HTC เผยผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2013 มีรายได้ 1.45 พันล้านดอลลาร์ น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ราว 1.66-1.99 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ที่อาการหนักที่สุดคือกำไรประจำไตรมาสทำได้เพียง 2.85 ล้านดอลลาร์ ลดลงถึง 98% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้ว 152 ล้านดอลลาร์ แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา
ปัญหาที่ HTC มีผลประกอบการย่ำแย่ในไตรมาสแรกเป็นเพราะ HTC One เจอโรคเลื่อน ทำให้ต้องมานับยอดขายส่วนใหญ่ในไตรมาสที่สองแทน ซึ่งบริษัทก็ระบุว่าผลประกอบการในไตรมาสสองน่าจะดีขึ้นมากจากเสียงตอบรับในตัว HTC One นั่นเอง
Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2013 สิ้นสุดเดือนมีนาคม มีรายได้รวม 1.46 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยรายได้รวมนี้ 85% มาจากค่าโฆษณา โดยคิดเป็นโฆษณาในมือถือถึง 30% ของรายได้โฆษณารวม ขณะที่กำไรสุทธินั้นอยู่ที่ 219 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7%
ซีอีโอ Mark Zuckerberg กล่าวว่าเรามีสิ่งใหม่เปิดตัวออกมาหลายอย่างในช่วงที่ผ่านมา และยังมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง รวมถึงความสัมพันธ์ที่ดีในเครือข่ายเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ต่อไป
ซัมซุงรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2013 มีรายได้ 52.87 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 47.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว โดยมีกำไรสุทธิ 7.15 ล้านล้านวอน หรือ 6.45 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 41.6% ทั้งนี้รายได้นั้นลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากปัจจัยทางฤดูกาล แต่กำไรสุทธินั้นเพิ่มขึ้นเป็นสถิติใหม่อีกครั้งติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 6
ส่วนธุรกิจที่สร้างรายได้และกำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำให้ซัมซุงก็ยังคงเป็นส่วนธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ที่มีรายได้เฉพาะส่วนนี้ถึง 32.82 ล้านล้านวอน และในไตรมาสปัจจุบันตัวเลขนี้น่าจะสูงกว่านี้อีกเนื่องจาก Galaxy S4 เริ่มวางจำหน่ายแล้ว
LG รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2013 มีรายได้เพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยอยู่ที่ 14.1 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 13.01 พันล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 22 พันล้านวอน หรือ 20.3 ล้านดอลลาร์ซึ่งลดลงจากปีก่อน
กลุ่มธุรกิจที่ทำให้ LG มีผลงานที่ดีขึ้นก็หนีไม่พ้นธุรกิจโทรศัพท์มือถือ โดยไตรมาสที่ผ่านมาได้ส่งมอบสมาร์ทโฟนไปทั้งสิ้น 10.3 ล้านเครื่อง โดย LG ระบุว่าเป็นจำนวนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ LG เริ่มผลิตสมาร์ทโฟน โดยมีสินค้าที่ขายดีอย่าง Optimus G, Optimus G Pro ไปจนถึง Nexus 4
ที่มา: Engadget
นินเทนโดรายงานผลประกอบการประจำปีการเงิน 2012 สิ้นสุดเดือนมีนาคม ขาดทุนสุทธิตลอดทั้งปี 36.4 พันล้านเยน หรือ 366 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดทุนติดต่อกันเป็นปีที่สอง โดยมียอดขายรวม 635.4 พันล้านเยน
สาเหตุหลักคือ Wii U ที่ทำยอดขายได้ไม่ถึงเป้า โดยจนถึงตอนนี้ขายไปได้แล้ว 3.45 ล้านเครื่อง จากเป้าหมายครั้งสุดท้ายที่ 4 ล้านเครื่อง ถึงแม้นินเทนโดจะเหมือนกับบริษัทญี่ปุ่นอื่นๆ ที่น่าจะได้ประโยชน์จากการอ่อนตัวของค่าเงินเยน แต่ดูเหมือนปัจจัยนี้จะไม่ส่งผลให้เห็นมากนัก
ที่มา: The Verge
Zynga ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2013 มีรายได้รวมอยู่ที่ 263.6 ล้านเหรียญ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) ถึง 18% แต่ก็กลับมาทำกำไรได้ แม้จะเพียงน้อยนิดที่ 4.1 ล้านเหรียญเท่านั้น
สัดส่วนรายได้ของ Zynga เองก็เปลี่ยนไปจากเมื่อปีก่อนอย่างมาก จากเดิมที่เคยทำกำไรจากเกมตระกูล Ville ก็กลายเป็นทำเงินจากเกมออนไลน์อื่นๆ มากขึ้น ส่วนเดิมที่ยังคงตัวอยู่มีเพียงเกมในตระกูล Poker เท่านั้น และที่แย่คือจำนวนผู้เล่นต่อเดือนยังคงลดลงต่อเนื่องไปอยู่ที่ 292 ล้านคน ส่วนต่อวันลดเหลือ 52 ล้านคน
พร้อมกับการประกาศผลประกอบการ Zynga ยังประกาศปิดตัวเกมลงอีกสามเกมรวดได้แก่ The Ville, Dream Zoo และ Empire & Allies รวมถึงอีกสองเกมที่ยกเลิกแผนเปิดตัวจากที่จะปล่อยในปีนี้
แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สองของปี 2013 ตามปฏิทินการเงินของบริษัท มีรายได้รวม 43.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่ 39.2 พันล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.5 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีก่อนที่ 11.6 พันล้านดอลลาร์ ส่วนสาเหตุนั้นก็มาจากอัตรากำไรซึ่งลดลงมาเหลือเหลือ 37.5% ขณะที่ปีก่อนนั้นอยู่ที่ 47.4% สำหรับตลาดต่างประเทศนั้นเริ่มเป็นหัวใจหลักแอปเปิลมากขึ้น โดยยอดขาย 66% ในไตรมาสนี้มาจากตลาดนอกอเมริกา
ในส่วนของยอดขายรายผลิตภัณฑ์นั้น iPhone และ iPad ยังมียอดขายเพิ่มสูงขึ้น โดย iPhone ขายได้ 37.4 ล้านเครื่อง, iPad 19.5 ล้านเครื่อง ส่วน Mac ขายได้ 4 ล้านเครื่อง (ใกล้เคียงกับปีก่อน) และ iPod ขายได้ 5.6 ล้านเครื่อง (ลดลง)
เอเอ็มดีรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2013 มีรายได้รวม 1.09 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 31% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 146 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดทุนที่น้อยลง
Rory Read ประธานและซีอีโอเอเอ็มดีกล่าวว่าผลการดำเนินงานไตรมาสนี้สะท้อนถึงผลของการปรับโครงสร้าง และเลือกโฟกัสเป็นรายผลิตภัณฑ์ โดยเน้นไปที่สินค้าตลาดใหม่ ซึ่งจะค่อยๆ สะท้อนภาพที่ดีขึ้นตลอดปี 2013 นี้
ที่มา: เอเอ็มดี
วันนี้บริษัทใหญ่รายงานผลประกอบการกันเยอะครับ ในส่วนของกูเกิลก็รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2013 เช่นกัน มีรายได้รวม 13.97 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิ 3.35 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 15%
สำหรับรายได้ตามส่วนธุรกิจนั้น ตัวรายได้โฆษณาจากเว็บของกูเกิลเองยังคงเป็นรายได้หลัก 67% ของรายได้รวม มีการเติบโต 18%, Adsense ที่เป็นรายได้ 25% ของรายได้รวมเติบโต 12%, รายได้ Paid click เพิ่มขึ้น 20%, ราคาต่อคลิกลดลง 4%
ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามของปี 2013 (ตามปีการเงินบริษัท) มีรายได้รวม 20.49 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.06 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18.5%
ซีอีโอ Steve Ballmer กล่าวว่าการเดิมพันของบริษัทให้ผลออกมาดี โดยเฉพาะการให้บริการบนกลุ่มเมฆทั้ง Office 365, Windows Azure, Xbox LIVE และ Skype ที่มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การเดิมพันของส่วนธุรกิจ Windows นั้นก็ให้ผลดีต่อไมโครซอฟท์ในระยะยาวเช่นกัน
ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2013 มีรายได้ลดลง 5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน อยู่ที่ 23.41 พันล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิลดลง 1% อยู่ที่ 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบแปดปีที่ตัวเลขที่ไอบีเอ็มรายงานนั้นต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดกันไว้
Ginni Rometty ประธานและซีอีโอไอบีเอ็มกล่าวว่าแม้บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น มีกำไรสุทธิต่อหุ้นเพิ่มขึ้น และมีอัตรากำไรเพิ่มขึ้น แต่บริษัทไม่ได้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ทั้งหมดของไตรมาสที่ผ่านมา หลายโครงการไม่สามารถปิดได้ตามกำหนดและจะรับรู้รายได้ในไตรมาสถัดไปแทน
Rometty ยังกล่าวว่าบริการ big data เป็นเป้าหมายใหญ่ที่สุดของบริษัทที่ต้องบรรลุให้ได้ในปี 2015
โนเกียรายงานผลประกอบการไตรมาสที่หนึ่งของปี 2013 มีรายได้รวม 5.8 พันล้านยูโร ลดลง 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน มีกำไรจากการดำเนินงาน 181 ล้านยูโร แต่กลับมาขาดทุนสุทธิอีก 150 ล้านยูโร หลังจากที่ไตรมาสก่อนหน้าพลิกกลับมามีกำไร
ตัวเลขที่พอจะสะท้อนสถานการณ์ที่ดีของโนเกียก็คือยอดขายสินค้ากลุ่ม Lumia ที่ขายได้เพิ่มขึ้นถึง 27% จากไตรมาสก่อนหน้ามาเป็น 5.6 ล้านเครื่อง แต่ในภาพรวมนั้นยอดขายโทรศัพท์มือถือรวมลดลง 30% อยู่ที่ 55.8 ล้านเครื่อง
ยาฮูรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2013 มีรายได้รวม 1.14 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 390 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 36%
Marissa Mayer ซีอีโอยาฮูกล่าวว่าตนรู้สึกพอใจกับผลงานยาฮูในไตรมาสที่ผ่านมา ธุรกิจเริ่มทรงตัวขึ้น ทีมงานแข็งแกร่งขึ้น และสามารถดำเนินงานตามเป้าหมายสำเร็จในเวลาที่รวดเร็วขึ้น ซึ่งช่วยให้บริษัทยั่งยืนในระยะยาว
ที่มา: ยาฮู
อินเทลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2013 มีรายได้รวม 12.6 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 17%
Paul Otellini ประธานและซีอีโอของอินเทลกล่าวว่า ท่ามกลางสภาพตลาดที่ทรงตัว อินเทลก็ยังมีผลงานที่ดีในช่วงไตรมาสแรก โดยเปิดตัวโปรเซสเซอร์ของพีซีรุ่นใหม่ออกมา ตลอดจนเตรียมส่งมอบชิปสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในไตรมาสปัจจุบันนี้
ที่มา: อินเทล
Hon Hai Precision Industry Co Ltd บริษัทแม่ของ Foxconn ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2013 ที่ 808.97 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน ลดลงจากไตรมาสที่สี่ของปีก่อนที่ทำได้ 988.34 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน
เหตุผลที่รายได้ของ Hon Hai ตกลงเป็นเพราะยอดขาย iPhone ลดลงจากไตรมาสก่อน (ที่ขายได้เยอะมาก) และโครงสร้างรายได้ของ Hon Hai เองก็พึ่งพิง iPhone ในสัดส่วนที่สูงมาก (ราว 60-70%) นอกจากนี้ยังมีประเด็นว่าอุตสาหกรรมพีซีในภาพรวมก็มียอดขายตกลงด้วย
ที่มา - Reuters
HTC รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1/2013 (มกราคม-มีนาคม) โดยทำกำไรได้ 85 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 82 ล้านบาทไทย) ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ทำกำไรได้ 1 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วที่มีกำไรสูงถึง 10.9 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน ถือเป็นการทำลายสถิติต่ำสุดของบริษัทตั้งแต่เริ่มรายงานผลประกอบการในปี ค.ศ. 2004
รายได้ของไตรมาสปัจจุบันอยู่ที่ 42.8 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน ลดลงจากไตรมาสก่อนที่มีรายได้ 60 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน
Rovio รายงานผลประกอบการประจำปี 2012 มีรายได้ 152.2 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นถึง 101% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 55.5 ล้านยูโร
ในปี 2012 ที่ผ่านมา Rovio เปิดตัวเกมใหม่ทั้งหมด 4 เกมคือ Angry Birds Space, Amazing Alex, Bad Piggies และ Angry Birds Star Wars
ที่น่าสนใจคือรายได้ถึง 45% ของ Rovio ตอนนี้มาจากธุรกิจการขายสินค้าผ่านคาแรกเตอร์ Angry Birds อีกด้วย
ที่มา: Rovio
BlackBerry รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปีการเงิน 2013 ตามปฏิทินบริษัท โดยกลับมามีกำไรแล้วในไตรมาสนี้ 94 ล้านดอลลาร์ จากที่ขาดทุนมาแล้วหลาย ต่อ หลายไตรมาส และมีรายได้รวม 2.7 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 36% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน สำหรับยอดขายรายผลิตภัณฑ์แบ่งเป็นสมาร์ทโฟน BlackBerry 6 ล้านเครื่อง โดยเป็น BlackBerry 10 ประมาณ 1 ล้านเครื่อง และ PlayBook ขายได้อีก 370,000 เครื่อง
Adobe ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2013 สิ้นสุดวันที่ 1 มีนาคมตามปีงบประมาณ ทำรายได้รวมอยู่ที่ 1,008 ล้านเหรียญ กำไรสุทธิ 65 ล้านเหรียญ (0.13 เหรียญต่อหุ้น) เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินเอาไว้เล็กน้อย
เทียบกับรายได้ปีก่อนหน้าแล้วแม้ว่าทั้งรายได้ และกำไรจะตกลง แต่ภาพรวมของ Adobe ยังคงไปได้สวยจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Creative Cloud ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสแรกมีผู้ใช้ Creative Cloud แบบฟรีทะลุสองล้านราย และแบบเสียเงินมากกว่าห้าแสนรายแล้ว ในขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Marketing Cloud ก็โตขึ้นจากปีก่อนถึง 20%
Groupon รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 มีรายได้รวม 638.3 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า แต่กลับมาขาดทุนอีกครั้ง 80 ล้านดอลลาร์ หลังจากช่วงไตรมาสระหว่างปีมีกำไรมาตลอด
ซีอีโอ Andrew Mason กล่าวว่าตัวเลขรายได้ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกไตรมาสถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าลูกค้ายังคงรักใน Groupon ซึ่งในปี 2013 นี้ Groupon จะลงทุนเพิ่มเติมในทุกโอกาสที่ลูกค้าให้ความสนใจ
HP รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2013 สิ้นสุดเดือนมกราคมตามปฏิทินการเงินบริษัท รายได้รวม 28.4 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิ 1.2 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 16% ตัวเลขที่ออกมาถือว่าดีกว่าไตรมาสที่แล้วที่ขาดทุนจากการบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ในดีล Autonomy
ซีอีโอ Meg Whitman กล่าวว่ากำไรที่บริษัททำได้นั้นสูงกว่าที่บริษัทเคยประเมินก่อนหน้านี้ ซึ่งมาจากการดำเนินได้ตามแผนงานรวมถึงแผนปรับโครงสร้างก็ส่งผลที่ดีขึ้นด้วย
เมื่อจำแนกรายได้ตามส่วนธุรกิจแล้ว ส่วนพีซีรายได้ลดลง 8% เครื่องพิมพ์ลดลง 5% กลุ่มสินค้าองค์กรลดลง 4% บริการองค์กรลดลง 7% ซอฟท์แวร์ลดลง 2%
เดลล์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2013 มีรายได้ 14.3 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 530 ล้านดอลลาร์ ลดลงถึง 31% โดยรายได้จากธุรกิจบริการและลูกค้าองค์กรเติบโต 6% ขณะที่กลุ่มสินค้าสำหรับลูกค้าทั่วไปลดลง 24%
โซนี่รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส งวดเดือนตุลาคม - ธันวาคม โดยบริษัทยังมีกำไรจากการดำเนินงาน 46.4 พันล้านเยน หรือ 496 ล้านดอลลาร์ ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้านี้ที่เริ่มกลับมามีกำไร และมีรายได้รวม 1.948 ล้านล้านเยน อย่างไรก็ตามเมื่อหักค่าใช้ทางการเงินแล้วโซนี่ก็ยังขาดทุนสุทธิอยู่ 10.8 พันล้านเยน แต่ก็เป็นตัวเลขขาดทุนสุทธิที่ลดลงมาเมื่อเทียบกับปีก่อน
โลกที่เข้าสู่ยุคโมบายเป็นแรงสำคัญผลักให้ ARM มีรายได้เพิ่มอย่างมากในปีนี้ รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สี่ และทั้งปี 2012 ระบุตัวเลขกำไรประจำไตรมาสไว้ 80 ล้านดอลลาร์ จากรายได้ 262.8 ล้านดอลลาร์ รายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว 21% ขณะที่กำไรเพิ่มขึ้น 16%
โดยรวมทั้งปี ARM มีกำไร 276.5 ล้านดอลลาร์จากรายได้ 913.1 ล้านดอลลาร์ รายได้เพิ่มขึ้น 16% ขณะที่กำไรเพิ่มขึ้น 20%
ARM ระบุว่าในไตรมาสเดียวมีการลงนามซื้อสิทธิ์การใช้ซีพียูเพิ่มเติม 36 ราย ในจำนวนนี้เป็นการซื้อ "สถาปัตยกรรม" ARMv8 จำนวนสองราย, ซื้อสิทธิ์การผลิตซีพียู ARMv8 จำนวนหกราย, และซื้อสิทธิการผลิต ARM Cortex-A15 จำนวนสามราย และในจำนวน 36 รายนี้ มี 6 รายที่เป็นลูกค้ารายใหม่