บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) (SPVi) หนึ่งในตัวแทนจำหน่ายสินค้าแอปเปิลในประเทศไทย รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 มีรายได้รวม 445.84 ล้านบาท ลดลง 18.88% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2556 และมีกำไรสุทธิ 1.68 ล้านบาท ลดลง 57.97%

บริษัทกล่าวว่าสาเหตุที่ตัวเลขไตรมาสที่ 2 ออกมาลดลงก็เนื่องจากสภาพการเมืองของประเทศช่วงที่ผ่านมาไม่ปกติ อีกทั้งการเปิดภาคเรียนของสถาบันอุดมศึกษา ที่เลื่อนออกไปเปิดภาคเรียนช่วงไตรมาสที่ 3 จากเดิมเป็นไตรมาสที่ 2 ก็ส่งผลต่อการจัดซื้อสินค้าและช้าออกไป

ที่มา: เอส พี วี ไอ

ถ้าพูดถึงวงการ "ดูหนังที่บ้าน" ในสหรัฐอเมริกา คงไม่มีการต่อสู้ไหนโดดเด่นไปกว่า "สื่อเก่า" HBO ปะทะ "สื่อใหม่" Netflix (แม้ช่วงหลัง HBO จะหันมาทำระบบดูหนังออนไลน์ HBO Go ก็ตาม)

ล่าสุด Reed Hasting ซีอีโอ Netflix ออกมาคุยทับ HBO ว่ารายได้ไตรมาสล่าสุดของ Netflix อยู่ที่ 1.146 พันล้านดอลลาร์ แซงหน้ารายได้ของ HBO ที่ 1.141 พันล้านดอลลาร์เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า Netflix ยังตามหลัง HBO ในเรื่องกำไรและรางวัล Emmy ที่ได้รับอยู่ แต่ก็จะพยายามเต็มที่ในการไล่ให้ทันในเรื่องนี้

ปัจจุบัน HBO มีสมาชิก 130 ล้านคนทั่วโลก ในขณะที่ Netflix ยังมีสมาชิกประมาณ 50 ล้านคน

ที่มา - Ars Technica

NVIDIA ประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด รายได้โตขึ้น 13% และกำไรโตขึ้น 33%

ปัจจัยช่วยผลักดันให้ NVIDIA กำไรดีเยี่ยมมาจากธุรกิจหลัก GeForce ที่รายได้เพิ่ม 10% อันเป็นผลมาจากตลาดพีซีสำหรับเกมเมอร์ที่เติบโตขึ้น โดยภูมิภาคที่มีความสำคัญคือจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังเติบโตได้อีกมาก

ส่วนตลาดชิปสำหรับอุปกรณ์พกพาอย่าง Tegra ก็ได้ทั้งตลาดระบบความบันเทิงในรถยนต์ และแท็บเล็ตรุ่นดัง Xiaomi MiPad ช่วยผลักดันอย่างเต็มที่

Jen-Hsun Huang ซีอีโอของ NVIDIA บอกว่าเขาตั้งความหวังกับ SHIELD Tablet เป็นอย่างมาก และคาดว่ามันจะจับตลาดเกมเมอร์ที่ต้องการเล่นเกมบนแท็บเล็ตได้เป็นอย่างดี

บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินในไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 มีรายได้รวม 3,472 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 290 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.2%

รายได้หลัก 92% ของสามารถ ไอ-โมบายมาจากกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์มือถือ (ที่เหลือคือ i-mobile 3GX, BUG1113 ฯลฯ) ซึ่งขายโทรศัพท์ได้รวม 1.3 ล้านเครื่อง โดยไตรมาสที่ผ่านมามีการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Octa Core ออกมาหลายรุ่น และโทรศัพท์ตระกูล DTV ที่สามารถรับชมทีวีดิจิตอลได้อีก 5 รุ่น

ไมโครซอฟท์ได้ยื่นฟอร์ม 8-K ประจำไตรมาสที่สองของปีนี้ ต่อ Securities and Exchange Commission (กลต. สหรัฐ) โดยเอกสารระบุว่าไมโครซอฟท์ทำเงินจาก Surface ที่ 409 ล้านดอลลาร์ แต่กลับไม่เปิดเผยต้นทุนของรายได้ (cost of revenue) ของ Surface เหมือนกับรายงานสองไตรมาสก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ Computerworld ประมาณต้นทุนของรายได้โดยอ้างอิงข้อมูลจากฟอร์ม 10-K ที่ไมโครซอฟท์ยื่นให้กลต. สหรัฐ เมื่อวันศุกร์ที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา และข้อมูลจากการรายงานก่อนหน้านี้ และพบว่าบริษัทน่าจะมีต้นทุนกับ Surface ในไตรมาสสองที่เพิ่งผ่านไป 772 ล้านดอลลาร์ หากเป็นเช่นนั้นจริงไมโครซอฟท์ก็จะขาดทุนกับธุรกิจแท็บเล็ตนี้ 363 ล้านดอลลาร์

ธุรกิจขายดีลเคยเป็นธุรกิจดาวรุ่งที่หลายคนพยายามเข้ามาในตลาด แต่ตอนนี้กลับเป็นธุรกิจที่ไม่ค่อยทำเงินนัก ผู้ให้บริการรายใหญ่อย่าง Groupon ที่หลายคนพยายามเข้าซื้อบริษัทตอนนี้แถลงผลประกอบการไตรมาสล่าสุด จำนวนเงินที่ผ่านมือสูงถึง 1,819.046 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 28.7% โดยส่วนมากเพิ่มขึ้นในตลาดใหม่นอกสหรัฐฯ และยุโรป ในจำนวนเงินทั้งหมดเป็นรายได้ของบริษัท 751.576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 23.5%

แม้รายได้จะเพิ่มแต่ต้นทุนการดำเนินงานกลับกินไปทั้งหมด ผลกำไรรวมกลับขาดทุน 22.875 ล้านดอลลาร์

ข้อจำกัดหนึ่งคือผู้ให้บริการอีเมลมักจำกัดการทำตลาดด้วยอีเมลขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ Groupon ไม่สามารถเข้าถึงลูกค้าโดยตรงเหมือนเดิมอีกต่อไป

แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 มีรายได้รวม 36,481 ล้านบาท ลดลง 1.5% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยเอไอเอสให้สาเหตุสำคัญจากอัตราค่าเชื่อมโยงโครงข่าย (IC) ที่ลดลง และมีกำไรสุทธิ 8,475 ล้านบาท ลดลง 7.8%

ในไตรมาสนี้เอไอเอสมีผู้ใช้บริการรวม 42.89 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้นมาอีก 515,700 เลขหมายจากไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยตอนนี้เอไอเอสมีลูกค้า 3G 2100 MHz อยู่ 34.42 ล้านเลขหมาย หรือ 68% ของฐานลูกค้าทั้งหมด ส่วนรายได้ต่อเลขหมายหรือ ARPU (Average revenue per user) ลดลงเหลือ 223 บาทต่อเลขหมายต่อเดือน

โซนี่รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปีการเงินบริษัท 2014 (เมษายน-มิถุนายน) มีกำไรสุทธิ 26,808 ล้านเยน หรือราว 261 ล้านดอลลาร์ ซึ่งดีกว่าไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่มีกำไร 3,127 ล้านเยน โดยมียอดขายรวม 1,809,908 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 5.8% จากปีก่อน

ตัวเลขที่ออกมาถือว่าผิดคาดสำหรับนักวิเคราะห์ เนื่องจากบริษัทเคยคาดการณ์ว่าผลประกอบการในปีนี้จะยังขาดทุนต่อ (แต่ก็ยังเหลืออีก 3 ไตรมาส)

LINE รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2014 มีรายได้รวม 18,200 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 25% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ และเพิ่มขึ้นถึง 146% หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และเหมือนเช่นเคย LINE ไม่ได้ระบุว่าสุทธิแล้วกำไรหรือขาดทุนเท่าใด

ที่น่าสนใจคือไตรมาสนี้ LINE ไม่มีการพูดถึงจำนวนตัวเลขผู้ใช้งาน บอกเพียงมีการเติบโตเพิ่มขึ้นของผู้ใช้งานเพิ่มมากในตลาดใหม่ ได้แก่ อินโดนีเซีย, เม็กซิโก และโคลัมเบีย

LINE ยังระบุว่าธุรกิจเกมยังประสบความสำเร็จอย่างดี ทั้งเกม LINE: Disney TsumTsum ที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ รวมถึง LINE Cookie Run และ LINE Rangers

ซัมซุงรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2014 ซึ่งใกล้เคียงกับที่บริษัทออกมาคาดการณ์เมื่อต้นเดือน โดยมียอดขายรวม 52.35 ล้านล้านวอน ลดลง 8.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และลดลง 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี มีกำไรจากการดำเนินงาน 7.19 ล้านล้านวอน ลดลงถึง 24.6% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 6.25 ล้านล้านวอน ลดลง 19.6%

Twitter รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2014 มีรายได้ 312.2 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 124% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 144.6 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามในมุมมองนักลงทุนและนักวิเคราะห์ รายได้-กำไร ไม่ใช่ปัจจัยหลักของ Twitter แต่การเติบโตของจำนวนผู้ใช้เทียบรายได้ต่างหากที่สำคัญกว่า ไตรมาสที่แล้วตัวเลขออกมาค่อนข้างเป็นคำถาม ขณะที่ไตรมาสนี้ดีขึ้น

โนเกียประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2014 ซึ่งเป็นไตรมาสแรกหลังจากขายธุรกิจมือถือและบริการให้ไมโครซอฟท์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผลคือกำไรเติบโตขึ้นกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว 20%

รายได้หลักของโนเกียยุคใหม่ยังมาจากหน่วยธุรกิจอุปกรณ์เครือข่าย NSN ซึ่งถือเป็น 90% ของรายได้ทั้งหมด (ส่วนที่เหลือมาจากหน่วยธุรกิจแผนที่ HERE และหน่วยธุรกิจวิจัย-สิทธิบัตร) สำหรับไตรมาสนี้ NSN มียอดขายลดลงจากปีก่อนด้วยเหตุผลด้านอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน (แต่มีกำไรเพิ่มขึ้น) และบริษัทตั้งเป้าว่าผลประกอบการรวมตลอดทั้งปี 2014 เพิ่มขึ้น

อเมซอนรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองของปีนี้ รายได้เพิ่ม 23% เทียบกับปีที่แล้วเป็น 19.34 พันล้านดอลลาร์ แต่กลับขาดทุนถึง 126 ล้านดอลลาร์

ข้อมูลเพิ่มเติมที่รายงานออกมาพร้อมผลประกอบการ เช่น

• ปริมาณแอพพลิเคชั่นใน Appstore เพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าในปีที่ผ่านมา การเปิดตัว Fire phone ยิ่งเร่งให้มีแอพใหม่มากขึ้น
• Fire TV ขายดีกว่าที่คาด
• บริการ AWS ขยายทีมงานจนมีพนักงานเกินพันคนแล้ว

สำหรับไตรมาสที่สาม คาดว่าจะขาดทุนหนักกว่าเดิม อยู่ระหว่าง 410 ล้านดอลลาร์ ถึง 810 ล้านดอลลาร์

ที่มา - Amazon

LG รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2014 มีรายได้ 15.37 ล้านล้านวอน (14,930 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีกำไรจากการดำเนินงาน 606,000 ล้านวอน และมีกำไรสุทธิ 412,000 ล้านวอน เพิ่มขึ้นถึง 165%

โทรทัศน์ที่เป็นธุรกิจสร้างรายได้หลักของ LG มียอดขาย 5.09 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อนหน้า และมีกำไรจากการดำเนินงาน 154,500 ล้านวอน เป็นผลจากยอดขายโดยรวมที่ดีขึ้น และต้นทุนที่ลดลง

Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2014 มีรายได้รวม 2,910 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 791 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 138%

รายได้หลักของ Facebook มาจากการโฆษณา โดยมีรายได้ส่วนนี้ 2,680 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 67% จากปีก่อน และในรายได้โฆษณานั้น 62% เป็นโฆษณาจากแพลตฟอร์มบนมือถือ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ 59%

จำนวนผู้ใช้งานล่าสุด แบ่งได้เป็นผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน 829 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อน โดยเป็นผู้ใช้งานบนมือถือ 654 ล้านคน ขณะที่ตัวเลขผู้ใช้งานเป็นประจำระดับทุกเดือนรวมสูงกว่า 1,320 ล้านคน

ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ประจำปีการเงิน 2014 ตามปฏิทินบริษัทสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน มีรายได้รวม 23,382 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 4,612 ล้านดอลลาร์ ลดลง 7% ซึ่งไมโครซอฟท์ระบุว่าสาเหตุที่กำไรลดลง เนื่องจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือโนเกียที่ควบรวมเข้ามามีผลประกอบการขาดทุนซึ่งฉุดให้กำไรรวมลดลง

บริการคลาวด์ อาทิเช่น Office 365 หรือ Azure เป็นส่วนธุรกิจที่มีการเติบโตดีมาก โดยไตรมาสนี้มีรายได้ในส่วนลูกค้าองค์กรเพิ่มขึ้นถึง 147% ขณะที่ผู้สมัครใช้ Office 365 ก็มีเพิ่มมากกว่า 1 ล้านคนในไตรมาสเดียว ทำให้ตอนนี้มีผู้ใช้งานรวมถึง 5.6 ล้านคนแล้ว

แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2014 ของปีการเงินบริษัทสิ้นสุดวันที่ 28 มิถุนายน มีรายได้รวม 37,432 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2013 กำไรสุทธิ 7,748 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% และอัตรากำไรขั้นต้น 39.4% และรายได้จากนอกอเมริกาคิดเป็น 59% ของรายได้รวม

แอปเปิลสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานได้ถึง 10,300 ล้านดอลลาร์ และคืนเงินให้ผู้ถือหุ้นอีกกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยังเป็นไปตามแผนคืนเงินที่เหลืออีก 6 ไตรมาส

เนื้อหาเพิ่มเติมจากช่วงประชุมกับนักวิเคราะห์มีดังนี้

ARM ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สองของปี กำไรเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วดีขึ้นในแทบทุกด้าน รายได้รวมอยู่ที่ 187.1 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้น 17% กำไรก่อนภาษีอยู่ที่ 94.2 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้น 9%

นอกจากผลกำไรแล้ว งานนี้ ARM ยังเปิดเผยตัวเลขอีกหลายอย่าง

ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอุปกรณ์โทรคมนาคมจีน Huawei เผยผลประกอบการช่วงครึ่งแรกของปี 2014 ยอดขายเพิ่มขึ้น 19% (135.8 พันล้านหยวน) และกำไรเพิ่ม 18.3%

เหตุผลที่ Huawei เติบโตอย่างก้าวกระโดดเนื่องจากการขยายตัวมายังธุรกิจสมาร์ทโฟน ซึ่งปัจจุบัน Huawei ถือเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของโลก (สถิติของ IDC คืออันดับสาม ยอดขาย 13.7 ล้านเครื่องต่อไตรมาส) นอกจากนี้การอัพเกรดเครือข่าย LTE ของโอเปอเรเตอร์ทั่วโลกก็ช่วยให้ Huawei ขายอุปกรณ์เครือข่ายได้มากขึ้น

ที่มา - Huawei, BBC

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 มีรายได้รวม 21,868 ล้านบาท ลดลง 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ซึ่งมีปัจจัยหลักจากค่าเชื่อมต่อโครงข่ายหรือ IC ที่ลดลง เหมือนกับไตรมาสแรกของปี โดยหากดูเฉพาะค่าบริการไม่รวมค่า IC รายได้ส่วนนี้ลดลงเพียง 2.1% และบริษัทมีกำไรสุทธิ 2,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% สาเหตุจากค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ที่ลดลง

กูเกิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2014 มีรายได้รวม 15,955 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 3,422 ล้านดอลลาร์

รายได้จาก Paid Clicks เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2014 ขณะที่ราคาต่อคลิก (Cost-Per-Click) ลดลง 6% ซึ่งสะท้อนว่าแม้ภาพรวมโฆษณาจะยังเติบโต โดยเฉพาะการเติบโตบนมือถือ แต่กูเกิลยังไม่สามารถเพิ่มราคาโฆษณาต่อหน่วยให้เท่ากับยุคสมัยเดสก์ทอปได้

เนื้อหาเพิ่มเติมจากช่วงแถลงผลประกอบการและตอบคำถามจากนักวิเคราะห์มีดังนี้

ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2014 มีรายได้รวม 24,364 ล้านดอลลาร์ ลดลง 2.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 4,137 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28.2%

ซีอีโอ Ginni Rometty กล่าวว่าไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยมีผลงานที่ดีในบริการกลุ่มเมฆ, Big Data Analytics, บริการด้านความปลอดภัย ตลอดจนบริการบนมือถือ

เมื่อแยกรายได้ตามกลุ่มประเทศนั้น อเมริกาลดลง 1% ส่วนยุโรป, ตะวันออกกลางและแอฟริกา เพิ่มขึ้น 1% ขณะที่ภูมิภาคเอเชียลดลงถึง 9%

ที่มา: ไอบีเอ็ม

เอเอ็มดีรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2014 มีรายได้รวม 1,441 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3% หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 63 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิ 36 ล้านดอลลาร์ แต่หากใช้วิธีคำนวณแบบหลักการบัญชีทั่วไป (Non-GAAP) จะมีกำไร 17 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Rory Read กล่าวว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นและตัวเลขทางการเงินที่ดีขึ้น ช่วยยืนยันว่าเอเอ็มดีจะยังดำเนินกลยุทธ์ตามแผนงานนี้ต่อไป และน่าจะทำให้ตลอดปีบริษัทมีผลกำไรสุทธิเป็นบวกได้

บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต 3BB) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 มีรายได้รวม 3,057 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 885 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8%

ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 บริษัทมีลูกค้าใช้บริการอินเทอร์เน็ตรวม 1.547 ล้านราย โดยมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นมาในไตรมาสสุทธิ 63,189 ราย

อินเทลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2014 มีรายได้รวม 13,831 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,796 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 40%

รายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจของอินเทลก็มีการเติบโตสอดคล้องกับภาพรวม โดยกลุ่มพีซีเติบโต 6% กลุ่มศูนย์ข้อมูลเติบโต 19% กลุ่ม Internet of Things เติบโต 24% ขณะที่กลุ่มมือถือกลับตรงข้ามโดยลดลงถึง 83%

ที่มา: อินเทล