สำหรับแอปเปิลแล้ว ตลาดอินเดียคงไม่ง่ายนักที่จะเจาะเข้าไปได้ ยอดการจำหน่าย iPhone ก็ยังน้อยนิดทำได้เพียงแค่ 5% สาเหตุหลักก็มาจากราคาเครื่องที่ขายแบบไม่ติดสัญญาแต่ก็ยังแพงเกินไปสำหรับคนอินเดีย
ล่าสุดแอปเปิลได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์อันดับสามในอินเดียอย่าง Reliance Communications เปิดจำหน่าย iPhone 5s และ 5c แบบติดสัญญา 2 ปี โดยจ่ายรายเดือนผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น ซึ่ง iPhone 5s มีราคา 2,999 รูปี (48.5 ดอลลาร์สหรัฐ) และ iPhone 5c ราคา 2,599 รูปี โดยราคานี้สามารถโทรได้ไม่จำกัดรวมบริการอินเทอร์เน็ตด้วย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
Micromax ผู้ผลิตมือถือสัญชาติอินเดีย ประกาศว่าจะวางขายมือถือ Windows Phone ช่วงกลางปีหน้า 2014
ที่ผ่านมา Micromax เน้นสมาร์ทโฟนสายแอนดรอยด์มาตลอด แต่บริษัทก็ไม่ได้ระบุเหตุผลว่าทำไมถึงสนใจมาทำ Windows Phone กับเขาด้วย
Rahul Sharma ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทให้สัมภาษณ์ว่าเป้าหมายของ Micromax คือการเป็นบริษัทมือถือระดับโลก โดยจะเริ่มขยายธุรกิจจากอินเดียไปยังรัสเซีย-ปากีสถาน-ยุโรปตะวันออก, ออกมือถือ LTE ภายในปีนี้ และตั้งเป้ายอดขาย 50 ล้านเครื่อง ก่อนจะบุกไปยังตลาดสหรัฐในระยะต่อไป
ที่มา - Times of India
เว็บไซต์ Google Official Blog เปิดเผยเรื่องราวอันน่าประทับใจจากหนังสือ "A Long Way Home" เมื่อ Google Earth ได้ช่วยเหลือหนุ่มอินเดียหาทางกลับบ้านเกิดได้สำเร็จ หลังจากหายไปนานถึง 26 ปี
จากการเปิดเผยหนุ่มคนนี้ชื่อว่า Saroo Munshi Khan เป็นชาวเมือง Berhanpur เมื่ออายุ 5 ขวบ เขาได้พลัดหลงกับพี่ชายของเขาบนรถไฟที่เมือง Calcutta จากนั้นก็ถูกส่งไปอยู่กับครอบครัวชาวออสเตรเลียในเมือง Hobart เกาะ Tasmania ทางใต้ของออสเตรเลีย โดยได้ชื่อและนามสกุลใหม่เป็น Saroo Brierley
คนไอทีชาวอินเดียกลุ่มหนึ่งอยากให้รหัสของ Android ที่ตั้งตามชื่อขนมและของหวาน มาเลือกใช้ชื่อขนมของอินเดียบ้าง
ก่อนหน้านี้ตอนที่ Android รหัส K ยังไม่เปิดเผยชื่ออย่างเป็นทางการ กลุ่มนี้เคยผลักดันให้กูเกิลเลือกใช้ขนม Kaju Katli มาแล้ว ถึงขนาดว่าเคยมอบ Kaju Katli ให้กับ Amit Singhal ผู้บริหารของกูเกิลที่เป็นชาวอินเดีย และส่งขนมชนิดนี้ไปให้ทั้ง Larry Page และ Andy Rubin ทางไปรษณีย์
รัฐบาลอินเดียเตรียมประกาศห้ามข้าราชการและพนักงานของรัฐ ไม่ให้ใช้บริการอีเมลจากต่างประเทศในการติดต่อสื่อสารงานของรัฐ หลังจากมีข่าวการสอดแนมครั้งใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐผ่าน NSA
ทางออกของรัฐบาลอินเดียคือให้ใช้ระบบอีเมลของรัฐที่ให้บริการโดยศูนย์ National Informatics Centre แทน
ตัวแทนของรัฐบาลอินเดียยอมรับว่าอีเมลอย่าง Gmail ใช้ง่ายกว่าอีเมลของรัฐบาล และไม่ต้องผ่านกระบวนการขอเปิดบัญชีผู้ใช้ที่ยุ่งยาก แต่การเลือกเก็บข้อมูลสำคัญๆ บนเซิร์ฟเวอร์ภายในประเทศก็เป็นสิ่งสำคัญกว่าการยอมให้ข้อมูลเหล่านี้อยู่บนเซิร์ฟเวอร์นอกประเทศ
เว็บไซต์ Tech in Asia รายงานส่วนแบ่งตลาดยี่ห้อมือถือ (ตลาดรวม ไม่ใช่เฉพาะสมาร์ทโฟน) ในประเทศอินเดียประจำปีงบประมาณ 2013 (เข้าใจว่านับ 1 เมษายน 2012 ถึง 31 มีนาคม 2013 - อ้างอิง) ตลาดรวมโตขึ้น 14.7% จากปีก่อน
ผู้ขายมือถืออันดับหนึ่งคือซัมซุง 31.5% ตามด้วยโนเกีย 27.2%, ส่วนอันดับสามและสี่เป็นบริษัทท้องถิ่นคือ Micromax 8.7% และ Karbonn 6.4%, อันดับห้าเป็นของแอปเปิล 3.6%
บริษัทเกือบทุกรายมียอดขายโตขึ้น ยกเว้นโนเกียที่มียอดขายลดลงจากปีก่อน
ที่มา - Tech in Asia
กูเกิลมีร้านขาย Android ของตัวเองชื่อ Android Nation อยู่ในอินโดนีเซีย 2 ร้าน รูปแบบของร้านเป็นการโชว์ผลิตภัณฑ์ Android จากผู้ผลิตหลายๆ ราย โดยใช้วิธีจับมือกับพันธมิตรท้องถิ่นเป็นร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ Erafone ของอินโดนีเซีย
ล่าสุดมีข่าวว่ากูเกิลเตรียมขยายร้าน Android Nation ไปยังอินเดีย วิธีการของกูเกิลในอินเดียนั้นเหมือนกันคือจับมือกับโอเปอเรเตอร์ Spice
Spice จะเปิดสาขาแรกในกรุงนิวเดลีและมีแผนจะเปลี่ยนร้านสาขาของตัวเองจากเดิมชื่อ Spice Hotspots เป็น Android Nation อีกกว่า 50 สาขาทั่วอินเดีย และนอกจากนี้ Spice ยังจับมือกับแบรนด์มือถือ-แท็บเล็ตของจีน CoolPad ซึ่งจะช่วยให้สินค้าของ CoolPad วางขายในร้าน Android Nation ด้วย
บทความนี้เป็นตอนต่อของซีรีส์ พาสำรวจวงการไอทีพม่า โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผมไปเที่ยวประเทศอินเดียพอดีเลยเก็บบรรยากาศ-ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวงการไอทีของอินเดีย (รอบนี้เน้นไปที่มือถือเสียเยอะ) มาฝากกันครับ
แน่นอนว่าการเดินทางของผมไปในฐานะนักท่องเที่ยวเต็มขั้น รับรู้ข้อมูลเฉพาะเท่าที่ตาเห็นซึ่งก็คงไม่ละเอียดเท่าไรนัก ถ้าสมาชิก Blognone มีใครอยู่ที่อินเดียหรือมีข้อมูลเพิ่มเติมก็คอมเมนต์ได้เต็มที่
หมายเหตุ: ภาพเยอะมากครับ ใครใช้เน็ตแบบมีข้อจำกัดก็พึงระวัง
ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนของประเทศที่เศรษฐกิจกำลังบูมอย่างอินเดีย จากบริษัท CyberMedia Research (CMR) โดยนับยอดรวมของปี 2012 ครับ
หนังสือพิมพ์ India Times รายงานว่าแอปเปิลมีแผนที่จะเปิดร้านเพื่อขายสินค้าแอปเปิลในอินเดียให้ครบ 200 แห่งภายในปี 2015 โดยในอินเดีย แอปเปิลได้ใช้กลยุทธการวางตลาดไม่ต่างจากประเทศไทย นั่นก็คือการใช้ระบบแฟรนไชส์ผ่านตัวแทนจำหน่ายที่แอปเปิลเรียกว่า Premium Reseller
ในรายงานมีการพูดถึงส่วนแบ่งตลาดที่ไม่ค่อยดีนักในอินเดีย และส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะระบบกระจายสินค้าที่ซับซ้อน และทำให้ต้นทุนในการค้าสูงขึ้น อีกปัญหาสำหรับแอปเปิลก็คือกฎหมายท้องถิ่นที่บังคับให้ร้านค้าแบรนด์ต่างชาติจะต้องมีสินค้าจากภายในประเทศ 30% วางขายในร้านด้วย
วิธีแก้ปัญหาสำหรับแอปเปิลในตอนนี้ จึงเป็นการขยายจำนวนร้านค้าภายใต้โปรแกรม Premium Reseller
โครงการ Aakash แท็บเล็ตนักเรียนของอินเดียที่วางแผนไว้ว่าขั้นสุดท้ายจะมีการแจกจ่ายแท็บเล็ตจำนวนถึง 50 ล้านเครื่องอาจจะต้องหยุดลงเมื่อ Pallam Raju รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระบุว่ารัฐบาลควรไปเน้นกับการสร้างโครงสร้างเชื่อมต่อให้เข้าถึงมากกว่าตัวแท็บเล็ต และแท็บเล็ตราคาถูกก็มีอยู่มากมายในตลาดอยู่แล้ว
อินเดียเดินหน้าโครงการขั้นทดลองจำนวน 100,000 ตัวมาเป็นเวลานานและสัญญาจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มีนาคมที่จะถึงนี้ แต่จนตอนนี้ทางบริษัท Datawind คู่สัญญาผลิตเครื่องกลับส่งมอบเครื่องได้เพียง 20,000 เครื่องเท่านั้น เป็นเหตุผลหนึ่งที่รัฐบาลเริ่มไม่มั่นใจกับโครงการผลิตแท็บเล็ตด้วยตัวเอง
หนังสือพิมพ์ The Times of India รายงานข่าววงในว่ากลุ่มบริษัท Reliance ซึ่งเป็นโอเปอเรเตอร์รายหนึ่งของอินเดีย บรรลุข้อตกลงกับซัมซุงในการพัฒนาโทรศัพท์มือถือ LTE เพื่อวางขายในอินเดีย
สิ่งที่ทำให้มือถือ LTE ซีรีส์นี้น่าสนใจมากคือราคาเริ่มต้นเพียง 100 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 5,500 รูปีเท่านั้น โดยราคานี้เป็นเครื่องเปล่าไม่ติดสัญญาเหมือนโลกตะวันตกนะครับ (แต่ก็จะมีมือถือ LTE ระดับบนๆ ที่แพงกว่านี้ขายด้วย)
ทั้งซัมซุงและ Reliance ยังไม่ได้ประกาศข่าวนี้อย่างเป็นทางการครับ
ในขณะที่แอปเปิลขาย iPhone ได้ 19.6 ล้านเครื่องต่อปีในประเทศจีน ตัวเลขยอดขายในอินเดียกลับมีเพียงแค่ 460,000 เครื่องเท่านั้น
แอปเปิลมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 5% ในอินเดีย ถือเป็นผู้ขายอันดับ 6 ในตลาด ส่วนแชมป์เป็นของซัมซุงที่ 40%
ปัญหาของแอปเปิลในอินเดียมาจาก "ราคา" ของ iPhone ที่ถือว่าแพงมากสำหรับคนอินเดีย โดยรุ่นล่าสุดอยู่ที่ 850 ดอลลาร์สหรัฐ และถึงแม้แอปเปิลจะลดราคา iPhone รุ่นเก่าเหลือ 500 ดอลลาร์ ก็ยังสู้กับคู่แข่งรายอื่นๆ ที่ขายสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ 100 ดอลลาร์ลำบาก
Motorola ออกมายืนยันว่าจะปิดโรงงานประกอบและบรรจุของตัวเองซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเชนไน ประเทศอินเดีย ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้พนักงาน 76 คนต้องตกงาน
นับตั้งแต่เริ่มเปิดโรงงานตั้งแต่ปี 2008 ด้วยเงินลงทุนราว 31.7 ล้านดอลลาร์ โรงงานนี้ได้เป็นกำลังสำคัญในระบบการผลิตและจัดส่งของ Motorola มาโดยตลอด ด้วยจุดแข็งคือค่าแรงราคาถูก
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองบังกาลอร์ จะไม่ถูกปิดไปด้วย
ที่มา - ZDNet
Amit Gujral ผู้บริหารฝ่ายอุปกรณ์พกพาของ LG India ไปแถลงข่าวเปิดตัว Optimus Vu ในอินเดีย เขาตอบคำถามเรื่อง LG Nexus อย่างชัดถ้อยชัดคำว่า กูเกิลจะเปิดตัว LG Nexus (ในข่าวต้นฉบับใช้ชื่อนี้) ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ และมือถือจะวางขายในอินเดียช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้เขายังพูดถึงข้อมูลทางเทคนิคของ LG Nexus ว่าใช้หน้าจอ 4.7" ซีพียูควอดคอร์ 1.5GHz และระบบปฏิบัติการ Android 4.2
ข้อมูลส่วนของ LG Nexus คงไม่น่าตื่นเต้นอะไรนักเพราะข่าวหลุดออกมาเยอะมากแล้ว แต่กำหนดการ "ปลายเดือนพฤศจิกายน" น่าจะช่วยให้เราพอทราบแผนคร่าวๆ ของ LG ว่าจะทำตลาด LG Nexus นอกสหรัฐเมื่อไรกันแน่ครับ
จากกรณี ซัมซุงจะไม่ออกค่าตั๋วเครื่องบินขากลับจากงาน IFA ให้บล็อกเกอร์ถ้าไม่ยอมโปรโมทสินค้าให้ จนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ทางต้นเรื่องคือซัมซุงอินเดียออกมาแถลงการณ์แล้วครับ (ซึ่งก็ยังมีประเด็นขัดแย้งอยู่ดี)
อย่างแรกคือซัมซุงได้ส่งอีเมลขอโทษไปยัง Clinton Jeff บล็อกเกอร์ที่ประสบเหตุดังกล่าว โดยในอีเมลก็ยอมรับว่าซัมซุงพาเขาไปสู่สถานกาณ์ที่ยากลำบาก และขอแก้ไขปัญหานี้
“I would like to reach out to you and deeply apologize to you for your experience in Berlin at IFA. We put you through undue hardship and we are trying to rectify the situation.”
พี่ใหญ่อย่าง Xperia S ได้อัพเดตเป็น Android 4.0 ICS ตั้งแต่เดือนมิถุนายน คราวนี้อาจใกล้ถึงคิวของพี่รอง Xperia P กับเขาบ้าง
Sony Mobile India โพสต์ข้อมูลนี้ผ่าน Facebook ว่าผู้ใช้ Xperia P จะเริ่มได้อัพเดต Android 4.0 ICS ระหว่างวันที่ 19-25 สิงหาคมนี้ ส่วนประเทศอื่นๆ ยังไม่มีข้อมูลแต่ก็คาดว่าจะไม่หนีกันมากครับ
ที่มา - Android Central
เมื่อไม่กี่วันมานี้เพิ่งมีข่าว ซีอีโออินเทลประกาศ สมาร์ทโฟน x86 จะเปิดตัวสัปดาห์นี้ ซึ่งสื่อต่างประเทศคาดว่ามันคือ Lenovo K800
ความคืบหน้าจากข่าว Datawind อัพสเปคแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาในอินเดีย พร้อมส่งชุดแรกหนึ่งแสนเครื่องในเดือนหน้า ตอนนี้ข้อมูลอย่างเป็นทางการออกมาแล้ว
แท็บเล็ต Aakash 2 ที่ผลิตโดยบริษัท Datawind จะมีสเปกดังนี้
เป็นเวลากว่าสองปีหลังจากที่รัฐบาลอินเดียได้ขีดเส้นตายให้กับ BlackBerry ในการอนุญาตให้ทางรัฐบาลสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ซึ่งเมื่อวานนี้เอง RIM บริษัทต้นสังกัดของ BlackBerry ออกมาเปิดเผยว่า ทางบริษัทได้อนุญาตให้รัฐบาลอินเดียสามารถเข้าถึงข้อมูลของบริการต่างๆ บน BlackBerry servers ที่ตั้งอยู่ที่เมืองมุมไบได้แล้ว
จากการยืนยันโดยหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ รัฐบาลอินเดียยังสามารถเข้าถึงบริการ BBM (BlackBerry Messenger) ได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยใช้กระบวนการการถอดรหัสแบบ 256-bit ซึ่งทำให้รัฐบาลอินเดียสามารถอ่านข้อความใดๆ ก็ได้ที่ถูกส่งผ่านกันภายในบริการนี้ โดยอ้างถึงความมั่นคงภายในประเทศและการต่อต้านผู้ก่อการร้าย
หลังจากก่อนหน้านี้โครงการแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาของอินเดีย ประสบกับปัญหาเครื่องช้า และจอ resistive ใช้งานลำบาก และอาจถูกอินเดียยกเลิกสัญญาเพื่อหาผู้ผลิตรายใหม่ ล่าสุดบริษัทแม่ของโครงการแท็บเล็ตราคาถูก Datawind ในประเทศอังกฤษได้เพิ่มสเปคของเจ้า Aakash (ชื่อโครงการแท็บเล็ตนี้แท็บเล็ต) ให้ดีขึ้น โดยมีราคาเพิ่มขึ้นเป็น 2000 รูปี กลายเป็น 40 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1,200 บาท)
สเปคที่เปลี่ยนไปคืออัพซีพียูเป็น Cortex-A8 ความเร็ว 700 MHz เปลี่ยนหน้าจอแบบ resistive เป็น capacitive และเพิ่มแบตเตอรี่เป็น 3,300 mAh และพร้อมส่งชุดแรกหนึ่งแสนเครื่องภายในเดือนหน้านี้
โนเกียประกาศปิดบริการการเงินบนมือถือ Nokia Money ที่ให้บริการในอินเดีย โดยให้เหตุผลว่าไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัท และต้องการโฟกัสที่ธุรกิจมือถือและบริการเชิงพิกัดแทน
แผนการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างองค์กรที่ริเริ่มโดย Stephen Elop ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา โดยโนเกียเพิ่งเปิดบริการ Nokia Money ในอินเดียเมื่อปีที่แล้ว และไม่ได้รับความนิยมอย่างที่คาดไว้
ที่มา - Reuters
อินเดียเตรียมตั้งศูนย์ความร่วมมือทางไซเบอร์แห่งชาติ (National Cyber Coordination Centre) เพื่อสแกนทุกข้อความที่ผ่านอินเทอร์เน็ตเกตเวย์
ตามกฏหมายของอินเดีย การกระทำเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องผิดกฏหมายเพราะทุกวันนี้เองก็มีการติดตั้งเครื่องตรวจข้อความตามศูนย์ข้อมูลของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว แต่ศูนย์นี้จะรวมกำลังคนเข้ามาไว้ในที่เดียวกัน
ศูนย์นี้จะใช้งบประมาณ 800 ล้านรูปีย์หรือ 500 ล้านบาทไทย จะใช้ตรวจสอบทวีต, ข้อความแชต, อีเมล, ตลอดจนข้อความในเว็บเครือข่ายสังคมออนไลน์ทั้งหมด โดยตัวเจ้าหน้าที่ในโครงการนี้เองก็รับรู้ว่าระบบนี้จะไม่สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด แต่หวังว่าโครงการนี้จะช่วยลดความเสี่ยงลง
โครงการแท็บเล็ตของอินเดียนับเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ถูกจับตามองไปทั่วโลก โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1 ล้านเครื่อง แต่ตอนนี้ก็ต้องเจอปัญหาหลายอย่างจนอาจจะต้องเปลี่ยนผู้ผลิต และกำหนดมาตรฐานเครื่องเสียใหม่
แท็บเล็ตราคา 35 ดอลลาร์ที่อินเดียใช้งานนั้นผลิตโดยบริษัทสัญชาติอังกฤษที่ชื่อว่า DataWind โดยตอนนี้ได้ส่งมอบไปแล้ว 10,000 เครื่อง แต่กลุ่มผู้ใช้ก็บ่นว่าเครื่องที่ได้รับมานั้นทำงานช้าเกินไป, แบตเตอรี่มีอายุสั้น, และจอแบบ resistive นั้นทำให้ทำงานลำบาก โดยสัญญาชุดแรกของ DataWind นั้นต้องส่งมอบเครื่องจำนวน 100,000 เครื่อง
การเจรจาระหว่าง RIM ผู้ผลิต BlackBerry และให้บริการ BBM กับรัฐบาลอินเดียคงใกล้ถึงจุดยุติเมื่อทาง RIM ระบุว่าบริษัทได้ติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ BBM ในเมืองมุมไบ และพร้อมให้รัฐบาลอินเดียเข้าตรวจสอบ
การติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ไว้ในประเทศจะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตั้งเครื่องดักฟังข้อมูลที่วิ่งผ่านเครือข่าย BBM ได้ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลอินเดียเคยขอไปถึงบริการ BES ที่บริษัทขนาดใหญ่ซื้อซอฟต์แวร์ไปติดตั้งไว้ใช้งานเอง แต่ทาง RIM ก็ยืนยันว่าไม่สามารถดักฟังให้ได้เพราะ BES นั้นเข้ารหัสโดยกุญแจของแต่ละบริษัทเอง ในกรณีนี้เมื่อรัฐบาลอินเดียสามารถดักฟัง BBM ได้ก็ดูจะพอใจ และยอมถอยจากความพยายามดักฟัง BES แล้ว