GoDaddy เว็บโฮสติ้งรายใหญ่ของโลก แจ้งข้อมูลต่อ ก.ล.ต. สหรัฐ (SEC) ว่าบริษัทโดนเจาะระบบให้บริการโฮสติ้ง WordPress เป็นระยะเวลาประมาณ 2 เดือน กระทบลูกค้าอย่างน้อย 1.2 ล้านราย

รายงานของ GoDaddy บอกว่าเหตุการณ์เจาะระบบเกิดขึ้นเมื่อ 6 กันยายน แต่บริษัทเพิ่งมาพบร่องรอยเมื่อ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ระบบที่ได้รับผลกระทบคือส่วน Managed WordPress ที่เป็นบริการรับฝากเว็บที่ใช้ WordPress โดยทีมงานของ GoDaddy ดูแลระบบหลังบ้านให้เสร็จสรรพ (ลักษณะเดียวกับ WordPress.com)

พนักงานเซ็งไปตามๆ กัน เมื่อ Copper Courier สำนักข่าวท้องถิ่นในแอริโซน่ารายงานว่า GoDaddy บริการรับจดโดเมนและโฮสติ้ง ส่งอีเมลถึงพนักงาน ระบุว่าจะได้รับเงินพิเศษช่วงวันหยุดอีก 650 ดอลลาร์ แต่อีเมลนั้นเป็น phishing เมื่อกดเข้าไปแล้วจะแสดงข้อความว่าเราสอบตกกับการทดสอบ phishing ต้องเอางานไปทำเพิ่ม

GoDaddy บริการรับจดโดเมนและโฮสติ้งชื่อดัง ประกาศรีแบรนด์ครั้งใหญ่ โดยเปลี่ยนโลโก้เพื่อเน้นคำว่า Go ให้มากขึ้น โดยทำอักษรสองตัวมาซ้อนกันให้เป็นรูปหัวใจ (มีคนเปรียบเทียบว่าคล้าย Ask Jeeves ที่เปลี่ยนเหลือแค่ Ask.com) รวมทั้งปรับหน้าเว็บใหม่ให้สอดคล้องกับการรีแบรนด์นี้

Cameron Scott หัวหน้าฝ่ายบริหารแบรนด์ของ GoDaddy อธิบายการเปลี่ยนแปลงว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมาบริษัทซื้อบริษัทเข้ามาหลายแห่ง ทำให้บริการของ GoDaddy ไม่ได้มีแค่จดโดเมนกับโฮสติ้ง แต่ครอบคลุมบริการออนไลน์ที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการครบถ้วน GoDaddy จึงวางตำแหน่งเป็นคนที่พร้อมคอยสนับสนุนให้ก้าวไปด้วยกัน

ที่มา: Quartz

Amazon Lightsail เป็นบริการของ AWS ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงบริการคลาวด์ได้ง่ายขึ้น เช่นการสร้างเว็บบน WordPress แต่ในการใช้งานจริงๆ การดูแลเว็บมีกระบวนการต้องดูแลมากกว่านั้น เช่นการจัดการสำรองข้อมูลเว็บ, อัพเดตซอฟต์แวร์และปลั๊กอินต่างๆ, ไปจนถึงการจัดการ SEO ตอนนี้ทาง AWS ก็ร่วมมือกับ GoDaddy มาให้บริการเสริมส่วนที่ AWS ไม่ได้ทำให้แล้ว

การร่วมมือครั้งนี้ลูกค้า AWS จะสามารถใช้ Lightsail สร้าง WordPress Bundle เพื่อสร้างเว็บและใช้บริการ GoDaddy Pro Sites ได้ด้วย โดยบริการ Pro Sites จะดูแลตั้งแต่การอัพเดตทั้งตัวเว็บ ธีม และปลั๊กอิน, การสร้างไฟล์สำรอง, มอนิเตอร์ประสิทธิภาพเว็บ, และการปรับปรุง SEO

Amazon Web Services (AWS) ประกาศว่า GoDaddy ผู้ให้บริการจดโดเมนและโฮสติ้งชื่อดัง เตรียมจะย้ายโครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่มาอยู่บน AWS ซึ่งประโยชน์ที่ GoDaddy ได้รับคือประสิทธิภาพในการดีพลอยที่เร็วขึ้น และสามารถพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ได้เร็วกว่าเดิม

ในข้อตกลงของสองบริษัทนี้ AWS จะเป็นพาร์ทเนอร์ในการขายผลิตภัณฑ์ของ GoDaddy ด้วย โดยบริการของ AWS ที่ GoDaddy ใช้เป็นหลักคือ Amazon EKS (Elastic Container Service for Kubernetes) และ Amazon EC2 แบบ P3

อย่างไรก็ตามบริการจัดการโดเมนที่ GoDaddy ดูแลอยู่กว่า 75 ล้านโดเมนนั้น ไม่ได้ย้ายมาอยู่บน AWS ด้วย ซึ่งผู้บริหาร GoDaddy บอกว่าบริการนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของ GoDaddy ที่ต้องดูแลเอง

หลังจากมีเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่มสนับสนุนคนผิวขาวแบบสุดโต่งกับฝ่ายต่อต้านการเหยียดผิวเกิดขึ้น บริษัทไอทีทั้งหลายแสดงท่าทีต่อต้านชัดเจนทั้งในระดับ CEO ที่ลาออกจากคณะที่ปรึกษาให้ทรัมป์

ล่าสุด Discord แพลตฟอร์มเพื่อติดต่อพูดคุยระหว่างเกมเมอร์แบบครบวงจร ได้ปิดแอคเคาท์ที่มีแนวโน้มเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ชาร์ล็อตต์วิลล์ โดยมีแถลงการณ์ออกมาว่าไม่สนับสนุนให้เกิดความรุนแรงและการสร้างความเกลียดชัง จึงได้ปิดเซิร์ฟเวอร์ account ของ alright.com

เมื่อประมาณต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ในกลุ่มสังคมออนใลน์ในกลุ่มของนักพัฒนาได้มีการแชร์โปรโมชั่นของ GoDaddy ผู้ให้บริการเว็บโฺฮสต์ติ้งรายใหญ่ของโลก โดยเมื่อเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ หน้าจอแสดงเป็นภาษาไทยเป็นเริ่มต้น

โดยในเว็บไซต์มีการลดราคาบริการต่างๆ ของทาง GoDaddy ไว้มากถึง 50 เปอร์เซนต์ ในระยะเวลาจำกัด แต่เงื่อนไขที่จะได้ลดตามที่แจ้งนั้น จะต้องสมัครบริการอย่างน้อย 3 ปี ถึงจะได้ราคาตามที่แจ้ง โดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ท้ายข่าว

งานนี้ถือเป็นสัญญาณที่รายใหญ่จะลงมาในตลาดเมืองไทยแล้ว รายย่อยอื่นๆ ก็คงต้องรับมือกันไว้ให้ทันครับ

ที่มา - GoDaddy Thailand Website

GoDaddy แจ้งว่าการอัพเกรดซอฟต์แวร์เพื่อตรวจสอบโดเมนเมื่อปีที่แล้วมีช่องโหว่ ทำให้กระบวนการออกใบรับรองไม่เป็นไปตามมาตรฐานของ CA/Browser Forum และทางบริษัทจะยกเลิกใบรับรอง 8,850 ใบ กระทบลูกค้ารวม 6,100 ราย

ช่องโหว่เป็นซอฟต์แวร์ยืนยันความเป็นเจ้าของโดเมนด้วยการวางไฟล์เปล่าตามชื่อที่กำหนดเอาไว้ในเว็บเซิร์ฟเวอร์ โดยระบบตรวจสอบนี้จะหาว่าเว็บเซิร์ฟเวอร์ตอบไฟล์กลับมาหรือไม่ แต่การอัพเดตซอฟต์แวร์กลับทำให้ระบบตรวจสอบไม่ตรวจ status code ที่เซิร์ฟเวอร์ตอบกลับมา ทำให้เมื่อเซิร์ฟเวอร์ไม่พบไฟล์แล้วตอบกลับมาเป็นรหัส 404 แต่ยังคงมีชื่อไฟล์ในเนื้อ HTTP ทาง GoDaddy ก็ยอมปล่อยใบรับรองให้กับเซิร์ฟเวอร์เหล่านั้น โดยทางบริษัทระบุว่ายังไม่พบการใช้ช่องโหว่นี้จงใจหลอกเพื่อเอาใบรับรองแต่อย่างใด

เช้าวันนี้ตั้งแต่เวลาประมาณ 10 นาฬิกา มีรายงานว่าเว็บไซต์จำนวนมากไม่สามารถเข้าใช้งานได้ตามปกติ โดยทั้งหมดเป็นเว็บไซต์ที่จดโดเมนกับ GoDaddy ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถเข้าใช้งานได้

GoDaddy ได้ตอบผ่านบัญชี Twitter @GoDaddyHelp ว่าปัญหานี้เกิดกับกลุ่มผู้ใช้งานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และกำลังเร่งแก้ปัญหาอยู่แต่ยังไม่สามารถระบุระยะเวลาได้

เว็บไซต์ของไทยหลายแห่งที่จดโดเมนกับ GoDaddy ก็ได้รับผลกระทบนี้เป็นวงกว้าง

อัพเดต: เมื่อเวลาประมาณ 11:10 น. มีรายงานว่าเว็บไซต์กลับมาเข้าใช้งานได้ตามปกติแล้ว

ที่มา: @GoDaddyHelp

GoDaddy เว็บโฮสติ้งรายใหญ่ของโลก เปิดตัวบริการ GoDaddy Cloud Servers เซิร์ฟเวอร์บนกลุ่มเมฆลักษณะเดียวกับ Amazon EC2

GoDaddy Cloud Servers มีฟีเจอร์เท่าที่คลาวด์สมัยใหม่พึงมี แต่ตัวเลือกจะจำกัด เพราะเน้นไปที่เซิร์ฟเวอร์สมรรถนะสูงหน่อย ทุกตัวใช้สตอเรจแบบ SSD ทั้งหมด, รันอยู่บน OpenStack และ KVM, มีระบบแบ็คอัพและ Snapshot, ระบบเครือข่ายแบบ Private, หมายเลขไอพีถาวร และมี API สำหรับควบคุมระบบ

GoDaddy คุยว่าระบบของตัวเองมีระยะเวลา provisioning เตรียมเครื่องให้พร้อมใช้งานไม่ถึง 54 วินาที, การันตีอัพไทม์ 99.99% ส่วนระบบปฏิบัติการที่รองรับได้แก่ Ubuntu 14.04, CentOS 6 & 7, Fedora 23, Debian 8, FreeBSD, CoreOS, Arch Linux นอกจากนี้ยังจับมือกับบริษัท Bitnami นำแอพพลิเคชันโอเพนซอร์สดังๆ อย่าง WordPress, Drupal, OpenERP, Magento มาให้พร้อมใช้งาน ติดตั้งเพียงคลิกเดียวก็ใช้งานได้เลย

โครงการใบรับรองดิจิตอลฟรี Let's Encrypt เพิ่งเปิดให้บริการต่อสาธารณะไม่กี่วัน กลุ่มอำนาจเก่าผู้เสียผลประโยชน์ อย่าง GoDaddy และ Namecheap ก็ออกมาเคลื่อนไหว

ฝั่ง Namecheap นั้นออกมาเขียนบล็อกโจมตี ระบุข้อเสียของใบรับรองดิจิตอลฟรี ระบุว่าใบรับรองฟรีนั้นเพียงแค่เพิ่มการเข้ารหัสท่านั้น และไม่ได้ตรวจสอบผู้รับใบรับรองก่อนที่จะมอบใบรับรอง (ซึ่งไม่จริง เพราะ Let's Encrypt นั้นตรวจสอบผู้ถือครองโดเมน)

ขณะที่ GoDaddy ก็ออกหน้าเปรียบเทียบใบรับรอง และระบุว่าการทำเว็บเพื่อการค้านั้นต้องใช้ใบรับรองแบบ Extended Validation เท่านั้น

GoDaddy ผู้ให้บริการจดโดเมนรายใหญ่ที่เพิ่งเข้าตลาดหุ้นไป ตอนนี้ประกาศบุกตลาดเว็บครบวงจรเต็มรูปแบบแล้ว จากที่ก่อนหน้านี้บริการโฮสติ้งไม่โดดเด่นมากนัก

บริการแรกคือ GoDaddy Pro ที่เคยเปิดให้บริการไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ตอนนี้เพิ่มความสามารถเพื่อให้นักออกแบบเว็บสามารถให้บริการลูกค้าได้โดยง่าย ลูกค้าจะเป็นคนถือทรัพย์สินโดยตรง เช่น ข้อมูลในโฮส, ชื่อโดเมน ฯลฯ แต่สามารถเปิดให้นักออกแบบเข้าไปจัดการข้อมูลบางส่วนเพื่อให้บริการลูกค้าได้โดยไม่ต้องยกบัญชีให้กัน และนักออกแบบก็สามารถเสนอซื้อสินค้าเป็น shopping cart ส่งให้ลูกค้าไปจ่ายเงินเองได้ด้วย

GoDaddy บริษัทรับจดโดเมนและโฮสติ้งรายใหญ่ เปิดขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเมื่อวานนี้ โดยใช้ชื่อย่อ GDDY และตั้งราคาเริ่มต้นที่ 20 ดอลลาร์ ราคาปิดตลาดวันแรกที่ 26.15 ดอลลาร์ (เพิ่ม 31%) สูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทคาดไว้

ด้วยราคาหุ้นปิดตัวนี้ทำให้มูลค่าบริษัทตามราคาหุ้น (market cap) ของ GoDaddy ขึ้นไปสูงเกือบ 4 พันล้านดอลลาร์

ช่วงหลัง GoDaddy เริ่มปรับภาพลักษณ์ของตัวเองว่าไม่ใช่แค่ขายโดเมน แต่ยังมีธุรกิจด้านเว็บไซต์ อีเมล และซอฟต์แวร์สำหรับภาคธุรกิจ นอกจากนี้บริษัทยังเลิกใช้วิธีการโฆษณาแบบเดิมๆ ที่ใช้สาวสวยเป็นพรีเซนเตอร์อีกด้วย

Vinny Troia ซีอีโอของบริษัท Night Lion Security สาธิตการขโมยบัญชีลูกค้า GoDaddy ด้วยกระบวนการวิศวกรรมสังคม (social engineering) โดยที่แฮกเกอร์ไม่สามารถเข้าถึงอีเมลของเหยื่อ หรือทราบรหัสอื่นๆ รู้เพียงข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อเล็กน้อย

Troia สาธิตการเข้าควบคุมบัญชีโดเมนของ Steve Ragan นักข่าวจาก CSO Online ด้วยการโทรหาฝ่ายซัพพอร์ต โกหกว่าเขาไม่สามารถเข้าถึงบัญชีบน GoDaddy และอีเมลของเขาเองได้

GoDaddy บริการรับจดโดเมนรายใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลกประกาศเข้าซื้อกิจการ Mad Mimi บริการอีเมลสำหรับนักการตลาด ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญรายหนึ่งของ MailChimp โดยการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้นับเป็นหนึ่งในก้าวที่สำคัญที่จะบุกตลาดธุรกิจระดับล่าง

ทั้งนี้ GoDaddy เองก็เคยมีผลิตภัณฑ์ประเภทนี้มาก่อนแล้ว ในชื่อ “Easy Email Marketing” โดยการเข้าซื้อกิจการ Mad Mimi จะเข้ามาเแทนที่บริการนี้ และจะใช้เทคโนโลยีของ Mad Mimi ในการให้บริการแทน โดย GoDaddy คาดว่าจะเปิดตัวบริการนี้ในรูปแบบใหม่ภายในปีหน้า ขณะที่ลูกค้าของ Mad Mimi เดิมก็ยังคงสามารถใช้งานบริการดังกล่าวได้เหมือนเดิม

ไมโครซอฟท์ขยายตลาดการให้บริการ Office 365 สำหรับธุรกิจขนาดเล็กด้วยการร่วมมือกับ GoDaddy ผู้รับบริการจดทะเบียนโดเมนรายใหญ่ ทำให้ลูกค้าสามารถใช้บริการทั้งอีเมลสำหรับโดเมนและบริการออฟฟิศ รวมถึงการรับซัพพอร์ตจาก GoDaddy

GoDaddy มีลูกค้า 12 ล้านราย แนวทางความร่วมมือนี้จะทำให้ไมโครซอฟท์สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีโดเมนอยู่แล้วหรือต้องการใช้โดเมนใหม่ เพื่อรับส่งอีเมลได้ง่ายขึ้น

ที่มา - Microsoft

GoDaddy บริษัทขายโดเมนรายใหญ่เข้าซื้อบริษัทค้นหาธุรกิจท้องถิ่น Locu ด้วยมูลค่าไม่เปิดเผย แต่ AllThingsD ระบุว่าอาจจะมีมูลค่าถึง 70 ล้านดอลลาร์

Locu เปิดให้ธุรกิจอัพเดตข้อมูลของตัวเองบนบริการต่างๆ ทั้ง Yelp, Foursquare, TripAdvisor, YP.com, และ Facebook ได้พร้อมกันโดยเสียค่าบริการ 25 ดอลลาร์ต่อเดือน ตอนนี้ Locu มีรายการธุรกิจมากกว่าหนึ่งล้านราย และมีธุรกิจที่ใช้ Locu เป็นเพจหลักถึง 30,000 ราย

ทุกวันนี้ Locu ทำงานร่วมกับ GoDaddy อยู่แล้วด้วยการให้บริการสร้างเว็บไซต์ผ่านบริการ Website Builder ของ GoDaddy

ที่มา - AllThingsD

บริษัทรับจดโดเมนเนมรายใหญ่ Go Daddy ออกมาประกาศยอดขายเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ของบริษัท หลังออกโฆษณาทีวี 2 ชิ้นในการแข่งขันซูเปอร์โบล์วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

โฆษณาชิ้นแรกคือ YourBigIdea.CO เป็นการโฆษณาโดเมนเนม .co ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท โฆษณาชิ้นนี้นำคู่สมรสสองคู่มาเปรียบเทียบกัน โดยคู่หนึ่งจดโดเมน .co แล้วประสบความสำเร็จในชีวิต ส่วนอีกคู่หนึ่งยังมีชีวิตที่น่าเบื่ออยู่

Go Daddy ผู้ให้บริการจดโดเมนและเว็บโฮสติ้งชื่อดัง ออกแถลงการณ์ถึงปัญหาการล่มของระบบที่เกิดขึ้นเมื่อวานว่าไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายนอก ไม่ใช่ทั้งถูกแฮกหรือถูกโจมตีโดยวิธี DDoS แต่เกิดจากเหตุการณ์ภายในหลายเหตุการณ์ที่ทำให้ตารางข้อมูลของเราเตอร์ (router data table) เสียหาย ส่งผลให้เว็บไซต์จำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงได้

ภายในแถลงการณ์ยังเสริมอีกว่าข้อมูลทั้งหมดยังปลอดภัยและไม่มีระบบส่วนใดถูกเจาะ รวมทั้งบอกเพิ่มว่าได้ดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

เมื่อวานนี้เมื่อเวลาประมาณ 1:25 นาฬิกา (เวลาประเทศไทย) ผู้ให้บริการจดโดเมนและเว็บโฮสติ้งรายใหญ่ของโลกอย่าง GoDaddy ก็เกิดอาการล่มลงไปโดยไม่ทราบสาเหตุ จนถึงเวลาประมาณ 5:45 นาฬิกา เว็บต่างๆ ที่ใช้บริการของ GoDaddy จึงเริ่มกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง

การล่มของ GoDaddy ส่งผลให้เว็บหลักของ GoDaddy เอง และเว็บที่ใช้บริการโฮสต์, จดโดเมน, หรือใช้ DNS ของ GoDaddy กว่าล้านเว็บไม่สามารถเข้าถึงได้

ในขณะเดียวกัน ในทวิตเตอร์ @AnonymousOwn3r หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของกลุ่ม Anonymous ก็ออกมายอมรับว่าการโจมตี GoDaddy ในครั้งนี้เป็นฝีมือของเขาเอง

ทั้งนี้ ทาง GoDaddy กล่าวว่าไม่มีข้อมูลสำคัญใดๆ ของลูกค้าหลุดรอดออกไป

ควันหลงจากกรณีร่างกฎหมาย SOPA ที่เว็บรับจดโดเมนรายใหญ่ Go Daddy โดนประท้วงจนลูกค้าไหลออก และสุดท้าย

หลังจากที่ผู้จดทะเบียนโดนเมนหลายรายเริ่มมีปฏิกิริยาไม่พอใจต่อ GoDaddy ทาง EFF เองก็ได้ออกแคมเปญ #MoveYourDomain โดยผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมนรายอื่นๆ ได้ลดแลกแจกแถมและหักรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้ EFF งานนี้ Namecheap หนึ่งในผู้ให้บริการรายใหญ่ได้ออกคูปอง #SOPAsucks ประกาศจำนวนโดเมนที่ย้ายเข้าไปกว่า 25,000 ชื่อ พร้อมกับยอดบริจาคจำนวน $64,180 ($2 ต่อโดเมน)

จากที่ Go Daddy ถูกกดดันจนต้องหยุดสนับสนุน SOPA แต่ลูกค้าก็ยังย้ายโดเมนออกอย่างต่อเนื่อง

ต่อจากข่าว Go Daddy ถูกกดดันจนต้องหยุดสนับสนุน SOPA โดยมีรายงานว่าลูกค้าของ Go Daddy ย้ายโดเมนไปยังผู้ให้บริการอื่นๆ มากกว่า 15,000 โดเมน

ล่าสุดมีรายงานว่าวันถัดมา Go Daddy เสียลูกค้าอีกกว่า 21,000 โดเมน รวมกันแล้วสองวันเสียลูกค้าไป 37,000 โดเมนแล้ว

กฏหมาย SOPA หรือ Stop Online Piracy Act นั้นเป็นกฏหมายที่สร้างข้อถกเถียงและแรงต่อต้านสูงมาก แต่ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาหลายกลุ่ม ตั้งแต่เจ้าเก่าอย่างสมาคมภาพยนตร์สหรัฐฯ หรือ MPAA จนถึงเจ้าของแบรนด์สินค้าอย่างบริษัท L'Oreal แต่บริษัทที่อยู่ฝั่งอินเทอร์เน็ตอย่าง Go Daddy นั้นก็กลับไปลงชื่อร่วมสนับสนุนด้วย