AMD รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2014 มีรายได้ 1,239 ล้านดอลลาร์ ลดลง 22% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ซึ่งส่งผลให้สุทธิแล้วขาดทุน 364 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ปีก่อนมีกำไร
Dr. Lisa Su ซีอีโอ AMD กล่าวว่าบริษัทยังคงดำเนินงานได้ดีตามแผนที่วางไว้ โดยมีการเติบโตในกลุ่มสินค้าองค์กรถึง 50% ขณะที่ตลาดพีซีมีความท้าทายมากขึ้น
ที่มา: AMD
อินเทลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2014 มีรายได้เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 14,721 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 3,661 ล้านดอลลาร์
รายได้ส่วนธุรกิจซีพียูสำหรับเซิร์ฟเวอร์เติบโตสูงมากในไตรมาสที่ผ่านมาถึง 25% ขณะที่กลุ่มพีซีเติบโต 3% และกลุ่ม Internet of Things เติบโต 10%
ที่มา: อินเทล
ซัมซุงออกมารายงานตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2014 คาดมีรายได้ 52 ล้านล้านวอน และมีกำไรจากการดำเนินงาน 5.2 ล้านล้านวอน โดยรายได้นั้นลดลง 12% หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า ส่วนกำไรลดลง 37%
ถ้าหากตัวเลขอย่างเป็นทางการที่ซัมซุงจะรายงานช่วงปลายเดือน ออกมาเป็นตามนี้จริง (ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ผิดพลาดไปนัก) จะถือเป็นกำไรของบริษัทที่ลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 ถึงแม้บริษัทจะขายสมาร์ทโฟนได้เป็นจำนวนเพิ่มขึ้น แต่ซัมซุงยังต้องเผชิญแรงกดดันสำคัญจากบรรดาสมาร์ทโฟนจีนอยู่นั่นเอง
HTC รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2014 แบบยังไม่ตรวจสอบ มีรายได้รวม 47,870 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (1,500 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 11.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และถือเป็นไตรมาสแรกในรอบกว่าสามปี ที่ HTC มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 470 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน
อย่างไรก็ตามเมื่อคิดภาพรวมตลอดปี 2014 HTC ก็ยังมีรายได้ที่ลดลง ซึ่งเป็นผลจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดสมาร์ทโฟนนั่นเอง
Bin Lin ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน Xiaomi เปิดเผยข้อมูลผลการดำเนินงานในปี 2014 ระบุว่าบริษัทขายสมาร์ทโฟนไปได้ 61.12 ล้านเครื่อง คิดเป็นรายได้รวม 74,300 ล้านหยวน (ประมาณ 11,900 ล้านดอลลาร์) ถือเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะในปี 2013 บริษัทขายสมาร์ทโฟนไปได้ 18.7 ล้านเครื่อง
ในปี 2014 ยังถือเป็นก้าวสำคัญของ Xiaomi เนื่องจากบริษัทสามารถขึ้นแซงหน้าซัมซุง เป็นผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดในจีนได้ ซึ่งบริษัทก็ยอมรับว่ากลยุทธ์ของบริษัทกำลังถูกคู่แข่งศึกษาอย่างมาก เพราะตลาดในจีนมีการแข่งขันสูง
นอกจากนี้ Xiaomi ยังเปิดเผยว่ายอดขายในประเทศอินเดียซึ่งถือเป็นอีกตลาดที่บริษัทให้ความสำคัญ สามารถขายสมาร์ทโฟนไปได้กว่า 1 ล้านเครื่อง หลังจากวางขายเพียง 5 เดือนเท่านั้น
เมื่อเดือนก่อน Wall Street Journal ได้รายงานตัวเลขผลประกอบการของ Xiaomi ในปี 2013 ระบุว่ามีรายได้ 4,420 ล้านดอลลาร์ และมีกำไร 566 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเติบโตจากปี 2012 แบบเท่าตัว แต่ล่าสุดสำนักข่าว Reuters ได้เปิดเผยตัวเลขในเอกสารที่ Xiaomi รายงานต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์จีน ซึ่งแตกต่างไปอย่างมาก
Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2014 (กันยายน-พฤศจิกายน) มีรายได้รวม 1,073.3 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 73.3 ล้านดอลลาร์ โดยในไตรมาสที่ผ่านมามีผู้สมัครใช้ Creative Cloud เพิ่มอีกกว่า 6 แสนคน รวมมีสมาชิก 3.45 ล้านคนแล้ว
โครงสร้างรายได้ Adobe ในปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนไปมาก ปีก่อนบริษัทมีรายได้จากลูกค้าประเภทสมัครสมาชิก 44% แต่ไตรมาสล่าสุดเพิ่มมาเป็น 66% แล้ว
นอกจากนี้ Adobe ยังประกาศแผนเข้าซื้อกิจการ Fotolia เว็บขายภาพถ่ายที่มูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ด้วย
ที่มา: Adobe
HP รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปีการเงินบริษัท 2014 สิ้นสุดงวดวันที่ 31 ตุลาคม 2014 มีรายได้รวม 28,406 ล้านดอลลาร์ ลดลง 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,330 ล้านดอลลาร์ ลดลง 5.9%
ในภาพรวมนั้นทุกกลุ่มธุรกิจของ HP มีรายได้ลดลงไม่ว่าจะเป็น Printer, บริการกลุ่มลูกค้าองค์กร, ซอฟต์แวร์, บริการทางการเงิน มีเพียงธุรกิจเดียวที่รายได้เพิ่มขึ้นคือพีซี ซึ่งในรายละเอียดนั้น พีซีลูกค้าองค์กรรายได้เติบโต 7% แต่พีซีกลุ่มลูกค้าทั่วไปรายได้ลดลง 2%
ซีอีโอ Meg Whitman ยังยืนยันว่าแผนการพลิกฟื้น HP นั้นดำเนินมาได้ดีตามที่วางไว้ มีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีแผนสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคตที่จะเร่งให้ HP เติบโตได้มากขึ้น
ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานผลการดำเนินประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2557 โดยมีรายได้รวม 26,448 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน เพิ่มขึ้น 8.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองของปีนี้ มีกำไรจากการดำเนินงานที่เป็นเงินสด (EBITDA) 5,123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.9% แต่สุทธิแล้วยังคงขาดทุน 2,640 ล้านบาท อันเป็นผลจากการร่นระยะเวลาตัดค่าเสื่อมของสินทรัพย์โครงข่าย 2G
ผลการดำเนินงานแยกตาม 3 ส่วนธุรกิจหลักของทรูเป็นดังนี้
บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินในไตรมาสที่ 3 ของปี 2557 มีรายได้รวม 2,698 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 152 ล้านบาท ลดลงถึง 31.4% อันเป็นผลจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้เป็นทุนหมุนเวียนที่สูงขึ้น
โทรศัพท์มือถือที่เป็นธุรกิจหลัก คิดเป็น 90% ของรายได้รวม มีรายได้เพิ่มขึ้น 2.7% โดยไตรมาสที่ผ่านมามีการออกสมาร์ทโฟนใหม่อีก 10 รุ่น เป็นรุ่นที่ดูทีวีดิจิตอลได้ 5 รุ่น โดยขายโทรศัพท์ได้รวม 1 ล้านเครื่อง เฉลี่ย 2,711 บาทต่อเครื่อง
ทั้งนี้ไอ-โมบายคาดว่าไตรมาสที่ 4 จะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นมาก เนื่องจากบริษัทได้รับคำสั่งซื้อโทรศัพท์เป็นพิเศษจากดีแทค 5 แสนเครื่อง อีกทั้งทีวีดิจิตอลก็เริ่มขยายพื้นที่รับชมมากขึ้นด้วย
เจมาร์ทรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2557 โดยมีรายได้จากการขายและบริการรวม 2,136.28 ล้านบาท ลดลง 10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 66 ล้านบาท ลดลง 36%
ยอดขายโทรศัพท์เป็นจำนวนเครื่องของเจมาร์ทนั้นลดลงไป 1% แต่ส่วนที่กระทบรายได้มากคือราคาขายเฉลี่ยต่อเครื่องซึ่งอยู่ที่ 5,500 บาท ลดลงอย่างมากจากไตรมาสที่สองซึ่งอยู่ที่ 6,290 บาท
อย่างไรก็ตามในไตรมาสที่ 4 ตัวเลขนี้น่าจะออกมาดีขึ้น เนื่องจากมีสมาร์ทโฟนเรือธงที่มีราคาสูงอย่าง Galaxy Note 4 และ iPhone 6 เริ่มจำหน่ายครับ
อัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดของ Xiaomi อาจสร้างความสงสัยให้หลายๆ คนว่าบริษัทขายมือถือในราคาถูกขนาดนี้แล้วมีกำไรหรือไม่ แต่เนื่องจาก Xiaomi ไม่ได้เป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ เลยไม่ต้องเปิดเผยตัวเลขเหล่านี้
ปริศนาทั้งหมดไขกระจ่างเมื่อหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ได้เอกสารภายในของ Xiaomi (แปลว่าไม่ใช่ข้อมูลอย่างเป็นทางการ) และพบว่า Xiaomi มีกำไรแถมเยอะเสียด้วย
ตัวเลขทางการเงินของ Xiaomi ตามเอกสารของ WSJ
NVIDIA เผยผลประกอบการไตรมาสสาม ปีงบประมาณ 2015 รายได้มากเป็นประวัติการณ์ 1.23 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16% จากปีที่แล้ว (ถ้านับรายได้สามไตรมาสรวมกันอยู่ที่ 3.43 พันล้านดอลลาร์ มากเป็นประวัติการณ์ของบริษัทและเพิ่มขึ้น 15% จากปีที่แล้ว) ส่วนกำไรต่อไตรมาสอยู่ที่ 173 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% จากปีที่แล้ว
เลอโนโวรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัทสิ้นสุดเดือนกันยายน มีรายได้รวม 10,500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 262 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 19%
ไตรมาสนี้เลอโนโวส่งมอบสมาร์ทโฟน+พีซี+แท็บเล็ต มียอดรวมกันเป็นสถิติใหม่คือ 35.6 ล้านเครื่อง โดยเป็นแท็บเล็ต 3 ล้านเครื่อง และเมื่อวัดเป็นส่วนแบ่งการตลาด ส่วนของพีซียังคงเป็นอันดับ 1 ที่ 19.7% และหากเป็นพีซีบวกแท็บเล็ต เลอโนโวก็จะเป็นอันดับ 1 เช่นกันที่ 14.1% ขณะที่ส่วนแบ่งสมาร์ทโฟนอยู่ในอันดับ 4 แต่ถ้ารวมโมโตโรลาด้วยจะเป็นอันดับ 3
นอกจากนี้เลอโนโวยังประกาศแต่งตั้ง Jerry Yang ผู้ก่อตั้งยาฮู เข้าร่วมกรรมการบอร์ดบริหารด้วย
บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) (SPVi) หนึ่งในตัวแทนจำหน่ายสินค้าแอปเปิลในประเทศไทย รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปี 2557 มีรายได้รวม 366.58 ล้านบาท ลดลง 18.62% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2556 และมีกำไรสุทธิ 2.38 ล้านบาท ลดลง 46.10%
SPVi ระบุว่าที่ตัวเลขไตรมาสนี้ออกมาลดลง มีสาเหตุจากสภาพเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว อีกทั้งลูกค้าเองก็ชะลอการซื้อสินค้าเพื่อรอสินค้าใหม่ที่เปิดตัวในต้นไตรมาสที่ 4 นอกจากนี้บริษัทยังแจ้งยกเลิกสัญญาตั้งตัวแทนขายสินค้าแอปเปิลในห้างบิ๊กซีด้วย
ในปีหน้าบริษัทคอมเซเว่นฯ มีแผนจะเข้าตลาดหุ้น ซึ่งคอมเซเว่นฯ ก็เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแอปเปิลรายใหญ่อีกรายในไทย ก็น่าจะเห็นการเปรียบเทียบได้ชัดเจนขึ้นครับ
LINE ประกาศผลดำเนินงานไตรมาสที่สามสิ้นสุดเดือนกันยายนที่ผ่านมา รายได้รวม 23,000 ล้านเยน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 82.9% แต่หากแยกเฉพาะธุรกิจหลักจะอยู่ที่ 20,900 ล้านเยนเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 104.2%
ตอนนี้ LINE มีผู้ใช้ 170 ล้านคนในเดือนล่าสุด แต่เกินครึ่งมาจากสามประเทศ คือ ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, และไทย ส่วนตลาดอื่นๆ แม้จะพยายามบุกบ้างแต่ก็ยังเจาะตลาดไม่เข้า ทาง LINE ระบุว่ามี 11 ประเทศที่มีผู้ใช้เกิน 10 ล้านคน เช่น สหรัฐฯ 25 ล้าน, อินเดีย 30 ล้าน, และโคลัมเบีย 10 ล้าน
LINE Creator Market เป็นความสำเร็จของ LINE โดยตอนนี้มีศิลปินลงทะเบียนแล้ว 250,000 คน มีสติกเกอร์ส่งเข้าไป 23,000 ชุด
เอไอเอสรายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2557 มีรายได้รวม 35,355 ล้านบาท ลดลง 3.1% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ เพราะยอดขายโทรศัพท์มือถือลดลงเนื่องจากลูกค้ารอซื้อ iPhone 6 แต่เพิ่มขึ้น 2.6% หากเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากได้ค่าเชื่อมโยงโครงข่าย (IC) เพิ่มขึ้น และมีกำไรสุทธิ 8,955 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน
บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT เปิดเผยรายได้ใน 9 เดือนแรกของปี 2557 มีรายได้รวม 37,400 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 44 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายส่งความจุโครงข่ายกับเรียลมูฟ 19,000 ล้านบาท ค่าสัมปทานจากดีแทค 7,500 ล้านบาท บรอดแบนด์ 5,200 ล้านบาท และโทรศัพท์ระหว่างประเทศ 2,700 ล้านบาท
คุณวิโรจน์ โตเจริญวาณิช รักษาการตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ CAT เผยว่ากำไรใน 9 เดือนแรกต่ำกว่าเป้าหมาย 387 ล้านบาทที่ตั้งไว้ เนื่องมีรายได้ส่วนแบ่งของดีแทคลดลงมากจากการที่ลูกค้าย้ายไปคลื่น 2100 MHz จึงได้แค่ค่าโรมมิ่งสัญญาณ
โซนี่รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปีการเงินบริษัท 2014 (กรกฎาคม-กันยายน) มียอดขาย 1.9015 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 7.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน หรือคิดเป็น 17,445 ล้านดอลลาร์ แต่สุทธิแล้วขาดทุน 136,000 ล้านเยน ซึ่งก็เป็นไปตามที่บริษัทออกมาเกริ่นไว้เมื่อเดือนก่อน ซึ่งถือว่าขาดทุนน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้
โซนี่เผยว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากยอดขาย PlayStation 4 และสินค้ากลุ่มอุปกรณ์ถ่ายภาพ แต่ที่ขาดทุนสูงก็เนื่องจากกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีการตัดค่าใช้จ่ายด้อยค่าจำนวน 176,000 ล้านเยน และยังมีค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้น
LINE รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2014 มีรายได้รวม 23,000 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 16.6% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ และเพิ่มขึ้น 82.9% หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน (ชะลอตัวลงหากเทียบกับไตรมาสสอง) โดย LINE ยังคงไม่เปิดเผยว่าสุทธิแล้วกำไรหรือขาดทุนเท่าใด
LINE ผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAU) 170 ล้านคน โดย 87 ล้านคนเป็นผู้ใช้จากใน 3 ประเทศตลาดหลักคือญี่ปุ่น, ไต้หวัน และไทย ขณะที่ตัวเลขผู้ลงทะเบียนใช้งานในประเทศใหม่ๆ ก็ยังเติบโตได้ดี โดยในอเมริกามี 25 ล้านคน ส่วนอินเดียมี 30 ล้านคน
ที่มา: LINE
ในที่สุดความพยายามของนินเทนโดก็ประสบผลสำเร็จ หลังจากขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ในไตรมาสล่าสุดเริ่มมีความหวังว่าปีนี้จะกลับมาทำกำไร หลังจากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดเริ่มทำเงินได้แล้ว
รายงานผลประกอบการรอบนี้นับย้อนหลัง 6 เดือนตั้งแต่ เดือนเมษายนจนถึงเดือนกันยายน ที่แม้ว่าจะทำยอดขายรวมลดลง และยังขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ 215 ล้านเยน แต่ผลกำไรตีกลับมาเป็นบวกแล้ว โดยทำเงินไปได้ 14,300 ล้านเยนด้วยกัน
สำหรับการกลับมาทำตัวเขียวของนินเทนโดครั้งนี้ได้ปัจจัยมาจากยอดขายของเกมดังในเครือทั้ง Super Smash Bros และ Mario Kart 8 รวมถึงเกมดังอื่นที่ฉุดยอดขายของ Wii U เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอีกด้วย
Baidu ประกาศผลดำเนินงานไตรมาสสามประจำปี 2014 สิ้นสุดที่เดือนกันยายนที่ผ่านมา รายได้รวม 2,203 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 52.0% แต่กำไรอยู่ที่ 638.6 เพิ่มขึ้นเพียง 17.4%
ทาง Baidu ระบุว่าไตรมาสนี้เป็นไตรมาสแรกที่ทราฟิกจากอุปกรณ์เคลื่อนที่แซงหน้าพีซีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และรายได้ทั้งหมดมาจากพีซี 36% สำหรับไตรมาสที่สี่คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 2,256 ล้านดอลลาร์ถึง 2,322 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่ได้ระบุคาดการณ์กำไร
ตลาดหุ้น NASDAQ ดูจะผิดหวังกับผลประกอบการของ Baidu ราคาหุ้นหลังประกาศลดลงไปจากวันก่อนหน้าประมาณ 2%
ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2014 ออกมาใกล้เคียงกับที่บริษัทคาดการณ์เมื่อต้นเดือน มียอดขายรวม 47.45 ล้านล้านวอน ลดลง 19.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน กำไรจากการดำเนินงาน 4.06 ล้านล้านวอน ลดลง 60.0% และกำไรสุทธิ 4.22 ล้านล้านวอน ลดลง 48.8% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบกว่า 3 ปี
LG รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2014 มีรายได้รวม 14.92 ล้านล้านวอน (14,540 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 7.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีกำไรจากการดำเนินงาน 461,300 ล้านวอน เพิ่มขึ้น 111% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 203,000 ล้านวอน
ตัวเลขที่ออกมาดีมากของ LG นี้มีปัจจัยหลักจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่แข็งแกร่ง มียอดขาย 4.25 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 39% มีกำไรจากการดำเนินงาน 167,400 ล้านวอน สูงที่สุดในรอบ 5 ปี โดยขายโทรศัพท์มือถือได้ถึง 16.8 ล้านเครื่อง เป็นสถิติใหม่อีกครั้ง ซึ่ง LG ให้เครดิตกับ G3 และสมาร์ทโฟนซีรี่ย์ L
สำหรับธุรกิจอื่นของ LG ได้แก่ โทรทัศน์ที่เป็นรายได้หลักของบริษัท ตลอดจนเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศ ล้วนมียอดขายลดลงเล็กน้อยครับ
Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2014 มีรายได้รวม 3,203 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 806 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 90%
โฆษณาซึ่งเป็นรายได้หลักของ Facebook ทำเงินในไตรมาสนี้ 2,960 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 64% จากปีก่อน และ 66% ของรายได้โฆษณาเป็นโฆษณาจากแพลตฟอร์มบนมือถือ
จำนวนผู้ใช้งานล่าสุด แบ่งได้เป็นผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน 864 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อน และเป็นผู้ใช้งานบนมือถือ 703 ล้านคน ขณะที่ตัวเลขผู้ใช้งานเป็นประจำระดับทุกเดือนมีอยู่ 1,350 ล้านคน