หลังจากที่ Motorola ทยอยปิดตัวสำนักงานและโรงงานในต่างประเทศทั่วโลก เพื่อสานต่อนโยบายรัดเข็มขัดลดค่าใช้จ่ายนับตั้งแต่ถูก Google ซื้อกิจการตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีก่อน ล่าสุด Motorola ก็เริ่มลดขนาดองค์กรโดยการปิดสำนักงานในประเทศเช่นเดียวกัน หลังจากประกาศขายอาคารสำนักงานในรัฐ Illinois
อาคารสำนักงานจำนวน 4 หลังซึ่งมีส่วนเชื่อมต่อกัน มีพื้นที่ใช้สอยรวมกันประมาณ 1.1 ล้านตารางฟุต ตั้งอยู่ที่เมือง Libertyville ในรัฐ Illinois โดยกลุ่มอาคารดังกล่าว มีทั้งส่วนของสำนักงาน, ห้องปฏิบัติการ, ศูนย์รับเลี้ยงเด็กอ่อน, โรงอาหาร และพื้นที่ออกกำลังกายอย่างครบครัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อเสนอซื้อใดๆ เข้ามา
มีข่าวลือว่า Motorola กำลังจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Droid RAZR M HD ความละเอียดหน้าจอ 720p พร้อมแบตเตอรี่ 3,300 mAh
เชื่อกันว่า Droid RAZR M HD จะมีหน้าตาเหมือนพี่อย่าง Droid RAZR M ต่างกันแต่เพียงไส้ในที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล Krait ของ Qualcomm Snapdragon S4 Plus MSM8960 แบบ dual-core, 1.5 GHz
อย่างไรก็ตาม ข่าวลือเรื่องสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้ ยังไม่มีภาพประกอบมายืนยันแต่อย่างใด จึงต้องดูกันให้ดีๆ ว่าในขณะที่ค่ายอื่นพากันเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5 นิ้วความละเอียด 1080p กันโครมๆ ทาง Motorola ซึ่งนอกจากจะทยอยปิดตัวสาขาต่างๆ ทั่วโลกแล้วจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนด้วยสเปคเพียงเท่านี้จริงหรือไม่
ข้อมูลทั่วไป
เราเห็นข่าวโมโตโรลาถอนตัวจากเกาหลีใต้กันไปแล้ว ล่าสุดที่เมืองจีน โมโตโรลาก็เริ่มปิดบริการออนไลน์บางส่วนแล้ว
เมื่อปี 2010 โมโตโรลาเคยเปิดร้านขายแอพชื่อ SHOP4APPS เพื่อเป็นทางเลือกแทน Google Play ที่ขายแอพในประเทศจีนไม่ได้ (โหลดแอพฟรีได้อย่างเดียว) แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดคือ SHOP4APPS เพิ่งปิดบริการไปเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา และโอนลูกค้าไปให้บริษัทจีนชื่อ Crossmo Technology ดูแลแทน (และย้ายไปใช้ Crossmo App Store แทน)
โมโตโรลาให้เหตุผลว่าปัจจุบันลูกค้าในจีนมีร้านขายแอพให้เลือกมากมาย ทำให้ SHOP4APPS เริ่มไม่มีความจำเป็นเหมือนช่วงปี 2010 ที่ยังมีตัวเลือกไม่เยอะนัก
มีรายงานว่า Motorola RAZR และ RAZR MAXX (รวมถึงรุ่นที่เป็น Droid RAZR ในสหรัฐ) รุ่นแรกสุดได้รับอัพเดตเป็น Android 4.1.2 Jelly Bean แล้ว
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลใดๆ จากทั้ง Motorola และ Verizon (ในฐานะผู้ขาย Droid) แต่ก็ถือเป็นของขวัญวันคริสต์มาสสำหรับผู้ใช้ RAZR ทั่วโลกครับ
ที่มา - Android Central, Droid-Life
เมื่อสามวันก่อน ศาลในสหราชอาณาจักรได้แถลงปิดคดีที่ไมโครซอฟท์ฟ้องร้องโมโตโรล่าโมบิลิตี้ ซึ่งกูเกิลซื้อไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ว่าสิทธิบัตรด้านการซิงค์สถานะของข้อความที่โมโตโรล่าโมบิลิตี้ถืออยู่เป็นโมฆะ โดยผู้พิพากษากล่าวว่าการขอจดสิทธิบัตรนั้นถือเป็นโมฆะและสิทธิบัตรควรถูกเพิกถอน (ทั้งสองบริษัทได้รับคำตัดสินล่วงเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนหน้านี้แล้ว)
ถึงแม้สิทธิบัตรที่ได้รับการจดในสหราชอาณาจักรนั้นจะอ้างถึงเทคโนโลยีเพจเจอร์ตั้งแต่ยุคปี 1990 แต่การต่อสู้ทางกฎหมายนี้เน้นถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในอุปกรณ์พกพาสมัยใหม่และคอมพิวเตอร์ที่ทำงานอยู่บนการซิงค์สถานะของข้อความ อาทิ สถานะที่ระบุว่าผู้รับปลายทางเปิดอ่านอีเมลแล้วหรือไม่
กูเกิลและโมโตโรล่า มีแผนที่จะพัฒนามือถือเรือธงรุ่นพิเศษ ที่แยกออกมาจากมือถือ Android ทั่วไปโดยสิ้นเชิง โดยมือถือรุ่นนี้มีจุดประสงค์เพื่อที่จะเอามาแข่งกับแอปเปิลและซัมซุงโดยเฉพาะ และคาดว่ากูเกิลมีแผนที่จะเปิดตัวมือถือรุ่นนี้ปีหน้า
โปรเจค X Phone นี้ถูกเริ่มขึ้นโดย Lior Ron อดีตผู้จัดการฝ่ายสินค้าของกูเกิล และคุณสมบัติพิเศษของมือถือรุ่นนี้ที่กูเกิลต้องการได้แก่การใช้งานหน้าจอที่หักงอได้ แต่ถึงแม้ว่ากูเกิลจะเป็นผู้เล่นที่สามารถปล่อยสินค้าออกมาได้อย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์ ทีมฮาร์ดแวร์ของกูเกิลกำลังมีปัญหาในการเดินสายการผลิต เมื่อสินค้านี้อาจจะทำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ Android รายอื่น ๆ ไม่พอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ซัมซุง" ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่คุมห่วงโซ่อุปทานในเอเชียไว้มากมาย
หลังจากตั้งท่าหาทางอยู่พักใหญ่ ในที่สุด Google ก็สามารถขายธุรกิจชุดเซ็ตท็อปของ Motorola ออกไปได้สำเร็จสมใจ
ก่อนหน้านี้มีข่าวเล็ดลอดมาโดยตลอดว่า Google ต้องการหาทางขายธุรกิจส่วนดังกล่าวออกไป เนื่องจากซ้ำซ้อนกับบริการเดิมอย่าง Google TV ที่กำลังเดินหน้าพัฒนาร่วมกับ Google Fiber
จนล่าสุด Google ออกมาประกาศว่าสามารถขายธุรกิจส่วนดังกล่าวได้แล้ว โดยผู้ซื้อคือกลุ่มบริษัท Arris ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับระบบสื่อสาร ด้วยมูลค่า 2.35 พันล้านดอลลาร์ ในรูปแบบของหุ้นและเงินสด โดยคาดว่าการถ่ายโอนทางธุรกรรมต่างๆ จะแล้วเสร็จได้ภายในกลางปีหน้า
Motorola ออกมายืนยันว่าจะปิดโรงงานประกอบและบรรจุของตัวเองซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเชนไน ประเทศอินเดีย ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้พนักงาน 76 คนต้องตกงาน
นับตั้งแต่เริ่มเปิดโรงงานตั้งแต่ปี 2008 ด้วยเงินลงทุนราว 31.7 ล้านดอลลาร์ โรงงานนี้ได้เป็นกำลังสำคัญในระบบการผลิตและจัดส่งของ Motorola มาโดยตลอด ด้วยจุดแข็งคือค่าแรงราคาถูก
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองบังกาลอร์ จะไม่ถูกปิดไปด้วย
ที่มา - ZDNet
Motorola ยืนยันว่าจะถอนตัวจากเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างองค์กรทั่วโลกให้กระชับยิ่งขึ้นภายใต้นโยบายของ Google เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ
Motorola กล่าวว่าการถอนตัวในครั้งนี้หมายถึงการหยุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และการปิดแผนกวิจัยและพัฒนา โดยมีเพียงเจ้าหน้าที่วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ราวร้อยละ 10 เท่านั้นที่ได้รับข้อเสนอให้ย้ายไปทำงานในสำนักงานอื่น ส่วนพนักงานที่เหลืออีกกว่า 600 คน ทาง Motorola กล่าวว่าจะทยอยดำเนินการปลดออกอย่างค่อยเป็นค่อยไปพร้อมทั้งจ่ายเงินชดเชย ซึ่งก่อนหน้านี้ Motorola ก็ได้ปลดพนักงานออกแล้วกว่า 4,000 ราย นับตั้งแต่ที่ถูก Google ซื้อกิจการ
จากข่าว ลือ กูเกิลเตรียมขายแผนกเซ็ตท็อปของโมโตโรลาออกไป ก็มีความคืบหน้า (อย่างไม่เป็นทางการว่า) กูเกิลกำลังเจรจากับบริษัทอื่นๆ เพื่อขายธุรกิจกล่องเซ็ตท็อปเคเบิลทีวีของโมโตโรลาออกไป
แหล่งข่าวของ Wall Street Journal ระบุว่ากูเกิลขีดเส้นตายให้บริษัทที่สนใจซื้อต้องยื่นข้อเสนอเข้ามาแล้ว แต่ก็ยังบอกว่าถ้าข้อเสนอไม่ดีพอ กูเกิลก็อาจเลื่อนวันออกไป
ตามข่าวบอกว่ากูเกิลคาดว่าจะขายธุรกิจเซ็ตท็อปออกไปด้วยมูลค่าราว 1.5-2 พันล้านดอลลาร์ จากที่ซื้อโมโตโรลามาด้วยราคา 12.5 พันล้านดอลลาร์
กูเกิลแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่สนใจธุรกิจแบบเก่าอย่างเคเบิลทีวี และวาดภาพของทีวีในอนาคตด้วยผลิตภัณฑ์อย่าง Google TV (ที่จะต่อเชื่อมกับ Google Fiber) แทน
ในการไต่สวนคดีที่ Microsoft ละเมิดสิทธิบัตรของ Google ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าด้วยเทคโนโลยีของสิทธิบัตรดังกล่าว อาจสร้างรายได้ให้แก่ Microsoft ได้มากถึง 94 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2017
สิทธิบัตรที่เป็นข้อพิพาทนี้ว่าด้วยการรับชมวิดีโอบนเว็บผ่านเครือข่ายไร้สาย ซึ่งเดิมทีเป็นของ Motorola ก่อนเปลี่ยนมือมาสู่ Google ภายหลังถูกซื้อกิจการ โดยเรื่องนี้กำลังอยู่ในชั้นศาลเพื่อหาข้อสรุปเงินชดเชยที่ Microsoft จะต้องจ่ายให้แก่ Google ซึ่งเรียกร้องเงิน 4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่ Microsoft ซึ่งมีท่าทีว่าต้องการเจรจากลับเห็นว่า Google เรียกร้องมากเกินไป โดยยินดีจ่ายแค่ 1 ล้านดอลลาร์ต่อปีเท่านั้น
วันนี้นอกจากวิดีโอสัมภาษณ์หัวหน้าทีมดีไซน์ของโนเกีย เรายังมีบทสัมภาษณ์หัวหน้าทีมดีไซน์ของโมโตโรลา Jim Wicks (หรือตำแหน่งอย่างเป็นทางการ senior vice president for consumer experience design) ให้กับเว็บไซต์ The New York Times มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
New Motorola
บลูมเบิร์กรายงานว่าคำร้องที่แอปเปิลและโมโตโรล่า (ซึ่งมีกูเกิลเป็นเจ้าของ) ได้ยื่นต่อศาลครั้งล่าสุด มีเนื้อความระบุว่าทั้งสองบริษัทมีความสนใจที่จะหาทางออกทางอื่นกรณีฟ้องร้องกันเรื่องเกี่ยวกับสิทธิบัตร โดยทั้งสองบริษัทบอกว่าอย่างน้อย ทั้งสองต้องการที่จะตกลงกันเกี่ยวกับสิทธิบัตรที่ถือว่าเป็นสิทธิบัตรที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ต้องการตกลงเรื่องสิทธิบัตรทั้งหมดไปเลยทีเดียว
จากในรายงาน ทั้งสองบริษัทใช้วิธีเสนอข้อตกลงต่าง ๆ หากันเรื่อย ๆ เพื่อหาทางออกร่วมกัน และจะใช้บุคคลที่สามเป็นพยานในการตรวจสอบหลักฐานทั้งหมด และตัดสินว่าทั้งสองบริษัทจะมีภาระผูกพันกันทางกฎหมายแทนการให้ศาลเป็นผู้ตัดสินแทน
คดีนี้เป็นคดีที่แอปเปิลยื่นฟ้องโมโตโรลาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2010 (ก่อนกูเกิลซื้อโมโต) โดยยื่นฟ้องข้อหาโมโตโรลาละเมิดสิทธิบัตรต่อศาลเขตวิสคอนซิน (ข่าวก่อนหน้านี้ Apple จะยอมจ่ายค่าใช้งานสิทธิบัตรไร้สายของ Motorola แค่ 1 ดอลลาร์ต่อเครื่อง)
คดีอยู่ระหว่างการรอไต่สวนโดยทนายความจากฝั่งแอปเปิล แต่ยังไม่ทันไต่สวน ศาลก็พิพากษา "ยกฟ้องโดยห้ามให้ฟ้องใหม่" (dismiss with prejudice) ในศาลเขตอื่นๆ (แต่ยังสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลเขตนี้ได้)
ตัวแทนของกูเกิลออกมาแสดงความยินดีกับผลการตัดสินของศาล ส่วนตัวแทนของแอปเปิลปฏิเสธการให้ความเห็น
หลังจาก Motorola ยินยอมออกไลเซนส์สำหรับสิทธิบัตรเทคโนโลยีไร้สายให้ Apple ล่าสุดทาง Apple ออกมาบอกว่ายินดีจ่ายค่าไลเซนส์ให้แก่ Motorola ที่ราคา 1 ดอลลาร์ ต่อ iPhone 1 เครื่องเท่านั้น
มูลค่าไลเซนส์ที่ Apple ยินดีจ่ายนี้ น้อยกว่าตัวเลขที่ Motorola ต้องการอยู่ไม่น้อย โดยก่อนหน้านี้ Motorola ได้แสดงความต้องการส่วนแบ่ง 2.25% ของรายได้จากการขาย iPhone ทั้งหมด
โมโตโรลาได้ปรับปรุงรายชื่อโทรศัพท์มือถือรุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ที่จะได้รับอัพเดตเป็น Jelly Bean ดังนี้
สำหรับ XOOM WiFi-Only (MZ604) นั้นได้อัพเดตไปตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2012 แล้วครับ
โมโตโรลาเคยให้สัญญากับผู้ใช้ไว้ว่าจะพยายามอัพ Jelly Bean ให้มากรุ่นที่สุดเท่าที่ทำได้ รุ่นไหนที่อัพไม่ได้จะจ่ายเงินคืนเป็นส่วนลด 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านมาได้เดือนนิดๆ โมโตโรลาก็ปล่อยรายชื่อรุ่นที่จะไม่ได้อัพเป็น Jelly Bean ออกมาแล้ว
โดยรุ่นที่เข้าข่ายไม่ได้อัพเป็น Jelly Bean แต่ยังได้ส่วนลด 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีทั้งสิ้น 13 รุ่น ดังนี้ครับ
TiVo ยื่นฟ้อง Motorola ในความผิดฐานละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยี DVR (ย่อมาจาก digital video recorder หรือเครื่องบันทึกวิดีโอดิจิทัล) พร้อมระบุว่าหาก TiVo ชนะคดีนี้อาจได้รับการการชดเชยความเสียหายมูลค่าสูงหลายพันล้านดอลลาร์
คดีนี้เป็นส่วนหนึ่งจากการที่ TiVo ได้ยื่นฟ้อง Motorola และ Cisco ในความผิดฐานละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยี DVR ด้วยการผลิตกล่องเซ็ตท็อปให้แก่ Time Warner Cable ซึ่งในภายหลังศาลมีความเห็นให้แยกคดีออกเป็น 2 ส่วน เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการพิจารณาคดี และล่าสุด TiVo ได้ยื่นฟ้อง Motorola เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
Rick Osterloh ผู้บริหารของโมโตโรลาให้สัมภาษณ์กับ The Verge ถึงนโยบายการพัฒนา Android เวอร์ชันของตัวเองว่า ลูกค้าต้องการการอัพเกรดที่รวดเร็วและการันตีการอัพเกรดในระยะยาว ซึ่งเราจะโฟกัสแนวทางนี้แทนการปรับแต่งซอฟต์แวร์แบบในอดีต "ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"
อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าจำเป็นต้องปรับแต่งระบบปฏิบัติการบางส่วนตามที่คู่ค้าต้องการ ซึ่งในที่นี้คงไม่มีบริษัทอื่นนอกจาก Verizon ที่โมโตโรลาวางขายผลิตภัณฑ์ตระกูล Droid RAZR ร่วมกัน
ถึงแม้โมโตโรลาจะวางขายมือถือกับเครือข่ายอื่นๆ ด้วย แต่ในสหรัฐก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับตระกูล Droid ของ Verizon ทำให้สุดท้ายแล้วก็ต้องฟัง Verizon อยู่ดี
เมื่อไม่กี่วันมานี้ โมโตโรลาเพิ่งประกาศว่ามือถือปี 2011 ที่ขายในสหรัฐบางรุ่น คือ Atrix 4G (ซึ่งเป็นมือถือเรือธงของ AT&T ในช่วงต้นปี 2011), Photon 4G (ขายกับ Sprint) และ Electrify (ขายกับ US Cellular) จะหยุดอยู่ที่ Android 2.3 ซึ่งขัดกับที่เคยสัญญาว่าจะได้ Android 4.0
ผลคือลูกค้าออกมาโวยกันตามคาด โดยกลุ่มลูกค้าเปิดเว็บไซต์ SupportMyMoto และ UpdateMyMoto เพื่อเรียกร้องให้บริษัทสนับสนุนมือถือเหล่านี้ต่อไป เว็บไซต์เหล่านี้เรียกร้องให้โมโตโรลาปลดล็อค bootloader และเปิดซอร์สโค้ดไดรเวอร์ให้นักพัฒนาภายนอกนำไปใช้ต่อได้ นอกจากนี้ยังมีแคมเปญติดแท็ก #motofail บนทวิตเตอร์อีกด้วย
โมโตโรลาประกาศปลดล็อค bootloader ของโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่อีก 2 ตัวคือ RAZR HD รุ่นนานาชาติ (ไม่รวม Droid RAZR HD รุ่นขายในสหรัฐ) และ RAZR i มือถือพลังอินเทล
ที่ผ่านมา โมโตโรลาเป็นค่ายที่ยังล็อค bootloader อยู่เยอะ โดยรุ่นอื่นๆ ที่ปลดล็อคแล้วมีแค่ XOOM, Photon Q และ RAZR/Droid RAZR HD/Droid RAZR M รุ่น Developer Edition เท่านั้น (รายชื่อทั้งหมด) การปลดล็อครอบนี้ถึงแม้จะน้อยรุ่นแต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าโมโตโรลาเปิดกว้างมากขึ้นครับ
เว็บไซต์ Android Police แกะล็อกไฟล์ของเว็บตัวเอง พบอุปกรณ์จำนวนหนึ่งรัน Android 4.2 ที่ใช้รหัส build ต่างกันไป (แต่ยังขึ้นต้นด้วยตัว J ดังนั้นน่าจะยังนับเป็น Jelly Bean อยู่)
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อเกือบ 2 ปีก่อนคืองาน CES 2011 โมโตโรลาได้เปิดตัวมือถือ Atrix 4G พร้อมอุปกรณ์เสริม Webtop/Lapdock ที่สามารถแปลงกายมือถือให้เป็นโน้ตบุ๊กได้ (ระบบปฏิบัติการเป็นลินุกซ์
Rick Osterloh ผู้บริหารของ Motorola Mobility ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ CNET ยืนยันความเป็นอิสระของโมโตโรลา และระยะห่างกับทีม Android ของกูเกิล
เขาบอกว่ายุทธศาสตร์นี้สำคัญต่อกูเกิลมาก เพราะกูเกิลต้องการให้ Android เปิดกว้างสำหรับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ทุกราย โมโตโรลาอยากทำ Droid Nexus แน่นอน และจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับ Nexus รุ่นถัดไป แต่ก็ไม่มีสิทธิพิเศษอันใดเหนือคู่แข่งรายอื่น
เขายังพูดว่ามือถือของโมโตโรลาในอนาคตจะลดการปรับแต่งระบบปฏิบัติการลง และใกล้เคียงกับ Stock Android มากขึ้นเรื่อยๆ
Motorola Mobility ถอนฟ้องสิทธิบัตรแอปเปิล ที่เคยยื่นต่อคณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ (ITC) โดยไม่ระบุเหตุผล
ในเอกสารของโมโตโรลาระบุแค่ว่าต้องการหยุดคดีนี้ (โมโตโรลาฟ้องแอปเปิลต่อ ITC สองคดี ที่ถอนนี้เฉพาะคดีหลัง) และบอกว่าบริษัทก็ยังไม่บรรลุข้อตกลงใดๆ กับแอปเปิล ซึ่งแอปเปิลเองก็ยืนยันว่าไม่ขัดขวางการถอนฟ้องครั้งนี้
ตามปกติแล้วการถอนฟ้องมักเกิดขึ้นเมื่อคู่กรณีตกลงกันนอกศาลได้ แต่กรณีนี้โมโตโรลาก็ระบุชัดเจนว่ายังไม่บรรลุข้อตกลงใดๆ กับแอปเปิล ที่เหลือก็คงต้องเดากันต่อไปว่าเกิดจากอะไรครับ (เป็นไปได้ทั้งปัญหาเรื่องเอกสาร หรือไม่ก็ตกลงกันได้แล้วแต่ยังไม่เซ็นสัญญาเป็นทางการ)