ไมโครซอฟท์เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ปฏิทิน Outlook แสดงมุมมองแบบ calendar board ทำให้เราสามารถจัดการ "งาน" ได้ในลักษณะเดียวกับโปรแกรมอย่าง Trello
ไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่า พฤติกรรมเรื่องการจัดตารางงานของคนเปลี่ยนไป งานส่วนตัวและงานที่ทำงานผสมปนเปกัน ตัวงานก็มีความซับซ้อนสูงขึ้น ทำให้ไม่สามารถแบ่งงานลงสล็อตปฏิทิน 30 นาทีได้แล้ว จึงออกแบบวิธีจัดการงานใหม่ แนวคิด board เป็นการจัดการงานแบบ free-form ที่ให้อิสระสูงกว่า ทั้งในแง่สล็อตเวลา และชนิดของงาน เช่น calendar, reminders, task lists, notes, files, links, goals
ฟีเจอร์นี้จะเริ่มเปิดใช้กับ Outlook for Web ก่อน แล้วค่อยขยายไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ในภายหลัง
หลังจากที่ไมโครซอฟท์ได้ปล่อยแอพ Microsoft Office ตัวใหม่ ที่เป็นการรวมฟังก์ชันของ Word, Excel และ PowerPoint เข้ามาอยู่ภายในแอพเดียว ให้ผู้ใช้ iPhone และ Android ได้ใช้งาน มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
ซึ่งแม้ว่าแอพเวอร์ชัน iOS ที่ออกมานั้นจะสามารถติดตั้งใช้กับแท็บเล็ตอย่าง iPad ได้เช่นกัน แต่ด้วยความที่ตัวแอพไม่ได้รับการปรับแต่งมาให้ใช้งานกับระบบปฏิบัติการ iPadOS ทำให้แอพ Office บน iPad ในขณะนั้นไม่สามารถใช้งานแบบเต็มจอได้
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Office แบบซื้อขาด (perpetual license) รุ่นใหม่ชื่อ Office 2021 ที่จะออกตัวจริงช่วงครึ่งหลังของปี 2021 นี้
ชื่อรุ่น Office 2021 ถือเป็นเซอร์ไพร์สเล็กน้อยเพราะไมโครซอฟท์ใช้ระบบออกรุ่นใหม่ทุก 3 ปีมาโดยตลอด (2007 > 2010 > 2013 > 2016 > 2019) แต่รอบนี้กลายเป็น 2 ปีแทน
ในแง่ฟีเจอร์ของ Office 2021 คงไม่มีอะไรเซอร์ไพร์สมากนัก เพราะ Office แบบซื้อขาดช่วงหลังใช้วิธีรวมฟีเจอร์จาก Office 365 ที่อัพเดตตลอดเวลา (คนใช้ Office 365 ได้ใช้กันนานแล้วค่อยรวมมาลงเวอร์ชันซื้อขาดเป็นระยะ)
Microsoft Office มี Dark Mode มาได้สักพัก แต่ข้อจำกัดคือสีโทนมืดเฉพาะแถบเครื่องมือเท่านั้น ตัวเอกสาร Word ยังสีขาวสว่างเหมือนธีมปกติ
ไมโครซอฟท์ปรับปรุงแก้ไขปัญหานี้แล้ว ธีม Black ตัวใหม่ปรับสีเอกสารให้เป็นสีโทนมืดด้วย วิธีการใช้งานให้เลือกจาก File > Account > Office Theme > Black เท่านั้นเอกสารจะเป็นสีโทนมืดทันที แต่ถ้ายังต้องการให้เอกสารสีขาวเหมือนเดิม ก็สามารถตั้งค่าได้จากหน้า Options เช่นกัน
ฟีเจอร์นี้ใช้ได้แล้วใน Microsoft Office Build 13518.10000 ตอนนี้ยังมีสถานะเป็น Beta Channel
ไมโครซอฟท์ประกาศรีแบรนด์ Office Lens แอปถ่ายภาพเพื่อใช้แปลงเป็นเอกสารใหม่เป็น Microsoft Lens มาพร้อมดีไซน์โลโก้ใหม่เป็นทรงกลมใหญ่ขึ้น และเพิ่มมิติไล่สีแดงดูมีพลัง
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังเพิ่มคุณสมบัติการสแกนเช่น การเรียงลำดับหน้าเอกสาร, การแก้ไขเอกสาร PDF, สามารถใช้ตัวกรองได้กับเอกสารทั้งหมด, สแกนเอกสารและรูปภาพได้ถึง 100 หน้า, การสลับไปมาระหว่างเอกสารในเครื่องและบนคลาวด์ การอัพเดตใหม่นี้มีผลทั้งผู้ใช้งาน Android และ iOS
ไมโครซอฟท์ออกอัพเดตแอปตระกูล Office เวอร์ชันบน iPad ซึ่งมีคุณสมบัติใหม่หลายรายการที่มีผู้ใช้งานรอคอยมานาน
รายละเอียดคุณสมบัติใหม่ที่สำคัญมีดังนี้
ที่มา: iMore
ไมโครซอฟท์ประกาศข่าว Microsoft 365 for Mac รองรับชิป Apple M1 แบบเนทีฟแล้ว ผู้ใช้เครื่องแมคที่เป็น Apple Silicon สามารถดาวน์โหลดอัพเดตได้จาก Mac App Store (ตัวแพ็กเกจเป็น Universal รันได้ทั้งบน Intel/M1)
แอพในชุดที่รองรับ M1 แล้วคือ Outlook, Word, Excel, PowerPoint, OneNote ส่วน Microsoft Teams ตอนนี้รองรับการรันผ่าน Rosetta และเวอร์ชัน M1 จะตามมาในอนาคต
ไมโครซอฟท์ยังทยอยปรับหน้าตาของโปรแกรมในชุดให้เป็น Fluent UI แบบใหม่ที่เข้าธีมกับ Big Sur เริ่มจาก Outlook ที่เปิดตัวไปแล้ว รอบนี้เป็น Office Start หน้าจอเริ่มต้นของโปรแกรมในชุด
ไมโครซอฟท์ประกาศจะหยุดให้บริการ Office Lens แอพถ่ายภาพเพื่อใช้แปลงเป็นเอกสารเวอร์ชัน UWP พร้อมเตรียมถอดแอพออกจาก Microsoft Store ในวันที่ 31 ธันวาคมนี้
จากรายละเอียดที่ระบุไว้ในหน้าซัพพอร์ต การหยุดให้บริการข้างต้น จะส่งผลให้ฟีเจอร์ของแอพที่ต้องอาศัยบริการบนคลาวด์ อย่างการบันทึกภาพเข้าสู่ OneNote, Word, PowerPoint, หรือบันทึกภาพเป็นไฟล์ PDF ไม่สามารถใช้งานบน Windows 10 และ Windows 10 Mobile ได้อีกต่อไป
Google เผยฟีเจอร์ใหม่ ที่ช่วยให้แก้ไขเอกสารของ Microsoft Office ได้จาก Google Drive เลย จากเดิมที่ต้องกดเพื่อแสดงตัวอย่าง แล้วจึงกดแก้ไขได้ จากนี้ไป ผู้ใช้สามารถกดดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ .docx, .doc, .ppt, .pptx, .xls, .xlsx, .xlsm แล้วเข้าเอกสารเพื่อทำการแก้ไขได้เลย
ไมโครซอฟท์ประกาศหยุดซัพพอร์ต Office 2010 และ Office 2016 for Mac อย่างเป็นทางการ หลังจากนี้จะไม่มีแพตช์ความปลอดภัย แพตช์แก้บั๊ก และบริการสนับสนุนหลังขายอีกต่อไป
องค์กรที่ใช้ระบบอีเมลหรือเอกสารผ่าน Exchange Online หรือ SharePoint Online จะไม่ได้รับการันตีว่าจะใช้งานกับ Office 2010 ได้ราบรื่น ไมโครซอฟท์บอกว่าจะไม่บล็อคการเชื่อมต่อกับ Office 2010 แต่หากบริการออนไลน์มีอัพเดตในอนาคต ก็จะไม่ทดสอบกับ Office 2010 อีกแล้ว
ไมโครซอฟท์แนะนำให้ย้ายไปใช้ Office 2019 (ทั้งแมคและพีซี) หรือ Microsoft 365 แทน
ปกติแล้ว ไมโครซอฟท์มีระยะเวลาซัพพอร์ต Office นาน 10 ปี ดังนั้นเวอร์ชันหน้า Office 2016 จะหมดระยะซัพพอร์ตในเดือนตุลาคม 2025
ช่วงหลังเราเห็นไมโครซอฟท์ทุ่มให้กับ Office 365 แบบสมัครสมาชิก (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft 365 แล้ว) จนหลายคนเริ่มเกิดคำถามว่า Office แบบไลเซนส์ซื้อขาด (perpetual) ของเดิมจะยังทำต่อหรือไม่ หรือหยุดที่ Office 2019 แค่นั้น
ในงาน Ignite 2020 ไมโครซอฟท์ยืนยันว่าจะยังออก Office แบบไลเซนส์ซื้อขาดต่อไปทั้งบนพีซีและแมค โดยเวอร์ชันหน้าจะออกช่วงครึ่งหลังของปี 2021 (ซึ่งก็คาดเดาได้ว่า น่าจะใช้ชื่อ Office 2022 แม้ยังไม่ประกาศชื่ออย่างเป็นทางการในตอนนี้)
ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ให้ Microsoft Word สามารถแปลงเสียงพูดหรือไฟล์เสียงทั้งไฟล์เป็นข้อความได้แล้ว (Transcribe)
Word รองรับการสั่งพิมพ์ข้อความด้วยเสียง (Dictate) มานานแล้ว แต่ต้องเปิดโหมด Dictate แล้วสั่งพิมพ์เป็นประโยคๆ ไป ฟีเจอร์ Transcribe ต่างออกไป เพราะสามารถพูดยาวๆ แบบไม่ต้องหยุดแล้วค่อยมาสั่งแปลงเป็นข้อความทีหลัง หรือจะอัดเสียงไว้ล่วงหน้าแล้วค่อยมาอัพโหลดให้แปลงเป็นข้อความก็ได้ (รองรับไฟล์ .mp3, .wav, .m4a, .mp4 ขนาดไม่เกิน 200MB)
ฟีเจอร์ Transcribe ยังรองรับเสียงพูดที่เป็นการสนทนาแบบหลายคน โดยสามารถแยกแยกเสียงของแต่ละคนเป็น Speaker 1, Speaker 2, ... ได้ด้วย จึงเหมาะกับการถอดเทปการประชุมที่มีคนพูดหลายคน
Office 2016 สำหรับแมคจะหมดระยะซัพพอร์ตในวันที่ 13 ตุลาคม 2020 นี้ จะส่งผลให้ไม่สามารถใช้งาน Office 365 กับ Office 2016 ได้อีกต่อไป ทำให้หากต้องการใช้ร่วมกับ Office 365 จะต้องเปลี่ยนไปใช้ Office 2019 หรือ Microsoft 365 แทน ซึ่งสำหรับ Office 2019 จะหมดระยะซัพพอร์ตในปี 2023
อย่างไรก็ตามยังสามารถใช้งาน Office 2016 สำหรับแมคนี้ต่อไปได้ แต่จะไม่ได้รับอัพเดตใหม่จากไมโครซอฟท์ รวมถึงอัพเดตด้านความปลอดภัยด้วย
ไมโครซอฟท์ประกาศปรับรูปแบบโครงการทดสอบ Windows Insiders และ Office Insiders เล็กน้อย จากเดิมที่แบ่งกลุ่มผู้ทดสอบโดยเรียกเป็น "Ring" แยก 3 กลุ่มคือ Fast, Slow, Release Preview เปลี่ยนมาใช้ชื่อเรียกว่า "Channel" แทน
ชื่อเรียก Channel แบบใหม่ของไมโครซอฟท์ใช้คำว่า Dev, Beta, Release Preview คล้ายกับที่เราคุ้นเคยในวงการเบราว์เซอร์ (เช่น Chrome หรือ Firefox และรวมถึง Edge)
ปัญหาที่พบบ่อยในโลกของเอกสารคือ ได้ตารางข้อมูลมาเป็นไฟล์ PDF ที่นำไปแก้ไขต่อได้ยาก ไมโครซอฟท์รับฟังปัญหานี้ และเพิ่มฟีเจอร์ Import from PDF เข้ามาใน Excel แล้ว
ฟีเจอร์นี้จะอยู่ในปุ่ม Get Data > From File ที่เดิมทีสามารถนำเข้าข้อมูลจาก Excel, CSV, XML, JSON และล่าสุดเพิ่มไฟล์ PDF เข้ามา
ตอนนี้ผู้ที่ใช้ได้ยังต้องเป็นผู้ทดสอบ Office Insider เท่านั้น คาดว่าไมโครซอฟท์จะอัพเดตให้ผู้ใช้ทั่วไปในเดือนมิถุนายนนี้ (เลขเวอร์ชันเป็น Excel v2006)
ฟีเจอร์อื่นที่เพิ่มมาใน Office v2006 คือ แสดงภาพ GIF เป็นแอนิเมชันแล้ว (เลือกปิดได้) จากเดิมที่แสดงเป็นภาพนิ่งอย่างเดียว, PowerPoint รองรับ Surface Earbuds และหน้าจอเซฟไฟล์ของ Office สามารถปักหมุดโฟลเดอร์ที่ใช้บ่อยๆ ได้แล้ว
ปีที่แล้วไมโครซอฟท์โชว์ Fluid Framework เอนจินสำหรับแก้ไขเอกสารร่วมกันเป็นทีม (ลักษณะเดียวกับ Google Docs แต่สเกลของไมโครซอฟท์ใหญ่กว่า คือฝังเอกสารลงในโปรแกรมอื่นได้ด้วย แล้วแก้จากตรงนั้นได้เลย)
ปีนี้ไมโครซอฟท์ประกาศเริ่มใช้งาน Fluid Framework กับ Outlook for Web และ Office.com เป็นที่แรก ตัวอย่างการใช้งานคือเราสามารถฝังตาราง Excel หรือข้อความ Word ลงในอีเมล Outlook แล้วแก้ไขแบบเรียลไทม์ร่วมกับเพื่อนร่วมงานได้เลย
Fluid Framework ใน Outlook for Web กับ Office.com จะเปิดให้ใช้งานในเร็วๆ นี้ ขั้นถัดไปจะใช้ได้ใน Microsoft Teams และแอพ Office บนอุปกรณ์พกพา และไมโครซอฟท์ยังประกาศว่าจะโอเพนซอร์ส Fluid Framework เพื่อให้นักพัฒนาแอพรายอื่นๆ สามารถใช้ฟีเจอร์แบบนี้ได้ด้วย
Office 365 เปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft 365 เรียบร้อยแล้วตามที่ประกาศไว้ โดยมีผลกับผู้ใช้คอนซูเมอร์ และธุรกิจขนาดเล็ก (SMB)
ภาพรวมไม่มีอะไรเปลี่ยนนอกจากชื่อ เพราะยังคงแพ็กเกจราคาเท่าเดิม (สำหรับผู้ใช้ทั่วไปคือ Personal ปีละ 2,099 บาท และ Family ปีละ 2,899 บาท) แอพกลุ่ม Office ทั้งหมดยังใช้ได้เหมือนเดิม ส่วนแอพ Family Safety และ Microsoft Teams สำหรับคอนซูเมอร์ ที่ประกาศไว้ว่าจะเพิ่มเข้ามาใน Microsoft 365 เวอร์ชันคอนซูเมอร์ ยังต้องรออีกสักระยะหนึ่ง
Microsoft Word มีฟีเจอร์ช่วยแนะนำการเขียน (Rewrite Suggestions) มาได้สักระยะแล้ว แต่ยังจำกัดเฉพาะ Word เวอร์ชันเว็บเท่านั้น และยังจำกัดการแก้ไขในระดับวลี (phrase)
ล่าสุดไมโครซอฟท์โชว์ Rewrite Suggestions เวอร์ชันอัพเกรด โดยสามารถแก้ได้ระดับประโยค (sentence) และมาครบตั้งแต่การตรวจสะกด, ตรวจไวยากรณ์, เรียงคำในประโยคใหม่, แนะนำคำอื่นที่มีความหมายคล้ายกัน หรืออาจใช้คำที่สั้นกว่าเดิมให้ประโยคกระชับขึ้น ขึ้นกับรูปแบบการใช้งานที่ผู้ใช้ต้องการ
วิธีการใช้งานเพียงแค่คลิกขวาประโยคที่ต้องการ แล้วเลือก Rewrite Suggestions ระบบจะแนะนำวิธีการเขียนประโยคใหม่มา 3 แบบที่แตกต่างกัน
เราเห็นข่าว ไมโครซอฟท์ต่ออายุซัพพอร์ต Windows 10 บางรุ่นให้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อลดภาระแอดมินองค์กรไม่ให้ต้องมาอัพเกรดเครื่องในยุค work from home
แต่พอถึงคิวของ Office 2010 และ Office 2016 for Mac ที่จะหมดระยะซัพพอร์ตในเดือนตุลาคม 2020 ไมโครซอฟท์ยังยืนยันวันหมดอายุเดิม ไม่ขยายต่อให้ ผู้ใช้ยังสามารถใช้ Office ทั้งสองเวอร์ชันได้ตามปกติ แต่จะไม่มีแพตช์ความปลอดภัย แพตช์แก้บั๊ก และบริการซัพพอร์ตทางเทคนิคให้อีกแล้ว
ไมโครซอฟท์แนะนำให้ลูกค้าอัพเกรดไปใช้ Office 2016, Office 2019 หรือ Office 365 ProPlus แทน หากยังจำเป็นต้องใช้ไลเซนส์แบบซื้อขาดเหมือนของเดิม
ในยุคสมัยที่ทำเอกสารแล้วต้องรูปสวยไว้ก่อน และการค้นหารูปเอาเองในอินเทอร์เน็ตอาจเจอปัญหาลิขสิทธิ์ ล่าสุด Microsoft Office จึงเพิ่มฟีเจอร์แทรกรูป Stock Image คุณภาพสูงที่ไม่ติดปัญหาลิขสิทธิ์มาให้
รูปที่ไมโครซอฟท์เตรียมไว้ให้มีถึง 8,000 รูป ที่ครอบคลุมการใช้งานหลากหลายประเภท และไมโครซอฟท์ระบุว่าจะเพิ่มรูปใหม่ๆ เข้ามาอีกในอนาคต
ฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับทั้ง Word, Excel, PowerPoint, Outlook โดยเริ่มเปิดให้ใช้แล้วในกลุ่มผู้ทดสอบ Office Insiders (Fast ring) วิธีใช้งานคือเลือกเมนู Insert > Pictures ตามปกติ โดยจะมีเมนู Stock Images เพิ่มเข้ามาให้
Microsoft Editor เอนจินแก้ไขข้อความของไมโครซอฟท์ ที่มีฟีเจอร์ด้านการตรวจสะกด-ตรวจไวยากรณ์ขั้นสูง (แบบเดียวกับ Grammarly) เปิดให้ใช้งานบน Microsoft Edge และ Google Chrome แล้ว
หลายคนคงเคยใช้ Excel ทำตารางรายรับ-รายจ่ายของตัวเองกันมาบ้าง ปัญหาสำคัญที่สุดคือการกรอกข้อมูลของเราในตาราง Excel ที่ต้องทำด้วยมือทั้งหมด
ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Money in Excel ที่ช่วยให้เราสามารถดึงข้อมูลการเงินจากธนาคารและบัตรเครดิตมาใส่ Excel ได้อัตโนมัติ หากมีตารางเชื่อมข้อมูลอยู่แล้ว เพียงเรากดปุ่ม Update เราจะเห็นรายการธุรกรรมใหม่ๆ ไหลเข้ามายัง Excel ให้ทันที
ฟีเจอร์นี้เป็นความร่วมมือของไมโครซอฟท์กับ Plaid สตาร์ตอัพสายฟินเทคที่มีบริการเชื่อมต่อข้อมูลกับสถาบันการเงินอยู่แล้ว แต่ก็อย่างที่หลายคนคาดเดากันได้ บริการดีๆ แบบนี้จะเปิดให้เฉพาะผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาก่อนเพียงประเทศเดียว โดยยังไม่ระบุกรอบเวลาที่ชัดเจน
ไมโครซอฟท์ประกาศรีแบรนด์ Office 365 เป็น Microsoft 365 โดยจะมีผลในวันที่ 21 เมษายน 2020
แพ็กเกจ Microsoft 365 สำหรับคอนซูเมอร์คือ Personal รุ่นมาตรฐาน และ Family รุ่นครอบครัว ยังได้โปรแกรมตระกูล Office, สตอเรจ OneDrive 1TB, เครดิตการโทร Skype 60 นาทีเหมือนของเดิม สิ่งที่เพิ่มมาคือ ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย Microsoft Family Safety และ Microsoft Teams ที่เพิ่มเข้ามาในแพ็กเกจคอนซูเมอร์เป็นครั้งแรก
ราคาของ Microsoft 365 Personal ยังเท่าเดิมที่ 6.99 ดอลลาร์/เดือน และ Family ที่ 9.99 ดอลลาร์/เดือน (ใช้งานได้ 6 คนเท่าเดิม)
ไมโครซอฟท์ปล่อยแอป Microsoft Office: Word, Excel, PowerPoint & More ที่เป็นแอปรวม Word, Excel, PowerPoint อยู่ในแอปตัวเดียวให้กับผู้ใช้แอนดรอยด์ หลังก่อนหน้านี้ปล่อยให้เฉพาะกลุ่ม Office Insiders ทดสอบ
นอกจากการเปิดอ่านและแก้ไขไฟล์ทั้ง 3 ข้างต้นแล้ว ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่เพิ่มเข้ามาก็มีจดโน้ตด้วย Sticky Notes (ซิงก์กับ Sticky Notes บน Windows 10), สแกน text หรือตาราง, สแกนรูป, เซ็นเอกสาร PDF, สแกน QR, รับส่งไฟล์กับสมาร์ทโฟนหรือพีซี
จากข่าว Excel เปิดตัวฟังก์ชัน XLOOKUP อย่างเป็นทางการ ใช้แทน VLOOKUP และ HLOOKUP โดยเปิดให้กลุ่ม Office Insiders ลองใช้กันตั้งแต่ช่วงปลายปี
วันนี้ไมโครซอฟท์ประกาศว่า เปิดฟีเจอร์ XLOOKUP ให้ผู้ใช้งาน Excel เป็นการทั่วไปแล้ว (generally available) ทั้งเวอร์ชันบนวินโดวส์ แมค และเว็บ
ผมลองใน Excel เครื่องตัวเองที่เป็น Office 365 (เลขเวอร์ชันคือ 2002 หรืออัพเดตรอบเดือนกุมภาพันธ์ 2020) ก็พบว่าใช้งานได้แล้ว