Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ให้สัมภาษณ์กับ Kane Sutter จากช่อง Kallaway ในหลายประเด็นทั้งเรื่อง AI และแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Meta

ในช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ซึ่งถามมุมมอง Zuckerberg เกี่ยวกับ AI เขาบอกว่า AI ไม่น่าเป็นสิ่งที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างครบในเครื่องมือชุดเดียว โดยพูดถึงบริษัทหนึ่งที่พยายามสร้าง AI ผลิตภัณฑ์เดียวแล้วทำได้ทุกอย่าง เรียกว่าเป็น AI ที่แท้จริง เหมือนกับการสร้างเทพเจ้าขึ้นมา ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ Meta กำลังทำ และไม่คิดว่าวิธีนั้นจะได้ผลที่ดีด้วย

เป็นอีกก้าวที่ดี เมื่อโรงละครสัตว์ Circus Roncalli ในเยอรมันยิงโฮโลแกรมสามมิติรูปสัตว์ต่างๆ แทนการใช้สัตว์จริง หลังจากเริ่มลดระดับการใช้สัตว์ตัวเป็นๆ มาตั้งแต่ปี 2017

ทางโรงละครได้ร่วมมือกับบริษัท Bluebox เพื่อติดตั้งระบบการแสดงภาพสามมิติ ZU850 ที่สร้างขึ้นโดยบริษัท Optoma 11 ตัว เพื่อสามารถยิงโฮโลแกรมสัตว์ได้จากทุกทิศทางให้มีความสมจริง ผลที่ได้คือสร้างความประทับใจแก่คนดู ทั้งสีสันที่สวยงามและสัตว์จะได้ไม่ทรมานจากการฝึก

ปกติระบบ HUD ในรถยนต์เป็นการฉายข้อมูลจำพวกความเร็วรถยนต์ขึ้นไปบนกระจกหน้ารถ ส่วนระบบนำทางยังต้องดูจากหน้าจอตรงกลาง หรือหน้าจอตรงแผงหน้าปัด ล่าสุดฮุนไดก้าวไปอีกขั้นด้วยการนำเอาเทคโนโลยี AR เข้ามาใช้ร่วมด้วย เพื่อแสดงการนำทางบน HUD เลย

เทคโนโลยีนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างฮุนไดกับสตาร์ทอัพ WayRay จากสวิตเซอร์แลนด์ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบความเป็นไปได้ (Proof of concept) ของเทคโนโลยีดังกล่าว และได้ผ่านการทดสอบบนถนนจริงในเกาหลีใต้แล้ว ซึ่งนอกจากข้อมูลการนำทางแล้วยังรวมเอาฟีเจอร์แจ้งเตือนรถออกจากเลน (lane departure warnings) หรือเตือนการชนด้านหน้า (forward collision warnings) เข้ามาโชว์บน HUD ด้วย

อุปสรรคสำคัญของแว่น AR แบบ HoloLens ของไมโครซอฟท์คือคนที่ไม่ได้สวมแว่น ไม่สามารถมองเห็นได้ว่าคนที่สวมแว่นเห็นอะไรอยู่ในตอนนั้น ในงานแถลงข่าวของไมโครซอฟท์ที่สาธิต HoloLens เราเห็นทีมงานมีกล้องถ่ายวิดีโอคนที่สาธิตบนเวที แล้วประมวลผลภาพขึ้นจอให้ผู้ชมเห็นอีกต่อหนึ่ง

ล่าสุดไมโครซอฟท์พัฒนาระบบการถ่ายทอดวิดีโอแบบเดียวกันให้คนทั่วไปใช้งาน โดยเรียกมันว่า Spectator View

หลักการของ Spectator View คือใช้แว่น HoloLens อีกตัวแสดงภาพโฮโลกราฟิกในมุมมองของผู้ชม จากนั้นส่งภาพโฮโลแกรมผ่าน Wi-Fi เข้าไปยังคอมพิวเตอร์ และจากคอมพิวเตอร์ส่งภาพเข้ามาที่กล้อง DSLR เพื่อบันทึกเป็นภาพ/วิดีโอร่วมกับภาพจริงๆ ที่กล้องมองเห็น

ประเทศฝรั่งเศสจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนเมษายนนี้ ตอนนี้ผู้สมัครหลายคนจึงเริ่มหาเสียงกันอย่างคึกคัก และมีผู้สมัครคนหนึ่งแถลงข่าวเปิดตัวด้วย "โฮโลแกรม"

Jean-Luc Mélenchon จากพรรค Unsubmissive France แถลงข่าวเปิดตัวลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวานนี้ งานแถลงข่าวจัดพร้อมกัน 2 แห่ง ตัวเขาอยู่ที่เมืองลียง ส่วนในปารีสเขาก็ส่งโฮโลแกรมมาทำหน้าที่แทน

ผลงานนี้เป็นของ Adrénaline Studio โดยถ่ายวิดีโอที่เมืองลียง และยิงโปรเจคเตอร์ให้สะท้อนกระจกใสชนิดพิเศษในปารีส

Citi สถาบันการเงินรายใหญ่โลก โชว์วิดีโอต้นแบบการซื้อขายหุ้นด้วยแว่น HoloLens ของไมโครซอฟท์ ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อขายหุ้นเห็นความเชื่อมโยงของข้อมูลการเงินแบบเรียลไทม์ด้วยการแสดงผลผ่าน holographic

ต้นแบบของ Citi มาพร้อมกับโต๊ะที่มีมอนิเตอร์ และสามารถแสดงผลให้เพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าดูได้พร้อมๆ กัน เพื่อร่วมแสดงความเห็นว่าควรซื้อหุ้นตัวนั้นหรือไม่

Human Media Lab แห่ง Queen’s University แคนาดา เผย HoloFlex งานวิจัยมือถือรองรับการแสดงผลโฮโลกราฟิกที่บิดงอได้ตัวแรกของโลก

HoloFlex ใช้เทคนิคความคลาดเคลื่อนกันของวิดีโอที่เกิดขึ้นเมื่อมองวัตถุจากจุดสองจุด (motion parallax) และการถ่ายภาพสามมิติ (stereoscopy) เพื่อสร้างเอฟเฟคภาพสามมิติบนหน้าจอสัมผัสแบบ Flexible Organic Light Emitting Diode (FOLED) ความละเอียด 1080p โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม ทั้งนี้ภาพจะถูกแบ่งการแสดงผลเป็นเซลล์วงกลมกว้าง 12 พิกเซล แสดงผลบนเลนส์ฟิชอายสามมิติบิดงอได้จำนวน 16,000 เลนส์

HoloLens แว่นตาสำหรับแสดงผลโฮโลแกรม หนี่งในไม้ตายของไมโครซอฟท์ที่เพิ่งเรียกเสียงฮือฮาในการโชว์เกมเพลย์บน Minecraft ท้ายที่สุดแล้วอาจจะไม่ยอดเยี่ยมอย่างที่หลายคนคาดไว้ หลังจากปัญหาใหญ่อย่างพื้นที่แสดงผล (field of view) ที่แคบเหลือทนนั้น แม้แต่ไมโครซอฟท์เองก็ออกมาบอกว่าคงไม่ได้ดีไปกว่าตอนนี้มาก

ประเด็นนี้เริ่มต้นมาในช่วงเดือนมกราคมที่เปิดตัว โดยเดโมของ HoloLens ตอนนั้นมีผู้ทดลองใช้งานหลายคนรู้สึกว่า field of view ส่วนโฮโลแกรมของ HoloLens ช่างแคบเหลือเกิน ก่อนจะมาเดโมอีกครั้งในเดือนเมษายนซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนัก ความรู้สึกที่ควรจะจมดิ่งไปกับโลกโฮโลแกรมเลยเหมือนกับดูหนังแบบมีขอบดำ (letterbox) เสียมากกว่า

ไมโครซอฟท์โชว์การร่วมพลังระหว่างโปรเจคใหม่อย่าง HoloLens แว่นตาแสดงผลภาพโฮโลแกรม กับเกมยอดนิยมแห่งยุคอย่าง Minecraft ออกมาเป็นเกมเพลย์ที่ต่างจากของเดิมไปอย่างสิ้นเชิง

เริ่มต้นด้วย Minecraft จะรองรับการเล่นด้วย HoloLens โดยผู้ใช้สามารถหันซ้ายขวาเพื่อเปลี่ยนมุมมองในเกมได้ตามแนวทางของเกม VR ทั่วไป แต่ที่เหนือกว่านั้นคือการทำงานร่วมกับ HoloLens เพื่อสร้างโลกของ Minecraft ได้ในทุกพื้นผิว โดยเป็นมุมมองจากด้านบน (god's view) สามารถเล่นโดยใช้มือ และเสียง ซึ่งในระหว่างการเดโมได้ใช้กล้องพิเศษที่ต่อเข้ากับ HoloLens เพื่อให้เห็นเกมเพลย์ได้

เล่าแล้วอาจเข้าใจยาก ดูเองจะประทับใจกว่าครับ ตั้งแต่นาทีที่ 2:25 เป็นต้นไป

นิตยสาร Wired ได้สัมภาษณ์ Alex Kipman ผู้คุมการพัฒนา HoloLens อุปกรณ์ลักษณะแว่นตาที่สามารถแสดงผลภาพโฮโลแกรมได้ และทดลองเล่นอุปกรณ์ข้างต้นเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีรายละเอียดดังนี้

นอกจาก Surface Hub จอขนาดยักษ์รัน Windows 10 แล้ว ไมโครซอฟท์ยังเปิดตัว HoloLens อุปกรณ์ลักษณะแว่นตาที่มีซีพียู จีพียู และหน่วยประมวลผลภาพโฮโลแกรมแยกต่างหาก จึงทำให้อุปกรณ์นี้สามารถสร้างและแสดงผลภาพโฮโลแกรมได้

HoloLens ยังมากับเซนเซอร์หลากหลายประเภท (ไม่ระบุชนิดของเซนเซอร์) และระบบเสียงที่ทำให้ผู้ใช้เสมือนได้ยินเสียงโฮโลแกรมจากข้างหลัง

อัพเดต บริษัทเปิดหน้าเว็บอย่างเป็นทางการของ HoloLens แล้ว ดูรายละเอียดได้ที่นี่ครับ

โฮโลแกรม หรือการแสดงภาพของวัตถุจำลองที่เปลี่ยนมุมมองได้ตามทิศทางของผู้สังเกต ทำให้ผู้ที่มองวัตถุจำลองนั้นสามารถเห็นวัตถุจำลองนี้ได้ในแบบสามมิติราวกับเป็นวัตถุจริง โดยโฮโลแกรมนี้มีเทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงผลหลายรูปแบบ แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือไม่มีรูปแบบใดสามารถให้สัมผัสได้

แต่วันนี้มีสิ่งที่จะมาช่วยเสริมประสบการณ์ ด้วยการใช้เทคโนโลยีการปั้นเสียงเพื่อสร้างโฮโลแกรมที่สัมผัสได้ โดยใช้การแทรกสอดของคลื่นเสียงความถี่สูงจากชุดลำโพงขนาดเล็กจำนวนมาก โดยคลื่นเสียงที่กระทบกับผิวหนังจะสร้างแรงกดกับผิวหนังของผู้สังเกตและให้ความรู้สึกคล้ายกับการสัมผัสวัตถุ

เทคนิคการแสดงภาพโฮโลแกรมนั้นเป็นความฝันที่ถูกนำเสนอผ่านภาพยนตร์ไซ-ไฟมายาวนานหลายต่อหลายเรื่อง แต่อีกไม่นานมันอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งในโลกแห่งความจริง เมื่อบริษัท Ostendo วางแผนจะพัฒนาโมดูลแสดงภาพแบบโฮโลแกรมสำหรับเป็นส่วนหนึ่งของสมาร์ทโฟน

อย่างไรก็ตามโฮโลแกรมที่ว่านี้อาจไม่ใช่อย่างที่หลายคนนึกภาพ มันไม่ใช่การฉายแสงมาแสดงเป็นภาพสามมิติลอยอยู่กลางอากาศแบบในหนัง หากแต่เป็นการแสดงผลโดยใช้ซอฟต์แวร์สั่งงานโมดูลที่ประกอบไปด้วยชั้นของจอ LED โปร่งใสที่ซ้อนทับกันหลายชั้นให้แสดงภาพออกมา ซึ่งจอเหล่านั้นมีความละเอียดในการแสดงภาพ 5,000 พิกเซลต่อตารางนิ้ว ผลคือทำให้ผู้ใช้มองเห็นภาพที่ปรากฏขึ้นเป็นแบบ 3 มิติจมอยู่ในโมดูลแสดงภาพนั้น

Curtis Wong ผู้ที่อยู่เบื้องหลังแอพแผนที่โลกและอวกาศ WorldWide Telescope ภายใต้ไมโครซอฟท์ รีเสิร์ช และ GeoFlow เครื่องมือพล็อตข้อมูลจาก Excel บนแผนที่โลก 3 มิติ ได้นำเสนอโครงการ Holograph แพลตฟอร์มนำเสนอข้อมูลแบบตายตัวหรือแบบมีพลวัต (dynamic) ใน 3 มิติให้อยู่เหนือหรืออยู่ใต้แนวระนาบของหน้าจอ 2 มิติ

ไมโครซอฟท์ขอจดสิทธิบัตร Transparent Display for Mobile Device ที่ประกอบด้วยจอภาพแล็ปท็อปที่มีลักษณะโปร่งใส (ต้นฉบับเรียก holographic optical element หรือ HOE) และมีโปรเจกเตอร์ขนาดเล็กอยู่บริเวณคีย์บอร์ดภาพฉายขึ้นไปสะท้อน HOE ไปปรากฏหลังแล็ปท็อปในลักษณะภาพโฮโลแกรมได้ โดยภาพที่ปรากฏจะมีลักษณะกึ่งโปร่งแสง จากภาพในสิทธิบัตร (ดูได้ที่ท้ายข่าว) ผู้ใช้สามารถมองทะลุหน้าจอแล็ปท็อปไปเห็นภาพโฮโลแกรมข้างหลังได้

ไมโครซอฟท์กล่าวถึงการประยุกต์ใช้สิทธิบัตรนี้ อาทิ การแสดงผลจากแอพประเภท augmented reality บริษัทยังกล่าวเป็นนัยในเอกสารว่านี่อาจกลายเป็นอุปกรณ์พกพาประเภท HUD (heads-up display) ได้ด้วย

Microsoft โชว์ 3 งานวิจัยจากงาน TechForum ซึ่งเป็นงานสังสรรค์ที่จัดขึ้นเพื่อแสดงโครงการวิจัยภายในบริษัท โดยผลงานที่ Microsoft คัดเลือกมาได้แก่ (รับชมวิดีโอได้ในข่าว)

• HoloDesk - คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ที่ใช้เทคโนโลยีการแสดงผลและการควบคุมสั่งงานแบบสามมิติ
• Holoflector - กระจกเงาโฮโลกราฟิก ที่สามารถโต้ตอบกลับแบบ augmented reality ได้
• Illumishare - โต๊ะทำงานที่แชร์เอกสารและวัตถุต่างๆ ที่อยู่บนโต๊ะให้กับผู้ร่วมงานคนอื่นๆ

ที่มา: Engadget

แผนก Mobile Display ของซัมซุงได้แนะนำแนวคิดของแท็บเล็ตแบบใหม่โดยตัวเครื่องทั้งเครื่องนั้นจะโปร่งใสมองทะลุได้และยังสามารถพับเก็บเป็นโทรศัพท์ได้ด้วย คุณสมบัติต่างๆ ก็เช่นระบบ augmented reality นิตยสารที่ควบคุมโดยการเคลื่อนไหวของนิ้วมือแบบต่างๆ และยังสามารถแสดงภาพโฮโลแกรมได้อีกด้วย ลองชมวีดีโอได้หลังข่าวครับ

ซัมซุงไม่ใช่บริษัทเดียวที่มีแนวคิดของอุปกรณ์แบบโค้งงอได้ ยกตัวอย่างเช่นโนเกียที่ได้แนะนำแนวคิดของมือถือแบบใหม่เมื่อไม่นานมานี้ ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่กำลังพัฒนาขึ้นมา เราอาจจะได้เห็นอุปกรณ์พกพาที่สามารถโค้งงอได้จริงๆ ในอนาคตอันไม่ไกลมากนี้ครับ

นักวิจัยของ IBM ระบุไว้ในรายงานพยากรณ์ประจำปี "IBM Next Five in Five" ฉบับที่ 5 ว่าอีกห้าปีข้างหน้า บริษัทผู้ผลิตมือถือจะมีเทคโนโลยีต้นแบบในการสร้างภาพฮอโลแกรมสามมิติ (3D Hologram) ขนาดเท่าของจริงฉายตกกระทบวัตถุชนิดใดก็ได้

เทคโนโลยีนี้อาจประยุกต์ใช้กับการสร้างภาพเสมือนจริงของคู่สนทนา เพื่อเพิ่มความรู้สึกผูกพันใกล้ชิด คุณอาจจะเดินไปที่ฝาผนังบ้านขณะสนทนากับแล้วเอามือแตะบ่าเพื่อนของคุณได้ (ในร่างของฮอโลแกรม) หรือใช้กับการวิเคราะห์แก้ปัญหาทางไกล เช่น ช่างซ่อมบำรุงโทรมาขอคำปรึกษาเรื่องวิธีแก้ปัญหาเครื่องยนต์ คุณก็สามารถให้เขาส่งสัญญาณเพื่อฉายภาพฮอโลแกรมใหญ่ๆ ของเครื่องยนต์ แล้วคุณก็เดินเข้าไปสำรวจข้างในเพื่อหาจุดที่เสียด้วยตา แทนที่จะเปิดหนังสือคู่มือแล้วคลำหาสาเหตุอย่างยากลำบาก