Notifications > On Facebook และ Live Videos ครับ (ผมลองกับบัญชีตัวเองก็ใช้ได้แล้ว)
Facebook ได้ออกรายงานเรื่องการใช้บริการผ่านเครือข่าย Tor ทั้งผ่านโดเมนเนม .onion ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 2014 และผ่านแอพบน Android
จากรายงานกล่าวว่า เมื่อตอนช่วงเดือนมิถุนายน 2015 มีผู้ใช้ที่เข้าใช้ Facebook ผ่านเครือข่าย Tor ในช่วง 30 วันอยู่ที่ 525,000 คน และค่อยๆ เติบโตมาเรื่อยๆ และในเดือนนี้เป็นครั้งแรกที่จำนวนผู้ใช้ Facebook ผ่านเครือข่าย Tor ในช่วง 30 วันมีจำนวนแตะ 1 ล้านคนแล้ว
ยอดการเติบโตนี้ Facebook บอกว่าการเติบโตนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้สนใจช่องทางการใช้ Facebook ผ่าน Tor และทาง Facebook จะคอยรับฟังเสียงตอบรับจากผู้ใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป