โซนี่รายงานผลประกอบการประจำปี 2011 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคมตามปีงบการเงินของบริษัทญี่ปุ่น ออกมาขาดทุนสุทธิ 456.7 พันล้านเยน หนักกว่าปีก่อนที่ขาดทุน 259.6 พันล้านเยน ซึ่งถือเป็นการขาดทุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ของโซนี่ ในส่วนของรายได้ก็ลดลง 9.6% จากปีก่อนมาอยู่ที่ 6,493.2 พันล้านเยน โดยโซนี่อธิบายว่าเป็นผลจากเงินเยนแข็งค่าขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา รวมทั้งบริษัทเองก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นและน้ำท่วมในประเทศไทย

Rovio ผู้ผลิตเกมชื่อดังบนแพลตฟอร์มมือถือ Angry Birds ประกาศผลประกอบการประจำปี 2011 มีรายได้ทั้งหมดอยู่ที่ 75.4 ล้านยูโร ส่วนกำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ 48 ล้านยูโร หรือกำไรกว่า 64% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งมาจากการเติบโตของยอดดาวน์โหลด และยอดขายสินค้าในแบรนด์ Angry Birds ที่โตขึ้นอย่างมาก

Michael Hed ซีอีโอของ Rovio บอกว่าการเติบโตของเราแสดงให้เห็นถึงความนิยมของแบรนด์ Angry Birds อย่างสินค้าจำพวกเสื้อ ตุ๊กตา และอื่นๆ ที่เราให้สิทธิ์ไปนั้นทำกำไรกลับมาถึง 30% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2011 ส่วนยอดดาวน์โหลดของทุกเกมตอนนี้รวมกันแล้วมากถึง 648 ล้านครั้งเข้าไปแล้ว และมีผู้เล่นรายเดือนที่เป็น active user มากถึง 200 ล้านคนจากทุกแพลตฟอร์ม

คดีความระหว่างออราเคิลกับกูเกิลส่งผลให้กูเกิลต้องเปิดเผยเอกสารภายในหลายอย่าง (ดูข่าว เผยภาพต้นแบบ Google Phone ปี 2006 และ Android Tablet รุ่นแรก)

เอกสารที่กูเกิลเปิดเผยออกมาอีกชิ้นหนึ่งคือ เอกสารประเมินรายได้ของ Google Music ว่าเป็นแหล่งทำเงินสำคัญของฝ่าย Android อีกแหล่งหนึ่ง ในปี 2010 กูเกิลประเมินว่า Google Music จะเติบโตจนสร้างรายได้ถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2012 และ 2.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2013 (มากกว่ารายได้จากโฆษณาบน Android ด้วยซ้ำ)

ซัมซุงรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2012 มีรายได้ 45.27 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิสูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัท 5.05 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นถึง 81% เมื่อเทียบกับปีก่อน

กลุ่มธุรกิจที่สร้างกำไรอย่างงดงามให้ซัมซุงไตรมาสนี้ก็ไม่พ้นแผนกสินค้าไอทีและอุปกรณ์สื่อสารพกพา โดยมีสองสินค้าขายดี กำไรสูง Galaxy Note และ Galaxy S II เป็นหัวหอกหลัก เช่นเดียวกับธุรกิจชิ้นส่วนจอภาพที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตามธุรกิจโทรทัศน์และพีซีนั้นมียอดขายและกำไรลดลงซึ่งซัมซุงกล่าวว่าเป็นเพราะความต้องการสินค้าลดลงตามฤดูกาล

บริษัทเกมออนไลน์ Zynga รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่หนึ่งของปี 2012 มีรายได้รวม 329 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 32% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน แต่ยังขาดทุนสุทธิ 85 ล้านดอลลาร์จากค่าใช้จ่ายหุ้นสามัญสำหรับพนักงาน ซึ่งถ้าไม่คิดรายการนี้บริษัทจะมีกำไร 47 ล้านดอลลาร์

Amazon รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี รายได้รวม 1.318 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 34% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิลดลง 35% อยู่ที่ 130 ล้านดอลลาร์ แต่ก็สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้เพียงราว 33 ล้านดอลลาร์ โดยซีอีโอ Jeff Bezos กล่าวว่าปัจจุบันมีหนังสือมากกว่า 130,000 เล่มแล้วที่มีขายเฉพาะบน Kindle Store และ 16 เล่มในนั้นก็ติดอันดับหนังสือขายดี 100 อันดับแรกของ Amazon ด้วย นอกจากนี้ Bezos ยังบอกว่าโครงการยืมหนังสือฟรีได้เสียงตอบรับที่ดีมากทั้งจากนักเขียนและผู้ใช้ Kindle

นินเทนโดแถลงผลประกอบการประจำปีงบประมาณล่าสุด (นับถึงสิ้นเดือนมีนาคม) ปรากฏว่าขาดทุนถึง 43.2 พันล้านเยน และถือเป็นผลประกอบการขาดทุนเป็นครั้งแรกของบริษัทเสียด้วย (ปีที่แล้วกำไร 77.6 พันล้านเยน แต่ปีนี้

แอปเปิลรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองประจำปีการเงิน 2012 ของปฏิทินบริษัท มีรายได้สุทธิ 3.92 หมื่นล้านดอลลาร์ และคิดเป็นกำไรสุทธิ 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยรายได้นั้นเพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน แต่กำไรสุทธ

Facebook รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2012 เนื่องจากบริษัทอยู่ในช่วงการยื่นขอจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นจึงต้องเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการด้วยเช่นกัน มีรายได้รวม 1,058 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 44.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากโฆษณา 872 ล้านดอลลาร์ รายได้ทางอื่นรวมทั้งการซื้อสินค้า 186 ล้านดอลลาร์ โดยมีกำไรสุทธิ 205 ล้านดอลลาร์

ส่วนของรายจ่ายนั้นก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปีก่อนรวม 677 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่นักวิเคราะห์ต่างกังวลว่า Facebook อาจเติบโตด้านรายได้เร็วก็จริง แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหลายอาจเพิ่มขึ้นเร็วมากกว่า ส่งผลให้กำไรถดถอยลงเรื่อยๆ

เอเอ็มดีรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2012 มีรายได้ 1.59 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ และลดลง 2% เมื่อเทียบกับ

ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ตามปฏิทินการเงินของบริษัท กำไรสุทธิ 5.1 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 6% เป็น 1.74 หมื่นล้านดอลลาร์

เมื่อแยกรายได้ตามส่วนธุรกิจ กลุ่มเซิร์ฟเวอร์เติบโตโดดเด่นถึง 14% โดยเป็นผลจาก SQL Server และ System Center, กลุ่ม Windows โต 4% โดยมีตัวเลขการใช้ Windows 7 ในองค์กรแล้วถึง 40%, กลุ่มสินค้าธุรกิจ (Office) เติบโต 9%, กลุ่มออนไลน์โต 6% แต่ก็ยังขาดทุนเพิ่มอีก 300 ล้านดอลลาร์ และกลุ่มบันเทิง (Xbox) ลดลง 16% ซึ่งเป็นไปตามสภาพตลาดเกม

ที่มา: ไมโครซอฟท์

EMC บริษัทแม่ของ RSA (ที่ถูกแฮกข้อมูล SecurID ปีที่แล้ว) และ VMWare ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2011 อย่างน่าประทับใจด้วยรายได้ 5.1 พันล้านดอลลาร์ และกำไร 587 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11% และ 23% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว และเป็นไตสมาสที่ 9 ที่ผลประกอบการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

EMC อาศัยสามกระแสในโลกไอทีระดับองค์กร คือ การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ, การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data), และความปลอดภัย (trust) ที่ EMC ซื้อบริษัทตลาดเหล่านั้นมาไว้ในมือได้ทั้งหมด ส่วนสินค้าของ EMC เองคือระบบสตอร์เรจนั้นบริษัทระบุว่ากำลังทำตลาดได้ดีในตลาดระดับกลาง ที่เติบโตถึง 26% จากปีที่แล้ว

โนเกียรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2012 ออกมาขาดทุนสุทธิ 428 ล้านยูโร จากรายได้รวม 7,355 ล้านยูโร ลดลง 29.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยส่วนของธุรกิจโทรศัพท์มือถือนั้นอาการหนักหน่อยคือมีรายได้ 4,246 ล้านยูโร ลดลงถึง 40% (ตรงกับที่บริษัทคาดการณ์ไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว) โดยจำหน่ายโทรศัพท์ได้ 82.7 ล้านเครื่อง (ลดลง 24%) คิดเป็นสมาร์ทโฟน 11.9 ล้านเครื่อง (ลดลง 51%) และโทรศัพท์อื่นๆ 70.8 ล้านเครื่อง (ลดลง 16%)

VMware บริษัทซอฟต์แวร์ virtualization ที่เน้นลูกค้าองค์กรรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2012 มีกำไรสุทธิ 191.4 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 52% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1.06 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 25% ตัวเลขที่ออกมานั้นสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ยาฮูรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2012 มีรายได้อยู่ที่ 1.221 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 286 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28% โดยซีอีโอ Scott Thompson กล่าวว่านี่เป็นผลจากการปรับโครงสร้างองค์กร ที่ทำให้การตัดสินใจในการดำเนินงานรวดเร็วขึ้น จนส่งผลดีต่อตัวเลขการดำเนินงานดังที่ปรากฏ

ยักษ์สีฟ้าไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2012 มีรายได้ 2.47 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเพียง 1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 7% อยู่ที่ 3.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกันเล็กน้อย

Ginni Rometty ซีอีโอและประธานไอบีเอ็มกล่าวว่า ไตรมาสนี้ไอบีเอ็มยังคงมีการเติบโตในตัวเลขส่วนกำไรที่ดี ทั้งนี้มาจากการเลือกขยายงานบริการในธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง รวมทั้งขยายการลงทุนในกลุ่มประเทศกำลังเติบโตซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ในอีกทาง ทั้งนี้เมื่อพิจารณาการเติบโตของรายได้เป็นกลุ่มประเทศ อเมริกาเติบโตเพียง 1% เอเชีย 4% ขณะที่กลุ่มประเทศ BRIC (บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย และจีน) เติบโตถึง 10%

อินเทลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่หนึ่งปี 2012 มีรายได้รวม 1.29 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเล็กน้อยซึ่งอยู่ที่ 1.28 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิคิดเป็น 2.7 พันล้านดอลลาร์ ลดลงถึง 13.4% จากปีที่แล้ว

กูเกิลรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2012 กำไรสุทธิ 3.33 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่ 2.64 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้สุทธิอยู่ที่ 1.065 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน

เมื่อจำแนกส่วนรายได้ออกมา ในส่วนของรายได้จากโฆษณาบนเว็บกูเกิลเองเพิ่มขึ้น 24%, Adsense เพิ่ม 20%, Paid click เพิ่มขึ้นถึง 39% ขณะที่ราคาต่อคลิกลดลง 12%

อีกเนื้อหาสำคัญในการประกาศผลประกอบการณ์นี้ คือการประกาศปันผลหุ้นคลาส C โดยผู้ถือหุ้นกูเกิลเดิมซึ่งถือเป็นคลาส A จะได้รับหุ้นปันผลคลาส C ซึ่งเป็นหุ้นด้อยสิทธิ์ออกเสียง (non-voting) ในอัตราส่วน 2 หุ้นคลาส C ต่อการถือ 1 หุ้นคลาส A เดิมซึ่งทำให้หลังจากนี้หุ้นกูเกิลจะมีการซื้อขายกันในตลาดแยกเป็น 2 ตัวย่อในราคาที่ไม่เท่ากัน โดยซีอีโอ Larry Page ชี้แจงว่าการปันผลหุ้นในวิธีดังกล่าวก็เพื่อรักษาโครงสร้างทางการเงินและสิทธิ์ของผู้ถือหุ้นกูเกิลเดิมไว้

ในส่วนของเนื้อหาช่วงแถลงผลประกอบการณ์กับนักวิเคราะห์มีดังนี้ครับ

Nokia ได้คาดการณ์ผลประกอบการล่าสุด ว่าจะมียอดขายโทรศัพท์รวม 4.2 พันล้านยูโร แบ่งเป็นส่วนของฟีเจอร์โฟน 2.3 พันล้านยูโร ซึ่งจัดจำหน่ายได้ 71 ล้านเครื่อง และ 1.7 พันล้านยูโร ในส่วนของสมาร์ทโฟน ซึ่งกำไรได้ลดลงจากไตรมาสแรกของปีที่แล้ว 5%

HTC รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2012 กำไรสุทธิลดลงถึง 70% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ยังคงลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้วมาอยู่ที่ 4.46 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน นับเป็นกำไรประจำไตรมาสที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2006 แต่ก็ไม่ผิดจากที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้ เพราะช่วงไตรมาสแรกนี้ HTC ต้องการปรับปรุงการออกรุ่นมือถือโดย

RIM รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สี่ประจำปีการเงิน 2012 มีรายได้รวม 4.2 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 19% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ขาดทุนสุทธิ 125 ล้านดอลลาร์ โดยในไตรมาสที่ผ่านมามียอดส่งมอบ BlackBerry 11.1 ล้านเครื่อง ลดลงถึง 21% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สาม ส่วน PlayBook มียอดส่งมอบราว 500,000 เครื่อง

ออราเคิลรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามตามปฏิทินการเงินบริษัท รายได้เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนอยู่ที่ 9.1 พันล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 13% เป็น 3.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้ก่อนหน้านี้

เมื่อแยกรายได้ตามส่วนธุรกิจ ค่าขายไลเซนส์ซอฟต์แวร์ใหม่เพิ่มขึ้น 7% ค่าขายซอฟต์แวร์และการสนับสนุนหลังการขายเพิ่มขึ้น 8% ส่วนยอดขายฮาร์ดแวร์ลดลงถึง 16% ซึ่งออราเคิลอธิบายเพิ่มเติมว่าถ้าพิจารณาเฉพาะสินค้าตระกูล Exadata จะมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 139%

แอปเปิลได้ประกาศในหน้าเว็บส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ว่าซีอีโอ ทิม คุก และซีเอฟโอ Peter Oppenheimer จะจัดการประชุมทางโทรศัพท์กับนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ในวันจันทร์ที่ 19 มีนาคมนี้ เวลา 6 นาฬิกาซึ่งตรงกับ 20 นาฬิกาในเวลาบ้านเรา โดยระบุรายละเอียดว่าเพื่อแจ้งมติที่ประชุมเกี่ยวกับการบริหารเงินสดให้ทราบ และจะไม่มีการพูดถึงหัวข้ออื่นนอกเหนือจากนี้

ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในไทยทั้งสามค่ายได้รายงานผลประกอบการประจำปี 2554 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในรายงานของแต่ละบริษัทได้สะท้อนทิศทางเดียวกัน คือการใช้บริการข้อมูลผ่านเครือข่ายมีอัตราการเติบโตที่สูงมากเมื่อเทียบกับการใช้งานเสียงแบบเดิม เป็นทิศทางเดียวกับในต่างประเทศ

เอไอเอส

เอไอเอสรายงานผลประกอบการปี 2554 มีรายได้รวม 126,437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.6% เมื่อเทียบกับปี 2553 และมีกำไรสุทธิ 22,218 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.3% มีผู้ใช้บริการในระบบรวมทั้งหมด 33.5 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านเลขหมายจากปี 2553

HP รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2012 สิ้นสุดเดือนมกราคมตามปฏิทินบริษัท มีรายได้รวม 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิลดลงถึง 44% เหลือ 1.5 พันล้านดอลลาร์