ช่วงนี้ Meta ค่อย ๆ แก้ปัญหาของ Threads อยู่เรื่อย ๆ ล่าสุดเพิ่งเพิ่มตัวเลือกไม่ให้โพสต์ไปแสดงบน Facebook และ Instagramไป วันนี้ผู้ใช้งาน Threads ที่ไม่อยากใช้งานต่อสามารถลบบัญชีของตนในแอปได้โดยไม่ต้องลบบัญชี Instagram ของตนได้แล้ว
ผู้ใช้งานสามารถลบโปรไฟล์ของตนออกจากแอป Threads ได้ผ่านทาง Settings > Account > Delete or deactivate profile
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ประกาศผ่าน Broadcast ใน Instagram ของเขาว่า Instagram กำลังเริ่มทดสอบฟีเจอร์ใหม่ตามที่มีผู้ใช้งานร้องขอ โดยสามารถสั่งปิดการทำงาน "เห็นแล้ว" หรือ Read Receipts ใน DM ได้
Read Receipts เป็นฟีเจอร์พื้นฐานใน DM ของ Instagram ที่เป็นการบอกผู้ส่งข้อความว่าผู้รับได้เห็นข้อความนั้นแล้ว ซึ่ง Zuckerberg ก็บอกตรง ๆ ว่า ฟีเจอร์นี้ออกมาเพื่อช่วยเหลือคนที่ไม่ต้องการตอบข้อความแม้ได้อ่านข้อความไปแล้ว ฟีเจอร์นี้จะเป็นส่วนหนึ่งของ Privacy ในการตั้งค่า
สถานะของฟีเจอร์นี้ยังเป็นขั้นตอนทดสอบ และจะเปิดกับผู้ใช้งานทุกคนในอนาคต คราวนี้ก็ไม่ต้องลำบากโยกบัญชีไปไว้ Restrict เพื่อหลบการแสดงข้อความ Seen อีกแล้วนั่นเอง
Meta ออกมาประกาศความสำเร็จว่าแพลตฟอร์ม Instagram มีลูกค้าสมัคร Subscription จ่ายเงินอุดหนุนครีเอเตอร์เกิน 1 ล้านรายแล้ว
Instagram เริ่มฟีเจอร์ Subscription ตั้งแต่ต้นปี 2022 เพื่อเปิดทางให้ครีเอเตอร์ทำเงินจากแฟนๆ ได้โดยตรง (เช่น การเข้าถึงไลฟ์, Stories, Reels พิเศษเฉพาะสมาชิก) ในช่วงแรกยังจำกัดเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนค่อยๆ ขยายตัวมายังประเทศต่างๆ รวมไทยด้วย
Meta ยกตัวอย่างครีเอเตอร์สายไลฟ์สไตล์รายหนึ่งชื่อ Kimberley Haberly (@iambohoblonde) ที่มีสมาชิกแบบจ่ายเงิน 3,000 คน สร้างรายได้ 31,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อเดือน (ประมาณ 7.1 แสนบาท)
Facebook และ Instagram เปิดบริการจ่ายเงินเพื่อปิดโฆษณา ซึ่งมีเฉพาะในเขตสหภาพยุโรปเท่านั้น เริ่มเปิดให้ใช้งานในเดือนพฤศจิกายนนี้
ผู้ใช้ Facebook และ Instagram ในภูมิภาคเหล่านี้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้บัญชีแบบฟรี มีโฆษณาต่อไป หรือจะสมัครสมาชิกในราคา 9.99 ยูโร/เดือน (สมัครผ่านเว็บ) หรือ 12.99 ยูโร/เดือน (ผ่านแอพ iOS/Android ที่ต้องจ่ายส่วนแบ่งให้แอปเปิล/กูเกิล) เพื่อแลกกับการไม่ต้องมีโฆษณา
บริษัท Meta บอกว่ายังเชื่อมั่นในแนวทางบัญชีฟรี หารายได้จากโฆษณาเหมือนเดิม แต่เมื่อต้องปฏิบัติตามกฎของยุโรปก็ยินดีปฏิบัติตาม
ที่มา - Meta
Meta รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2023 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 34,146 ล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิก็เพิ่มขึ้นเป็น 11,583 ล้านดอลลาร์ ปัจจัยหลักจากรายได้ที่เพิ่มสูง และค่าใช้จ่ายที่ลดลง 7% เป็นผลจากการปลดพนักงานชุดใหญ่
รายได้เฉพาะส่วนธุรกิจโฆษณาสะท้อนการเติบโตได้สูงอยู่ที่ 33,643 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24% และเป็นสถิติใหม่สูงสุดของบริษัท นับจากสถิติสูงสุดเดิมในไตรมาส 4 ปี 2021
จำนวนผู้ใช้งานเฉพาะ Facebook แบบเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) เพิ่มเป็น 3,049 ล้านบัญชี ส่วนจำนวนผู้ใช้งานรวมทุกแอปในเครือเป็นประจำทุกเดือน (Family Monthly Active People - MAP) มี 3.96 พันล้านคน
ปัจจุบันมีรูปแบบการหลอกลวงเกิดขึ้นจำนวนมาก ทาง Meta ประเทศไทยออกมาพูดถึงมาตรการการรับมือปัญหาภัยลวงออนไลน์ มีการร่วมมือกับกระทรวง DE และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดตัวแคมเปญ #StayingSafeOnline ให้ความรู้เท่าทันภัยทางออนไลน์
เฮเซเลีย มาร์กาเรต้า ผู้จัดการฝ่ายนโยบายสาธารณะด้านนโยบายเศรษฐกิจจาก Meta ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่าการตรวจจับและป้องกันสแกมบนแพลตฟอร์มของ Meta หากพบบัญชีที่มีพฤติกรรมการหลอกลวง เจ้าของบัญชีจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ใช้งานบัญชีปลอมหรือนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเองที่ไม่เป็นความจริง หากเจ้าของบัญชีไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ตามที่กำหนด หรือหากผู้ตรวจสอบพบว่ามีการละเมิดกฎและนโยบายต่างๆ บัญชีดังกล่าวก็จะถูกลบ
รัฐแคลิฟอร์เนีย และอีก 32 รัฐฟ้อง Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram เกี่ยวกับการทำร้ายเยาวชนโดยกล่าวหาว่าแพลตฟอร์มโซเชี่ยลของ Meta ถูกออกแบบ และมีฟีเจอร์ที่ทำร้ายจิตใจเยาวชน
สำนวนส่งฟ้องความยาว 233 หน้า ยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย กล่าวหาว่า Meta ละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐ และกฎหมายของรัฐบาลกลางที่มุ่งปกป้องความเป็นส่วนตัวของเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ส่วนรัฐอื่น ๆ เช่น ฟลอริดา ยูทาห์ และเวอร์มอนต์ ยื่นฟ้องแยกคดี เท่ากับว่าตอนนี้มีรัฐทั้งหมด 41 รัฐ และวอชิงตัน ดี.ซี. กำลังดำเนินการทางกฎหมายกับ Meta อยู่
ดูเหมือนแนวทางแยกพื้นที่ระหว่างบัญชีคนจ่ายเงินกับคนไม่จ่ายเงินในแพลตฟอร์มโซเชียล จะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุด Adam Mosseri ซีอีโอ Instagram เปิดเผยผ่าน Broadcast ในบัญชีของเขาว่าตอนนี้ Instagram กำลังทดสอบ ให้ผู้ใช้งานเลือกแสดงผลหน้าฟีด โดยมีเฉพาะโพสต์จากบัญชี Meta Verified ที่ผู้ใช้บัญชีกลุ่มนี้ต้องยืนยันตัวตนและจ่ายเงินรายเดือน
เดิม Instagram มีทางเลือกให้แสดงผลฟีดสองรูปแบบคือ Following แสดงผลโพสต์บัญชีที่เราติดตามเรียงลำดับเวลา และ Favorites ที่แสดงผลบัญชีโปรดที่เรากำหนดไว้ก่อน
ในช่วงที่ผ่านมาแพลตฟอร์มของ Meta ทั้ง Instagram และ Facebook ต่างใช้วิธีแสดงโพสต์จาก Threads แพลตฟอร์มโซเชียลตัวใหม่ที่หวังแข่งขันกับ X หรือ Twitter เดิม โดยแทรกเข้ามาในฟีด ซึ่งเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการดึงคนเข้าไปใช้งาน
ทุกวิธีการในการดึงผู้ใช้งานย่อมมีคนที่ไม่ชอบใจ แม้วิธีการนี้ไม่ใช้ของใหม่ เช่น Reels ใน Instagram ก็เคยแสดงผลบน Facebook เช่นกัน ซึ่งล่าสุดบัญชีทางการของ Threads ก็โพสต์ว่าวิธีการดังกล่าวเพื่อทำให้คนเห็นคอนเทนต์ล่าสุดใน Threads ได้โดยตรงผ่าน Facebook และ Instagram อย่างไรก็ตามบริษัทก็รับฟังฟีดแบ็กจากทุกคนในเรื่องนี้
Adam Mosseri ซีอีโอ Instagram อัพเดตผ่าน Broadcast ของเขาว่า Instagram กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ ซึ่งอาจไม่ใหม่ที่อื่นแต่ใหม่ที่นี่ ผู้ใช้งานสามารถสร้างสติกเกอร์เพื่อใช้แปะใน Stories หรือ Reels ได้ จากรูปภาพในมือถือ หรือใช้รูปใน IG คนอื่นก็ได้ถ้าได้รับอนุญาต
วิธีการใช้งานก็คือเลือกสร้าง (Create) สติกเกอร์ จากนั้นเลือกรูปที่ต้องการ แล้วทำการลบพื้นหลัง ก็จะใส่สติกเกอร์ตัดขอบพร้อมแปะวางตามต้องการ
สถานะของฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในขั้นทดสอบ จึงอาจใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงเปิดให้ใช้งานทั่วไป
ที่มา: Engadget
Adam Mosseri ซีอีโอของ Instagram ตอบคำถามจากผู้ติดตามในสตอรี่ ซึ่งเป็นอีกครั้งที่เขาต้องตอบคำถามยอดฮิต "Instagram เวอร์ชัน iPad จะมาเมื่อไหร่?"
คำตอบของ Mosseri ไม่ต่างจากคำตอบในปี 2021 หรือ 2022 นั่นคือตอนนี้ยังไม่ได้ทำ พร้อมกับสร้างขวัญกำลังใจให้คนที่ยังรอว่า แต่ถ้ามีก็ดีหากถึงจุดหนึ่ง เพียงแต่ตอนนี้มีฟีเจอร์ใหม่ที่เขามองว่าสำคัญมากกว่าที่ต้องทำ
เป็นไปได้ว่าสิ่งสำคัญกว่าของ Mosseri ตอนนี้อาจเป็นแอป Threads ที่ตอนนี้ก็ไม่มีเวอร์ชันบน iPad เช่นกัน ขณะที่ X/Twitter มีแอปบน iPad นานแล้ว
Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram เปิดเผยว่าตอนนี้ Instagram กำลังทดสอบให้ผู้ใช้งานแชร์ Stories แบบกำหนดคนมองเห็นได้เป็นกลุ่มย่อย ๆ ตามที่กำหนด คล้ายกับ Facebook Lists
ปัจจุบัน Instagram Stories สามารถกำหนดค่าการแชร์แบบจำกัดได้เฉพาะวงเขียว Close Friends การเพิ่ม List กลุ่มย่อยที่กำหนดเองได้เพิ่มเติมน่าจะทำให้ผู้ใช้งานควบคุมความเป็นส่วนตัวได้มากยิ่งขึ้น
Mosseri ประกาศการทดสอบฟีเจอร์นี้ผ่าน Broadcast ของเขา และถามผู้ติดตามว่าถ้ามีฟีเจอร์นี้จะใช้กันหรือไม่ ดังนั้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าระบบ List จะเปิดใช้งานทั่วไปหรือไม่
Meta ประกาศเพิ่มความสามารถด้าน AI ช่วยสร้างเนื้อหา หรือ Generative AI สำหรับระบบโฆษณา Ads Manager เพื่อปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ตลอดจนช่วยลดเวลาในการทำงาน
ฟีเจอร์ด้าน GenAI ที่ประกาศได้แก่
The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องระบุว่า Meta ได้นำเสนอรายละเอียดต่อหน่วยงานกำกับดูแลของ EU ถึงการออกแพ็คเกจ Subscription ให้ผู้ใช้งานในภูมิภาค แลกกับการใช้งานแบบไม่มีโฆษณา โดยผู้ใช้ต้องจ่ายเงินประมาณ 10 ยูโรต่อเดือน (390 บาท) และคิดราคาเพิ่มอีก 6 ยูโรต่อบัญชีที่พ่วงเพิ่มเติมเข้ามา ราคานี้จะปรับเพิ่มขึ้นหากสมัครผ่านแอปมือถือ เนื่องจากต้องจ่ายส่วนแบ่งให้แอปเปิลหรือกูเกิล
Meta เปิดตัวเครื่องมือตกแต่งแก้ไขรูปภาพด้วย Generative AI สำหรับทุกแพลตฟอร์มทั้ง Instagram, Facebook, WhatsApp และ Messenger
เครื่องมือแรกคือการแก้ไขรูปภาพสำหรับลง Instagram มีสองฟีเจอร์คือ Restyle โดยป้อน prompt สไตล์ของภาพที่ต้องการ และ Backdrop สำหรับตัดต่อใส่ฉากหลังให้กับภาพตามต้องการ
เครื่องมืออีกชุดคือสติกเกอร์ AI สามารถใช้งานได้ทั้งใน Facebook Stories, Instagram Stories, Instagram DM, Messenger และ WhatsApp สามารถสร้างสรรค์สติกเกอร์ได้ตาม prompt ที่ระบุ เทคโนโลยีนี้ Meta บอกว่าใช้โมเดล Llama 2 และ Emu ในการรับข้อมูลและสร้างสรรค์ภาพวาดขึ้นมา
Meta เปิดตัวบริการขายเครื่องหมายติ๊กถูก Meta Verified for Businesses สำหรับองค์กรภาคธุรกิจบน Facebook และ Instagram ในราคา 21.99 ดอลลาร์ต่อโซเชียลต่อเดือน หากต้องการทั้ง Facebook และ Instagram มีราคาเหมา 34.99 ดอลลาร์ต่อเดือน
Meta Verified for Businesses เป็นส่วนต่อขยายจาก Meta Verified สำหรับบุคคลทั่วไป ที่ราคา 11.99 ดอลลาร์ จ่ายเงินแล้วได้ยืนยันตัวตนว่าเป็นธุรกิจนั้นจริงๆ ไม่ถูกสวมรอย, มีบริการเฝ้าระวังการสวมรอยจากบัญชีชื่อแบบเดียวกัน, สามารถติดต่อฝ่ายซัพพอร์ตที่เป็นมนุษย์ได้โดยตรง, แสดงอยู่ในพื้นที่เด่นชัดบนผลการค้นหา และมีแนะนำให้ติดตามบน feed ด้วย
Instagram กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้แชร์โพสต์ในฟีดเฉพาะกลุ่ม Close Friend โดยสามารถกดเลือก Audience ให้เป็น Close Friends ตอนกำลังจะโพสต์รูปผ่านฟีด แต่ฟีเจอร์นี้เปิดให้ทดสอบใช้ในบางประเทศและบางคนเท่านั้น
ทางบริษัทแพลตฟอร์มบอกว่า หากฟีเจอร์แชร์โพสต์ฟีดกับเพื่อนตอบโจทย์ผู้ใช้ มันจะช่วยลดปัญหาของการสร้างบัญชี Finsta (ย่อมาจาก Fake Instagram) หรือบัญชีแอคหลุม
มีรายงานจาก The New York Times ว่า Meta กำลังพิจารณาออกแพ็คเกจ Subscription สำหรับประเทศกลุ่ม EU เพื่อลดปัญหาข้อขัดแย้งเรื่องการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้งาน และการแสดงผลโฆษณา โดยแพ็คเกจนี้เมื่อผู้ใช้งานจ่ายเงินแพลตฟอร์มของ Meta ทั้ง Facebook, Instagram จะไม่แสดงโฆษณาเลย
ปัจจุบัน Meta เปิดให้ผู้ใช้ใน EU สามารถเลือกปิดการติดตามข้อมูลผู้ใช้งานสำหรับแสดงโฆษณาแบบ Opt-out และเตรียมเปิดการตั้งค่านี้เป็น Opt-in ไปเลย
ที่ผ่านมาไอร์แลนด์ได้สั่งปรับ Meta 1.3 พันล้านดอลลาร์ จากสาเหตุมีการส่งออกข้อมูลผู้ใช้ในประเทศออกไปอเมริกา ผิดเงื่อนไข GDPR ซึ่งส่งผลให้ Meta ระมัดระวังในการให้บริการมากขึ้น
ข้อมูลนี้มาจาก Alessandro Paluzzi นักแกะโค้ดขาประจำ โดยเขาพบว่า Reels แพลตฟอร์มวิดีโอแนวตั้งของ Instagram กำลังทดสอบฟีเจอร์ให้ผู้ใช้งานอัปโหลดวิดีโอได้ความยาวสูงสุด 10 นาที ส่วนอีกภาพที่พบให้อัปโหลดได้ 3 นาที จากปัจจุบัน Reels อัปโหลดวิดีโอได้ 90 วินาที
ความยาวที่เพิ่มขึ้นของ Reels ทำให้แพลตฟอร์มใกล้เคียงกับ TikTok มากขึ้น โดยปัจจุบัน TikTok อัปโหลดวิดีโอได้สูงสุด 10 นาที และ 20 นาที สำหรับผู้ใช้งานที่จ่ายเงิน
ทั้งนี้ Meta และ Instagram ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข่าวดังกล่าว
ที่มา: The Verge
Meta ประกาศว่าเพื่อให้เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายดิจิทัล DSA ของคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งมีประเด็นสำคัญคือผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปหรือ EU ต้องสามารถปิดการใช้งาน (opt-out) ระบบแนะนำเนื้อหา (Recommendation) ที่เรียนรู้และปรับแต่งให้เข้ากับผู้ใช้งานแต่ละคนได้ โดย Meta จะเพิ่มตัวเลือกปิดการแนะนำเนื้อหามีผลกับ Reels, Stories และ Search ใน Facebook และ Instagram
Meta บอกว่าเมื่อผู้ใช้งานเลือกปิดระบบแนะนำ ฟีดจะเลือกเนื้อหามาแสดงโดยอิงตามบัญชีที่ติดตาม เรียงตามลำดับเวลาล่าสุดไปหาเก่าสุด ส่วนระบบ Search แสดงผลการค้นหาอิงตามคีย์เวิร์ดที่ป้อนเข้าไป โดยไม่มีการปรับแต่งผลลัพธ์อิงตามประวัติการใช้งานแต่ละคน
Jack Dorsey ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอ Twitter (ที่ตอนนี้กลายเป็น X แล้ว) โพสต์ข้อความใน X บอกว่าเขาได้ลบบัญชี Instagram ของตนเองแล้ว หลังใช้งานมา 12 ปี ซึ่งเขาเชื่อว่านี่เป็น 1 ใน 10 บัญชีแรกของแพลตฟอร์ม และเป็นนักลงทุนรุ่น Angel กลุ่มแรกด้วย
จากนั้นเขาก็ตั้งคำถามเพราะอยากรู้ว่า Instagram จะนำบัญชี @jack นี้ไปทำอย่างไรต่อ เมื่อมีคนมาสนทนาเพิ่มเติม Dorsey ก็บอกว่าตอนนี้เขาไม่มีทั้งบัญชี Facebook และ WhatsApp ตอนนี้จึงเป็นคนที่ Meta-free ไปแล้ว
Elon Musk เจ้าของ X ก็มาตอบโพสต์ดังกล่าวว่า 🔥
Adam Mosseri ซีอีโอ Instagram โพสต์ใน Threads ว่าเขาเปลี่ยนมาลองใช้มือถือจอพับ Google Pixel Fold ดูว่าจะเป็นอย่างไร
เขายังบอกว่าทราบดีเรื่องแอพ Instagram และ Threads ที่เขารับผิดชอบอยู่นั้นยังไม่รองรับการใช้งานบนมือถือจอพับ (ซึ่งถือเป็นสัญญาณอันดีว่าเราน่าจะเห็นการปรับปรุงส่วนนี้ในอีกไม่ช้า)
ที่มา - Adam Mosseri
โดยปกติแล้วผู้ใช้งาน Instagram Stories สามารถกดซูมภาพเข้าออกได้เพียงแค่เลื่อนนิ้วขึ้นลง ตรงปุ่มถ่ายบนหน้าจอ แต่ตอนนี้ผู้ใช้หลายคนพบปัญหา ขณะที่กดซูมเข้าเพียงนิดเดียว ภาพที่ได้กลับซูมมากกว่าปกติและไม่สามารถกดซูมออกได้ ซึ่งส่วนใหญ่พบปัญหาบน iPhone รุ่นที่เป็น iOS16 และ iOS 17 เบต้า ยังไม่พบในระบบ Android
Instagram ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายรายการในการนำเพลงมาใส่ในโพสต์ ซึ่งผู้ใช้งานหลายคนอาจได้ใช้มาระยะหนึ่งแล้ว
ฟีเจอร์แรกคือการใส่เพลงเข้ามาในโพสต์รูปภาพที่เป็นอัลบั้ม (Carousel) ซึ่ง Instagram บอกว่าช่วยให้แสดงมู้ดโทนของชุดรูปภาพได้ดีขึ้น
ถัดมาเป็น Collab ที่โพสต์สามารถแชร์ไปยังฟีดของคนที่ติดตามแต่ละบัญชีได้พร้อมกัน โดยในหนึ่งโพสต์สามารถเพิ่มเพื่อนมา collab กันได้อีก 3 คน (รวมเป็น 4) ซึ่งรองรับแม้กรณีเป็นบัญชี Private
สุดท้ายเป็นฟีเจอร์สำหรับศิลปินครีเอเตอร์ โดยสามารถสร้างสติกเกอร์ชาเลนจ์ใน Reels และให้แฟน ๆ ผู้ติดตามตอบกลับ ซึ่งครีเอเตอร์สามารถเลือกคลิปที่ถูกใจมาแสดงเป็น Creator Pick ได้
Straits Times รายงานอ้างอิง The Times of India (TOI) ว่าคู่สามีภรรยาในรัฐเบงกอลตะวันตก ประเทศอินเดียถูกกล่าวหาว่า ขายลูกชายวัย 8 เดือน เพื่อซื้อ iPhone 14 มาทำ Instagram Reels
ตำรวจได้จับหญิงชาวอินเดียถูกระบุชื่อว่า Sathi ส่วนผู้ชายชื่อ Jaydev ยังคงหลบหนีอยู่ ในรายงานกล่าวว่าเพื่อนบ้านเริ่มสงสัยพบว่าลูกชายของทั้งคู่วัย 8 เดือน เหมือนจะหายไป ทั้งสองตอบเพียงว่าทิ้งลูกไว้กับญาติและดูไม่มีท่าทีเครียดเมื่อถูกถามเลย
ความผิดปกติเริ่มมากขึ้น เมื่อเพื่อนบ้านเริ่มสังเกตเห็นว่าทั้งสองมี iPhone 14 ทั้งที่ทั้งคู่ไม่มีเงินมากพอที่จะสามารถซื้อสมาร์ตโฟนในราคาสูงขนาดนี้ได้ ซึ่งราคาอย่างต่ำในอินเดียอยู่ที่ 100,000 รูปี (41,980 บาท) และในขณะเดียวกันก็พบว่าทั้งคู่ก็เริ่มทำ Instagram Reels