บริษัทรถยนต์เกาหลี Hyundai Motor Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์ Hyundai และ Kia ประกาศเข้าลงทุนใน Aurora สตาร์ตอัพด้านรถยนต์ไร้คนขับของสหรัฐอเมริกา
Aurora เป็นสตาร์ตอัพด้านรถยนต์ไร้คนขับที่มาแรง แม้เพิ่งก่อตั้งในปี 2017 แต่ทีมงานหลักคือ Chris Urmson อดีตหัวหน้าทีมรถไร้คนขับของกูเกิล และ Sterling Anderson อดีตหัวหน้าทีม Autopilot ของ Tesla
การระดมทุนของ Aurora รอบนี้เป็นรอบ Series B มูลค่า 600 ล้านดอลลาร์ โดยมีกองทุน VC มาร่วมลงทุนด้วยหลายราย ก่อนหน้านี้ Aurora เพิ่งประกาศซื้อบริษัท Blackmore ที่พัฒนาเทคโนโลยี lidar มาเสริมทีม และมีความร่วมมือกับค่ายรถ Fiat Chrysler ด้วย
เมื่อปลายปีที่ผ่านมา Hyundai ได้ประกาศราคาของรถยนต์ SUV ไฟฟ้าล้วน Hyundai KONA electric ที่สหรัฐอเมริกาด้วยราคาเริ่มต้น 36,450 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.15 ล้านบาท (ยังไม่รวมส่วนลดภาษีจากรัฐ) ล่าสุด Hyundai ประเทศไทยได้ประกาศราคารถรุ่นนี้อย่างเป็นทางการแล้ว โดยเริ่มที่ 1,849,000 บาท
Hyundai KONA electric ที่นำมาทำตลาดในประเทศไทยมีด้วยกัน 2 รุ่นย่อย คือรุ่น SEL และ SE โดยมีรายละเอียดดังนี้
Hyundai ค่ายรถยนต์เกาหลีประกาศเซ็น MOU กับ Yandex ผู้ให้บริการด้านเสิร์ชและอินเทอร์เน็ต (อารมณ์กูเกิล) ของรัสเซีย ในความร่วมมือพัฒนาโซลูชันสำหรับรถยนต์ไร้คนขับระดับ 4 และ 5 ร่วมกัน
เบื้องต้นคือจะนำโซลูชันไร้คนขับมาประกอบเข้าไปในรถของ Hyundai (ไม่ก็ Kia ในเครือ) ขณะที่ในอนาคตจะพัฒนาตัวรถและระบบขึ้นมาใหม่ทั้งหมด โดยในบันทึกความเข้าใจมีระบุด้วยว่าอาจมีการเพิ่มโซลูชันของ Yandex อย่าง speech recognition, ระบบนำทาง, ระบบแผนที่ เพิ่มเข้าไปด้วย
Yandex พัฒนาโซลูชันรถไร้คนขับมาตั้งแต่ราวกลางปี 2017 แล้วและทดสอบวิ่งทั้งในกรุงมอสโก, เวกัสและเทลอาวีฟในอิสราเอล
Hyundai Motors และ Kia Motors สองค่ายรถยนต์จากเกาหลีประกาศร่วมกันพัฒนาโซลูชันกุญแจรถยนต์แบบดิจิทัลบนสมาร์ทโฟน ช่วยให้สามารถเปิดปิดประตูรถ รวมถึงสตาร์ทรถได้ผ่านสมาร์ทโฟน รองรับผู้ใช้พร้อมกันสูงสุด 4 คน โดยเจ้าของรถสามารถตั้งสิทธิต่างๆ ไปจนถึงตั้งเวลาในการให้ใช้รถกับกุญแจดิจิทัลที่คนอื่นถืออยู่ได้
นอกจากตัวแอปบนสมาร์ทโฟนแล้ว ยังมีกุญแจรถที่อยู่ในรูปของบัตรพลาสติกขนาดพอๆ กับบัตรเครดิตอีกด้วย (เหมือนของ Tesla) โซลูชันนี้จะถูกนำไปใช้งานในรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะออกมาในเร็วๆ นี้ โดยจุดประสงค์หลักของการทำกุญแจรถยนต์ดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์การใช้งานแบบ Car-Sharing ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
ที่มา - Korea Herald
ปกติระบบ HUD ในรถยนต์เป็นการฉายข้อมูลจำพวกความเร็วรถยนต์ขึ้นไปบนกระจกหน้ารถ ส่วนระบบนำทางยังต้องดูจากหน้าจอตรงกลาง หรือหน้าจอตรงแผงหน้าปัด ล่าสุดฮุนไดก้าวไปอีกขั้นด้วยการนำเอาเทคโนโลยี AR เข้ามาใช้ร่วมด้วย เพื่อแสดงการนำทางบน HUD เลย
เทคโนโลยีนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างฮุนไดกับสตาร์ทอัพ WayRay จากสวิตเซอร์แลนด์ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบความเป็นไปได้ (Proof of concept) ของเทคโนโลยีดังกล่าว และได้ผ่านการทดสอบบนถนนจริงในเกาหลีใต้แล้ว ซึ่งนอกจากข้อมูลการนำทางแล้วยังรวมเอาฟีเจอร์แจ้งเตือนรถออกจากเลน (lane departure warnings) หรือเตือนการชนด้านหน้า (forward collision warnings) เข้ามาโชว์บน HUD ด้วย
บริษัทรถยนต์ Hyundai ประกาศเข้าลงทุนใน Grab เป็นเงิน 250 ล้านดอลลาร์ หรือราว 8,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในการเป็นพันธมิตรด้านการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยความร่วมมือนี้เป็นของทั้งรถยนต์ Hyundai และ Kia ที่ Hyundai เป็นถือหุ้นใหญ่
เบื้องต้น Grab, Hyundai และ Kia จะเริ่มต้นโครงการ EV ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สิงคโปร์เป็นแห่งแรก ภายในปี 2019 โดยเป็นการพัฒนารถยนต์ที่คุ้มค่าต้นทุน-การใช้งานมากที่สุดสำหรับบริการ Grab รวมถึงร่วมมือกับหน่วยงานรัฐในการพัฒนาจุดติดตั้งสถานีชาร์จไฟที่เหมาะสม
ตามแผนของ Grab นั้น ต้องการเพิ่มทุนให้ได้ 3,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2018 ซึ่งถึงตอนนี้ก็ได้รับเงินทุนไปแล้ว 2,700 ล้านดอลลาร์
ผู้ที่ซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายคนมักจะคุ้นเคยกับสติ๊กเกอร์ Warranty Void If Removed ที่เมื่อแกะแล้วผู้รับประกันมีสิทธิปฏิเสธการรับประกันได้ ล่าสุด FTC หรือคณะกรรมการการค้าแห่งสหพันธรัฐออกมากล่าวชัดเจนแล้วว่า บริษัทที่มีกฎการรับประกันดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมาย และสั่งบริษัท Nintendo, HTC, Microsoft, Asus และ Hyundai ที่ยังมีกฎดังกล่าวเขียนไว้อยู่ให้ยกเลิกกฎเหล่านี้ทันที
FTC กล่าวว่าบริษัททั้งหมดนี้ผิดกฎ 1975 Magnuson-Moss Warranty Act ซึ่งระบุว่าสำหรับสินค้าในราคามากกว่า 5 ดอลลาร์ ห้ามผู้ผลิตสร้างข้อจำกัดในการซ่อมสินค้าที่มีประกัน จึงทำให้ FTC ส่งจดหมายเตือนไปทุกบริษัท พร้อมแนบคำที่ระบุไว้ในเงื่อนไขการรับประกันที่ผิดกฎหมาย
Hyundai Motor ผู้ผลิตรถยนต์จากเกาหลีได้ลงทุนใน Grab ผู้ให้บริการเรียกรถจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการระดมทุนรอบล่าสุด โดยทางบริษัทกล่าวว่าการลงทุนครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ Hyundai ได้ลงทุนกับบริษัทเรียกรถโดยตรง แต่ทางบริษัทไม่ได้เปิดเผยมูลค่าการลงทุน ซึ่งเท่ากับว่า Hyundai จะเป็นอีกบริษัทที่ถือหุ้นใหญ่ใน Grab เพิ่มเติมจาก Didi Chuxing, SoftBank และ Toyota Tsuho (กองทุน Next Technology ของ Toyota)
ทั้งบริษัท Hyundai และ Grab จะร่วมมือกันพัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการรถยนต์ ซึ่ง Hyundai จะใช้รถยนต์อย่าง Ioniq Electric ของบริษัทมาให้บริการ ซึ่งตอนนี้มีรุ่นที่ใช้พลังงานแตกต่างกันสามแบบคือ powertrain-hybrid, plug-in hybrid และรถยนต์แบตเตอรี่ล้วน
เกาหลีใต้เป็นประเทศหนึ่งที่พัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดดหลังบอบช้ำจากสงครามในคริสต์ศตวรรษที่ 19 และทำได้ดีมาตลอดคือเรื่องเทคโนโลยีทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ แต่ถ้าเป็นเรื่อง AI เกาหลีใต้ไม่ได้เป็นผู้นำโลกในด้านนี้
ตัวจุดประเด็นสำคัญคือนักแข่งเกมโกะชาวเกาหลีใต้ Lee Se-dol แพ้เกมให้กับปัญญาประดิษฐ์จาก Google สำนักข่าวรายงานว่าเป็นวันที่น่าเศร้าของเกาหลีใต้ บางสำนักข่าวพาดหัวว่าเป็นวิวัฒนาการที่น่าสะพรึงกลัวของปัญญาประดิษฐ์
Kakao บริษัทไอทีเกาหลีใต้ประกาศร่วมมือกับ Hyundai บริษัทรถยนต์ร่วมชาติและ Kia บริษัทในเครือของ Hyundai พัฒนาเทคโนโลยี AI สำหรับใช้งานบนรถยนต์ผ่านแพลตฟอร์ม AI ของ Kakao ที่ถูกเรียกว่า Kakao I
Hyundai จะเริ่มนำเทคโนโลยี Speech Recognition ที่ทำงานผ่าน Kakao I ติดตั้งบน Genesis G70 รถซีดานหรูตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป ช่วยให้คนขับสามารถสั่งงานด้วยเสียงผ่านปุ่มบนพวงมาลัย ค้นหาสถานที่หรือนำทางผ่านระบบ Kakao Maps ก่อนแสดงผลผ่านระบบนำทางบนรถอีกที
Kakao ระบุว่าร่วมมือพัฒนากับ Hyundai มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในความพยายามผลักดัน Connected Car ของ Kakao เองด้วย
ที่มา - Korea Herald
ภายในงาน CES 2017 ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีอย่าง Hyundai ได้เผยโฉมพร้อมเปิดให้สื่อได้ทดลองนั่งรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับของตัวเองเป็นครั้งแรก โดยรถยนต์ที่นำมาดัดแปลงเป็นรุ่น Iconiq รถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว
รถยนต์ Iconic มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 28 kWh วิ่งได้ประมาณ 250 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ขณะที่รถยนต์ไร้คนขับนี้ทาง Hyundai ระบุว่าได้ใช้เซ็นเซอร์ที่ถูกกว่า รวมถึงไม่ได้มาพร้อมกับระบบประมวลผลที่จัดเต็มเหมือนเจ้าอื่นๆ ทำจะทำให้เมื่อวางจำหน่ายจริง ราคาค่าตัวของรถไร้คนขับจากค่ายเกาหลี จะมีราคาถูกกว่ายี่ห้ออื่น
งาน CES 2017 ปีนี้ เราเห็น Amazon ขยายแพลตฟอร์ม Alexa ไปยังอุปกรณ์ของคู่ค้าหลายตัว (Lenovo, Whirlpool, Dish) ฝั่งคู่แข่ง Google Assistant ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ก่อนหน้านี้เคยจับมือกับ Sony สำหรับตลาดทีวีและเครื่องเสียงไปแล้ว คราวนี้เป็นบริษัทรถยนต์ Hyundai บ้าง
Hyundai ค่ายรถจากเกาหลีได้จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับ Amazon เปิดตัวโปรแกรม "Prime Now. Drive Now" ซึ่งเป็นการให้บริการจองการทดลองขับรถ Hyundai Elantra ผ่านทาง Amazon
ผู้ใช้สามารถเลือกระยะเวลา วันและเวลาที่ต้องการทดลองขับได้ล่วงหน้าผ่านทาง Amazon และเมื่อถึงเวลานัดหมาย รถ Hyundai Elantra จะถูกนำไปส่งตามสถานที่นัดหมายพร้อมผู้เชี่ยวชาญ อยางไรก็ตามโปรแกรมนี้ดูเหมือนจะมีระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น (เริ่มสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาและสิ้นสุดที่ช่่วงสุดสัปดาห์หน้า) รวมถึงจำกัดเฉพาะพื้นที่ใจกลางลอสแองเจลิสและย่าน Orange เท่านั้น
Hyundai Motor ผู้ผลิตรถยนต์จากเกาหลีใต้ ประกาศความร่วมมือกับ Cisco บริษัทด้านเครือข่าย ในการพัฒนาเทคโนโลยีในรถยนต์ร่วมกันอย่างเป็นทางการในวันนี้ หลังจากที่เคยเปิดเผยแผนการสร้างรถยนต์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อได้ (hyper-connected intelligent car) ไปเมื่อต้นเดือน
ตามข้อตกลงนี้ ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันพัฒนาเครือข่ายภายในรถยนต์ (ไม่แน่ใจว่าจะมีหน้าตาอย่างไร), การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยของรถยนต์ร่วมกัน โดย Chung Eui-sun ผู้บริหารของ Hyundai ระบุว่าความร่วมมือนี้จะทำให้ Hyundai Motor สามารถเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ในอนาคตที่จะเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์และเทคโนโลยีอื่นๆ ได้
ค่ายรถยนต์เกาหลี Hyundai มีระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับรถยนต์ชื่อว่า Blue Link มาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ล่าสุด Hyundai ประกาศขยายแพลตฟอร์ม Blue Link ให้รองรับนาฬิกาอัจฉริยะ Android Wear เพิ่มเติมด้วย
เจ้าของรถที่มีนาฬิกา Android Wear สามารถกดสตาร์ตเครื่องยนต์ ล็อคประตู เปิดไฟรถ บีบแตร และค้นหารถยนต์ได้จากนาฬิกาโดยตรง (ฟีเจอร์เทียบเท่าแอพมือถือ) แอพจะเปิดให้ดาวน์โหลดในไตรมาสแรกของปี 2015 ใช้ได้กับนาฬิกา Android Wear ของซัมซุง โซนี่ แอลจี โมโตโรลา ส่วนรถยนต์ที่รองรับคือรถที่มีระบบ Blue Link ทุกรุ่นนับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา
เราเห็นผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ลงมาลุยตลาดแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วราคาถูกกันมากขึ้นเรื่อยๆ รายล่าสุดคือ Hyundai Technologies ที่เคยวางขายแท็บเล็ตในรัสเซียมาก่อนแล้ว ก็กระโจนเข้ามาในตลาดนี้เช่นกัน
แท็บเล็ต Hyundai T7 ใช้หน้าจอ IPS ขนาด 7 นิ้ว 1280x800, ซีพียู Exynos 4412 ควอดคอร์ 1.4GHz (ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Galaxy S III), จีพียู Mali-400MP4, แรม 1GB, ความจุ 8GB + microSD, กล้องหลัง 2MP, พอร์ต microHDMI, แบตเตอรี่ 3,300mAh, หนัก 303g, ระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4
ราคาขาย 166 ดอลลาร์หรือประมาณ 5,000 บาทพอดี
Google ประกาศความร่วมมือกับ Hyundai Motor ผู้ผลิตรถยนต์ยี่ห้อ Hyundai และ Kia ในการนำเอาความสามารถของ Google Maps มาใส่ในรถยนต์รุ่นใหม่
ด้วยระบบใหม่นี้ จะทำให้ผู้ขับขี่สามารถค้นหาข้อมูลต่างๆ จาก Google Maps บนสมาร์ทโฟนและส่งข้อมูลเหล่านั้นให้กับรถยนต์ได้อย่างสะดวก ทำให้รถยนต์สามารถจดจำเส้นทางการเดินทางจาก Google Maps และจดจำข้อมูลของบริเวณต่างๆ ที่เป็นจุดหมายของการเดินทางได้จาก Google Places ซึ่งเป็นฟีเจอร์หนึ่งที่แสดงข้อมูลสถานที่ต่างๆ บนแผนที่ของ Google Maps
ระบบใหม่นี้จะเริ่มนำมาใช้กับรถยนต์จากค่าย Hyundai เฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาฯ ก่อนเป็นประเทศแรก โดยยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าจะมีการขยายไปยังรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศอื่นในภายหลังหรือไม่
Hyundai กำลังพัฒนาระบบสั่งการรถยนต์ด้วยสมาร์ทโฟนแบบใหม่ ให้ผู้ใช้สามารถสั่งการรถยนต์ได้ด้วยสมาร์ทโฟนแทนการใช้กุญแจ
Hyundai สาธิตการใช้งานระบบดังกล่าวด้วยรถยนต์รุ่น i30 โดยผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอพพลิเคชันใดๆ เพิ่มลงในสมาร์ทโฟน เพียงอาศัยการสั่งงานผ่านทาง NFC เท่านั้น
เริ่มตั้งแต่เปิดประตูรถ ผู้ใช้เพียงนำสมาร์ทโฟนไปจ่อไว้ใกล้กับป้ายที่มีเครื่องหมาย NFC บริเวณกระจกหน้าต่างเท่านั้น ก็สามารถเปิดประตูรถได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ
บริษัทหนึ่งที่มาร่วมวงทำแท็บเล็ตกับเขาด้วยแบบไม่น่าเชื่อคือ "ฮุนได" บริษัทรถยนต์จากเกาหลีใต้ (ผ่านบริษัทลูก Hyundai Technologies ที่ทำมือถือและกล้องดิจิทัลมาก่อนแล้ว)
ล่าสุดเว็บไซต์ Mail.ru ของรัสเซีย เผยข้อมูลว่าฮุนไดเตรียมส่งแท็บเล็ต Android ICS วางขายพร้อมกัน 3 รุ่น 3 ขนาดภายในปีนี้
ไมโครซอฟท์เซ็นสัญญากับค่ายผู้ผลิตรถยนต์เกาหลีฮุนไดและเกียในการติดตั้งซอฟท์แวร์ Microsoft Auto ซึ่งมีความสามารถสั่งการด้วยเสียง, ควบคุมเครื่องเล่นเพลงพกพาและโทรศัพท์มือถือ โดยจะเริ่มติดตั้งไปกับรถที่จำหน่ายไปทั่วโลกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนหลังจากที่ไมโครซอฟท์หมดสัญญากับฟอร์ดในการนำระบบดังกล่าวไปติดตั้งในชื่อของ Sync ให้กับฟอร์ดแต่เพียงผู้เดียว
แนวคิดโทรศัพท์นาฬิกาไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด แต่สำหรับ Hyundai W-100 คงไม่ใช่โทรศัพท์นาฬิกาข้อมือธรรมดา ๆ ที่เราเคยเห็น ๆ กันเรื่อยมา ด้วยสเปค กล้องความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล พร้อมจอสีแบบสัมผัส และรองรับ Bluetooth พร้อมรองรับหูฟัง A2DP และแน่นอนว่ารองรับไฟล์ MP3 อีกด้วย แถมยังเพิ่มหน่วยความจำได้ผ่านทางการ์ด MicroSD
งานนี้ราคาไม่แจ้ง แต่น่าจะได้เห็นในบ้านเราเพราะเป็น GSM
ที่มา - Akihabara News