แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2013 ตามปฏิทินการเงินของบริษัท มีรายได้รวม 54.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่ 46.3 พันล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 13.1 พันล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากไตรมาสที่ผ่านมามี 13 สัปดาห์ ขณะที่ปีที่แล้วมี 14 สัปดาห์ ส่วนอัตรากำไรอยู่ที่ 38.6% ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ที่ 44.7% และยอดขาย 61% มาจากตลาดนอกอเมริกา
สำหรับยอดขายรายผลิตภัณฑ์นั้น iPhone ขายได้ 47.8 ล้านเครื่อง, iPad 22.9 ล้านเครื่อง, Mac 4.1 ล้านเครื่อง (ลดลง) และ iPod 12.7 ล้านเครื่อง (ลดลง)
ในส่วนของเนื้อหาช่วงแถลงผลประกอบการซึ่งมีซีอีโอทิม คุก และซีเอฟโอ Peter Oppenheimer มาร่วมแถลงมีดังนี้ครับ
ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 มีกำไรสุทธิ 5.8 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ขณะที่รายได้รวมนั้นลดลง 1% อยู่ที่ 29.3 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศ
ซีอีโอ Ginni Rometty กล่าวว่าปี 2012 ที่ผ่านมาไอบีเอ็มสามารถทำสถิติใหม่ทั้งกำไรสุทธิ และกระแสเงินสด จากกลยุทธ์การเติบโตที่วางไว้ได้ผลดี และลูกค้าก็มีการเติบโตตามด้วย โดยในปี 2013 นี้ไอบีเอ็มจะให้ความสำคัญกับนวัตกรรมสำหรับองค์กรทั้งประเด็น Big Data, อุปกรณ์มือถือ, ธุรกิจเครือข่ายสังคม และความปลอดภัย
เอเอ็มดีประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สี่ประจำปี 2012 รายได้ลดลงเหลือ 1,160 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 1,690 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสสี่ปีที่แล้ว กับ 1,270 ดอลลาร์ในไตรมาสที่สามของปีนี้ ส่งผลให้ขาดทุนรวม 422 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งปี 2012 เอเอ็มดีขาดทุน 1,060 ล้านดอลลาร์
ผลที่ย่ำแย่เป็นเพราะยอดขายซีพียูเดสก์ทอปราคาสูง ส่วนฝั่งกราฟิกนั้นลดลงเล็กน้อย ในระดับที่แทบจะคงที่ คาดการณ์ไตรมาสแรกของปี 2013 เอเอ็มดียังคาดว่าผลประกอบการจะลดลงไปอีก 9%
แนวทางการแก้ปัญหาของเอเอ็มดีคือการปรับตัวให้มีสินค้าที่หลากหลายขึ้น จากเดิมเกาะติดกับตลาดพีซีเป็นหลัก โดยเอเอ็มดีจะออกสินค้าเป็น ARMv8 รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายจากการลดพนักงานลงอีก
กูเกิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 มีรายได้รวม 14.42 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 36% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว กำไรสุทธิอยู่ที่ 2.89 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6.6% ซึ่งมีสาเหตุหลักจากธุรกิจฝั่งโมโตโรล่าที่ยังขาดทุนอยู่ โดยไตรมาสนี้ขาดทุนไป 353 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามในไตรมาสที่ผ่านมากูเกิลได้เจรจาขายส่วนกิจการชุดเซ็ตท็อปของโมโตโรล่า ไปแล้วที่มูลค่าราว 2.35 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าดีลจะสิ้นสุดในปลายปีนี้ จึงยังไม่มีการบันทึกรายรับเข้ามา
บริษัทเกม Atari, Inc. ที่มีปัญหาการเงินรุมเร้ามายาวนาน ยื่นขอล้มละลายต่อศาลล้มละลายของสหรัฐแล้ว
เรื่องของ Atari ซับซ้อนพอสมควร บริษัทชื่อ Atari ในปัจจุบันไม่ใช่บริษัทเดียวกับ Atari ที่โด่งดังในอดีต แต่เป็นบริษัทเกมจากฝรั่งเศส Infogrames ที่ซื้อทรัพย์สินของ Atari เดิมมา แล้วเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น Atari แทน (รายละเอียดซับซ้อนกว่านี้เยอะ อ่านใน Wikipedia)
อินเทลรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 มีรายได้ 13.5 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 27% ถึงแม้ตัวเลขจะลดลง แต่ก็ออกมาตามที่นักวิเคราะห์ประเมินกันไว้ ทั้งนี้ยอดขายในส่วนธุรกิจพีซีลดลง 3% ขณะที่ดาต้าเซ็นเตอร์ลดลง 6%
ซีอีโอ Paul Otellini บอกว่าผลงานในไตรมาสที่ผ่านมาเป็นไปตามที่บริษัทคาดหวังไว้ ท่ามกลางการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรงขึ้น ซึ่งการเริ่มเข้าสู่ตลาดแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนในปีที่ผ่านมา ตลอดจนความพยายามเปลี่ยนธุรกิจพีซีอีกครั้ง สิ่งเหล่านี้จะยังดำเนินต่อไปในปีนี้
ที่มา: อินเทล
eBay รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 มีรายได้รวม 4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 927 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17%
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าเดลล์กำลังเจรจากับกองทุนขนาดใหญ่ 2 แห่ง เพื่อช่วยประเมินมูลค่ากิจการรวมถึงหาแหล่งทุนที่บริษัทจะใช้ซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมด และนำหุ้นของบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์
หุ้นของเดลล์มีมูลค่าลดลงถึง 1 ใน 3 ช่วงปีที่ผ่านมา และบริษัทก็มีแนวโน้มรายได้-กำไรที่ลดลงมาโดยตลอด ซึ่งหากบริษัทต้องการเปลี่ยนรูปแบบโครงสร้างรายได้ การซื้อหุ้นคืนออกมาเป็นบริษัทนอกตลาดหุ้น ก็จะทำให้การบริหารงานสะดวกมากขึ้น และไม่มีแรงกดดันคาดหวังในตัวเลขจากนักลงทุนแบบที่ผ่านมา
ทั้งนี้ซีอีโอ Michael Dell ถือหุ้นในเดลล์อยู่ 15.7%
ซัมซุงออกมาให้ตัวเลขประเมินผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีกำไร 8.8 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นถึง 89% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และเพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ และมีรายได้รวม 56 ล้านล้านวอน ทั้งนี้ในไตรมาสก่อนหน้านั้น ซัมซุงก็ออกมาให้ตัวเลขประเมินก่อนผลประกอบการจริงจะออกมาเช่นกัน และตัวเลขก็ค่อนข้างใกล้เคียงกันครับ ทั้งนี้หากตัวเลขออกมาตามนี้จริง ก็จะเป็นสถิติสูงสุดใหม่ของซัมซุงอีกครั้งติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5
HTC รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 มีกำไรก่อนหักภาษี 1.1 พันล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ลดลงถึง 91% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีรายได้รวม 60 พันล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ลดลง 41% ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดในรอบ 9 ปีของบริษัท สอดคล้องกับตัวเลขที่รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายนซึ่งไม่ค่อยดีนัก
อย่างไรก็ตามผลประกอบการที่ไม่ค่อยสดใสนี้ก็ไม่ผิดคาดไปจากที่นักวิเคราะห์ประเมินกันเอาไว้นัก เช่นเดียวกับที่ซีอีโอของ HTC ออกมาให้สัมภาษณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยยอมรับว่าบริษัททำการตลาดได้ไม่ดีพอนั่นเอง
Research in Motion รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สามของบริษัท สิ้นสุดวันที่ 1 ธันวาคม มีรายได้ 2.7 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจากไตรมาสที่แล้ว 5% แต่ลดลงถึง 47% หากเทียบกับ
เมื่อวานนี้ในงานเปิดตัว HTC Butterfly ที่ไต้หวัน Peter Chou ได้ออกมาพูดถึงความสำเร็จของ HTC Butterfly, Droid DNA และ HTC J Butterfly ที่เพิ่งวางขายไปว่า ตอนนี้ HTC J Butterfly ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นอย่างมาก และขณะนี้พวกเขาได้เพิ่มกำลังการจัดส่งสินค้าเพิ่มเติมแล้วด้วย
นอกจากนี้ Jack Tong ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า พวกเขาต้องเพิ่มกำลังการผลิตเป็นอย่างมาก ไปจนถึงช่วงสิ้นเดือนนี้ ซึ่งมันเป็นผลมาจากการที่ HTC เปลี่ยนกลยุทธ์ในการออกรุ่น Flagship ใหม่ในแต่ละรุ่น (One X, One X+ และ Butterfly) และเน้นการทำมือถือในตลาดกลางมากขึ้นนั่นเอง
ใครที่ยังเป็นแฟนของ HTC อยู่ก็ต้องเอาใจช่วยกันอีกแรงแล้วล่ะครับ งานนี้
HTC รายงานผลประกอบการประจำเดือนพฤศจิกายน 2012 มีรายได้ 21.23 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน ซึ่งถือว่าลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2011 ประมาณ 31.4%
อย่างไรก็ตาม ถ้ามองในแง่ดี ตัวเลขนี้ถือว่าเป็นพัฒนาการเมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2012 ที่มีรายได้ 17.21 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน ซึ่งอาจเป็นเพราะ HTC มีมือถือรุ่นใหม่เปิดตัวหลายรุ่น เช่น Droid DNA, Butterfly J, 8X เป็นต้น
ใครเป็นแฟน HTC ก็ต้องเอาใจช่วยกันหน่อยครับ
HP รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 สิ้นสุดเดือนตุลาคมตามปฏิทินบริษัท มีรายได้รวม 30.0 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยยังขาดทุนสุทธิอีก 6.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดทุนต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้านี้ และยังมีสาเหตุหลักคล้ายกันด้วยคือมีการลงบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์อีก 8.8 พันล้าน (ไตรมาสที่แล้วเป็นสินทรัพย์ส่วนกิจการ EDS และ Compaq) หากไม่มีรายการนี้นั้น HP ไตรมาสนี้ก็ยังมีกำไรอยู่
สำหรับรายได้แยกเป็นกลุ่มธุรกิจนั้นก็ลดลงถ้วนหน้า โดยกลุ่มพีซีก็ยังขาลงตามอุตสาหกรรมโดยมีรายได้ลดลง 14% กลุ่มเครื่องพิมพ์ลดลง 5% กลุ่มธุรกิจบริการลดลง 6% เซิร์ฟเวอร์องค์กรลดลง 9%
NVIDIA แถลงผลประกอบการไตรมาสสาม รายได้เพิ่มเป็น 1.2 พันล้านดอลลาร์ หรือเพิ่ม 15.3% จากปีก่อน และกำไร 209 ล้านดอลลาร์ เพิ่ม 75.6% จากปีก่อน
รายได้ของ NVIDIA เพิ่มขึ้นในทุกสายผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น GPU ทั้งสาย GeForce/Quadro รวมถึงสินค้าคอนซูเมอร์อย่างมือถือและแท็บเล็ต ที่น่าสนใจที่สุดคืออย่างหลัง เพราะแท็บเล็ตชื่อดังหลายรุ่นอย่าง Nexus 7 และ Surface ต่างก็ใช้ Tegra 3 เป็นหน่วยประมวลผล บริษัทคาดว่าปีนี้จะมีแท็บเล็ต Tegra 3 วางขายทั้งหมด 30 ล้านเครื่อง
NVIDIA ระบุว่ารายได้จากสินค้ากลุ่มที่ไม่ใช่พีซี มีสัดส่วน 30% ของรายได้ทั้งหมดแล้ว เพิ่มจากสามปีก่อนที่คิดเป็นสัดส่วนแค่ 7% ของรายได้ทั้งหมด
เลอโนโวรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีปฏิทินการเงินของบริษัท มีกำไร 162 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยมียอดขาย 8.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11% โดยมียอดส่งมอบพีซีเพิ่มขึ้นถึง 10.3% สวนทางกับตลาดพีซีโลกรวมที่หดตัวลง 8% ซึ่งเลอโนโวระบุว่าเป็นการเติบโตที่เหนือกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 14 แล้ว ทำให้ตอนนี้เลอโนโวมีส่วนแบ่งการตลาดพีซีอยู่ที่ 15.6% ตามข้อมูลล่าสุดของ IDC
Panasonic ออกมาประเมินผลประกอบการประจำปีงบประมาณ (สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2013) ว่าจะขาดทุนราว 765 พันล้านเยน (ประมาณ 3 แสนล้านบาท) ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ขาดทุนมากเป็นประวัติการณ์ 772 พันล้านเยน ซึ่งแปลว่าความพยายามกอบกู้สถานการณ์ของบริษัทยังไม่ประสบความสำเร็จดังที่หวัง
โซนี่รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส งวดเดือนกรกฎาคม - กันยายน ซึ่งหลังจากขาดทุนกันมา
HTC ออกมาประเมินผลประกอบการประจำไตรมาสที่สี่ (ต.ค.-ธ.ค.) โดยรายรับรวมของไตรมาสล่าสุดจะอยู่ประมาณ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 6.3 หมื่นล้านบาท หรือ 2.1 พันล้านดอลลาร์) ลดลง 14.5% จากไตรมาสก่อน ซึ่งแย่กว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ และน่าจะแย่ที่สุดในรอบ 11 ไตรมาสหรือเกือบ 3 ปีหลังสุด
ส่วนยอดขายโทรศัพท์มือถือ ถ้าอ้างตัวเลขล่าสุดจาก IDC จะลดลงถึง 42.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่าการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนโลกดุเดือดจน HTC สู้ไม่ไหว ส่วนตลาดจีนก็เน้นสินค้าราคาถูกที่กำไรต่ำมาก
ซัมซุงเผยผลประกอบการไตรมาสที่สามของปี 2012 โดยมีกำไรเหนาะๆ 8.12 ล้านล้านวอน หรือ 7.4 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.3 แสนล้านบาท) ถือว่าเพิ่มขึ้นเกือบหนึ่งเท่าตัวจากไตรมาสเดียวกันของปี 2011
กำไร 2 ใน 3 ของซัมซุงมาจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่ร้อนแรงที่สุดในตอนนี้ ซัมซุงไม่ได้เปิดเผยยอดขายอย่างเป็นทางการ แต่คาดกันว่าซัมซุงขายมือถือในไตรมาสนี้ได้ราว 58 ล้านเครื่อง ซึ่งมากกว่าแอปเปิลที่ขายได้ 26.9 ล้านเครื่อง (ตัวเลขของแอปเปิลยังไม่ได้นับ iPhone 5 ที่เพิ่งวางขายช่วงปลายไตรมาส)
อย่างไรก็ตาม กำไรของธุรกิจชิปกลับลดลง 28% เนื่องจากราคา DRAM ในตลาดโลกลดลง แต่ก็ได้ยอดขายชิป NAND flash มาช่วยชดเชยได้บ้าง
แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สี่ตามปีการเงินบริษัท มีรายได้รวม 36 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 28.3 พันล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 8.2 พันล้านดอลลาร์ ส่วนอัตรากำไรอยู่ที่ 40.0% โดยยอดขายในไตรมาสนี้นั้น 60% มาจากตลาดนอกอเมริกา
สำหรับยอดขายรายผลิตภัณฑ์นั้น iPhone ขายได้ 26.9 ล้านเครื่อง, iPad 14 ล้านเครื่อง, Mac 4.9 ล้านเครื่อง และ iPod 5.3 ล้านเครื่อง
ซีอีโอทิม คุกกล่าวว่าเราภูมิใจในผลงานไตรมาสสุดท้ายที่สวยสดงดงามนี้ พร้อมกับสถิติสูงสุดใหม่ และในตอนนี้เรากำลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลปลายปีพร้อมกับไลน์สินค้าใหม่ทุกตัวที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา เรามั่นใจกับมันมาก นอกจากนี้แอปเปิลยังมีมติจ่ายเงินปันผลอีก 2.65 ดอลลาร์ต่อหุ้นด้วย
หลังเฟซบุ๊กเข้าสู่ตลาดหุ้นก็มีปัญหากับตลาดหุ้นมาโดยตลอด จากการถูกกล่าวหาว่าปิดบังความเสี่ยงต่อนักลงทุน ทำให้นักลงทุนไม่ได้รับข้อมูลครบถ้วน แต่รายงานไตรมาสที่สามก็แสดงให้เห็นว่าเฟซบุ๊กยังเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งอยู่
รายงานไตรมาสนี้ระบุว่ารายได้ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 1,262 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 954 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว แต่ผลรวมกลับขาดทุน 59 ล้านดอลลาร์จากที่กำไร 414 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
กำไรขาดทุนยังไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับบริษัทที่เติบโตสูงๆ เช่นนี้ อัตราการเติบโตในส่วนของโฆษณานั้นดีมาก เพิ่มเป็น 1,090 ล้านดอลลาร์ หรือเติบโต 43% จากปีที่แล้ว ขณะที่ค่าธรรมเนียมการจ่ายเงิน (ซึ่งมักใช้ซื้อของในเกม) ลดลง 9%
AMD เผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่สามของปี 2012 รายรับรวมอยู่ที่ 1.27 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 25% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
นอกจากรายได้ลดแล้ว หักลบกับค่าใช้จ่ายแล้วออกมาขาดทุนที่ 157 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการกลับมาขาดทุนอีกครั้งของ AMD เพราะไตรมาสก่อนมีกำไร 77 ล้านดอลลาร์ ตอนนี้ AMD ยังมีเงินสดในมืออยู่ 1.48 พันล้านดอลลาร์ การขาดทุนรอบนี้ยังไม่ถือว่าวิกฤตแต่ก็ต้องเร่งปรับตัวให้แข่งขันได้
ที่น่าสนใจคือธุรกิจ GPU ที่เป็นจุดแข็งของบริษัทก็มีรายได้ลดลง 15% จากปีก่อน เนื่องจากยอดสั่งซื้อของ OEM ลดลง (ตามสภาพของตลาดพีซีโลกที่หดตัว)
รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามปี 2012 ของกูเกิลหลุดเข้าไปยังเว็บกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ รายงานรายได้ 14.10 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 45% เทียบกับปีที่แล้ว แต่กำไรกลับทำได้เพียง 2.18 พันล้านดอลลาร์ จากปีที่แล้ว 2.73 พันล้านดอลลาร์
ผลประกอบการที่แย่มาจากฝั่งโมโตโรล่าที่ขาดทุนไปถึง 527 ล้านดอลลาร์ และยังมีค่าปรับโครงสร้างบริษัทของโมโตโรล่าอีก 349 ล้านดอลลาร์
ข้อมูลที่รั่วออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้หุ้นของกูเกิลตกทันที 10% จนตลาดหยุดซื้อขายอัตโนมัติที่ 676.00 ดอลลาร์ก่อนจะกลับขึ้นมาได้หลังจากเปิดการซื้อขายอีกครั้ง
ไมโครซอฟท์ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2013 (ตามปีบัญชีบริษัท) รายได้อยู่ที่ 16,008 ล้านดอลลาร์ กำไร 5,308 ล้านดอลลาร์ จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว รายได้ลดลง 8% และกำไรลดลง 26% โดยชี้ประเด็นว่ามีรายได้และกำไรจาก Windows 8 ที่ยังไม่บันทึกลงบัญชีถึง 1,356 ล้านดอลลาร์ เพราะสินค้ายังไม่ส่งมอบ
ฝั่งองค์กรของไมโครซอฟท์ยังแข็งแกร่งมาก จากรายได้ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ 4,550 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8% ตัว SQL Server เพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลัก และ System Center เพิ่มขึ้นถึง 20% แถมยังเพิ่งเปิดตัว Windows Server 2012 ไปเมื่อเดือนที่แล้ว