Marissa Mayer อดีตซีอีโอยาฮูและผู้บริหารกูเกิล ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพชื่อ Sunshine เมื่อ 6 ปีที่แล้ว โดยมีแอปหลักคือแอปจัดการรายชื่อผู้ติดต่อ Sunshine ชื่อเดียวกับบริษัท ล่าสุด Mayer แอปใหม่ที่หน้าตาอาจทำให้รำลึกความหลังกันได้
แอปนี้ชื่อว่า Shine by Sunshine ตอนนี้มีเฉพาะบน iOS การทำงานของแอปคือไว้อัปโหลดและแชร์รูปถ่ายให้กับเพื่อนหรือกลุ่ม โดยสร้างเป็นอัลบั้มที่ระบุเวลาและสถานที่ เพื่อแก้ pain point ที่รูปตามงานเลี้ยงหรือพบปะกลุ่ม มักถูกแชร์ให้กันลำบากหรือไม่ครบ ซึ่ง Shine จะเข้ามาแก้ปัญหานี้
Marissa Mayer อดีตซีอีโอยาฮู ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกหลังออกจากตำแหน่งกับ The New York Times เนื้อหาการสนทนาพูดถึงตั้งแต่สมัยที่ทำงานอยู่กูเกิล ในฐานะพนักงานลำดับที่ 20 มาจนถึงการรับบทบาทใหม่ที่ยาฮู ซึ่งจบลงด้วยการขายกิจการให้กับ Verizon ซึ่ง Mayer ย้ำว่าภูมิใจกับบทสรุปของยาฮู เพราะทุกฝ่ายล้วนได้ประโยชน์ที่ตนต้องการ
ปัจจุบัน Marissa Mayer ไม่ได้รับตำแหน่งในบริษัทใด โดยได้เช่าพื้นที่สำนักงานเดิมของกูเกิลแห่งแรกใน Palo Alto ซึ่ง Mayer เคยทำงานที่นี่มาก่อน ทำเป็นห้องวิจัยขนาดเล็กเรียกว่า Lumi Labs มีการพบปะกับผู้ก่อตั้งบริษัทต่างๆ เพื่อค้นหาไอเดียและปัญหาในธุรกิจเหล่านั้น
Marissa Mayer อดีตซีอีโอของ Yahoo! ได้ออกมาขอโทษถึงปัญหาการรั่วไหลของข้อมูลครั้งใหญ่ของบริษัทถึงสองครั้ง กระทบกับบัญชีผู้ใช้ Yahoo! ทั้งหมด ซึ่งเธอได้กล่าวอ้างว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังของการโจมตีครั้งนี้
Mayer กล่าวกับ Senate Commerce Committee ว่าในฐานะที่เป็นซีอีโอ เธอยอมรับว่าการขโมยที่เกิดขึ้นในสมัยที่เธอดำรงตำแหน่ง และเธอกล่าวขอโทษด้วยความจริงใจต่อผู้ใช้ Yahoo! ทุก ๆ คน อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบการโจมตีพบว่ามีทั้งจากแฮกเกอร์ไม่มีสังกัดและแฮกเกอร์ที่มีรัฐหนุนหลัง ซึ่งมีผู้ที่มีรัสเซียอยู่เบื้องหลังเจาะเข้ามาในระบบ และขโมยข้อมูลผู้ใช้ออกไป
อดีตซีอีโอยาฮู Marissa Mayer ได้ไปพูดในงานฟอรั่ม AccelerateHER ที่ลอนดอน โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งบอกว่า ตนเตรียมกลับไปใช้ Gmail เพราะว่าสามารถทำงานได้เร็วกว่า เพราะเป็นเครื่องมือที่ตนเป็นผู้ออกแบบเอง (Mayer เคยเป็นผู้ออกแบบ Gmail ตอนทำงานที่กูเกิล)
ข้อความดังกล่าวจึงถูกนำไปจุดประเด็นทันทีว่า Mayer คงเลิกใช้ Yahoo! Mail และกลับไปใช้ Gmail อย่างเป็นทางการ ซึ่งในเวลาต่อมา Mayer ได้ทวีตตอบโต้บอกว่าเนื้อหาส่วนนี้ถูกบิดเบือน เพราะเจตนาเป็นการพูดถึงการร่วมออกแบบ Gmail สมัยทำงานอยู่กูเกิล
ตำนานของ Yahoo! ได้สิ้นสุดอย่างเป็นทางการแล้วหลังผู้ถือหุ้นโหวตอนุมัติขายกิจการ โดย Verizon ได้ประกาศปิดดีลไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และซีอีโอ Marissa Mayer ก็ได้ประกาศลาออกจาก Yahoo! โดยได้รับเงินชดเชยอีก 23 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ Mayer ยังโพสต์ใน Tumblr เล่าถึงผลงานสำคัญในช่วง 5 ปี ของการเป็นซีอีโอ Yahoo! ยืนยันว่าได้พัฒนาสิ่งต่างๆ มากมาย และสร้างประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย
แผนการควบรวมระหว่าง AOL กับ Yahoo เป็นบริษัทใหม่ Oath เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดซีอีโอ Tim Armstrong ส่งบันทึกภายในถึงพนักงานของบริษัท ว่าคณะผู้บริหารของบริษัทใหม่จะมีใครบ้าง
ผู้บริหารของ Oath มีทั้งหมด 13 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารของ AOL และมีผู้บริหารจาก Yahoo เพียง 4 คนเท่านั้น ได้แก่ Jeff Bonforte, Simon Khalaf, Atte Lahtiranta, John DeVine
ส่วนผู้บริหารระดับสูงของ Yahoo เกือบทั้งหมดไม่อยู่ในแผนการของบริษัทใหม่ โดยเฉพาะซีอีโอ Marissa Mayer ที่จะรับทรัพย์ก้อนใหญ่ และซีเอฟโอ Ken Goldman ที่น่าจะประกาศลาออกหลังกระบวนการควบรวมกิจการเสร็จสิ้น
ยาฮูได้ส่งเอกสารรายงานเรื่องการขายกิจการหลักให้ Verizon แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งมีการเปิดเผยข้อมูลว่าซีอีโอ Marissa Mayer จะได้ผลตอบแทนหลังจบดีลนี้ถึงกว่า 186 ล้านดอลลาร์
รายละเอียดผลประโยชน์ของ Mayer นั้นคำนวณจากหุ้นยาฮูที่ถืออยู่ รวมไปถึงสัญญาออปชั่น และหุ้นจำกัดสิทธิ์ (restricted stock) โดยส่วนของหุ้นจำกัดสิทธิ์นั้น Mayer จะได้รับหุ้นส่วนนี้ทันทีที่ดีล Verizon ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้น (ซึ่งถึงนาทีนี้ก็คงไม่มีเหตุที่ดีลจะไม่สำเร็จแล้ว)
ถึงแม้การเข้ามาพลิกฟื้นยาฮูของ Mayer จะจบลงไม่สวยนัก แต่ในมุมของผู้ถือหุ้นก็อาจจะดี เพราะนับตั้งแต่ Mayer เข้ามาเป็นซีอีโอเมื่อปี 2012 ผ่านไป 5 ปี ราคาหุ้นยาฮูก็เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัว และตัวเลขนี้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งในการคำนวณผลประโยชน์ที่ Mayer ได้รับ
ในเอกสารนี้ยังระบุว่าบริษัทใหม่หลังขายธุรกิจหลักออกไปที่ชื่อ Altaba นั้นอาจพิจารณาขายหุ้นทั้งหมดของ Yahoo Japan มากกว่าที่จะขายหุ้น Alibaba (ซึ่งมีมูลค่าถึง 44,000 ล้านดอลลาร์) ออกมาหากจำเป็น และมีข้อมูลการถือหุ้นบริษัทอื่นอีกหลายแห่ง อาทิ Snap (มี 98 ล้านดอลลาร์), Hortonworks, SeatGeek และ Paperless
ชะตาชีวิตของ Yahoo หลังจากโดน Verizon ซื้อกิจการไป คือถูกนำไปรวมกับหน่วยธุรกิจ AOL (ที่ถูก Verizon ซื้อไปก่อนแล้วตั้งแต่ปี 2015) ในฐานะธุรกิจคอนเทนต์ออนไลน์ที่มีแบรนด์ย่อยๆ จำนวนมาก
วันนี้ Tim Armstrong ซีอีโอของ AOL ก็ประกาศร่างใหม่ AOL+Yahoo ในชื่อว่า "Oath" โดยจะเริ่มมีผลฤดูร้อน (กลางปี) 2017 นี้
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดอย่างเป็นทางการของ Oath ออกมา แต่คาดว่า Oath จะถูกใช้เป็นแค่ชื่อบริษัทเท่านั้น ส่วนแบรนด์สื่อออนไลน์ต่างๆ ทั้ง AOL, Yahoo และสื่ออื่นในเครือจะยังใช้ชื่อเดิม
Yahoo! ได้ส่งรายงานชี้แจงเรื่องการขายธุรกิจให้ Verizon ระบุว่าเมื่อ Yahoo! เหลือเฉพาะธุรกิจส่วนอื่น (หลักๆ ก็คือการถือหุ้น Alibaba) ซึ่งเตรียมเปลี่ยนชื่อเป็น Altaba แล้วนั้น ซีอีโอ Marissa Mayer จะออกจากตำแหน่งในบริษัทใหม่ โดยได้รับเงินชดเชยมูลค่ารวม 23 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งซีเอฟโอ Ken Goldman ก็จะออกจากตำแหน่งด้วยเช่นกัน
Altaba จะแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่คือ Thomas McInerney อดีตซีเอฟโอจาก IAC อย่างไรก็ตามรายงานนี้พูดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นของ Altaba เท่านั้น ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าธุรกิจ Yahoo! ส่วนที่เป็นของ Verizon นั้น จะให้ Mayer เป็นผู้บริหารต่อหรือไม่
ที่มา: Business Insider
John Thune และ Jerry Moran ซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายถึง Marissa Mayer อดีตซีอีโอของ Yahoo! (ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น Altaba) โดยเป็นคำถามเรื่องเกี่ยวกับข้อมูลที่รั่วไหลในช่วงปี 2013 และ 2014
ในจดหมายที่สมาชิกทั้งสองส่งให้ Mayer นั้น กล่าวว่าทางบริษัทไม่สามารถให้คำตอบกับคำถามพื้น ๆ เกี่ยวกับการรั่วของข้อมูลได้ และขอให้ Mayer ตอบคำถามทั้งหมดนี้ คือ
ดูเหมือนว่าข่าวลือ Verizon ล้มดีลซื้อ Yahoo จะไม่เกิดขึ้นจริง เพราะ Yahoo ยื่นเอกสารต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ขอเปลี่ยนชื่อบริษัทส่วนที่เหลือจากการขายทรัพย์สินให้ Verizon เป็น Altaba แล้ว
Eric Jackson ผู้บริหารเฮดจ์ฟันด์ SpringOwl ได้ส่งเอกสารนำเสนอความยาว 99 หน้า เสนอต่อบอร์ดบริหารยาฮู โดยสรุปว่ายาฮูสมควรเปลี่ยนตัวซีอีโอ Marissa Mayer ออกไป หลังจากยาฮูมีข้อสรุปให้ขายธุรกิจหลักออกไป และยังคงถือหุ้น Alibaba ต่อ ซึ่งเมื่อวัดมูลค่าหุ้น Alibaba ที่ถือครองแล้ว ธุรกิจหลักยาฮูแทบจะมีมูลค่าเป็นศูนย์
Jackson ได้ให้ข้อมูลประกอบเพื่ออธิบายปัญหาที่เกิดจาก Mayer ว่าไม่สามารถทำให้ตัวยาฮูเองมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาได้เลย โดยมีส่วนที่น่าสนใจดังนี้
สถานการณ์ของยาฮูในช่วงหลังเริ่มไม่ค่อยดีนัก ท่ามกลางข่าวผู้บริหารระดับสูงลาออกอย่างต่อเนื่อง และบริษัทก็ยังไม่มีแนวทางการพลิกฟื้นกิจการที่ชัดเจนนักว่าจะไปอย่างไร
ล่าสุดเว็บไซต์ Re/code ออกมาแฉเรื่องปาร์ตี้ฟุ่มเฟือยภายในบริษัท ที่นำโดยซีอีโอ Marissa Mayer เอง เธอนำทีมผู้บริหารแต่งแฟนซีเป็นตัวละครจากเรื่อง Wizard of Oz ในงานเลี้ยงของบริษัท (แน่นอนว่าเธอแต่งเป็นโดโรธี นางเอกของเรื่อง) และหมดเงินกับงานนี้ไป 70,000 ดอลลาร์ (ราว 2.5 ล้านบาท) แต่พนักงานบางส่วนกลับรู้สึกอับอายต่อเรื่องนี้
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เคยได้รับการสนับสนุนอย่างท้วมท้นจากบริษัทไฮเทคในซิลิคอนวัลเลย์ แต่งานประชุมด้านความมั่นคงไซเบอร์ที่รัฐบาลจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในวันนี้ (โอบามาบินมาพูดเอง รัฐมนตรีเข้าร่วมเพียบ และเชิญแขกสำคัญรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน) กลับไม่มีผู้นำโลกไอทีหลายคนเข้าร่วม
ตามรายงานข่าวบอกว่าบรรดาซีอีโอชื่อดัง Mark Zuckerberg, Marissa Mayer, Larry Page, Eric Schmidt ได้รับเชิญให้มางานนี้ แต่คนกลุ่มนี้ปฏิเสธไม่เข้าร่วมงานโดยตรง โดยส่งตัวแทนเป็นผู้บริหารฝ่ายความปลอดภัยของข้อมูลไปร่วมงานแทน
หนังสือ Marissa Mayer and the Fight to Save Yahoo ซึ่งเขียนโดย Nicholas Carlson เปิดเผยเรื่องราวของการเข้ามาทำหน้าที่ซีอีโอเพื่อกอบกู้ยาฮู โดย Carlson เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะช่วงแรกที่ Mayer เข้ามาทำงาน
ประเด็นหลังน่าจะช่วยสะท้อนวิธีทำงานในยาฮูภายใต้ Mayer ได้ดีพอสมควร
Reuters รายงานข่าววงในว่าผู้ถือหุ้นยาฮูรายใหญ่ (ระดับติด Top 10) อย่างน้อย 2 รายไม่พอใจผลงานของซีอีโอ Marissa Mayer และเริ่มหาทางออกโดยเสนอให้ AOL มาควบรวมกิจการกับยาฮู (เพราะมีธุรกิจใกล้เคียงกัน)
ตามข่าวบอกว่าผู้ถือหุ้นกลุ่มนี้ได้พบปะกับ Tim Armstrong ซีอีโอของ AOL เพื่อเสนอแนวคิดนี้แล้ว โดย Armstrong สนทนากับผู้ถือหุ้นด้วยดี และรับทราบข้อดีของการควบกิจการตามที่เสนอ แต่ก็บอกว่าการควบกิจการเกิดขึ้นจริงได้ยาก และทางฝั่งของ AOL ยังไม่เคยพูดคุยกับยาฮูในเรื่องนี้เลย
ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เปิดวิชาสตาร์ตอัพชื่อ How to Start a Startup (CS183B) ร่วมกับทีมจาก Y Combinator โครงการบ่มเพาะสตาร์ตอัพชื่อดัง จุดเด่นของคอร์สนี้คือรายชื่ออาจารย์ระดับซูเปอร์สตาร์ของวงการ คัดมาบางส่วนได้แก่
Eric Jackson ผู้ถือหุ้น Yahoo! และคอลัมนิสต์นิตยสาร Forbes ซึ่งเคยเป็นผู้สนับสนุนซีอีโอ Marissa Mayer ในช่วงที่เธอเข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ เริ่มเปลี่ยนท่าที โดยมองว่าผลงานของเธอตลอด 2 ปีที่ผ่านมาไม่มีอะไรคืบหน้า และตัดสินใจผิดหลายเรื่อง เขาจึงเขียนบทความตีแผ่ผลงานของ Mayer เป็นซีรีส์ ซึ่งมีประเด็นสำคัญดังนี้
ข้อมูลจาก Re/code รายงานว่า Marissa Mayer ซีอีโอ Yahoo! วางแผนลับให้แอปเปิลเปลี่ยน search engine หลักบน iOS จาก Google มาเป็น Yahoo! โดยรายงานกล่าวว่า Mayer ได้คุยกับผู้บริหารระดับสูงของแอปเปิลหลายคน เช่น Jonathan Ive หัวหน้าฝ่ายออกแบบแล้วด้วย
ปัจจุบัน Yahoo! เป็นแหล่งข้อมูลในการรายงานสภาพอากาศและตลาดหุ้นของ iOS 7 (ทั้งในแอพและ Notification Center) และฟังก์ชันบางอย่างของ Siri เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับกีฬา แต่ Yahoo! ยังไม่ได้เป็น search engine ค่าเริ่มต้นของแอปเปิล เนื่องจาก Siri ใช้ Bing ส่วน Safari ใช้ Google
Satya Nadella เพิ่งได้เป็นซีอีโอของไมโครซอฟท์ไม่นาน เขาก็มีแขกคนสำคัญคือ Marissa Mayer ซีอีโอของยาฮูที่เดินทางมาเยี่ยมเขาถึงถิ่น
ตามข่าวบอกว่า Mayer ให้คำแนะนำแก่ Nadella จากประสบการณ์การเป็นซีอีโอของเธอ (และต้องฟื้นกิจการของบริษัทเหมือนๆ กัน) แต่ประเด็นสำคัญที่ Mayer ต้องการคุยคือยาฮูอยากยกเลิกข้อตกลงเรื่อง search ที่เซ็นไว้กับไมโครซอฟท์ (ซึ่งมีระยะเวลา 10 ปี นับจากปี 2009)
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าฝั่งของไมโครซอฟท์มองอย่างไร แต่ซีอีโอทั้งสองคนก็มีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในฐานะคู่แข่ง เพราะ Mayer เคยเป็นคนคุม Google Search ในช่วงเวลาเดียวกับที่ Nadella คุม Bing
ในรอบ 1-2 ปีที่ผ่านมา เราเห็นข่าวยาฮูซื้อบริษัท startup น้อยใหญ่เป็นจำนวนมาก (ชนิดว่า Blognone ก็รายงานข่าวได้ไม่ครบ) แต่ถ้ามองย้อนหลังกลับไป จะเห็นจุดร่วมกันว่าในบรรดาบริษัทที่ Marissa Mayer ควักเงินซื้อมาทั้งหมด 38 แห่ง (ตัวเลข ณ วันนี้) มีบริษัทที่ปิดบริการเดิมของตัวเองไปแล้วถึง 31 บริษัท
เหตุผลของยาฮูนั้นชัดเจนว่าต้องการซื้อ "คนเก่ง" ไปเป็นพนักงาน เพื่อให้ศักยภาพพนักงานของยาฮูสูงขึ้นและสามารถต่อสู้กับคู่แข่งได้ (เพราะคนเก่งๆ สายเทคนิคในซิลิคอนวัลเลย์มักไม่สนใจไปทำงานกับยาฮู) ยาฮูจึงไม่สนใจบริการเดิมของบริษัทเหล่านี้มากนัก และสั่งปิดบริการเหล่านี้เพื่อให้ทีมงานได้เข้ามาร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ของยาฮูโดยตรงแทน
จากข่าวลือ Marissa Mayer เตรียมดันยาฮูคืนวงการค้นหา เว็บไซต์ Re/code ที่เกาะติดประเด็นนี้ก็มี "ข้อมูลใหม่" มารายงานอยู่เรื่อยๆ
ข้อมูลล่าสุดคือโครงการค้นหาของยาฮูจะอยู่บนแนวทาง 3S คือ "Stream, Shopping and Search" แต่จะเน้นการค้นหาบนอุปกรณ์พกพา และการค้นหาโดยอิงกับบริบท (contextual search) ซึ่งจะต่างไปจากการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดแบบที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (นับตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.) มีผู้ใช้งาน Yahoo! Mail จำนวนหนึ่งรายงานปัญหาว่าไม่สามารถเข้าใช้งานได้-เข้าใช้งานได้แต่ไม่มีเมลในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ยาฮูกลับตอบสนองต่อปัญหานี้ได้ช้าจนลูกค้าไม่พอใจเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดซีอีโอ Marissa Mayer ออกมาแถลงข้อมูลพร้อมคำขอโทษต่อผู้ใช้งานแล้ว เธออธิบายว่าระบบเซิร์ฟเวอร์ของยาฮูมีปัญหาฮาร์ดแวร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ประมาณ 1% ของผู้ใช้งานทั้งหมด (ตัวเลขผู้ใช้งานต่อเดือนก็สูงถึง 289 ล้านคน - ที่มา)
จากกรณีของโครงการ MASCULAR ที่มีความพยายามดักฟังข้อมูลที่ถูกส่งระหว่างศูนย์ข้อมูลโดยมีจำเลยเป็นกูเกิลและยาฮู ทางฝั่งของยาฮูได้ออกมาประกาศแผนการเข้ารหัสระหว่างศูนย์ข้อมูลแล้ว
Marissa Mayer ซีอีโอของยาฮูยังคงยืนยันผ่านบล็อกของยาฮูว่า ยาฮูไม่เคยอนุญาตให้มีการเข้าถึึงข้อมูลในศูนย์ข้อมูลไม่ว่าจาก NSA หรือจากหน่วยงานข่าวกรองใดๆ เลย กระบวนการนี้จะใช้การเข้ารหัสขนาด 2048 บิตและเสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคมปีหน้า และมีการเข้ารหัสในทุกๆ บริการด้วย
นิตยสารด้านธุรกิจอย่าง Fortune ได้เปิดเผยรายชื่อบุคคลในสายงานธุรกิจประจำปี 2013 ที่อายุน้อยกว่า 40 ปี จำนวน 40 คน ที่น่าจับตามองออกมาแล้ว โดยมีบุคคลในวงการไอทีที่ติด 3 อันดับแรกดังนี้ครับ