เดลล์ประกาศอย่างเป็นทางการวันนี้ว่าจะมีการขอซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นเดิมเพื่อทำเรื่องออกจากตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งตรงกับข่าวก่อนหน้านี้ โดยจะทำการซื้อหุ้นคืนในราคา 13.65 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าราคาเฉลี่ย 90 วันย้อนหลัง 37% ซึ่งทำให้ขนาดของดีลซื้อหุ้นคืนครั้งนี้สูงถึง 24.4 พันล้านดอลลาร์
เลอโนโวประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สามของปี 2012 ตามรอบบัญชีบริษัท ยังคงทำรายได้และกำไรสวนทางกับตลาดพีซีทั่วโลกที่เริ่มชะลอตัวจนถึงหดตัวลง โดยรายได้ทั้งไตรมาสอยู่ที่ 9.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% จากปีที่แล้ว ส่วนกำไรอยู่ที่ 205 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 34% จากปีที่แล้ว
ในรายงานระบุถึงกลยุทธ์แบบ "ป้องกันและโจมตี" โดยบริษัทจะป้องกันแหล่งกำไรสำคัญอย่างตลาดพีซีทั่วโลกและธุรกิจอื่นๆ ในจีน ส่วนการโจมตีจะมุ่งไปที่ตลาดใหม่อย่างสมาร์ตโฟน, แท็บเล็ต, และโทรทัศน์แบบสมาร์ต
ผู้ผลิตชิปสมาร์ทโฟนรายใหญ่อย่าง Qualcomm ออกมาเผยผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2013 (สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2012) ทำสถิติรายได้ใหม่อีกครั้ง
Facebook รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 มีรายได้ถึง 1.585 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยคิดเป็นรายได้จากค่าโฆษณา 84% ที่เหลือมาจากการชำระเงิน และมีกำไรสุทธิ 64 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Mark Zuckerberg กล่าวว่าในปี 2012 เราได้เชื่อมโยงผู้คนนับพันล้านคนเข้าด้วยกัน และเรากลายเป็นบริษัทบนแพลตฟอร์มมือถือไปแล้ว ซึ่งในปี 2013 นี้บริษัทจะยังรักษาโมเมนตัมที่ดีนี้ไว้ และลงทุนเพิ่มเติมเพื่อให้บริษัทแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
นินเทนโดประกาศผลประกอบการสามไตรมาสแรกจนถึงเดือนธันวาคมตามรอบบัญชีบริษัท รายได้รวมลดลง 2.4% เหลือ 543,033 ล้านเยน แต่ผลกำไรขาดทุนกลับขึ้นมาเป็นกำไร 14,545 ล้านเยน เทียบกับปีที่แล้วที่ขาดทุนถึง 48,351 ล้านเยน
รายงานระบุยอดขายของสินค้าแต่ละกลุ่มในสามไตรมาสแรก
Amazon รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สี่ปี 2012 มีรายได้ถึง 21.27 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 22% จากไตรมาสสี่ปี 2011 แต่กำไรกลับลดลงอย่างแรงเหลือเพียง 97 ล้านดอลลาร์ เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วที่มีกำไร 177 ล้านดอลลาร์
รายได้รวมทั้งปีของปี 2012 คือ 61.09 พันล้านดอลลาร์ เติบโตขึ้น 27% ผลกำไรกลับติดลบ 39 ล้านดอลลาร์ เทียบกับปีที่แล้วที่กำไรถึง 631 ล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้ไตรมาสแรกของปี 2013 ทาง Amazon คาดว่าจะอยู่ในช่วงขาดทุน 285 ล้านดอลลาร์ไปถึงกำไร 65 ล้านดอลลาร์
ในแง่ภาพรวมตลาด ปีนี้ยอดขายหนังสือเล่มเติบโตเพียง 5% นับว่าน้อยที่สุดนับแต่เปิด Amazon มาสิบเจ็ดปี โดยลูกค้าจำนวนมากย้ายไปใช้ Kindle แทน
EMC ยังสามารถโตต่อเนื่องกับกระแส Cloud Computing ได้เป็นอย่างดี รายงานผลไตรมาสที่สี่ของปี 2012 ทำรายได้เกิน 6 พันล้านดอลลาร์เป็นไตรมาสแรก เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสสี่ปี 2011 และกำไรถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสสี่ปี 2011
ในภาพรวมทั้งปี รายได้ของ EMC เป็น 21.7 พันล้านดอลลาร์ เติบโตขึ้น 9% และกำไรรวม 3.8 พันล้านดอลลาร์ แม้จะเติบโตได้ดี แต่ตลาดหุ้นดูจะตอบสนองไม่ดีนักเพราะหุ้นปิดราคาลดลง 4.2%
บริษัทสำคัญในกลุ่มของ EMC คือ VMWare ที่รายได้ในไตรมาสที่สี่เติบโตขึ้นถึง 22%
ซัมซุงรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 มีกำไรจากการดำเนินงาน 8.84 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 8.27 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 89% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยมาจากยอดขาย 56.06 ล้านล้านวอนหรือ 52.45 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขกำไรนั้นใกล้เคียงกับที่บริษัทออกมาประเมินก่อนหน้านี้ เป็นสถิติใหม่ของซัมซุงอีกครั้ง
ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองปี 2013 (ตามปีการเงินบริษัท) มีรายได้สูงสุดเป็นสถิติใหม่อีกครั้งที่ 21,456 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 6,377 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลจากยอดขาย Windows 8 ที่เริ่มบันทึกเข้ามาในไตรมาสนี้
ซีอีโอ Steve Ballmer บอกว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน Windows รวมถึง Surface และ Windows Phone 8 ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และจากนี้ Surface Pro และ Office รุ่นใหม่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบนิเวศ Windows ให้กลายเป็นระบบที่คนรักและธุรกิจต้องการมัน
โนเกียรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 มียอดขายรวมที่ 8,041 ล้านยูโร ลดลง 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของโนเกียนั้นดีขึ้นมาก โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 439 ล้านยูโร ซึ่งไตรมาสที่ผ่านมาและในปีก่อนตัวเลขส่วนนี้ขาดทุน และมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีและดอกเบี้ยจ่ายแล้วก็ยังมีกำไร 255 ล้านยูโร
สำหรับยอดขายเป็นรายผลิตภัณฑ์นั้น Lumia ขายได้รวม 4.4 ล้านเครื่อง กลับเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง จากที่ไตรมาสก่อนหน้าขายได้ 2.9 ล้านเครื่อง โดยในภาพรวมนั้นสมาร์ทโฟนขายได้ทั้งหมด 6.6 ล้านเครื่อง และฟีเจอร์โฟนขายได้ 79.6 ล้านเครื่อง โดยเป็น Asha ถึง 15.9 ล้านเครื่อง
แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2013 ตามปฏิทินการเงินของบริษัท มีรายได้รวม 54.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่ 46.3 พันล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 13.1 พันล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากไตรมาสที่ผ่านมามี 13 สัปดาห์ ขณะที่ปีที่แล้วมี 14 สัปดาห์ ส่วนอัตรากำไรอยู่ที่ 38.6% ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ที่ 44.7% และยอดขาย 61% มาจากตลาดนอกอเมริกา
สำหรับยอดขายรายผลิตภัณฑ์นั้น iPhone ขายได้ 47.8 ล้านเครื่อง, iPad 22.9 ล้านเครื่อง, Mac 4.1 ล้านเครื่อง (ลดลง) และ iPod 12.7 ล้านเครื่อง (ลดลง)
ในส่วนของเนื้อหาช่วงแถลงผลประกอบการซึ่งมีซีอีโอทิม คุก และซีเอฟโอ Peter Oppenheimer มาร่วมแถลงมีดังนี้ครับ
ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 มีกำไรสุทธิ 5.8 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ขณะที่รายได้รวมนั้นลดลง 1% อยู่ที่ 29.3 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศ
ซีอีโอ Ginni Rometty กล่าวว่าปี 2012 ที่ผ่านมาไอบีเอ็มสามารถทำสถิติใหม่ทั้งกำไรสุทธิ และกระแสเงินสด จากกลยุทธ์การเติบโตที่วางไว้ได้ผลดี และลูกค้าก็มีการเติบโตตามด้วย โดยในปี 2013 นี้ไอบีเอ็มจะให้ความสำคัญกับนวัตกรรมสำหรับองค์กรทั้งประเด็น Big Data, อุปกรณ์มือถือ, ธุรกิจเครือข่ายสังคม และความปลอดภัย
เอเอ็มดีประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สี่ประจำปี 2012 รายได้ลดลงเหลือ 1,160 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 1,690 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสสี่ปีที่แล้ว กับ 1,270 ดอลลาร์ในไตรมาสที่สามของปีนี้ ส่งผลให้ขาดทุนรวม 422 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งปี 2012 เอเอ็มดีขาดทุน 1,060 ล้านดอลลาร์
ผลที่ย่ำแย่เป็นเพราะยอดขายซีพียูเดสก์ทอปราคาสูง ส่วนฝั่งกราฟิกนั้นลดลงเล็กน้อย ในระดับที่แทบจะคงที่ คาดการณ์ไตรมาสแรกของปี 2013 เอเอ็มดียังคาดว่าผลประกอบการจะลดลงไปอีก 9%
แนวทางการแก้ปัญหาของเอเอ็มดีคือการปรับตัวให้มีสินค้าที่หลากหลายขึ้น จากเดิมเกาะติดกับตลาดพีซีเป็นหลัก โดยเอเอ็มดีจะออกสินค้าเป็น ARMv8 รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายจากการลดพนักงานลงอีก
กูเกิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 มีรายได้รวม 14.42 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 36% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว กำไรสุทธิอยู่ที่ 2.89 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6.6% ซึ่งมีสาเหตุหลักจากธุรกิจฝั่งโมโตโรล่าที่ยังขาดทุนอยู่ โดยไตรมาสนี้ขาดทุนไป 353 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามในไตรมาสที่ผ่านมากูเกิลได้เจรจาขายส่วนกิจการชุดเซ็ตท็อปของโมโตโรล่า ไปแล้วที่มูลค่าราว 2.35 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าดีลจะสิ้นสุดในปลายปีนี้ จึงยังไม่มีการบันทึกรายรับเข้ามา
บริษัทเกม Atari, Inc. ที่มีปัญหาการเงินรุมเร้ามายาวนาน ยื่นขอล้มละลายต่อศาลล้มละลายของสหรัฐแล้ว
เรื่องของ Atari ซับซ้อนพอสมควร บริษัทชื่อ Atari ในปัจจุบันไม่ใช่บริษัทเดียวกับ Atari ที่โด่งดังในอดีต แต่เป็นบริษัทเกมจากฝรั่งเศส Infogrames ที่ซื้อทรัพย์สินของ Atari เดิมมา แล้วเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น Atari แทน (รายละเอียดซับซ้อนกว่านี้เยอะ อ่านใน Wikipedia)
อินเทลรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 มีรายได้ 13.5 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 27% ถึงแม้ตัวเลขจะลดลง แต่ก็ออกมาตามที่นักวิเคราะห์ประเมินกันไว้ ทั้งนี้ยอดขายในส่วนธุรกิจพีซีลดลง 3% ขณะที่ดาต้าเซ็นเตอร์ลดลง 6%
ซีอีโอ Paul Otellini บอกว่าผลงานในไตรมาสที่ผ่านมาเป็นไปตามที่บริษัทคาดหวังไว้ ท่ามกลางการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรงขึ้น ซึ่งการเริ่มเข้าสู่ตลาดแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนในปีที่ผ่านมา ตลอดจนความพยายามเปลี่ยนธุรกิจพีซีอีกครั้ง สิ่งเหล่านี้จะยังดำเนินต่อไปในปีนี้
ที่มา: อินเทล
eBay รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 มีรายได้รวม 4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 927 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17%
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าเดลล์กำลังเจรจากับกองทุนขนาดใหญ่ 2 แห่ง เพื่อช่วยประเมินมูลค่ากิจการรวมถึงหาแหล่งทุนที่บริษัทจะใช้ซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมด และนำหุ้นของบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์
หุ้นของเดลล์มีมูลค่าลดลงถึง 1 ใน 3 ช่วงปีที่ผ่านมา และบริษัทก็มีแนวโน้มรายได้-กำไรที่ลดลงมาโดยตลอด ซึ่งหากบริษัทต้องการเปลี่ยนรูปแบบโครงสร้างรายได้ การซื้อหุ้นคืนออกมาเป็นบริษัทนอกตลาดหุ้น ก็จะทำให้การบริหารงานสะดวกมากขึ้น และไม่มีแรงกดดันคาดหวังในตัวเลขจากนักลงทุนแบบที่ผ่านมา
ทั้งนี้ซีอีโอ Michael Dell ถือหุ้นในเดลล์อยู่ 15.7%
ซัมซุงออกมาให้ตัวเลขประเมินผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีกำไร 8.8 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นถึง 89% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และเพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ และมีรายได้รวม 56 ล้านล้านวอน ทั้งนี้ในไตรมาสก่อนหน้านั้น ซัมซุงก็ออกมาให้ตัวเลขประเมินก่อนผลประกอบการจริงจะออกมาเช่นกัน และตัวเลขก็ค่อนข้างใกล้เคียงกันครับ ทั้งนี้หากตัวเลขออกมาตามนี้จริง ก็จะเป็นสถิติสูงสุดใหม่ของซัมซุงอีกครั้งติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5
HTC รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 มีกำไรก่อนหักภาษี 1.1 พันล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ลดลงถึง 91% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีรายได้รวม 60 พันล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ลดลง 41% ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดในรอบ 9 ปีของบริษัท สอดคล้องกับตัวเลขที่รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายนซึ่งไม่ค่อยดีนัก
อย่างไรก็ตามผลประกอบการที่ไม่ค่อยสดใสนี้ก็ไม่ผิดคาดไปจากที่นักวิเคราะห์ประเมินกันเอาไว้นัก เช่นเดียวกับที่ซีอีโอของ HTC ออกมาให้สัมภาษณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยยอมรับว่าบริษัททำการตลาดได้ไม่ดีพอนั่นเอง
Research in Motion รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สามของบริษัท สิ้นสุดวันที่ 1 ธันวาคม มีรายได้ 2.7 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจากไตรมาสที่แล้ว 5% แต่ลดลงถึง 47% หากเทียบกับ
เมื่อวานนี้ในงานเปิดตัว HTC Butterfly ที่ไต้หวัน Peter Chou ได้ออกมาพูดถึงความสำเร็จของ HTC Butterfly, Droid DNA และ HTC J Butterfly ที่เพิ่งวางขายไปว่า ตอนนี้ HTC J Butterfly ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นอย่างมาก และขณะนี้พวกเขาได้เพิ่มกำลังการจัดส่งสินค้าเพิ่มเติมแล้วด้วย
นอกจากนี้ Jack Tong ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า พวกเขาต้องเพิ่มกำลังการผลิตเป็นอย่างมาก ไปจนถึงช่วงสิ้นเดือนนี้ ซึ่งมันเป็นผลมาจากการที่ HTC เปลี่ยนกลยุทธ์ในการออกรุ่น Flagship ใหม่ในแต่ละรุ่น (One X, One X+ และ Butterfly) และเน้นการทำมือถือในตลาดกลางมากขึ้นนั่นเอง
ใครที่ยังเป็นแฟนของ HTC อยู่ก็ต้องเอาใจช่วยกันอีกแรงแล้วล่ะครับ งานนี้
HTC รายงานผลประกอบการประจำเดือนพฤศจิกายน 2012 มีรายได้ 21.23 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน ซึ่งถือว่าลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2011 ประมาณ 31.4%
อย่างไรก็ตาม ถ้ามองในแง่ดี ตัวเลขนี้ถือว่าเป็นพัฒนาการเมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2012 ที่มีรายได้ 17.21 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน ซึ่งอาจเป็นเพราะ HTC มีมือถือรุ่นใหม่เปิดตัวหลายรุ่น เช่น Droid DNA, Butterfly J, 8X เป็นต้น
ใครเป็นแฟน HTC ก็ต้องเอาใจช่วยกันหน่อยครับ
HP รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 สิ้นสุดเดือนตุลาคมตามปฏิทินบริษัท มีรายได้รวม 30.0 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยยังขาดทุนสุทธิอีก 6.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดทุนต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้านี้ และยังมีสาเหตุหลักคล้ายกันด้วยคือมีการลงบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์อีก 8.8 พันล้าน (ไตรมาสที่แล้วเป็นสินทรัพย์ส่วนกิจการ EDS และ Compaq) หากไม่มีรายการนี้นั้น HP ไตรมาสนี้ก็ยังมีกำไรอยู่
สำหรับรายได้แยกเป็นกลุ่มธุรกิจนั้นก็ลดลงถ้วนหน้า โดยกลุ่มพีซีก็ยังขาลงตามอุตสาหกรรมโดยมีรายได้ลดลง 14% กลุ่มเครื่องพิมพ์ลดลง 5% กลุ่มธุรกิจบริการลดลง 6% เซิร์ฟเวอร์องค์กรลดลง 9%
NVIDIA แถลงผลประกอบการไตรมาสสาม รายได้เพิ่มเป็น 1.2 พันล้านดอลลาร์ หรือเพิ่ม 15.3% จากปีก่อน และกำไร 209 ล้านดอลลาร์ เพิ่ม 75.6% จากปีก่อน
รายได้ของ NVIDIA เพิ่มขึ้นในทุกสายผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น GPU ทั้งสาย GeForce/Quadro รวมถึงสินค้าคอนซูเมอร์อย่างมือถือและแท็บเล็ต ที่น่าสนใจที่สุดคืออย่างหลัง เพราะแท็บเล็ตชื่อดังหลายรุ่นอย่าง Nexus 7 และ Surface ต่างก็ใช้ Tegra 3 เป็นหน่วยประมวลผล บริษัทคาดว่าปีนี้จะมีแท็บเล็ต Tegra 3 วางขายทั้งหมด 30 ล้านเครื่อง
NVIDIA ระบุว่ารายได้จากสินค้ากลุ่มที่ไม่ใช่พีซี มีสัดส่วน 30% ของรายได้ทั้งหมดแล้ว เพิ่มจากสามปีก่อนที่คิดเป็นสัดส่วนแค่ 7% ของรายได้ทั้งหมด