นอกจากการเปิดตัว Windows Phone 8.1 แล้ว ที่งาน BUILD 2014 ไมโครซอฟท์ยังนำเสนอชุด Office ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อการใช้งานแบบสัมผัสตั้งแต่แรกด้วย โดยเป้าหมายของบริษัทก็เพื่อนำเสนอประสบการณ์การใช้งาน Office ที่ไม่เกิดความผิดพลาดระหว่างการใช้งานแบบสัมผัสอีกต่อไป (unmistakeable Office experience)
เว็บไซต์ CNET พบว่า Office for iPad มีช่องโหว่ที่ทำให้ใครก็ได้สามารถใช้แอพได้เต็มรูปแบบถึงแม้จะไม่เป็นสมาชิก Office 365 ก็ตาม
โฆษกของไมโครซอฟท์ตอบข้อซักถามนี้กับ CNET ว่า บริษัทไม่จำกัดจำนวนแท็บเล็ตที่สามารถใช้งาน Office for iPad ได้ต่อหนึ่งบัญชี Office 365 เพราะเชื่อใจว่าผู้ใช้ยอมรับข้อตกลงว่าด้วยการอนุญาตสำหรับผู้ใช้ (EULA) แล้ว ตามข้อตกลงดังกล่าวผู้ใช้สามารถติดตั้งชุด Office บนเครื่องแมคหรือพีซีได้สูงสุด 5 เครื่อง และบนแท็บเล็ตได้สูงสุด 5 เครื่อง
หากใครดาวน์โหลด Office for iPad มาใช้งาน จะพบว่าแอพทั้งสาม (Word, Excel และ PowerPoint) ไม่มีฟังก์ชันสั่งพิมพ์ไฟล์เหมือนกับชุด Office บนแพลตฟอร์มอื่นอย่าง Mac OS X (แต่ผู้ใช้สามารถสั่งพิมพ์ไฟล์ได้ อาทิ ผ่านทาง AirPrint) เมื่อเว็บไซต์ PC World สอบถามโฆษกของไมโครซอฟท์ไปก็ได้รับคำตอบเพียงว่า บริษัทจะปรับปรุงแอพดังกล่าวเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
PC World สรุปว่า หากพิจารณาร่วมกับคำพูดที่ไมโครซอฟท์เคยกล่าวไว้ว่าบริษัทจะปรับปรุงแอพนี้ตามข้อเสนอแนะและความต้องการของลูกค้า อนาคตฟังก์ชันสั่งพิมพ์น่าจะถูกเพิ่มเข้า Office for iPad ครับ
เพียงหนึ่งวันหลัง Office for iPad เปิดตัว (รีวิวฉบับ Blognone) ซีอีโอ Satya Nadella ก็โพสต์ทวิตเตอร์ทันทีเมื่อแอพในกลุ่ม Office for iPad 3 ตัว และแอพใกล้เคียงอีก 1 ตัวคือ OneNote for iPad ขึ้นเป็นแอพยอดนิยม 4 อันดับแรกของ iPad App Store กลุ่มแอพฟรี
แอพที่ครองอันดับหนึ่งคือ Word for iPad ตามด้วย Excel, PowerPoint, OneNote ตามลำดับครับ
ที่มา - @satyanadella
ข่าวใหญ่ของวงการไอทีวันนี้คงหนีไม่พ้น Office for iPad ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของไมโครซอฟท์ยุคใหม่ใต้วิสัยทัศน์ Mobile-First Cloud-First
Office for iPad ยังไม่รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ และยังไม่เปิดให้ดาวน์โหลดจาก App Store ของประเทศไทย แต่เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญและใกล้ตัวผู้ใช้งานด้านไอทีจำนวนมาก Blognone จึงมาลองทดสอบการใช้งานกันแบบพรีวิวว่าเป็นอย่างไรบ้าง เหมาะกับการใช้งานจริงมากน้อยแค่ไหน
คำเตือน: รูปเยอะมากครับ
หลังจากไมโครซอฟท์เปิดตัว Office for iPad ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิลก็ทวีตต้อนรับสัตยา นาเดลลา ซีอีโอไมโครซอฟท์เข้าสู่โลก iPad และ Office for iPad เข้าสู่ App Store หลังจากนั้นนาเดลลาก็ทวีตขอบคุณคุก พร้อมระบุว่าตื่นเต้นมากที่นำโลกของชุด Office ไปสู่ผู้ใช้ iPad
ที่มา: @tim_cook, @satyanadella
ในงานเปิดตัว Office for iPad เมื่อคืนนี้ ซีอีโอ Satya Nadella ได้ขึ้นเวทีกล่าวถึง "วิสัยทัศน์ใหม่" ของไมโครซอฟท์ที่สรุปได้ว่า Mobile-First Cloud-First
Satya บอกว่า mobile กับ cloud ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เพราะถ้ามีแต่ mobile อย่างเดียว การใช้งานจะจำกัดมาก แต่ถ้ามีแต่ cloud อย่างเดียวก็ไม่สามารถดึงศักยภาพของมันได้อย่างเต็มที่ เมื่อรวมทั้ง mobile กับ cloud เข้าด้วยกัน ความมหัศจรรย์จึงเกิดขึ้น
ต่อเนื่องจากข่าวการเปิดตัว Office for iPad ไมโครซอฟท์ก็เลยขอสร้างกระแสด้วยการจัดโปรโมชันเอาใจเจ้าของ iPad กันสักเล็กน้อย
โดยโปรโมชันดังกล่าวนั้นก็ง่ายแสนง่ายครับ นั่นก็คือให้ผู้ใช้นำ iPad มาแสดงที่ร้าน Microsoft Store สาขาใกล้เคียงเท่านั้น เพียงเท่านี้คุณก็จะได้สิทธิ์การใช้งาน Office 365 ไปแบบฟรีๆ
แต่ทว่าของง่ายแบบนี้เงื่อนไขไม่ง่ายตามไปด้วย เพราะไมโครซอฟท์มีโควต้าเพียงแค่ 50 คนแรกของแต่ละสาขาเท่านั้นครับ ซึ่งโปรโมชันนี้จะเริ่มภายในวันนี้และสิ้นสุดโปรโมชันภายในวันอาทิตย์นี้ ใครที่อยู่ในประเทศที่มี Microsoft Store ตั้งอยู่ ก็อย่าพลาดโดยเด็ดขาดครับ
นอกเหนือจากการเปิดตัว Office for iPad ไมโครซอฟท์ยังประกาศเปิด Office Mobile สำหรับ iPhone และมือถือ Android ให้ใช้ฟรีทั้งอ่านและแก้ไขไฟล์แล้ว จากเดิมผู้ใช้ต้องเป็นสมาชิก Office 365 เท่านั้น
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Office for iPad อย่างเป็นทางการ นับเป็นแพลตฟอร์มที่สี่ต่อจากวินโดวส์, OS X, และเว็บ แอพพลิเคชั่นที่รองรับบน iPad ได้แก่ Word, Excel, และ PowerPoint โดยตัวแอพพลิเคชั่นสามารถแสดงไฟล์และแก้ไขไฟล์ได้ในตัว
จุดเด่นของแอพพลิเคชั่นในชุด เช่น
ไมโครซอฟท์รายงานบั๊ก Microsoft Word ทำให้แฮกเกอร์ที่ส่งไฟล์มุ่งร้ายสามารถเข้าควบคุมเครื่องได้จากการเปิดไฟล์ขึ้นมาดู โค้ดที่ฝังอยู่ในไฟล์ RTF จะมีสิทธิเท่ากับผู้ใช้ที่ล็อกอินอยู่
บั๊กนี้ยังไม่มีการอุดช่องโหว่ออกมา คำแนะนำระหว่างนี้คือปิดความสามารถในการเปิดไฟล์ RTF ของ Microsoft Word ไปชั่วคราวเพื่อรอแพตซ์ต่อไป, ส่งอีเมลหากันเป็นเท็กซ์, และเปิดใช้งาน Enhanced Mitigation Experience Toolkit ไปก่อน ระหว่างนี้ไมโครซอฟท์กำลังดูความเป็นไปได้ว่าจะปิดบั๊กตัวนี้อย่างถาวรได้อย่างไร โดยอาจจะออกแพตซ์ในรอบหน้าหรือออกแพตซ์นอกรอบ
ก่อนหน้านี้เราเห็นข่าวลือของไมโครซอฟท์ Office for iPad ออกมาเป็นระยะๆ แต่สุดท้ายก็ยังมีเพียง Office for iPhone และ Outlook for iPhone/iPad เท่านั้น
ล่าสุดไมโครซอฟท์เชิญสื่อมวลชนร่วมงานแถลงข่าวที่เน้นพูดถึงกลยุทธ์ "mobile first, cloud first" วันที่ 27 มี.ค. นี้ ทางเว็บไซต์ The Verge อ้างแหล่งข่าวว่าไมโครซอฟท์จะโชว์ Office for iPad ในงานนี้
The Verge คาดว่า Office for iPad จะคล้ายกับ Office for iPhone และผู้ที่ต้องการใช้จะต้องสมัครบริการ Office 365 ร่วมด้วย
วันนี้ไมโครซอฟท์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ตระกูล OneNote ชุดใหญ่ นอกจาก OneNote for Mac ที่เป็นแอพตัวใหม่แล้ว มีของใหม่ดังนี้ครับ
ตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้ วันนี้ไมโครซอฟท์เปิดตัวแอพจดโน้ต OneNote for Mac อย่างเป็นทางการ โดยสามารถดาวน์โหลดฟรีได้จาก Mac App Store ต้องใช้กับ OS X 10.9 ขึ้นไป
ความสามารถของ OneNote for Mac ก็ใกล้เคียงกับรุ่นพีซีมาก อินเทอร์เฟซใช้ Ribbon แบบเดียวกับ Microsoft Office ตัวอื่นๆ, ปรับแต่งโน้ตได้เต็มที่ทั้งฟอนต์และสี, แทรกภาพและตาราง, ระบบสมุดโน้ต, การแชร์โน้ตให้เพื่อน ฯลฯ
ก่อนหน้านี้ Office 365 รุ่นเช่าใช้ที่ถูกที่สุดคือ Office 365 Home Premium ที่คิดราคา 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน สามารถติดตั้งในพีซีได้สูงสุด 5 เครื่อง
แต่วันนี้ไมโครซอฟท์ประกาศ Office 365 Personal รุ่นสำหรับบุคคลทั่วไปที่ถูกกว่าเดิมลงไปอีก คือ 6.99 ดอลลาร์ต่อเดือน (230 บาท) หรือ 69.99 ดอลลาร์ต่อปี (2,300 บาท) สามารถติดตั้งบนพีซีหรือแมคได้ 1 เครื่อง และในแท็บเล็ตอีก 1 เครื่อง นอกจากนี้รุ่น Personal ยังได้พื้นที่ OneDrive เพิ่มอีก 20GB และเครดิตการโทรผ่าน Skype ได้ 60 นาทีต่อเดือน (เท่ากับรุ่น Home Premium)
ธรรมเนียมการออกรุ่น Microsoft Office ของไมโครซอฟท์คือจะออกรุ่นบนพีซีก่อน แล้วปีถัดมาจะออกเวอร์ชันบนแมคตามมา (เช่น Office 2010 กับ Office for Mac 2011)
ปีที่แล้วไมโครซอฟท์ออก Office 2013 สำหรับพีซีไปแล้ว และปีนี้บริษัทก็ยืนยันแล้วว่าจะออก Office for Mac รุ่นใหม่ (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะนับเป็น 2014 หรือ 2015) แน่นอน
เดิมทีไมโครซอฟท์เคยมี Mac Business Unit สำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์บนแมคแยกเฉพาะ แต่ก็ถูกยุบรวมกับทีมซอฟต์แวร์หลักในปี 2010 และนโยบายในปัจจุบันคือทีมผลิตภัณฑ์แต่ละตัว (เช่น Word) มีหน้าที่พัฒนาผลิตภัณฑ์เดียวกันบนหลายๆ แพลตฟอร์มแทน
ไมโครซอฟท์ควักเงิน 1.2 พันล้านซื้อ Yammer บริการโซเชียลภายในองค์กรไปเมื่อปี 2012 และทิศทางของไมโครซอฟท์ก็ชัดเจนว่าพยายามใส่ความเป็นโซเชียลเข้ามาใน Microsoft Office โดยใช้เทคโนโลยีจาก Yammer เป็นฐาน ที่ผ่านมาเราเห็นข่าวการเชื่อม Yammer กับบริการของไมโครซอฟท์อยู่เรื่อยๆ
คราวนี้ไมโครซอฟท์ไปไกลกว่าเดิมมาก โดยมองว่าการทำงานภายในองค์กรสมัยใหม่ต้องมีความเป็นโซเชียลระหว่างพนักงานและสารสนเทศมากขึ้น จึงเกิดเป็นแนวคิดชื่อ Office Graph (ในลักษณะเดียวกับ Facebook Open Graph) ขึ้นมาครอบการแลกเปลี่ยนไฟล์เอกสารในองค์กรขึ้นมาอีกที
ตอนที่ไมโครซอฟท์ออก Office 2013 ได้มีแนวคิดให้นักพัฒนาสร้างแอพหรือส่วนขยายด้วยเทคโนโลยี HTML5 เพื่อเพิ่มความสามารถของ Office ในด้านต่างๆ (ข่าวเก่า: ไมโครซอฟท์เผย Office Store สำหรับแอพของ Office 2013 และ SharePoint)
แต่วิสัยทัศน์ของไมโครซอฟท์ช่วงหลัง ไม่ได้มอง Office เป็นแค่โปรแกรมที่ติดตั้งในเครื่องพีซี (แบบ Office 2013) อีกต่อไป แต่มอง Office 365 เป็น "บริการ" ที่อยู่หลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นพีซี แมค อุปกรณ์พกพา และเว็บ
ผลิตภัณฑ์อีกตัวของไมโครซอฟท์ที่ประสบความสำเร็จมากในตลาดองค์กรคือ SharePoint ซึ่งล่าสุดไมโครซอฟท์จัดงาน SharePoint Conference 2014 ที่ลาสเวกัส เปิดตัว SharePoint Server 2013 Service Pack 1 (SP1) เรียบร้อยแล้ว
การเปลี่ยนแปลงของ SharePoint Server 2013 SP1 เน้นการแก้บั๊ก, ปรับปรุงเสถียรภาพ-ประสิทธิภาพ, รองรับมาตรฐาน SON Light และรองรับการทำงานร่วมกับบริการอื่นๆ ของไมโครซอฟท์เอง เช่น OneDrive for Business, Yammer
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังบอกว่าจะออก SharePoint รุ่นหน้าในปี 2015
ที่มา - Office Blogs
John Case ผู้บริหารด้านการตลาดให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ GeekWire เรื่องวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ของธุรกิจผลิตภัณฑ์ชุด Office ในตอนหนึ่งเขาได้กล่าวว่าแอพจดบันทึก OneNote เป็นตัวอย่างหนึ่งของการ "สร้างมูลค่าอย่างไม่น่าเชื่อ" ด้วยการสร้างแอพใหม่ที่ปัจจุบันมีคนนับล้านใช้อยู่ และบริษัทจะทำสิ่งต่างๆ ลักษณะนั้นมากกว่านี้ ทั้งรูปแบบเครื่อง (form factor) ที่แตกต่างและแอพที่แตกต่าง
หลังจากคาดการณ์กันว่าไมโครซอฟท์จะเปลี่ยนชื่อบริการ Office Web Apps ไปเป็น Office Online ตอนนี้ไมโครซอฟท์ก็ออกมายืนยันการเปลี่ยนชื่อบริการนี้อย่างเป็นทางการแล้ว
เหตุผลที่ไมโครซอฟท์เลือกเปลี่ยนชื่อบริการจาก Office Web Apps ไปเป็น Office Online ก็เพื่อลดความสับสนของลูกค้าจากการมีคำว่า Apps อยู่ในชื่อ ซึ่งทำให้เข้าใจว่าจะใช้บริการนี้ต้องลงแอพด้วย เพื่อให้เข้าใจว่าสามารถใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ได้ เพียงแค่ต่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้น จึงเปลี่ยนไปใช้คำว่า Online เพียงอย่างเดียวแทน จนกลายมาเป็นชื่อ Office Online ที่มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ก่อนหน้านี้เราเห็นข่าวลือของ Microsoft Office for iPad ออกมาเป็นระยะๆ แต่สุดท้ายไมโครซอฟท์ยังมีแค่ Office for iPhone และ Outlook for iPhone/iPad เท่านั้น (ทั้งสองตัวต้องสมัครบริการ Office 365 ด้วยจึงจะใช้งานได้)
ล่าสุด ZDNet รายงานข่าวใหม่ว่า ไมโครซอฟท์ยังซุ่มทำ Office for iPad อยู่ โดยใช้รหัสภายในว่า Miramar และมันน่าจะเปิดตัวได้ภายในครึ่งแรกของปี 2014 ก่อนหน้า Office Metro ที่มีรหัสว่า Gemini (ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สายหลักของ Office ในอนาคต) ด้วยซ้ำ
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Power BI (Business Intelligence) for Office 365 ชุดเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อภาคธุรกิจ โดยจะเป็นส่วนเสริมของเครื่องมือวิเคราะห์ตัวเลขที่ทุกคนคุ้นเคยอย่าง Excel
Power BI ประกอบด้วยส่วนเสริมของ Excel ในการวิเคราะห์ข้อมูล (query/pivot) ทำชาร์ท ทำแผนที่ visualization (เอนจินเดียวกับ GeoFlow) แต่ก็ยังเชื่อมโยงกับกลุ่มเมฆ ทั้งในแง่การแชร์ข้อมูลกับเพื่อนร่วมงานผ่าน Office 365, การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่บน Windows Azure และการสร้างรายงานที่สวยงามบนแอพ Windows 8 เพื่อนำเสนอ
เว็บไซต์ ZDNet รายงานว่า ในหน้าเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ Office มีการระบุผลิตภัณฑ์ Office Online ในฐานะเว็บแอพ Office เวอร์ชันฟรี แต่เมื่อคลิกลิงก์ดูรายละเอียดเพิ่มเติมกลับยังแสดงหน้าเว็บ Office Web Apps อยู่เช่นเดิม (ณ เวลาเขียนข่าวนี้ ไม่สามารถเข้าถึงหน้าเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์นั้นได้แล้ว)
ไมโครซอฟท์ประกาศอัพเดต Office Web Apps โดยในการปรับปรุงครั้งนี้จะเน้นที่การปรับหน้าตาของตัว Office Web Apps ให้เข้ากับการออกแบบสไตล์ Metro มากขึ้น (ภาพประกอบท้ายเบรก)
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่ ๆ ให้กับ Word Web App ให้ใกล้เคียงกับ Microsoft Word เวอร์ชันซอฟต์แวร์บนพีซีให้มากขึ้น อาทิ ระบบ Tell Me ที่สามารถค้นหาคำสั่งสำหรับการจัดการกับเอกสารได้, การแทรกหัวกระดาษและท้ายกระดาษ รวมถึงการปรับปรุงการแสดงผลของ รูปร่าง, กล่องข้อความ และ WordArt
ผู้ใช้สามารถใช้งาน Office Web Apps โฉมใหม่ได้แล้ววันนี้ที่ SkyDrive ครับ
ที่มา: Office Blogs