Fitbit ประกาศว่าบริษัทเข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Coin สตาร์ทอัพด้านการชำระเงินที่พยายามทำบัตรใบเดียวแทนบัตรเครดิตและบัตรสมาชิกต่างๆ (universal card) อย่างเป็นทางการแล้ว (ว่าง่ายๆ คือซื้อไปเป็นบริษัทย่อย)
การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ จะมีผลกระทบกับผู้ใช้ Coin และนักพัฒนาที่อยู่บนแพลตฟอร์มดังกล่าว โดยโปรแกรมสะสมแต้มจูงใจของบัตรที่เรียกว่า Coin Rewards และโปรแกรมสำหรับนักพัฒนา Coin Developer Program จะปิดตัวลง ส่วนตัวอุปกรณ์จะใช้ได้ต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแบตเตอรี่ในบัตรหมดลง ส่วนอุปกรณ์ใหม่ก็จะไม่มีขายแล้ว
ด้าน Fitbit ระบุว่าจะไม่มีการรวมเอาเทคโนโลยีของ Coin เข้ามาอยู่ในผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้ครับ
บริการ Android Pay ประกาศเปิดบริการฝั่งอังกฤษอย่างเป็นทางการ โดยรองรับบัตรจากธนาคารหลักๆ เช่น Bank of Scotland, HSBC, First Direct ยกเว้น Barclays ที่มีบริการจ่ายเงินผ่านแอปของตัวเอง
นอกจากการจ่ายเงินผ่านจุดรับบัตรเครดิตแบบไม่ต้องสัมผัสแล้ว Android Pay ยังทำงานร่วมกับระบบจ่ายเงินของ Transport for London (TfL) ได้ทั้งระบบ ทำให้สามารถใช้โทรศัพท์จ่ายเงินค่ารถไฟฟ้าและรถเมลได้ทั่วลอนดอน ความสามารถเพิ่มเติม คือ หากลืมแตะบัตรออก ตัวแอปจะเตือนให้ด้วย เพื่อป้องกันผู้ใช้ถูกปรับ
ที่มา - ArsTechnica
MCX บริษัทร่วมทุนอันเกิดจากกลุ่มร้านค้าปลีกของสหรัฐฯ ที่รวมตัวกันเพื่อพัฒนาระบบการจ่ายเงิน CurrentC แข่งกับ Apple Pay และ Android Pay ที่ประสบชะตากรรมลุ่มๆ ดอนๆ มาตลอด แม้จะมีการเปิดทดสอบที่เมือง Columbus มลรัฐ Ohio ไปแล้ว ประกาศว่าจะเลื่อนการเปิดใช้อย่างเป็นทางการออกไปอีก พร้อมกับประกาศเลิกจ้างพนักงานกว่า 30 คน ซึ่งเท่ากับเกือบครึ่งหนึ่งของบริษัท
ในยุคที่บริษัทฮาร์ดแวร์มือถือขยับมาทำระบบจ่ายเงินกันถ้วนหน้า Xiaomi เป็นรายล่าสุดที่ออกมาประกาศตัว โดยจะจับมือกับ China UnionPay สมาคมบัตรจ่ายเงินของจีน เพื่อพัฒนาระบบการจ่ายเงินผ่านมือถือร่วมกัน
Xiaomi ระบุว่าจะใช้เทคโนโลยี NFC เพื่อให้จ่ายเงินสะดวกและปลอดภัย ก่อนหน้านี้ทั้งสององค์กรเคยร่วมกันพัฒนาระบบจ่ายเงิน UnionPay QuickPass ที่ใช้ NFC มาก่อนแล้ว
ตลาดการจ่ายเงินผ่านมือถือของจีน มี Alibaba และ Tencent ครองอยู่ แต่ก็มีผู้เล่นจากนอกประเทศอย่าง Apple Pay และ Samsung Pay พยายามรุกเข้ามาเช่นกัน
ช่วงนี้วงการ mobile payment ในบ้านเรากำลังร้อนแรง เมื่อวานเพิ่งมีข่าว Rabbit LINE Pay วันนี้ผู้เล่นรายใหญ่อีกรายคือ True Money ก็ออกมาประเมินสถิติการจ่ายเงินออนไลน์ในไทย ดังนี้
จากสภาพข้างต้น True Money มองว่าผู้บริโภคมีความต้องการซื้อสินค้าดิจิทัลสูง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นชายอายุ 13-22 ปี ที่ต้องการซื้อไอเทมในเกม แต่ยังมีผู้บริโภคจำนวนมากที่เข้าไม่ถึงช่องทางการจ่ายเงิน (เช่น ยังไม่มีบัตรเครดิต) จึงถือเป็นโอกาสของ True Money ในการขยายธุรกิจกระเป๋าเงินดิจิทัล (e-wallet) กับผู้บริโภคกลุ่มนี้
True Money ยังพบว่าสภาพการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศ AEC อื่นๆ ที่เข้าไปเปิดบริการ (ตอนนี้มี 6 คือ ไทย พม่า กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และเตรียมเปิดในลาวกับมาเลเซียเพิ่ม) โดยประเทศอาเซียนมีผู้ใช้บัตรเครดิตไม่ถึง 10% ของประชากร และผู้ใช้บริการธนาคารน้อยกว่า 80% ของจำนวนประชากร
วันนี้วงการชำระเงินของบ้านเราเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อ LINE Pay และบัตร Rabbit Pay ของบริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด (BSS) ในเครือรถไฟฟ้า BTS ประกาศเซ็นสัญญาร่วมทุน โดย BSS จะเข้าไปเพิ่มทุนให้กับบริษัท LINE Biz Plus Limited (ชื่อบริษัทของ LINE Pay) อีก 50% และเปลี่ยนชื่อบริการ LINE Pay เป็น Rabbit LINE Pay
การถือหุ้นใน LINE Biz Plus จะเป็นสัดส่วน 50:50 ระหว่าง BSS และ LINE เป้าหมายของการร่วมทุนครั้งนี้คือ Rabbit LINE Pay จะเป็นบริการชำระเงินที่มีทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน
ที่งาน Baselworld 2016 บริษัท Mondaine ผู้ผลิตนาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ที่ผลิตนาฬิกาข้อมือรูปทรงออกแบบเหมือนกับที่ใช้ในสถานีรถไฟของสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศเปิดตัวและแสดงการทดสอบระบบการชำระเงินใหม่ของตัวเองอย่างเป็นทางการ โดยเรียกว่า PayChip ซึ่งประกาศมาก่อนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
หลักการที่ใช้คือการติดตั้งระบบ NFC ไว้ที่สายนาฬิกา (คล้ายๆ กับ Cash by Optus) ใช้จ่ายเงินตามเครื่องที่รองรับระบบชำระเงินผ่าน NFC โดยทางบริษัทจะวางขายนาฬิกาที่ใช้เทคโนโลยีนี้ภายในปีนี้ ราคาของนาฬิกาจะเริ่มต้นที่ 200 ฟรังก์สวิส (ประมาณ 7,000 บาท)
หนึ่งในกระแสที่มาแรงในปัจจุบันคือการทำให้โทรศัพท์สามารถชำระเงินได้ผ่านบริการต่างๆ เช่น Android Pay, Apple Pay, Samsung Pay แต่บริการเหล่านี้มักจะจำกัดไว้กับโทรศัพท์บางรุ่น ซึ่งมีความพยายามจากหลายๆ บริษัทที่จะแก้ไขปัญหานี้ หนึ่งในนั้นคือ Optus ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของออสเตรเลียในเครือของ Singtel ที่มีบริการชำระเงินที่เรียกว่า Cash by Optus ที่ร่วมมือกับ Visa บริษัทด้านชำระเงินที่เข้ามาแก้ไขปัญหาลักษณะนี้
รีวิวนี้จะทดลองใช้บริการดังกล่าว โดยใช้โทรศัพท์ที่ไม่มีบริการ NFC ในการทดลองทำรายการ (ในรีวิวนี้ใช้ Oppo F1) เพื่อดูว่าแนวทางของ Optus และ Visa นั้นใช้ได้หรือไม่
กูเกิลเคยโชว์ Hands Free ระบบจ่ายเงินที่ยืนยันตัวตนด้วยเสียงพูด ไม่ต้องหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า มาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้ระบบ Hands Free เริ่มเปิดบริการแล้วแบบจำกัดพื้นที่ โดยใช้ได้กับร้าน McDonald’s และ Papa John’s ในย่าน South Bay ของรัฐแคลิฟอร์เนีย (ใกล้ๆ กับสำนักงานใหญ่ของกูเกิล)
ผู้ใช้จะต้องดาวน์โหลดแอพ Hands Free (มีทั้งบน Android/iOS) มาติดตั้งก่อน จากนั้นแอพจะตรวจสอบพิกัดจาก Bluetooth LE และ Wi-Fi ว่าอยู่ใกล้ร้านที่รองรับหรือไม่ เมื่อเราหยิบของไปที่แคชเชียร์ ก็ให้พูดว่า “I’ll pay with Google” เพื่อยืนยันคำสั่งซื้อโดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์เลย
ตลาดเทคโนโลยีการจ่ายเงินผ่านมือถือ หรือ Mobile Payment ที่แอปเปิลและกูเกิลบุกเบิกเข้ามาเป็นรายแรกๆ อาจไม่ราบรื่นอีกต่อไป เพราะต้องเจอกับคู่แข่งหน้าใหม่อย่างซัมซุงที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ มียอดผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 5 ล้านราย และมีมูลค่าการใช้จ่ายตั้งแต่เปิดตัวในอเมริกาเมื่อเดือนกันยายน กว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ
ซัมซุงประกาศตัวเลขผู้ใช้งาน Samsung Pay รอบ 6 เดือนหลังเปิดตัว ว่ามีผู้ใช้ที่ลงทะเบียนแล้ว 5 ล้านราย มีมูลค่าการจ่ายเงินในระบบรวมกันเกิน 500 ล้านดอลลาร์แล้ว
ที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งเปิดบริการ Samsung Pay ในสองประเทศคือเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา แต่ในปี 2016 นี้ ซัมซุงจะเริ่มขยายไปยังประเทศอื่นๆ เริ่มจากเมืองจีนในเดือนมีนาคม ตามด้วยออสเตรเลีย บราซิล สิงคโปร์ สเปน สหรัฐอาณาจักร แคนาดา ในลำดับถัดไป
มือถือของซัมซุงที่รองรับ Samsung Pay ยังมีเฉพาะมือถือรุ่นใหม่ๆ ได้แก่ซีรีส์ S6, Note 5 และ Galaxy A5/A7 รุ่นปี 2016
ที่มา - Samsung Mobile Press
แอปเปิลเคยประกาศไว้ว่าปี 2016 จะเปิดตัว Apple Pay ในจีน สิ่งที่เกิดขึ้นคือวันมะรืนนี้ (18 ก.พ.) Apple Pay จะเปิดบริการแล้ว โดยพาร์ทเนอร์ของแอปเปิลมีธนาคารทั้งหมด 19 ราย
จีนถือเป็นประเทศที่ Apple Pay เปิดบริการเป็นลำดับที่ห้า หลังจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลีย อย่างไรก็ตาม สภาพตลาดจีนแตกต่างจากประเทศตะวันตกพอสมควร เพราะมีผู้ให้บริการสัญชาติจีนที่เข้มแข็งอยู่แล้ว ทั้ง Tencent (WeChat) และ Alibaba (Alipay)
ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา ผู้ใช้ LINE ในไทยจำนวนหนึ่งคงสนุกสนานกับการแจก "อั่งเปา" กันบ้าง แต่ในประเทศจีน ต้นฉบับการแจกอั่งเปาอย่าง WeChat ที่เริ่มเทศกาลนี้ครั้งแรกในปี 2014 มีสถิติการแจกซองแดงให้กันสูงถึง 8.08 พันล้านซอง สูงกว่าปีที่แล้วถึง 8 เท่า
ผู้บริหารของ Tencent เองก็ให้สัมภาษณ์ว่าฮิตเกินคาด ความสำเร็จของเทศกาลนี้ส่งผลให้มีผู้ใช้ Tenpay ระบบจ่ายเงินของ Tencent/WeChat เพิ่มขึ้นอีกหลายล้านคนในเวลาไม่กี่วัน ผู้ใช้เหล่านี้ต้องเชื่อมบัญชีธนาคารเข้ากับ WeChat จึงส่งผลให้ผู้ใช้กลุ่มนี้จะคุ้นเคยกับการจ่ายเงินออนไลน์อีกมาก
เพิ่งรุกหนักสู่ยุคสมัยใหม่เต็มตัวด้วยการเปิด API ให้นักพัฒนาเต็มรูปแบบไปเมื่อสัปดาห์ก่อน และกำลังจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของคู่แข่งรายสำคัญในตลาดอย่าง Square สตาร์ทอัพด้านการจ่ายเงินผ่านอุปกรณ์พกพาสูงถึง 10% ตามข้อมูลจากเอกสารที่ส่งให้กับ SEC
โอกาสในการเข้าครองหุ้นราว 10% ของ Square ในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากที่ Visa เคยลงทุนใน Square ไว้ในรอบ Series A เป็นจำนวน 1% และจากข้อมูลที่ Visa เปิดเผยมาได้ถือหุ้นคลาสบีอยู่ราว 4.19 ล้านหุ้น พร้อมออพชันในการแปลงหุ้นคลาสบีสูงสุด 3.52 ล้านหุ้นให้เป็นหุ้นคลาสเอ ซึ่งถ้าใช้สิทธิทั้งหมดจะทำให้ Visa เข้าถือหุ้นของ Square ราว 10% นั่นเอง
หลังการแถลงข่าวความร่วมมือกับบริษัทบัตรเครดิตเมื่อปลายปีก่อน ข่าวคราว LG Pay ก็ดูเงียบหายไป จนกระทั่งตอนนี้มีข้อมูลและภาพหลุดเผยออกมาแล้วว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่ LG กำลังทำอยู่ก็คือบัตรอัจฉริยะที่ใช้ชื่อว่า White Card ด้วยแนวคิดรวมทุกบัตรเครดิตเอาไว้ในบัตรใหม่ใบนี้เพียงใบเดียว
LINE Pay เปิดตัวในไทยตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเริ่มจากการเป็นระบบจ่ายเงินออนไลน์ มาถึงปีนี้ LINE เปิดฟีเจอร์ด้านกระเป๋าเงิน (wallet) ที่เพิ่มความสามารถด้านการจ่ายเงินระหว่างเพื่อนกันเอง (ไม่ใช่กับร้านค้า) อีก 3 อย่าง
เพื่อแข่งขันในตลาดการจ่ายเงินผ่านอุปกรณ์พกพาที่เริ่มร้อนแรงขึ้นในบางประเทศ กูเกิลแอบจัดแคมเปญกระตุ้นการใช้งาน Android Pay ในชื่อ Tap 10 แล้ว
Tab 10 เป็นโปรโมชันที่เชิญชวนให้ผู้ใช้มาใช้จ่ายผ่าน Android Pay แลกกับของรางวัลที่ต่างกันไปตามรายครั้งที่ใช้จ่าย โดยในครั้งที่สิบรางวัลที่ได้มีตั้งแต่ฟรีสามเพลงใน Google Play Music ไปจนถึง Chromecast ฟรี (ทำไมมันต่างกันงี้)
ข่าวร้ายคือโปรโมชันนี้นอกจากจะเปิดให้ทดลองกันเฉพาะบางคนแล้ว ยังจำกัดแค่ในสหรัฐฯ อีกด้วย โดยจะต้องใช้งานให้ครบ 10 ครั้งก่อนวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้
ที่มา - Android Police
เพิ่งประกาศบุกตลาดใหญ่ด้วยการเตรียมเปิดให้บริการ Samsung Pay ในจีนภายในปี 2016 ไปได้ไม่นาน ก็มีรายงานจาก Reuters ตามมาติดๆ ว่าปีหน้านี้มีแผนจะเปิดตัวในสหรัฐฯ เช่นกัน
โดยในรายงานดังกล่าวนอกจากจะระบุว่าซัมซุงจะเปิดให้บริการ Samsung Pay ในสหรัฐฯ ช่วงปี 2016 แล้ว ยังพูดถึงการขยายบริการดังกล่าวไปยังมือถือรุ่นราคาถูกลงในปีหน้า ตามที่มีข่าวมาอีกด้วย
ที่มา - Reuters
รอบปีที่ผ่านมาเราเห็นยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิล กูเกิล ซัมซุง เปิดตัวระบบจ่ายเงินผ่านอุปกรณ์พกพาของตัวเอง ระบบเหล่านี้ต้องให้บริการคนทั้งโลก แต่ล่าสุดเริ่มมีระบบจ่ายเงินบนมือถือที่เจาะเฉพาะบางประเทศเกิดขึ้นแล้ว
Micromax ยักษ์ใหญ่ของวงการมือถืออินเดีย ประกาศความร่วมมือกับ TranServ บริษัทด้านการจ่ายเงินออนไลน์ของอินเดีย พัฒนาระบบจ่ายเงินบนอุปกรณ์พกพาสำหรับคนอินเดียโดยเฉพาะ ระบบจะเริ่มใช้งานได้ในเดือนหน้า (มกราคม 2016)
วันเดียวกับที่แอปเปิลประกาศความร่วมมือ UnionPay ของจีน ฝั่งของซัมซุงก็ออกมาประกาศข้อตกลงแบบเดียวกันกับ UnionPay ด้วย
ภายใต้ข้อตกลงนี้ ผู้ถือบัตรเครดิตและเดบิตที่ออกโดย UnionPay จะสามารถใช้ระบบจ่ายเงินมือถือ Samsung Pay ได้ด้วย ซัมซุงคาดว่าหลังจากทดสอบและรอการตรวจรับรองจากหน่วยงานภาครัฐ จะสามารถให้บริการ Samsung Pay ในจีนได้ในช่วงต้นปี 2016
Android Pay บริการจ่ายเงินผ่านอุปกรณ์พกพาสำหรับอุปกรณ์ Android ที่กูเกิลหมายมั่นปั้นมือว่าจะมาเป็นช่องทางการจ่ายเงินของยุคใหม่ ล่าสุดขยับเข้าไปใกล้ชิดกับตัว Android มากขึ้นด้วยการรองรับการจ่ายเงินจากในแอพ แทนที่การใช้งานบัตรเครดิตแล้ว
พร้อมกับการรองรับการชำระเงินภายในแอพ กูเกิลเตรียมปล่อยส่วนลดเมื่อใช้งาน Android Pay ร่วมกับแอพบน Android จำนวนหนึ่งแบบจำกัดเวลา ข้อจำกัดอีกอย่างคือยังสามารถใช้งานได้เฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น (ใครอยู่สหรัฐฯ ดูส่วนลดได้จากที่นี่)
ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ Walmart เปิดตัวระบบจ่ายเงินของตัวเองในชื่อ Walmart Pay รองรับทั้ง Android และ iOS โดยจะเริ่มเปิดใช้งานบางสาขาในเดือนนี้ และครอบคลุมทั้งสหรัฐอเมริกาในครึ่งแรกของปี 2016
Walmart Pay สามารถใช้งานได้กับจุดจ่ายเงินทุกแห่งในเครือ Walmart ส่วนวิธีการจ่ายเป็นการใช้แอพคู่กับ QR Code ที่แสดง ณ จุดจ่ายเงิน ได้เลย ความสำคัญของ Walmart Pay คือสาขาจำนวนมากทั่วสหรัฐอเมริกา และฐานผู้ใช้งานแอพกว่า 22 ล้านคนในปัจจุบัน
Swatch เปิดตัวนาฬิกาจ่ายเงินได้ Swatch Bellamy ในจีนไปตั้งแต่เดือนที่แล้ว ตอนนี้ก็ประกาศพันธมิตรกับผู้ให้บริการบัตรเครดิตอย่าง VISA เพื่อเปิดใช้งานชิป NFC ในนาฬิการุ่นนี้ในประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐฯ, สวิสเซอร์แลนด์, และบราซิล
ชื่อรุ่น Bellamy ตั้งให้เป็นเกียรติกับ Edward Bellamy ที่แต่งนิยายเรื่อง Looking Backward: 2000-1887 เอาไว้ตั้งแต่ปี 1888 จินตนาการถึงบัตรเดบิตในโลกสังคมนิยมที่ทุกคนได้รับค่าจ้างเท่าๆ กันแต่หากทำงานยากก็จะมีชั่วโมงทำงานน้อยลง
ยังไม่กำหนดเวลาเปิดตัวชัดเจน แต่ระบุว่าต้นปี 2016 ขณะที่บริการในจีนจะเริ่มใช้งานได้เดือนมกราคม
วันนี้ผมได้รับเชิญไปงานสาธิต mPAY Gateway ที่เพิ่งเปิดตัวไปในสัปดาห์นี้ และได้พูดคุยกับคุณสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด ถึงความแตกต่างของ mPAY Gateway กับผู้ให้บริการายอื่นๆ ในตลาดบ้านเราตอนนี้ และพัฒนาการของบริการเกตเวย์ในอนาคต
ข้อมูลเปิดเผย ในงานสาธิตผมได้รับเงินจำนวนหนึ่งโอนเข้าบัญชี mPAY Wallet เพื่อทดสอบการใช้งาน
เพิ่งมีข่าวว่าแอปเปิลเตรียมขยาย Apple Pay บริการจ่ายเงินผ่านอุปกรณ์พกพาไปยังสิงคโปร์ และฮ่องกงภายในปีหน้า ล่าสุดมีรายงานว่าแอปเปิลตั้งใจจะขยายไปยังยักษ์ใหญ่อย่างจีนในปีหน้าอีกด้วย
ข้อมูลชุดนี้ไม่ได้ออกมาจากแอปเปิลโดยตรง แต่หลุดมาจากแหล่งข่าววงในที่ใกล้ชิดกับดีลนี้โดยระบุว่าแอปเปิลได้เดินเรื่องเจรจากับบรรดาธนาคารใหญ่ของจีนทั้งสี่แห่งได้แก่ Bank of China, China Construction Bank, Agricultural Bank of China และ Industrial and Conmmercial Bank of China ไว้แล้ว นั่นหมายความว่าเมื่อเปิดให้บริการ ผู้ใช้ในจีนจะสามารถเชื่อม Apple Pay เข้ากับบัญชีส่วนตัวในธนาคารหลักๆ ได้ทันที