คดีที่กูเกิลเก็บข้อมูล Wi-Fi ด้วยรถ Google Street View ทำให้มีข้อมูลจำนวนมากอยู่ในฐานข้อมูล Wi-Fi ของกูเกิล หลังจากปิดคดีไปแล้วในบางประเทศ (ซึ่งมักจบด้วยการปรับ) ตอนนี้ในสหรัฐฯ ก็เป็นอีกประเทศที่จะหยุดคดีนี้แล้ว โดย FCC (กสทช. ของสหรัฐฯ) สั่งปรับกูเกิลเป็นเงิน 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่น่าสนใจคือค่าปรับนี้ไม่ใช่ค่าปรับจากการเก็บข้อมูลโดยตรง แต่เป็นค่าปรับของการตอบสนองต่อคำสั่งเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ของ FCC ได้ไม่ครบถ้วนในเวลาที่กำหนด ส่วนของดักฟังนั้นคาดว่าจะไม่เป็นคดีเพราะข้อมูลที่กูเกิลดึงไปนั้นไม่ได้เข้ารหัสไว้

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบ่อยๆ น่าจะรู้จัก reCAPTCHA กันดีอยู่แล้ว หลังจากที่ถูกกูเกิลซื้อไปเมื่อปี 2009 เพื่อนำเทคโนโลยี OCR นี้ไปใช้กับบริการของตัวเอง

เมื่อไม่กี่วันมานี้มีผู้ใช้ใน blackhatworld ระบุว่าเจอกับ reCAPTCHA แบบใหม่ที่เป็นรูปภาพจาก Google Street View ได้แก่ชื่อถนน หมายเลขถนน เป็นต้น

ปีที่แล้วที่กูเกิลเปิดตัว Google Street View ไปนั้นก็ใช้รถนับสิบคัน แต่ตอนนี้หลังจากภาพรอบกรุงเทพฯ เริ่มครบพร้อมๆ กับเชียงใหม่และภูเก็ต ก็คงได้ช่วงเวลาของการเก็บรายละเอียดตามซอกซอยต่างๆ โดยในวันพรุ่งนี้กูเกิลกำลังมีงานเปิดตัวที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยไม่แจ้งว่าเป็นการเปิดตัวอะไร แต่วันนี้ก็มีภาพออกมาใน Google+ ของคุณพรทิพย์ กองชุน กำลังขี่จักรยานสามล้อติดกล้องสำหรับถ่ายภาพ Street View อยู่

กูเกิลพยายามที่จะถ่ายภาพตามซอกมุมต่างๆ ให้ละเอียดที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หลายเมืองก่อนหน้านี้เคยมีการส่งช่างภาพออกไปถ่ายภาพภายในร้านค้าทีละร้าน หรือการติดกล้องไปกับคนให้เดินไปตามสวนสาธารณะที่รถเข้าไม่ได้

มีข่าวไปตั้งแต่กลางปีที่แล้วว่ากูเกิลกำลังทำ Google Street View ในประเทศไทยอยู่ และเริ่มดำเนินการถ่ายภาพด้วยรถยนตร์รุ่น Subaru Impreza จำนวน 15 คัน (แต่ผมวาสนาไม่พอจะเห็นซักคันเลย)

Google Street View พยายามนำเสนอมุมมองใหม่ๆ มากมาย เช่น การเดินรอบสโตนเฮนจ์, การเล่นสกีในวิสต์เลอร์ และการดำน้ำสำรวจโลกใต้ทะเลใน Great Barrier Reef และตอนนี้คุณจะสามารถนั่งเรือชมความงามของแม่น้ำอเมซอน และแม่น้ำริโอเนโกรในประเทศบราซิล บริเวณซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ทีม Street View และ Google Earth จากประเทศบราซิลและอเมริกากำลังใช้ Street View trike ติดกับหลังคาเรือ ปั่นเข้าไปในหมู่บ้าน หรือเข็นเข้าไปในป่า เพื่อบันทึกภาพของลุ่มน้ำและชุมชนโดยรอบลุ่มน้ำอเมซอน

บริการ Google Street View นั้นขยายพื้นที่ออกไปเรื่อยๆ ในเมืองใหญ่หลายเมือง จากการอาศัยคนเดินไปตามซอกซอยหรือจักรยานไปตามถนนขนาดเล็ก เพื่อเก็บภาพให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ จากเดิมที่ใช้เพียงรถสำรวจ แต่การสำรวจที่ออสเตรเลียครั้งใหม่จะไปไกลกว่าเดิมเมื่อกูเกิลร่วมมือกับมหาวิทยาลัยควีนแลนด์เพื่อสำรวจโลกใต้ทะเลใน Great Barrier Reef ซึ่งเป็นแนวปะการังขนาดใหญ่ในทวีปออสเตรเลีย

การสำรวจครั้งนี้นักประดาน้ำจะบังคับกล้องรอบทิศทางลงไปสำรวจใต้ทะเลแบบเดียวกันที่กูเกิลใช้ในรถ แต่กูเกิลต้องเจอปัญหาใหม่ๆ เช่น แสงที่น้อยกว่าบนบก, มุมภาพที่เปลี่ยนไปจากการหักเหแสงในน้ำ

ที่งาน CES 2012 ค่ายรถหรูอย่าง Mercedes-Benz นำระบบสั่งงานภายในรถยนต์ (telematics) ตัวใหม่ที่เรียกว่า mbrace2 มาโชว์

ความสามารถของ mbrace2 เหนือระบบสั่งงานในรถทั่วๆ ไปคือมันสามารถใช้งาน "แอพ" ได้ (ซึ่งก็เป็นทิศทางที่ค่ายรถอื่นๆ กำลังมุ่งไปเช่นกัน) โดยระบบที่ Mercedes-Benz นำมาโชว์มีแอพ 3 อย่าง

เหตุการณ์สึนามิในปีนี้เราคงเห็นภาพช่วงเวลาต่างๆ จำนวนมาก ล่าสุดกูเกิลก็เปิดเว็บ Memories for the Futures ที่เป็นเว็บ Street View รุ่นพิเศษสำหรับการเก็บภาพช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติ

รุ่นพิเศษนี้จะระบุเดือนและปีที่ภาพถูกถ่ายขึ้นมา โดยทีมงานของกูเกิลหวังว่าภาพเหล่านี้อาจจะนำไปใช้ในการวิจัยผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามินี้ ทั้งสถาปนิก, นักวางผังเมือง, นักประวัติศาสตร์หรือกระทั่งนักท่องเที่ยว

ถ้าบ้านเรามีเรือทำ Street View ทำบันทึกน้ำท่วมคงดีไม่น้อย

ที่มา - Google Blog

Google Street View ถือเป็นบริการของกูเกิลที่มีปัญหามากที่สุดตัวหนึ่ง นอกจากประเด็นเรื่องการถ่ายภาพที่เจ้าของสถานที่ไม่ต้องการให้ถ่ายแล้ว (ข่าวเก่า) ยังมีประเด็นเรื่องรถถ่ายภาพของกูเกิลสแกน Wi-Fi access point ในบร

ผู้อ่าน Blognone คงคุ้นเคยกับบริการ Google Street View ซึ่งแสดงภาพถ่ายของถนนหนทาง หมุนให้ดูได้ราวกับเดินอยู่บนถนนจริงๆ

วันนี้ทางกูเกิลจัดงานแถลงข่าวเปิดตัว Google Street View ในเมืองไทยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เริ่มโครงการเก็บภาพตามถนนต่างๆ โดยคาดว่าจะใช้เวลา 2-3 ปีเพื่อให้ครอบคลุมทั้งประเทศ

ผู้อ่าน Blognone คงรู้กันดีอยู่แล้วว่า Google Street View คืออะไร ข่าวนี้จึงขอนำภาพรถที่ใช้เก็บภาพมาให้ เผื่อใครอยากขับรถตาม

ที่มา - MXPhone

Adecco Thailand ได้เปิดรับสมัครพนักงานตำแหน่ง "Data Collection" โดยบอกชัดเจนว่าเพื่อร่วมงานกับกูเกิล (โปรเจกต์ 3 เดือน) โดยเมื่อดูในหน้าเว็บของ Adecco แล้วมีรายละเอียดของตำแหน่งงานที่บ่งบอกถึงการเก็บข้อมูล Street View ในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การขับรถเพื่อเก็บข้อมูลตลอดทั้งวัน, หาเส้นทางขับรถที่ดีครอบคลุมที่สุด, รับผิดชอบคุณภาพของรูปที่ได้ และสามารถปีนขึ้นไปบนรถได้ในระหว่างทำงาน

Google Street View เป็นบริการตัวหนึ่งของกูเกิลที่มีข้อขัดแย้งกับหน่วยงานในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะที่เยอรมนี และแม้ว่าศาลเยอรมนีจะตัดสินเข้าข้างกูเกิลว่าการถ่ายภาพ Street View ไม่ผิดกฎหมาย แต่ล่าสุดกูเกิลก็ประกาศว่าจะหยุดถ่ายภาพเพิ่มเติมสำหรับ Street View ในเยอรมนีแล้ว

โฆษกของกูเกิลให้เหตุผลสั้นๆ ว่าเป้าหมายของบริษัทในเยอรมนีเปลี่ยนไปแล้ว โดยจะเน้นการใช้รถถ่ายภาพมาเก็บข้อมูลชื่อถนนและป้ายต่างๆ เพื่อยืนยันข้อมูลใน Google Maps แทนการถ่ายภาพสำหรับ Street View

Street View จะยังให้บริการต่อไปในเยอรมนี แต่จะไม่มีภาพถ่ายเพิ่มจากเดิมแล้ว

ฝ่ายคู่แข่งอย่างไมโครซอฟท์เพิ่งประกาศทำ Streetside ในเยอรมนีเช่นกัน และก็โดนทางการเยอรมนีคัดค้านทันที

หน่วยงานดูแลความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลฝรั่งเศส (Commission Nationale de l'Informatique et des Libertés - CNIL) ได้สั่งปรับกูเกิลเป็นเงิน 100,000 ยูโรจากการที่กูเกิลเก็บข้อมูลส่วนตัวจาก Wi-Fi ที่ไม่ได้เข้ารหัส ขณะที่เก็บภาพเพื่อใช้ในโครงการ Google Street View

กูเกิลต้องการเก็บข้อมูล Access Point เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการหาตำแหน่งผ่าน Wi-Fi ซึ่งปรกติแล้วการเก็บข้อมูล MAC address เพียงอย่างเดียวก็น่าจะเพียงพอ แต่ซอฟต์แวร์ของกูเกิลกลับเก็บข้อมูลการสื่อสารทั้งหมดลงไปด้วย ทำให้มีข้อมูลส่วนบุคคลเช่นรหัสผ่าน เนื้อหาในอีเมล และข้อมูลอื่นๆ หลุดเข้าไปด้วยจำนวนมาก

Google Earth ออกรุ่นใหม่ เพิ่มฟีเจอร์อีก 3 อย่างคือ

• Integrated Street View - สามารถใช้งาน Street View ได้ตรงจากตัวแผนที่เลย (ลากตัว pegman ไปเดินได้เหมือน Google Maps)
• เพิ่มโมเดล 3 มิติของต้นไม้ลงในแผนที่โหมด 3 มิติ โมเดลของต้นไม้แยกตามพันธุ์ด้วย โดยกูเกิลทำงานร่วมกับองค์กรด้านป่าไม้ต่างๆ เพื่อให้รายละเอียดที่ถูกต้อง
• รวมฟีเจอร์ภาพถ่ายดาวเทียมในอดีตเข้ามาใน UI ของโปรแกรม ถ้าดูภาพจุดที่ย้อนอดีตได้ จะแสดงแถบเวลาขึ้นมาให้เห็นเลย

ที่มา - Google Lat Long

Eric Schmidt ซีอีโอของกูเกิลให้สัมภาษณ์กับ CNN เกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัวกับโปรแกรม Google Street View ว่า กูเกิลจะขับรถไปบันทึกภาพแค่รอบเดียวเท่านั้น ดังนั้นหากใครต้องการจะปกปิดภาพบ้านของตนเอง คุณก็ย้ายบ้านหนีซะก็สิ้นเรื่อง (บ้านหลังนั้นก็จะไม่ใช่ของคุณอีกต่อไป)

ฟังเท่านี้อาจจะดูเป็นแง่ลบกับกูเกิลไปซักนิด เท่าที่ผมฟังจากคลิปที่สัมภาษณ์กับ CNN ได้ความว่า สิ่งที่กูเกิลเห็นว่าเป็นการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวเกินไป คือการกระทำที่ออกไปในลักษณะของการ 'เฝ้ามอง' เช่นเห็นภาพถ่ายทอดสด ๆ จากดาวเทียม เป็นต้น ประเด็นที่ Schmidt กล่าวในครั้งนี้ก็แค่แก้ตัวว่า Street View ไปเก็บภาพแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และไม่ได้เข้าข่ายเฝ้ามองดังกล่าว

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นอกจากรถเก็บข้อมูลทำบริการ Street View ของกูเกิลจะเผลอดักจับข้อมูลผู้ใช้ระหว่างเก็บข้อมูลเครือข่าย Wi-Fi แล้ว กูเกิลยังยอมรับว่าเผลอดักจับอีเมล URL เว็บไซต์ และกระทั่งรหัสผ่านอีกด้วย

รายงานก่อนหน้านี้ไม่ได้ให้ความสนใจในประเด็นนี้ และบางประเทศอย่างสหราชอาณาจักรก็ยอมให้กูเกิลลบข้อมูลเหล่านั้นทิ้งไปโดยที่ไม่ได้ดำเนินการทางกฎหมายแต่อย่างไร แต่กระนั้นกรรมมาธิการที่ดูแลด้านสิทธิส่วนบุคคลของแคนาดายังคงสืบสวนหาข้อเท็จจริงในฐานะที่กูเกิลได้ละเมิดกฎหมายว่าด้วยสิทธิส่วนบุคคลต่อไป

กูเกิลเพิ่งเปิดให้บริการ Google Street View ในบราซิล พร้อมกับทวีปแอนตาร์กติกาตามที่เป็นข่าว

แต่ก็มีคนไปเจอภาพศพอยู่บนถนนในกรุงริโอเดอจาเนโรถึงสองภาพ (ภาพดูได้จาก Gizmodo Brazil) ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก

กูเกิลได้นำภาพทั้งสองออกจาก Street View แล้ว (ตอนนี้ถ้าคลิกเข้าไปดูจะเห็นหน้าจอสีดำแทน) และบอกว่าถ้าพบรูปภาพไม่เหมาะสม สามารถแจ้งไปยังกูเกิลได้เสมอ

ที่มา - Search Engine Land

หลังจากแข่งเรื่องแผนที่กันมาได้หลายปี ตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาของการแข่งภาพถ่ายระดับสายตากัน Google Street View นั้นออกตัวก่อนและยังแรงอยู่ เมื่อการอัพเดตครั้งล่าสุดนั้นรวมเอาบางจุดของทวีปแอนตาร์กติกาเข้ามาด้วย ทำให้ครบเจ็ดทวีปของโลกอย่างเป็นทางการ

ทวีปแอนตาร์กติกานั้นไม่มีถนน ดังนั้นในแง่หนึ่งแล้วก็ออกจะผิดหลักการไปซักหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นภาพสวยๆ มาให้เราดูกันเล่นๆ (ดูได้ที่นี่)

บ้านเราจะมีใครทำมาเล่นบ้างไหม?

Google Street View อาจถือเป็นบริการที่มีปัญหามากๆ ตัวหนึ่งของกูเกิล ประเด็นสำคัญคือรถยนต์ที่ใช้ถ่ายภาพถนนก่อเรื่องไว้เยอะ เช่น เข้าไปสถานที่หวงห้าม, ถ่ายภาพที่คนไม่ต้องการให้ถ่าย และ เก็บข้อมูลจากเครือข่าย Wi-Fi ตามบ้าน

กรณีหลังสุดเกิดซ้ำอีกครั้งที่เกาหลีใต้ หลังจากกูเกิลส่งรถออกถ่ายภาพเมื่อปีที่แล้ว ตำรวจได้รับคำร้องเรียนว่ารถของกูเกิลแอบดักจับข้อมูลจาก Wi-Fi ตามบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย จึงเข้าไปค้นข้อมูลในสำนักงานของกูเกิล เพื่อสืบสวนว่าผิดจริงตามข้อกล่าวหาหรือไม่

หากให้นึกถึงบริการที่ผู้ใช้สามารถมองเห็นมุมมองถนนและบริเวณโดยรอบได้ 360 องศานั้น คงไม่มีใครไม่นึกถึง Google Street View แต่หากจะต้องให้หาที่ตั้งอาคารสถานที่บนนั้นก็คงทำให้ผู้ใช้สับสนและเสียเวลาไม่น้อยทีเดียว

ไมโครซอฟท์ รีเสิร์ชได้พัฒนางานวิจัย ที่มีชื่อเรียกว่า "Street Slide" ขึ้นมา มีฟีเจอร์ดังนี้

กูเกิลออกมายอมรับผ่าน Google Blog ว่า Street View Car (หน้าตาดังรูปท้ายข่าว) เผลอดักจับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้นอกเหนือจากข้อมูลพื้นฐานของ Wi-Fi อย่าง SSID และ MAC ที่ต้องการ (อาทิ ข้อมูลจากเครือข่าย Wi-Fi ที่ไม่มีรหัสผ่านป้องกัน) ตั้งแต่ 4 ปีก่อน หรือตั้งแต่พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา

บริษัทกูเกิลอาจต้องขึ้นศาลที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จากข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัวในบริการ Google Street View

นาย Hanspeter Thuer กรรมาธิการด้านการปกป้องข้อมูล ให้ความเห็นว่า การปิดบังใบหน้าและทะเบียนรถยังทำได้ไม่เพียงพอ นอกจากนี้ เขายังกังวลเป็นพิเศษกับสถานที่ที่อาจมีความละเอียดอ่อน เช่น โรงพยาบาลและเรือนจำ

นอกจากนี้ ความสูงของตัวกล้องยังเป็นปัญหา เพราะกล้องนั้นมองข้ามรั้วและกำแพงต่างๆ ทำให้สามารถมองจาก Street View ได้มากกว่าที่คนทั่วไปเห็นจากการเดินผ่านไปมา