Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2015 มีรายได้รวม 4,501 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,628 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 42%

รายได้จากโฆษณาที่เป็นรายได้หลักของ Facebook ยังคงเติบโตได้ดี และเป็นรายได้จากโฆษณาบนมือถือถึง 78% เป็นอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นมาอีกจากไตรมาสก่อนหน้านี้

จำนวนผู้ใช้งาน Facebook เป็นประจำทุกเดือน (Monthly active users - MAUs) อยู่ที่ 1,545 ล้านคน เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน โดยเป็นผู้มีการใช้งานผ่านมือถือถึง 1,385 ล้านคน

Groupon เว็บขายดีลซึ่งเคยถูกขนานนามเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพดาวรุ่งที่เพิ่งปิดสาขาในเมืองไทย และอีก 6 ประเทศไป รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2015 โดยสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นนัก มียอดซื้อรวมทั้งหมด 1.47 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 1.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยคิดเป็นรายได้กลับมาที่ Groupon 713.6 ล้านดอลลาร์ ลดลง 0.1% และขาดทุนสุทธิ 32.5 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้บริษัทยังประกาศเปลี่ยนตัวซีอีโอ โดยให้ซีโอโอ Rich Williams ขึ้นมาเป็นซีอีโอแทน ส่วนซีอีโอเดิม Eric Lefkofsky ซึ่งมีฐานะเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Groupon ด้วย ให้ย้ายกลับไปเป็นประธานบอร์ดบริษัทอีกครั้ง

Etsy เว็บอีคอมเมิร์ซเน้นการซื้อขายงานฝีมือ-แฮนด์เมด ที่เข้าตลาดหุ้นไปเมื่อต้นปี รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2015 มีรายได้ 65.7 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 37.9% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนมูลค่าการซื้อขายรวมอยู่ที่ 568.8 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21.7% อย่างไรก็ตาม เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น Etsy จึงยังขาดทุนอีก 6.9 ล้านดอลลาร์

Etsy มีผู้ใช้บริการ แบ่งออกเป็นผู้ซื้อ 22.6 ล้านราย และผู้ขาย 1.5 ล้านราย ด้าน Chad Dickerson ซีอีโอ Etsy ก็ระบุว่าบริษัทยังมุ่งมั่นพัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขายเพื่อให้มีความแตกต่างไปจากคู่แข่ง เพราะสินค้าใน Etsy ส่วนใหญ่เป็นงานศิลปะ จึงต้องมีการสร้างเครือข่ายชุมชนขึ้นมาด้วย

โซนี่เผยผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุด รายได้ 1.89 ล้านล้านเยน (ลดลง 0.5% จากปีก่อน) หักลบแล้วกำไร 33.6 พันล้านเยน ถือเป็นการพลิกกลับมาทำกำไร เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนถึง 136 พันล้านเยน

ปัจจัยที่ทำให้โซนี่มีกำไรคือธุรกิจเซ็นเซอร์ภาพ เซมิคอนดักเตอร์ เกม กล้อง และอุปกรณ์สายเครื่องเสียง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่ยังมีปัญหาคือโทรศัพท์มือถือแบรนด์ Xperia ยังประสบปัญหา ส่วนธุรกิจภาพยนตร์ก็ทำรายได้ไม่ดีนักในไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีภาพยนตร์ดังที่กวาดรายได้เยอะ แต่คาดว่าจะกลับมาได้ในไตรมาสนี้เพราะมี Spectre ภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ ภาคล่าสุดเป็นตัวชูโรง

ซัมซุงรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2015 จากที่เมื่อต้นเดือนบริษัทออกมาให้ตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นว่าจะออกมาดี โดยมีรายได้รวม 51.68 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 8.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว มีกำไรจากการดำเนินงาน 7.39 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นถึง 82% และกำไรสุทธิอยู่ที่ 5.46 ล้านล้านวอน

ซัมซุงแจกแจงรายละเอียดของรายได้ที่เพิ่มขึ้นว่าส่วนใหญ่มากจาก ธุรกิจ semiconductor และชิ้นส่วนหน้าจอ ตลอดจนการได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนถึง 5 แสนล้านวอนเนื่องจากเงินวอนอ่อนค่า

Twitter รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2015 มีรายได้รวม 569.24 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 58% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 66.98 ล้านดอลลาร์

ปัญหาตัวเลขจำนวนผู้ใช้งาน Twitter ยังคงสร้างคำถามในไตรมาสนี้ โดยมีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน 320 ล้านคน เพิ่มขึ้นมาจากไตรมาสก่อนหน้า 4 ล้านคน แต่ถ้าหักกลุ่มผู้รับข้อความทาง SMS จะเพิ่มขึ้น 3 ล้านคนเท่านั้น

ซีอีโอ Jack Dorsey กล่าวในช่วงแถลงผลประกอบการซึ่งถ่ายทอดสดผ่าน Periscope ว่า เขาได้เข้ามาปรับโครงสร้างการบริหาร ซึ่งเน้นการโฟกัสที่ 3 ผลิตภัณฑ์หลักคือ Twitter, Periscope และ Vine รวมทั้งพยายามทำให้การใช้งานสำหรับผู้ใช้หน้าใหม่ง่ายขึ้น และมีการปรับปรุงส่วนนี้ทุกสัปดาห์

แอปเปิลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท สิ้นสุดเดือนกันยายน โดยมีรายได้ทั้งหมด 51,501 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อน 22% กำไรสุทธิ 11,124 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 31.3% ยอดขายนอกอเมริกาคิดเป็น 62% ของรายได้รวม และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 39.9%

iPhone ในไตรมาสที่ผ่านมาขายได้อีก 48.05 ล้านเครื่อง แต่ iPhone 6s เพิ่งเริ่มขายช่วงปลายไตรมาสไม่กี่วัน จึงยังไม่สะท้อนยอดขายแท้จริง ส่วน iPad ขายได้อีก 9.88 ล้านเครื่อง ซึ่งยังคงขายได้น้อยลง และ Mac ขายได้ 5.71 ล้านเครื่อง ส่วนตลาดประเทศจีนที่แอปเปิลให้ความสำคัญยังเติบโตได้ดี โดยมียอดขายส่วนนี้เพิ่มขึ้นถึง 99% (เฉพาะ iPhone โต 120%)

Alibaba รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุด สิ้นสุดเดือนกันยายน 2015 มีรายได้รวม 3,488 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยเป็นรายได้ผ่านแพลตฟอร์มมือถือถึง 1,655 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 61% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปีก่อนที่รายได้ส่วนนี้คิดเป็น 29% ของรายได้รวม และมีกำไรสุทธิ 1,456 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 36%

ซีอีโอ Daniel Zhang บอกว่าไตรมาสนี้เป็นไตรมาสที่ดีของ Alibaba มีการเติบโตในทุกส่วนธุรกิจ โดยเฉพาะการซื้อขายมือถือที่เติบโตได้ดี

Amazon เผยผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2015 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่ารายได้เพิ่มขึ้นถึง 23% จากปีก่อน (รายได้รวม 25.4 พันล้านดอลลาร์) และทำกำไรได้ 406 ล้านดอลลาร์ เทียบกับปีก่อนที่ขาดทุน 544 ล้านดอลลาร์แล้วถือว่าโดดเด่นมาก

บริษัทมีสินค้าของตัวเองที่น่าสนใจหลายตัว เช่น Amazon Fire แท็บเล็ตราคา 50 ดอลลาร์, Fire TV รุ่นที่สอง, Amazon Echo, ปุ่มสั่งของ Amazon Dash รวมถึงการขยายบริการ Amazon Prime ให้กว้างไกลมากขึ้น

ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปีการเงินบริษัท 2016 (กรกฎาคม-กันยายน) มีรายได้ 21,660 ล้านดอลลาร์ ลดลง 6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 5,380 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Satya Nadella บอกว่าไมโครซอฟท์ยังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์ที่วางไว้ใน 3 กลุ่มธุรกิจ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดยตัวเลขผลการดำเนินงานแยกตาม 3 กลุ่มธุรกิจเป็นดังนี้

Alphabet บริษัทซึ่งตั้งขึ้นมาเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลเมื่อเดือนสิงหาคม รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2015 โดยไตรมาสนี้ข้อมูลทั้งหมดยังเป็นโครงสร้างกูเกิลเดิมอยู่ และจะเปลี่ยนมารายงานข้อมูลตามโครงสร้าง Alphabet ในไตรมาสถัดไป

รายได้รวมอยู่ที่ 18,675 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 5,102 ล้านดอลลาร์ โดยรายได้จากโฆษณาอยู่ที่ 16,781 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นส่วนนี้ 13% รายได้จาก Paid Clicks เพิ่มขึ้น 23% ส่วน Cost-Per-Click ลดลง 16%

Square Enix ประกาศผลประกอบการประจำงบประมาณปี 2015 ทำรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 167,891 ล้านเยน และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าราว 32% ไปอยู่ที่ 9,831 ล้านเยน จากความนิยมในเกมมือถือที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

แผนต่อไปของ Square Enix คือการมุ่งพัฒนาเกมใหม่ๆ ไปพร้อมกับการนำเกมเดิมที่เคยทำลงในเครื่องคอนโซลรุ่นเก่ามาทำใหม่ลงเครื่องรุ่นปัจจุบัน ตามแนวทางของ Final Fantasy VII Remake ที่เพิ่งประกาศในงาน E3 เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา รวมถึงการอัพเกรดเกมให้ความละเอียดสูงขึ้น (HD Port) รวมถึงการพอร์ตเกมไปลงแพลตฟอร์มอุปกรณ์พกพาก็จะดำเนินควบคู่ไปพร้อมกัน

ARM ยักษ์ใหญ่แห่งชิปประมวลผลบนอุปกรณ์พกพา ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สาม รายได้เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อนเป็นยอดรวม 243.1 ล้านปอนด์ ส่งให้กำไรสุทธิขึ้นไปอยู่ที่ 85.9 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้น 32%

ARM ระบุว่าในไตรมาสที่ผ่านมาส่งมอบชิปไปมากถึง 3,600 ล้านชุด เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 20% โดยมาจากการเติบโตในอุปกรณ์อื่นๆ นอกเหนือจากสมาร์ทโฟน อาทิ โทรทัศน์ และบรรดาเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ และมีลูกค้ามาใช้งานสิทธิบัตร ARM เพิ่มขึ้นอีก 38 สัญญา ส่งให้รายได้ในส่วนของค่าสิทธิบัตรเพิ่มขึ้นถึง 37% ด้วยกัน

แผนในอนาคตของ ARM ยังคงเน้นการขยายตลาดจากสมาร์ทโฟนมากขึ้น โดยเน้นไปที่อุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้ และ IoT เพื่อให้รองรับอุปกรณ์หลากประเภทยิ่งขึ้น

ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปี 2015 โดยมีรายได้ลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 14 แล้ว อยู่ที่ 19,280 ล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,950 ล้านดอลลาร์

รายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่ที่ไอบีเอ็มคาดหวังไว้ตามกลยุทธ์ (บริการกลุ่มเมฆ, Big Data Analytics, บริการบนมือถือ และบริการความปลอดภัย) ยังคงมีการเติบโตอยู่ที่ 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่การเติบโตนี้ก็ไม่สามารถชดเชยรายได้จากธุรกิจเดิมได้ ทำให้ภาพรวมรายได้ลดลงต่อเนื่องนั่นเอง

ผลกระทบอีกอย่างที่สำคัญคือรายได้จากลูกค้าในประเทศจีนซึ่งลดลงถึง 17% และหากพิจารณารวมในกลุ่มประเทศ BRIC รายได้ก็ลดลงมากถึง 30%

ดีแทครายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปี 2558 มีรายได้รวม 19,695 ล้านบาท ลดลง 5.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และลดลง 10% หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ ซึ่งมีปัจจัยหลักจากรายได้ที่ลดลงของบริการเสียง ซึ่งรายได้จากบริการข้อมูลที่เพิ่มขึ้นไม่สามารถชดเชยได้ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,228 ล้านบาท ลดลง 52% ซึ่งต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่ระบุว่าต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี

ในไตรมาสที่ผ่านมาดีแทคได้ลดกิจกรรมส่วนลดค่าเครื่องกับลูกค้าในระบบเติมเงิน ทำให้การขายโทรศัพท์ขาดทุนน้อยลงเหลือ 363 ล้านบาท โดยตอนนี้ดีแทคจะเน้นการขายเครื่องแบบมีส่วนลดกับลูกค้ารายเดือนเป็นหลัก

AMD รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปี 2015 มีรายได้ลดลง 25.8% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 1,061 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิอีก 197 ล้านดอลลาร์

กลุ่มธุรกิจซีพียู-กราฟิกมีรายได้ลดลงค่อนข้างมากคือ 46% จากปีก่อน และขาดทุนการดำเนินงานเฉพาะส่วนนี้ถึง 181 ล้านดอลลาร์ ส่วนธุรกิจชิปองค์กร-ฝังตัว รายได้ลดลง 2% และเป็นส่วนธุรกิจที่มีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 84 ล้านดอลลาร์

AMD ระบุว่าบริษัทได้บรรลุข้อตกลงที่จะขายหุ้น 85% ของโรงงานประกอบ-ทดสอบ-บรรจุ ที่ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว ประเทศจีน และปีนัง ประเทศมาเลเซีย ให้กับบริษัท Nantong Fujitsu Microelectronics ของประเทศจีน และ AMD จะเอาท์ซอร์สงานไปที่โรงงานเหล่านี้แทน ซึ่งทำให้ AMD ได้เงินสดจากดีลนี้ราว 320 ล้านดอลลาร์

Netflix รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2015 มีรายได้ 1,738.3 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 23% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิลดลง 50% เหลือ 29.4 ล้านดอลลาร์ โดยธุรกิจหลักอย่างสตรีมมิ่งมีรายได้ 1,581 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมา 6.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้

จำนวนผู้ใช้งาน Netflix เพิ่มขึ้นมาอีก 3.62 ล้านคน แบ่งเป็นในอเมริกา 0.88 ล้านคน และต่างประเทศ 2.74 ล้านคน ทำให้ตอนนี้มีผู้ใช้งานทั่วโลก 69.17 ล้านคน

แม้การเติบโตภาพรวมยังดูดี แต่การเติบโตในอเมริกานั้นเริ่มเห็นสัญญาณถดถอยติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สองแล้วครับ

ที่มา: The Verge

อินเทลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2015 มีรายได้รวมลดลงจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเล็กน้อย อยู่ที่ 14,465 ล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิลดลง 6% อยู่ที่ 3,109 ล้านดอลลาร์

รายได้จากการขายชิปให้กลุ่มพีซีของอินเทลลดลง 7% จากปีก่อนอยู่ที่ 8.5 พันล้านดอลลาร์ ส่วนกลุ่ม Data Center เพิ่มขึ้น 12% เป็น 4.1 พันล้านดอลลาร์ สอดคล้องตามแนวโน้มของอุตสาหกรรม

Stacy J. Smith ซีเอฟโออินเทลกล่าวว่าตัวเลขที่ออกมาบ่งชี้ว่าอินเทลไม่ใช่บริษัทที่ผูกติดกับพีซีแล้ว แต่สินค้าของอินเทลเข้าไปเกี่ยวข้องในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมมากขึ้นทั้ง ยานยนต์, อุปกรณ์สวมใส่ และอื่นๆ

หนึ่งปีผ่านไปหลังจากยื่น IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ถึงเวลา Alibaba Group จะแนะนำตัวเองให้ชาวโลกรู้จักอย่างแจ่มแจ้งขึ้น ด้วยการเปิดตัวเว็บไซต์ Alibaba Defined เพื่อแนะนำภาพรวมบริษัทให้ผู้คนได้รู้จักองค์กรนี้มากขึ้น รวมทั้งเผยรายได้และตัวเลขการลงทุนต่างๆ ตลอดปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งยังมีจดหมายจากซีอีโอ และประธาน แจ๊ค หม่า (อ่านเพิ่มเติม: เปิดตำนานการสร้าง Alibaba)

ตัวเว็บไซต์มาในแบบเรสพอนซีฟทันสมัย ปูเรื่องราวไปถึง China Context หรือบริบทความเป็นประเทศจีน ว่ามีเอกลักษณ์ ที่มาที่ไปอย่างไร จะได้รู้จัก Alibaba มากขึ้นอีกทางหนึ่ง

ซัมซุงรายงานตัวเลขประเมินผลประกอบการเบื้องต้น (guidance) ประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2015 โดยมีรายได้รวม 51 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 7.3 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นมาถึง 79.8%

เนื่องจากรายงานนี้เป็นตัวเลขเบื้องต้น จึงยังไม่มีการแจกแจงรายละเอียดว่ารายได้-กำไร ที่เพิ่มขึ้นมาซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 ปี นั้นมาจากส่วนธุรกิจใดกันแน่ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งจากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนที่มีการเติบโต หรืออาจเป็นธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่เชื่อว่าเริ่มฟื้นตัวแล้ว โดยนักวิเคราะห์มองว่าเป็นไปได้ทั้งสองกรณี

ซัมซุงจะรายงานผลประกอบการไตรมาสแบบละเอียดในปลายเดือนนี้ครับ

HTC รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2015 ขาดทุนสุทธิอีก 4.94 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน แต่ก็น้อยลงกว่าไตรมาสก่อนหน้านี้ ส่วนรายได้อยู่ที่ 2.14 หมื่นล้านดอลลาร์ไต้หวัน ลดลงไป 35%

ความหวังถัดไปของ HTC จากนี้คงอยู่ที่มือถือรุ่นที่เตรียมเปิดตัวอย่าง HTC One A9 (หากชื่อเป็นไปตามข่าวลือ) ว่าจะเข้ามากอบกู้สถานการณ์ให้ดีขึ้นได้หรือไม่

ที่มา: 9to5Google

ไมโครซอฟท์ประกาศเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในการรายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส โดยจะแบ่งหมวดธุรกิจใหม่ออกเป็น 3 หมวดธุรกิจ (เดิมแบ่งเป็น 5 หมวดคือ ฮาร์ดแวร์, ไลเซนส์ลูกค้าทั่วไป, ลูกค้าทั่วไปอื่นๆ, ไลเซนส์ลูกค้าองค์กร และลูกค้าองค์กรอื่นๆ) มีผลตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีการเงิน 2016 (กรกฎาคม-กันยายน 2015)

สำหรับ 3 หมวดธุรกิจที่ไมโครซอฟท์กำหนดในรายงานแยกนั้น ก็เป็นไปตามยุทธศาสตร์ 3 ขาที่เคยรายงานไปก่อนหน้านี้ ได้แก่

Adobe รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปีการเงินบริษัท 2015 (มิถุนายน-สิงหาคม) มีรายได้รวม 1,217.8 ล้านดอลลาร์ ทำสถิติใหม่ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยเติบโต 21% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 174.5 ล้านดอลลาร์

ไตรมาสที่ผ่านมา Adobe มีผู้สมัครใช้ Creative Cloud เพิ่มขึ้นอีกราว 684,000 คน สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีผู้ใช้เพิ่มขึ้น 639,000 คน

ที่มา: Re/code

ออราเคิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก ของปีการเงินบริษัท 2016 สิ้นสุดเดือนสิงหาคม มีรายได้รวม 8,448 ล้านดอลลาร์ ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน แต่หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน รายได้ก็ยังเพิ่มขึ้น 7% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,747 ล้านดอลลาร์ ลดลง 20% แต่ถ้าไม่รวมอัตราแลกเปลี่ยนก็ลดลง 8%

กลุ่มธุรกิจที่ยังเติบโตดีอย่างคลาวด์ซอฟต์แวร์ (SaaS และ PaaS) มีรายได้เพิ่มขึ้น 34% ขณะที่ยอดขายไลเซนส์ลดลง 16%

นักวิเคราะห์จาก FBR Capital Markets ให้ความเห็นว่าธุรกิจดั้งเดิมของออราเคิลนั้นอนาคตยังไม่ชัดเจนนัก แต่คลาวด์ซอฟต์แวร์ยังสดใส ซึ่งออราเคิลสามารถเสริมทัพได้ด้วยการซื้อกิจการที่น่าสนใจ อย่างเช่น Splunk, Tableau, NetSuite หรือ Workday

เลอโนโวรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก ของปีการเงินบริษัท 2015-2016 สิ้นสุดเดือนมิถุนายน มีรายได้รวม 10,716 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 102 ล้านดอลลาร์ ลดลง 52%

Yuanqing Yang ซีอีโอเลอโนโวระบุว่าไตรมาสที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมมีความท้าทายมากที่สุดในรอบหลายปี แต่เลอโนโวก็ยังจบไตรมาสด้วยส่วนแบ่งการตลาดพีซีเป็นอันดับ 1 ของโลกต่อไปเป็นไตรมาสที่ 9 ที่ 20.6% ส่วนตลาดแท็บเล็ตก็ครองอยู่ที่อันดับ 3 ขณะที่ยอดขายสมาร์ทโฟนก็เติบโตถึง 68%

นอกจากนี้เลอโนโวยังประกาศปรับโครงสร้างองค์กร โดยจะลดพนักงานลง 3,200 อัตรา ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสายการผลิต คิดเป็น 5% ของพนักงานทั้งหมด คาดว่าจะเสร็จสิ้นในไตรมาสปัจจุบัน